Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    วิกฤตศรัทธาเครือเนชั่น

    “รีดไขมัน”  วิกฤตศรัทธาเครือเนชั่น :

    สถานการณ์ของเครือเนชั่น ขณะนี้กำลังเป็นที่จับตาของเพื่อนในแวดวงสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิด กระแสข่าวระลอกแล้วระลอกเล่าเกี่ยวกับการมาตรการเลย์ออฟพนักงาน หรือที่หมู่พนักงานเรียกว่า “จิ้มออก” หรือที่ผู้บริหารเรียกอย่างสวยหรูว่า “รีดไขมัน” สร้างความระส่ำระส่ายให้พนักงานบริษัทอย่างเห็นได้ชัด และนั่นจะนำไปสู่ “วิกฤตศรัทธา” ในองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ไม่มีใครปฎิเสธว่าองค์กรสื่อในปัจจุบันต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงลิ่ว ไม่ว่าจะเป็นค่ากระดาษที่ทะลุ 1,000 ดอลล่าร์ ต่อตัน เป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ หรือราคาน้ำมันที่ทะยาน 100 กว่าดอลล่าร์ ต่อบาเรล ผลักให้ค่าขนส่งพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ว่าองค์กรใดก็จะประสบเหมือนกันไม่ใช่หรือ ทั้งเครือมติชน เครือบางกอกโพสต์ แต่เหตุใดการปลดพนักงานราวใบไม้ร่วงเกิดขึ้นที่เครือเนชั่นเพียงแห่งเดียว

    น่าสงสัยหรือไม่ว่าแต่ละเดือนเราต้องจ่ายเงินค่าบริหารองค์กรให้กับผู้บริหารคนหนึ่งร่วมแสนบาท แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดในการบริหารองค์กร พนักงานระดับล่างสุด หมายถึงเจ้าหน้าที่ออฟฟิศ นักข่าว ช่างภาพ ที่มีเงินเดือนเต็มที่ก็ราวสามหมื่นบาท และคนเหล่านั้นเป็น “วัวงาน” สร้างผลผลิตให้กับองค์กร ตระเวนลุยข่าวอยู่ในสนามข่าว กลับบ้านดึกๆดื่นๆ จนไม่มีเวลาดูแลครอบครัว กลับต้องแบกผลแห่งความผิดพลาดเหล่านั้นแทนผู้บริหารทั้งหมด

    คำถามคือเมื่อเกิดปัญหาขึ้นบิ๊กบอสเหล่านั้นหายไปไหน ผู้ที่ตัดสินใจออกหนังสือภาษาอังกฤษแจกฟรี แสนเล่มต่อวัน เปิดตัวอย่างอลังการใช้เงิน(ออฟฟิศ)นับล้านบาทในโรงแรมดัง ที่วันนี้กำลังจะปิดตัวเพราะขาดทุนมหาศาล หายหัวไปไหน มีการแสดงความ “รับผิด” อะไรบ้าง หรือเป็นเทพรอคอย “รับชอบ” เพียงอย่างเดียว

    ถ้ามีการจัดอันดับให้ผู้บริหารหรือซีอีโอในโลกนี้โหวตว่าองค์กรใดที่คุณต้องการบริหารงานมากที่สุด เครือเนชั่นน่าจะเข้าวินมาเป็นอันดับต้นๆเพราะจะมีที่ไหนอีกที่คุณสามารถตัดสินใจลงทุนผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้มแล้วล้มอีก โดยไม่มีความเสี่ยงจะต้องรับผิดแห่งความผิดพลาด หรือแสดงสปิริตอะไรเลย เมื่อเกิดปัญหาปุ๊ป ขาดทุนปั๊ป ก็สั่งโละพนักงานทิ้ง ลดโบนัส ลดเงินเดือน โดยที่เขาไม่มีส่วนร่วมในความผิดพลาดนั้นเลย

    ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอลอาชีพ ผู้จัดการทีมแค่พาลูกทีมแพ้นัดเดียวยังประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบในความล้มเหลวต่อนักฟุตบอลและแฟนบอล แต่สำหรับเนชั่น ที่ประกาศตัวอยู่เสนอว่าเป็นเครือที่มีความเป็นมืออาชีพสูงลิ่ว อย่าหวังเห็นการกระทำแบบนี้จากผู้บริหารเลย เพราะทันทีที่ฟุตบอลแพ้สิ่งแรกที่ผู้จัดการทีมเนชั่นทำคือจิ้มนักฟุตบอลให้ออกจากทีม ลดค่าอุปกรณ์ฝึกซ้อม เพราะคิดว่าค่าตัวนักเตะ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงทีมคือสาเหตุของความพ่ายแพ้ เขามองว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ไขมัน” ที่ต้อง “รีด” ออก โดยไม่เคยมองว่าต้นเหตุที่แท้จริงอาจจะมาจากการวางแผนที่ห่วยแตกของคุณก็ได้

