เพราะเราเคยมีการประชุมร่วม ครม. ไทยกัมพูชา สมัยรัฐบาลทักษิณปี 2546-2547ราวๆนั้น ก็ได้มีมติ ครม. ไทย-กัมพูชา ร่วมกัน ตกลงกันจะยื่นปราสาทพระวิหาร และพื้นที่ทับซ้อนต่างๆเป็นมรดกโลกร่วมกัน ดีกว่าทิ้งไว้เป็นเถาให้ตำลึงพันเลื้อย.. 2 ประเทศ บริหารจัดการร่วมกัน โดยไม่มีชาติอื่นๆมาเกี่ยวข้อง...ก็ตกลงกันมาด้วยดี กำลังดำเนินการในขั้นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ...ระดับกระทรวง ไปจนถึงหน่วยงานมรดกโลกทั้งสองประเทศ ท่านอดุลย์ วิเชียรเจริญ อดีต ประธาน คณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทยก็ทราบดี...ว่าจุดยืนตอนนั้นเราร่วมกัน และเป็นไปอย่างฉันมิตร....
แต่หลังจากปฏิวัติ และมีการกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์กระทบกัมพูชาเรื่องเกาะกูด เรื่องแหล่งพลังงานในทะเล...เรื่องกู้ชาติ แล้วรัฐประหาร มีรัฐบาลปฏิวัติเข้ามา...ทหารเข้ามามีบทบาททางการเมือง...เท่านั้นแหละ...ทุกอย่างล้มเลิกหมด...เพราะไม่ไว้ใจไทยอีกต่อไป กติกาอะไรก็ไม่มี เพราะไม่มีรัฐธรรมนูญ มันฉีกทิ้งกำหนดเองได้หมด...แล้วใครจะกล้ามาตกลงเจรจาทำอะไรร่วมกันในภาวะแบบนั้นของประเทศไทย....แค่นั้นยังไงพอ รัฐบาลช่วงปฏิวัติยังปล่อยให้พวกกู้ชาติ มีบทบาทไล่บี้นานาประเทศ ที่มีการลงทุนไนไทยเรื่องนอมินี...การประกอบกิจการ การถือหุ้น...จะกำจัดสิทธิออกเสียงในหุ้นของเขา..สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ อังกฤษ กระทบหมด....หอการค้าต่างประเทศออกโรงต่อต้านอย่างหนัก....
แค่นั้นยังไม่พอ ยังให้รัฐบาลปฏิวัติไปข่มขืนเอาสิทธิบัตรยาจากประเทศในยุโรป และสรัฐ ทะเลาะกับเขาไปทั่ว ใช้กฎหมายที่ตนเองกำหนดเอง บังคับเอากันดื้อๆ....ผลก็คือเขาประท้วงเงียบ...แล้วมาออกหวยที่เวทีมรดกโลก...กัมพูชาผ่านฉลุย...แม้สมบูรณ์เพียงหลักเกณฑ์เดียว คือเฉพาะตัวปราสาท...ก็ผ่านมรดกโลกได้....โดยไม่เหนื่อยแรงล็อบบี้มากนัก....เพราะประเทศไทยมันทำตัวมันเอง...
ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ข้าเป็นเอกราชไม่ง้อทุนนิยม...เราจะพอเพียง...ตอนนั้นจำได้มั๊ยครับ...นโยบายปิดประเทศทางเศรษฐกิจของสุรยุทธิ์ทำเอาทุกประเทศที่ลงทุนในไทยหนาวกันไปตามๆกัน...ด้วยกฎเหล็กเรื่องค้าปลีก เรื่องสัดส่วนหุ้น...เอาเงินได้แต่อย่ามาออกเสียง..การออกกฎล็อค 30 % กันสำรอง ทำให้ต่างชาติหลายคนติดแง็กในไทย....แต่ละเรื่องที่ทำนั้น ล้วนส่งผลให้เกิดการประท้วงเงียบทั้งสิ้น นอกจากตัวรัฐบาลเองไม่ชอบธรรม มาจากรัฐประหาร ทำให้ใครไม่คบในเวทีต่างชาติ....ฯลฯ
ผลก็มาถึงทุกวันนี้...ไทยไม่มีมิตรแท้ในสังคมโลก...เพราะตัวของคนไทยเองที่ทำลายเครดิตจนหมด....ไม่มีเหลือ...แล้วยังหน้าบางไม่กล้าล็อบบี้...ทำตัวยี้...ว่าการล็อบบี้คือการทำมิชอบ...ก็ยิ่งหนักเข้าไปอีก..ใครมันจะช่วย..มีแต่สมน้ำหน้ามากกว่า....
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 51 16:22:15