ความคิดเห็นที่ 1 ๏ ปูติดอวน ๏             ๏ นิทานเรื่องแม่ปู       สอนลูกปูให้เดินตรง       ชูก้ามดั่งนำธง       แต่เดินคดทุกครั้งไป             ๏ จับปูใส่กระด้ง       ก็ออกนอกกระด้งใส่       ต่างปูก็ต่างไต่       ไปลงตมประสาปู             ๏ ข่ายอวนอันเขาขึง       ก็คือข่ายแห่งตราชู       มีตาไม่ตาดู       มาติดอวนด้วยตนเอง             ๏ มีใครมาขัดขา       ก็ขาตัวแหละโตงเตง       ไต่อวนกันอลเวง       ก็ติดอวนกันอลวน             ๏ ทำผิดว่าไม่ผิด       ครั้นติดกับว่าติดกล       ทั้งด้านทั้งทานทน       ไอ้พวกปูกระดองแดง             ๏ แม่ปูและลูกปู       ทั้งเต่าปลาไม่แปลกแปลง       ควรเราต้องออกแรง       โละปูเน่าเต่าพันปี !       เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์       พ.๒๐/๘/๕๑ จากคุณ : น้องแก้มจ๊ะ - [ 24 ส.ค. 51 03:03:49 A:222.123.186.253 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความเกลียดจะบดบังความเที่ยงตรงในการตัดสินถูกผิด . จากคุณ : จัวอี้ถัง - [ 24 ส.ค. 51 03:14:16 A:125.25.146.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 "เพราะพอมาอ่านห้องนี้ เหมือนกับอยู่คนละโลกกันจริงๆค่ะ ความคิดต่างกันสุดขั้ว เหตุผลก็ต่างกัน ง่ายๆ แถวบ้านเราบอกศาลยุติธรรมแล้ว คุณทักษิณผิดแล้วหนีคดี!! พอมาอ่านฝ่ายตรงข้ามอย่างห้องนี้ บอกศาลไม่ยุติธรรมเลย ดีแล้วที่คุณทักษิณหนีไป แต่ก็ดีจะได้มองเห็นมุมมองอีกด้าน เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง" อืมๆ ก็แล้วแต่ ช่วงเวลาไหน ใครคุมศาลเจ้า เนอะ จากคุณ : caznov - [ 24 ส.ค. 51 04:05:04 A:124.120.254.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมไม่ได้เรียนระดับปริญญาตรี นะครับแต่ถ้าเทียบเท่าก็น่าจะระดับนั้น ซึ่งผม กำลังเรียนรุ้ภาษาอังกฤษ เลยไม่ได้เรียนเพื่อเอา ปริญญา มาประดับ ผมเชื่อว่าคำว่าโกงต่างๆนั้น ไม่ควรใช้กับคุญทักษิณ ว่า โกงเลยครับ เพราะ ชาวบ้านก็เห็นๆกันอยู่ว่า อนุกรรมการต่างที่แต่งตั้งมาเพื่อทำการนี้ โดยเฉพาะ ซึ่งผมเห็นคุณทักษิณไม่ผิด แต่เป็นการใช้แง่ของกฎหมายเอาผิด ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าคุณทักษิณ ทำถูกแล้วที่ขอลี้ภัย ถ้าเชื่อว่าทักษิณ นั้นผิดจริง แล้วมีเหตุอันใดจึงต้องปฏิวัติ มานเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลกัน เลย จะบอกว่ารัฐบาลก็พวกคุณทักษิณแต่ว่า คงลืมว่าฝ่าย บริหารนั้น เขารับหน้าที่เพื่อมาบริหารประเทศ ไม่ได้แต่งตั้งมาดูแลหน้าที่ความผิดต่างๆ ส่วนความผิดนั้น ดูแลโดยองกรณ์อิสระ ซึ่งแม้แต่นายก ก็สั่งการไม่ได้ อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนที่ตัดสินความผิดมานไม่ชอบธรรมตั้งแต่ปฏวัติ แล้วครับ ใช่ว่ารัฐบาลเปลี่ยน ตอนเผด็จการคืนอำนาจ แล้วจะเปลี่ยน อำนาจตุลาการด้วยนี้ "จะมาบอกว่าสมัครก็พวกคุณ จะพูดยังงั้นก็ไม่ถูก" จากคุณ : gujame - [ 24 ส.ค. 51 04:52:04 A:75.175.94.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอาง่ายๆเลยนะ พ่อผมก็เป็น แต่รายนั้นเขาคลั่งจำลอง เชื่อว่าจำลองเป็น...เ่อ่อ ผู้ทรงศีลที่หาที่เปรียบมิได้ ดังนั้นอะไรที่จำลองพูด พ่อผมจะเชื่อ สมัยเด็กๆผมก็ชอบจำลองนะ เคยเล่าในกระทู้ด้วยว่าผมเคยไปแจกใบปลิวช่วยกลุ่มรวมพลังของเฮียเค้า แต่โตขึ้นมา ผมเรียนรู้กติกาสังคม เข้าใจสังคมมากขึ้น ผมถึงรู้ว่าหลายๆอย่าง คนมันไม่ได้ดีจริงหรอก มันแค่กระแสทั้งนั้น มองกลับไปก็ใช่ ตอนนั้นทำอะไรแตกต่างมันก็เท่ห์ดี ความรู้สึกที่ได้ต่อต้านรัฐ ต่อต้าน"อำนาจ" ยึดจริยธรรม ยึดความขาวสะอาด มันสุดยอดไปเลย แต่นั่นแหละที่เขาเีรียกว่าเด็กไร้เดียงสา (ตอนเด็กๆผมสุดยอดไปเลยครับ เรียกว่าซื่อยังน้อยไป เรียกเซ่ออาจยังไม่พอ) เจอนสพ. เจอทีวี กรอกเข้าหน่อย ยิ่งบุพกาีรี ยิ่งครูบาอาจารย์กรอกหูให้ โอ้ย อย่าให้พูด ปลิวตามเหมือนหูไร้น้ำหนักเลย สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป? ประสบการณ์ชีวิตครับ ผมเห็นความโกงในสังคมมามากพอดู ในมหาลัย จะจบได้ก็ต้องลักไก่กัน ลอกกันวุ่นไปหมด จ้างมือปืนทำทีสิดให้ ฯลฯ อาจารย์เองก็สุดๆ เรื่องดีๆหาฟังไม่ค่อยได้ มีแต่เรื่องดำปี๋ บุพการีก็มีเรื่องเข้าใจผิดโข เราไปเรียนมา ทำมากับมือ เลยรู้ว่าที่พูดมา ใช่เชื่อได้100% ต้องฟังหูไว้หู รุ่นน้องไปทำงานสื่อ กลับมาบ่นให้ฟัง แมร่งโคดเอียงเลยเพ่ นักการเมือง โผล่หน้ามาไหว้ วันหลังโผล่มาเบ่ง ตำรวจรับเงินยัดคนรู้จักผมเข้าซังเตเฉย ด้วยข้อหาโคมลอย(ตอนหลังต้องปล่อย เพราะคนรู้จักไปเอาคนใหญ่กว่ามาเบ่ง)คนติดหนี้ร้อยล้าน บ้านยังอยู่สบาย คนติดหนี้สองสามล้านแทบอ้วก ลูกค้าที่ร้านขอบิลโก่งราคาสินค้าไปเบิกเจ้าของงาน เพื่อนซี้พาคู่ค้าไป"เทคแคร์"เพื่อให้ได้งาน ภาษี? ผมยังไม่รู้จักคนที่มันยอมจ่ายเต็มเลยซักคน ขนาดไปศึกษาธรรม ที่นั่นยังมีการเ่บ่ง อวดภูมิกัน อวดว่าใครบริจาคมากกว่ากันเลย ผมเลยตีความได้อย่างนึง กิเลสเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และไม่มีวันหมดไปได้ อย่างน้อยในศตวรรษนี้ และอีก50ข้างหน้าเป็นอย่างต่ำ คติของผมคือ อย่าดับเบิ้ลแสตนดาร์ด ทำดีกับคนนี้ ทำเลวกับคนโน้น เพียงเพราะไม่ชอบหน้า มันใช้ไม่ได้ อาจเพราะผมทำค้าขาย ลูกค้าทุกคนผมต้องบริการให้เหมือนกัน ต้องให้เขาพอใจเหมือนกัน วันไหนผมอารมณ์ขึ้น ผมก็มีเผลอ แต่ถ้านึกทัน ก็จะขอโทษไป ผมเลยเกลียดพวกตีสองหน้า นุ่งผ้าถุง เข้าข้างตัวเองและพวกตัวเอง เขียนกฏให้ตัวเองรอด อวดอำนาจปืน แล้วบิดกฏเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามเน่า คุณจะจัดการทักษิณ (แม้ว่าผมจะชอบผลงาน แต่ผมต้องยอมรับว่ากติกาก็ต้องเป็นกติกา ถ้าผิด ก็เล่นไปเลย) แต่ที่ำอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่ ความยุติธรรมมันไม่มีอยู่ ดับเบิ้ลแสตนดาร์ดกันว่อน ใครจะรับได้? ปฏิวัติหาอะไรมิทราบ? เคยแก้ปัญหาได้สักครั้งไหม ไม่เคยมี 18ทีที่ผ่านมามันก็แค่ปล้นประเทศด้วยปืนนั่นแหละ สื่อก็เงียบเป็นเป่าสากทุกครั้งที่ตีนตะขาบเดินถนน(ทำใจได้ล่ะ ตั้งแต่รุ่นน้องมันยืนยันว่า เอียงตั้งแต่ในกองบก.แล้ว แล้วไม่ใช่คนเดียวด้วยที่พูดแบบนี้)ตุลาการก็อื้อหือ แมนมากๆ ตัดสินได้แมนจน ธงดำปิ๊ดปี๋ ไม่รู้เอาตาชั่งไปแขวนอะไรมา ถึงได้สเกลสุดยอดปานนี้ คือ ผมไม่ใช่คนฉลาดนะ กว่าจะเข้าใจก็ อายุไม่น้อยแล้ว ผมหัวช้า กว่าจะเก็ทชีวิต คนอื่นก็ไปไกลกันหมด แต่ที่ทำอยู่นี่ มันดูถูกกันเกินไป ทำเหมือนคนไทยไอคิวมาตรฐานที่50 เป็นโรคสมองกันหมด สงสัยคิดว่า "กฏหมายมันซับซ้อนเกินสมองประชาชนจะเข้าใจได้" แต่คงลืมไปอย่าง กฏหมายมีไว้ใช้กับคนธรรมดา ถ้าคนธรรมดาเข้าใจไม่ได้ มันไม่เรียกว่ากฏหมายหรอก เขาเรียกกฏไว้หลอกกินเงิน หลอกให้ใต้โต๊ะ ติดสินบน หลอกให้ใช้อำนาจมืด หลอกให้เจรจากันนอกรอบ ตราบใดที่กฏหมายยังเขียนด้วยภาษาไทย ผมก็ว่าผมน่าจะอ่านรู้เรื่องนะ ไม่ต้องจบเอก ก็น่าจะกล้อมแกล้มได้ ยกเว้นว่าที่ผ่านมานี่เขาเขียนด้วยสันสกฤต ผมคงต้องหาทางจบเปรียญก่อนสินะ! จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 24 ส.ค. 51 05:29:33 A:124.121.63.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 เปอร์เซ็นคนไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัวที่อยู่ในกลุ่มม๊อบพันธมิตปิดสะพาน สูง หรือ ต่ำกว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตครอบครัว คุณคิดเห็นอย่างไร จากคุณ : สุดท้ายตายทุกคน - [ 24 ส.ค. 51 05:41:00 A:125.24.191.53 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ก็เคยมีเหมือนกันน่ะที่เคยเดินเข้าไปในร้านค้าแล้วเปิดastvดังลั่นร้านทั้งวันแถมยังชักชวนให้ผมนั่งฟังด้วยกัน ผมว่าบุคคลเหล่านี้ไม่มีสมองที่จะคิดด้วยตัวเอง แยกแยะไม่ได้ว่าอันไหนผิดอันไหนถูก แต่เท่าที่เห็นส่วนมากมักจะเป็นคนชั้นกลางขึ้นไป ความคิดส่วนตัวนะผมว่าบุคคลเหล่านี้มีความอิจฉาเป็นที่ตั้ง และโดยปกติแล้วชีวิตก็มิได้เดือดร้อนสักเท่าไหร่จึงไม่ต้องไปพึ่งพา นโยบายประชานิยม ส่วนคนจนชนชั้นรากหญ้า จำเป็นต้องพึ่งพาประชานิยมก็เนื่องจากว่าตนเองนั้นขาดโอกาสมาตลอด เมื่อมีคนมาหยืบยื่นให้ทำไมชาวบ้านจะไม่รับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6919613/P6919613.html จากคุณ : เกลอเก่า - [ 24 ส.ค. 51 06:58:53 A:125.24.206.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเป็นคนที่ชอบวิธีการบริหารงาน และสิ่งดีๆที่ รบ.ทักษัณได้ทำไว้ให้ประเทศมาก แค่พาประเทศพ้นจากวิกฤตเศรฐกิจได้ ผมว่าผมก็เป็นหนี้บุญคุณฝีมือการบริหารของเขามากแล้วละ แต่ตรงนั้นเก็บไว้ก่อน หลังๆนี้ ผมพบความจริงง่ายๆของชีวิตอย่างนึง ผมเคยรำคาญ และเกลียดพวกม๊อบพันธมิตรมาก กับพวกที่ใช้กฏหมู่ ล้มระบอบของบ้านเมือง ล้ม รธน 2540 และสิ่งดีๆที่ผมเคยยึดถือในเมืองไทย ผมหมดอาลัยตายอยากกับสภาพบ้านเมืองจริงๆจนกระทั่งผมระลึกได้ว่า จริงๆแล้ว สิ่งที่มีค่า มีความหมายกับผมจริงๆคือ - พ่อแม่ น้องสาวผม - อาชีพการงานผม - เธอ ... คนที่ผมรักอย่างสุดหัวใจ ... เท่านั้นแหละ ผมไม่รู้จะไปเอาเรื่องบ้าๆบอๆที่ม๊อบพวกนี้มันทำแต่ละวันๆ มาเป็นอารมณ์ในชีวิตไปทำไมให้ชีวิตหม่นหมอง คุณว่า คุณพ่อ คุณแม่ของคุณ ที่รับเอาความโกรธ เกลียด อคติ และสิ่งอัปมลคลทั้งหลายที่พล่ามออกมาจาก 5 ตัวบนเวทีพันธมิตรมันพ่นออกมาทุกวันๆ ท่านจะมีความสุขในชีวิตไหมครับ การที่ปลูกฝังลงไปในใจให้เกลียดคนบางคนทุกวันๆ การรับเอาแต่เรื่องอัปมงคลเข้ามาวันละนิดๆ การรับเอาอารมณ์ที่ขุ่นมัวเข้ามาให้จิตใจหม่นหมองเป็นประจำ 24 ชม. ทุกวัน คุณว่ามันดีกับชีวิตท่านๆหรือเปล่า แล้วคุณว่าจริงๆแล้วเนี้ย มันจะมีใครที่เลวได้ 100% เลวทุกเรื่อง ทุกอย่าง ทำอะไรผิดไปหมดอย่างที่พันธมิตรพยายามสร้างภาพขึ้นมาไหม ไอ้แบบเลววววได้ใจสุดๆหนะ ผมเห็นมีแต่ในหนังละครน้ำเน่านะ ชีวิตจริงๆ คนเราก็มีทั้งสองด้านหนะแหละ ไม่มีใครดีทุกอย่าง ไม่มีใครเลวทุกอย่างหรอก จริงๆแล้ว ชีวิตเรามันมีสาระ แก่นสารมากกว่าที่ไปแย้วๆอยู่ตรงสะพานนั้นทุกวันๆไหม ไปเที่ยวกันกับครอบครัวละ กินข้าวด้วยกัน นั่งเล่นกันที่บ้าน คุยอะไรที่มัน positive กันทุกวัน จะดีกว่าคุยเสียดสีรัฐบาล ด่าคนนู้นคนนี้วันละนิดๆไหม หลังๆผมปลงแล้วละ ผมไม่สนใจข่าวสารว่าใครจะเป็นจะตายที่ไหนอย่างไรมาเดือนนึงแล้ว รู้สึกชีวิตมีความสุขดี ปล่อยให้พวกพันธมิตรมันไปตากแดดตากฝน "กู้ชาติ" อะไรของมันกันไป ผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมกับเธอก็มีความสุขกันดี รักกันมากขึ้นทุกวัน ชีวิตผมมีความสุขดี .... อาจจะไม่ตรงคำถามเท่าไหร่  แต่ก็ลองคิดดูละกันครับ แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 07:13:56 จากคุณ : champ_ee85 - [ 24 ส.ค. 51 07:09:59 A:194.105.100.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 มันมีให้เสพติดหลายอย่าง บ้างติด ความเท็จคืนนี้ บ้างติดสนามหลวง บ้างติดสมัคร ที่แย่ที่สุดคือติดทักกี้ ร้านไหนไม่เปิด ASTV ผมไม่ซื้อ จากคุณ : manussp - [ 24 ส.ค. 51 07:11:27 A:125.25.132.192 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 สิ่งที่เกิด มัน ไม่ได้มีแค่ที่เห็น พี่ดีใจที่น้องตั้งใจศึกษา มาถึงวันนี้ เรื่องมันเดินมาไกล จนแทบจะลืมต้นเหตุ ขอฝากบทความสมัยแรกๆของ อาจารยืลิขิต จะทำให้เข้าใจ .................................................. หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ 16 มีนาคม พ.