    เมื่อผู้จัดการทีมคิดซะแบบนี้ ถามว่าจะหานักฟุตบอล ที่ไหนจะจงรักภักดีต่อทีม ยอมต่อสู้ยิบตาเพื่อทีมแบบสุดใจขาดดิ้น เพราะเขาเห็นชะตากรรมในอนาคตว่าถ้าเกิดซวยทีมแพ้อีกเขาจะถูก “รีด” ออกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    มาตรการสวยหรู “รีดไขมัน” รีดคนออก เอาเข้าจริงแล้วนอกจากไม่สามารถลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายของบริษัทลงได้มากอย่างที่คิด เพราะต้องใช้เงินในการจ่ายค่าเออรี่ รีไทร์ ก้อนมหาศาล ซึ่งก็เป็นก้อนหนี้ของบริษัทตัวหนึ่ง แล้วผลของมันร้ายกาจกว่าที่คิดมากนัก

    เพราะเนชั่นจะต้องประสบปัญหา “วิกฤตศรัทธา” ภายในองค์กรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิกฤตศรัทธาที่ว่าคือเกิดสภาพพนักงานหมดความไว้วางใจต่อตัวผู้บริหาร พูดอะไรเขาก็ไม่เชื่อ เกิดการต่อต้านทุกๆนโยบาย เพราะเขาคิดว่าผู้บริหารนั้นเวลามีสุขก็ร่วมเสพ แต่เวลามีทุกข์กลับโยนลงมาข้างล่างตลอด ไม่หลงเหลือความมั่นใจในการนำพาบริษัทของผู้บริหารชุดปัจจุบัน

    วิกฤตศรัทธานี่เอง จะทำให้ไม่เหลือพนักงานที่ยอมสู้เพื่อเนชั่น ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ให้กับองค์กรแบบ 100 เปอร์เซนต์ เหมือนที่เคยเป็น ทุกคนไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองในอนาคต ไม่รู้ว่าวันดีคืนดีตัวเองจะกลายเป็น “ไขมัน” ที่ถูกรีดออกหรือไม่ และความวิตกกังวล เหล่านี้จะเกาะกุมจิตใจของคนทำงานจนไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพได้ และที่น่ากลัวคือแรงบีบแบบนี้ จะทำให้พนักงานที่ดีๆมีสิทธิจะเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นคนเห็นแก่ตัว เหยียบหัวเพื่อนร่วมงานเพื่อเข็นผลงานให้เข้าตาผู้บริหารที่ยังมีความเป็นอยู่สุขสบายบนยอดหอคอย คนทำงานจะทะเลาะกันมากขึ้น ความสามัคคีในองค์กรจะหายไป

    หรือถ้าผู้คิดค้นมาตรการ “รีดไขมัน” จะเถียงว่าแรงกดดันเหล่านี้แหล่ะ จะเป็นแรงกระตุ้นให้คนทำงานในองค์กรเกิดเรี่ยวแรงทำงานมากขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็น “ไขมัน” ที่จะถูก “รีด” ออกไปในที่สุด ก็ถูกต้องแค่เพียงส่วนเดียว

    ผู้จัดการทีมหรือผู้บริหารเนชั่น อย่าดีใจในภาพที่เห็น ที่พวกเขาแข่งกันทำงานอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ตัวเองเป็นมัดกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ไขมัน เพราะที่เขานั้นทำก็เพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อองค์กร เขาหมดความศรัทธากับองค์กรไปแล้ว เขาทำเพื่ออยู่รอด ไม่ให้ต้องกลายเป็นคนตกงานอย่างกระทันหันต่างหาก แต่ในใจก็คิดว่าถ้ามีที่อื่นที่ดีกว่า มั่นคงกว่า เป็นประชาธิปไตยมากกว่า ชะตาชีวิตไม่ได้แขวนอยู่กับผู้บริหารที่ไร้ความรับผิดชอบ เขาก็จะไปจากเนชั่น

    อย่ามองข้าม “วิกฤตศรัทธา” ในเครือเนชั่น กำลังก่อตัวอย่างเงียบๆและนั่นเป็นมหันตภัยร้ายที่ทำลายองค์กรแห่งนี้ให้ล่มสลายลงในที่สุด

    http://www.oknation.net/blog/mamai/2008/08/18/entry-1

    จากคุณ : จำปีเขียว - [ 21 ส.ค. 51 19:19:37 A:125.25.61.155 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom