หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ - สำนักข่าวหัวเขียว ฉบับวันที่ 24 กค. 51
"แม่ลูกจันทร์"
ปัญหาพิาทเขตแดนเขมร-ไทย กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร เมื่อรัฐบาลกัมพูชาของนายกฯ ฮุนเซนยื่นเรื่องร้องเรียนไปถึงยูเอ็นว่าถูกประเทศไทยบุกรุกคุกคามอธิปไตย ล่าสุดคณะมนตรีความมั่นคงซึ่งมี 5 ชาติพี่เบิ้ม อเมริกา รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เป็นหัวขบวน ก็เตรียมประชุมฉุกเฉิน เพื่อสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็ว !!
นี่คือลีลาการฑูตของกัมพูชาที่ต้องการดึงองค์กรระหว่างประเทศให้เข้ามาช่วยกดดันประเทศไทย สร้างภาพให้กัมพูชาเป็นฝ่ายถูกข่มเหงรังแก ป้ายขี้ให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ร้ายในเวทีโลกไปเต็มๆ !!
แค่นี้ยังไม่พอ ยังเตรียมฟ้องศาลโลกให้ตัดสินปัญหาเขตพื้นที่ทับซ้อนรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ว่าอยู่ในเขตแดนกัมพูชา ? หรือเป็นดินแดนของไทย ?
โดยใช้คำพิพากษาศาลโลกเมื่อปี 2505 ที่ตัดสินให้เขมรชนะคดีปราสาทพระวิหารเป็นหลักฐานสำคัญ
แสบรดสีดวงทวารมั๊ยล่ะพวกเรา ??
หลักฐานสำคัญก็คือ แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ "นพดล ปัทมะ" อดีต รมว. ต่างประเทศ ไปลงนามที่ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม
แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้มีข้อความระบุชัดเจนว่า กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนมรดกโลก "เฉพาะตัวปราสาทอย่างเดียว" โดยไม่ล่างล้ำดินแดนไทย
และไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้จัดทำหลักเขตแดนอย่างเป็นทางการ
นี่คือหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารไม่ได้เป็นเของเขมรแน่นอน !!!
เพราะถ้าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. อยู่ในเขตแดนกัมพูชาจริง กัมพูชาคงไม่ขอขึ้นทะเบียนแค่ตัวปราสาทอย่างเดียว
แต่ต้องรวมพื้นที่รอบตัวปราสาททั้งกระบิขึ้นเป็นมรดกโลกพร้อมพัน !!!
น่าเสียดาย ที่แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับนี้ ต้องเป็น "โมฆะ" ไม่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
ก็เท่ากับไทยสูญเสียหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะใช้สู้คดี
และถ้าหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไทยต้องเสียดินแดนแถมให้เขมรอีก 4.6 ตร.กม. ฟรีๆ
จะเจ็บปวดแค่ไหนโปรดใช้สะดือตรอง ??
ความจริงปัญหาเขาพระวิหารอาจไม่บานปลาย ถ้าไม่ถูกเอาไปขยายแผลเป็นประเด็นการเมือง
แต่เมื่อประเด็นปราสาทพระวิหารกลายเป็นปัญหาระดับอินเตอร์ ไทยกับกัมพูชาในฐานะคู่กรณีก็ต้องสู้กันยิบตา
ล่าสุดกัมพูชาพลิกลิ้นไม่ยอมรับว่าบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. เป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย
โกหกหน้าด้านๆ ว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของเขมรฝ่ายเดียว !!
"แม่ลูกจันทร์" เป็นห่วงว่าเมื่อต้องสู้กันเรื่องเขตแดนทีไร ไทยมักเสียเหลี่ยมเขมรทุกที
เพราะเขมรอ้างแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม แต่ไทยอ้างแผนที่แอล 7017 ของอเมริกา
ในบันทึกข้อตกลงปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ฉบับล่าสุด พ.ศ. 2543 ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมช. ต่างประเทศเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ได้ระบุว่าการจัดทำหลักเขตแดนให้ยึดตามแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม (คศ.1904) เป็นแนวทาง
แต่ไม่ได้ระบุแผนที่แอล 7017 ของอเมริกาที่ไทยใช้อ้างอิง
ก็เท่ากับเราไปยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสของเขมรฝ่ายเดียว
ถ้าเป็นอย่างนี้ ไทยก็เสียเปรียบเขมรตามเคย
จากคุณ :
Area51
- [
23 ก.ค. 51 19:11:01
A:125.24.193.145 X:
]