แค่ตัดข่าวมาให้ดู
ถ้าออกมาแนวนี้ก็คือทุกคนเดินหน้าต่อ
เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แสดงว่าที่ผ่านมาคือมีตัวป่วน ทำให้วุ่นวายไปงั้น
แต่ความเสียหายนี่สิ
===========ที่มา=================
ทอท.รื้อมติเก่าไล่คิงเพาเวอร์ บอร์ดสั่งคืนสัมปทาน สะสางปัญหาค่าต๋ง [23 ส.ค. 51 - 04:29]
นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ประธานคณะกรรมการบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในแนวทางการดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 วงเงินลงทุนรวม 77,885.77 ล้านบาท (รวมสำรองราคาและปริมาณงานเปลี่ยนแปลง 10% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้างอีกจำนวน 4,146 ล้านบาท) ทั้งนี้ หากคิดเฉพาะการพัฒนาเพียงอย่างเดียวนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 73,000 ล้านบาท โดยงานดังกล่าวประกอบด้วย 6 กลุ่มงานคือ การชดเชยผลกระทบด้านเสียง งานรันเวย์ที่ 3 กลุ่มงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 กลุ่มงานอาคารผู้โดยสาร กลุ่มงานระบบสาธารณูปโภค และงานจ้างที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทอท. และผู้อำนวยการการสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อกระทรวง คมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายในสัปดาห์ หน้า เพื่อพิจารณาร่วมกัน ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันแล้วก็จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ ครม.ต่อไป
ทั้งนี้ โครงการนี้จะใช้เงินกู้รวม 30,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินงบประมาณของ ทอท. ซึ่งแนวทางดังกล่าวได้ตัดงานบางส่วนออกไป เช่น การก่อสร้างโลว์คอสเทอร์มินอลที่สุวรรณภูมิ โดยเปิดโอกาสให้สายการบินต้นทุนต่ำทั้งในและระหว่างประเทศมาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองตามความสมัครใจ ในช่วง 5-6 ปีที่มีการก่อสร้างเฟสที่ 2 ซึ่งล่าสุด สายการบินไทยแอร์เอเชียได้ สมัครใจที่จะย้ายฐานมาอยู่ที่ดอนเมืองแล้ว
======ตรงนี้============
นายเสรีรัตน์กล่าวว่า ส่วนกรณีข้อพิพาทระหว่าง ทอท.กับกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์นั้น คงไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะอยู่ในกระบวนการศาล เป็นหน้าที่ของอนุกรรมการที่มีนายอุทิศ ธรรมวาทิน รองปลัดกระทรวงการคลังรับผิดชอบดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในการประชุมบอร์ด ทอท.นั้นยังได้มีวาระลับพิจารณาอนุมัติตามที่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเสนอมา กรณีที่ ทอท. ได้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาจำนวน 2 รายเพื่อมาศึกษามูลค่าการลงทุนของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งในส่วนของการเข้ามาให้บริการในร้านค้าปลอดภาษี และการใช้พื้นที่ในเชิงพาณิชย์ โดยมีข้อสรุปของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินว่า การคิดคำนวณมูลค่าการลงทุนของทั้ง 2 โครงการมีมูลค่าไม่ถึง 1,000 ล้านบาท และสามารถดำเนินการตามสัญญาที่มีอยู่ต่อกันต่อไปได้ รวมถึงมีมติให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่ใช้จริงในปัจจุบัน เพื่อเสนอให้บอร์ด ทอท.พิจารณาหาแนวทางในการดำเนินการต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า และน่าจะเป็นเหตุให้ข้อพิพาทในชั้นศาลระหว่าง ทอท. กับ คิงเพาเวอร์มีความเป็นไปได้ที่จะยุติลงโดยมิต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อกัน ทั้งนี้ บอร์ด ทอท. ควรให้ฝ่ายบริหาร ทอท. แจ้งพนักงานอัยการที่แก้ต่างคดีระหว่าง ทอท. กับคิงเพาเวอร์ เพื่อแถลงให้ศาลทราบและกำหนดแนวทางการไกล่เกลี่ยคดีระหว่างคู่ความ พร้อมทั้งรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบ เพื่อพิจารณารายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป ซึ่งอาจรวมถึงการรายงานต่อผู้ถือหุ้นด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของ ทอท. ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีข้อพิพาทระหว่าง ทอท.กับกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์นั้นเริ่มมาตั้งแต่ สมัย พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ขณะนั้นเข้ามากำกับดูแล และมีมติอนุมัติให้สัญญาสัมปทานดังกล่าวเป็นโมฆะ ตามคำอ้างคือ ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีสัญญาผูกพันต่อกัน และไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่คิงเพาเวอร์ ในการจะใช้พื้นที่ ทอท.ในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ทั้งในส่วนการบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (dutyfree airport) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (commercial area) เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) มีหนังสือด่วนที่สุดเมื่อ 16 มีนาคม 2550 อันเพียงพอที่บอร์ดจะอ้างได้ว่าการประกอบการกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรีนั้นมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท เข้าข่ายดำเนินการขัดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535
จากนั้นวันที่ 3 พฤษภาคม 2550 นางกัลยา ผกากรอง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ขณะนั้น ทำหนังสือแจ้งไปยังคิงเพาเวอร์ยืนยันว่า ธุรกรรมของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นโมฆะ ไม่มีสัญญาผูกพันต่อกัน และไม่ก่อให้เกิดสิทธิในการใช้พื้นที่ในอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ตามมติที่ประชุมบอร์ดเมื่อ 22 มีนาคม 2550 เป็นผลให้ นายสมบัติ เดชา-พนิชกุล กรรมการผู้จัดการ คิงเพาเวอร์ อินเตอร์-เนชั่นแนล กรุ๊ป เป็นตัวแทนบริษัทยื่นขอคุ้มครองต่อศาล กระทั่งสุดท้ายก็ยื่นเป็นโจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลย ทอท.ตามข้อกล่าวหาทำให้คิงเพาเวอร์ฯ เสียหายจากการถูกตีความสัญญาเป็นโมฆะ เรียกค่าเสียหายรวม 68,000 ล้านบาท เป็นคดีที่ต่อสู้กันยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้.
จากคุณ :
ชาติตระการ 
- [
23 ส.ค. 51 09:52:41
A:58.8.82.154 X:
]
สุดท้ายคิงพาวเวอร์น่าจะเป็นกรณีโอละพ่ออย่างที่คิด ใครจะเป็นคนรับผิดชอบครับ