ศ. 2549 คอลัมน์ มองมุมใหม่ ดร. พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ Pichit@econ.tu.ac.th การต่อสู้ทางชนชั้นในสังคมไทย ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ นอกจากจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปสังคมไทยตามแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ กับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านโลกาภิวัตน์แล้ว ยังมีมิติทางชนชั้นอันแหลมคมคือ เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างชนชั้นล่างในเมืองและชนบทที่สนับสนุนผู้นำรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยกับชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องการขับไล่ผู้นำรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญ ชนชั้นล่างในเมืองและชนบทประกอบด้วย ประชาชนระดับรากหญ้าที่ตั้งแต่เกิดจนตายมีชีวิตยากจน ลำบากยากแค้น ไม่แน่นอน ไม่มีการศึกษา ขาดเงินทุน มีแต่หนี้สินและโรคภัยไข้เจ็บ ยาเสพติดในละแวกบ้าน อิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ การข่มเหงรังแกของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้ใด ไม่มีปากมีเสียง ถูกละเลยผ่านพ้นรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย พวกเขามีข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคือ มีจำนวนคนมากนับสิบล้านคนทั่วประเทศและระบบการเมืองที่พอจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีปากมีเสียงบ้างก็คือ ระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นระบอบที่ทุกคนมี "หนึ่งเสียงเท่ากัน" ไม่ว่ายากดีมีจน การศึกษาสูงหรือต่ำ และยังเป็นระบบเดียวที่ทำให้พวกเขาพอจะส่งอิทธิพลไปยังนักการเมืองได้บ้าง พวกเขาสนับสนุนผู้นำรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ก็เพราะนี่เป็นรัฐบาลแรกที่หยิบยื่นผลประโยชน์รูปธรรมเฉพาะหน้าให้กับพวกเขาได้จริงผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ เช่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พักชำระหนี้ กองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บ้านเอื้ออาทร หมู่บ้านเอสเอ็มแอล ขจัดปัญหายาเสพติด ลดอิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ แปลงหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบ ฯลฯ ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญกับปัญหาสารพัดที่ชนชั้นล่างต้องประสบตลอดชีวิต ชนชั้นกลางมีเงิน การศึกษา ตำแหน่งงาน บ้าน รถยนต์ มีช่องทางเข้าถึงเงินทุนและเงินกู้ในระบบ เจ็บป่วยก็มีเงินรักษา ไม่มีปัญหายาเสพติดในละแวกบ้าน ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐและอำนาจเถื่อนรังแก ไม่ต้องพึ่งรัฐบาลและนักการเมืองท้องถิ่น พวกเขาจึงมองชนชั้นล่างอย่างดูถูกดูแคลน ว่า "ถูกซื้อ" โดยรัฐบาล พวกเขาต้องการโค่นล้มผู้นำรัฐบาลและเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งก็เพราะในระยะเวลา 5 ปีมานี้ พวกเขาได้สูญเสีย "สวรรค์ของอภิสิทธิ์ชน" ของตนไปเรื่อยๆ กลุ่มทุนเก่าที่ผูกขาดระบบเศรษฐกิจไทยมาหลายสิบปี กำลังสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนของรัฐบาล พวกเขาจึงต้องโค่นล้มรัฐบาลเพื่อยุตินโยบายดังกล่าว และฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปสู่ระบบทุนนิยมอุปถัมภ์ดังเดิม จากคุณ : ใบโหระพา - [ 24 ส.ค. 51 07:39:40 A:58.8.230.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 บทความยาวมาก จึงขอตัด และ มาต่อ ที่นี่ ....................................... ผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจต้องการขับไล่รัฐบาล เพราะสูญเสียประโยชน์และสถานภาพจากการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทมหาชน องค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านทุนนิยมต้องการโค่นล้มรัฐบาล เพราะปฏิเสธการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันสมัย ปฏิเสธการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ต้องการฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปเป็นสังคมเกษตรกรรมหมู่บ้านบุพกาลตามลัทธิชุมชนอนาธิปไตยของพวกตน ข้าราชการเทคโนแครตไม่ต้องการรัฐบาลและรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะทำให้พวกเขาสูญเสียอำนาจ เกียรติภูมิและสถานภาพ จากเดิมที่เป็นผู้บริหารประเทศตัวจริงและมีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรี นักการเมือง แต่วันนี้ พวกเขาเป็นเพียงคนรับคำสั่งของนักการเมือง กลุ่มก๊วนการเมืองต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้พวกตนไม่มีอำนาจต่อรอง ต้องผูกติดกับระบบพรรค ไม่สามารถข่มขู่รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีให้แบ่งปันผลประโยชน์แก่พวกตนได้เหมือนในอดีต นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ราษฎรอาวุโสแม้จะเกลียดชังความไม่โปร่งใสในทรัพย์สินของผู้นำรัฐบาล แต่ภูมิหลังคือ พวกเขาเป็นอนุรักษ์นิยม ไม่ต้องการโลกาภิวัฒน์ แล้วยังสูญเสียสถานภาพและความน่าเชื่อถือตลอด 5 ปีมานี้ เพราะรัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่สนใจนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัย ไม่ให้คุณค่าความสำคัญแก่ราษฎรอาวุโส อีกทั้งยังคอยกล่าวตอบโต้รุนแรงอยู่เสมอ นักวิชาการและราษฎรอาวุโสเหล่านี้ปากพูดว่า "ต้องการประชาธิปไตย" แต่วันนี้ กำลังเรียกร้อง "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ เอาระบบจารีตนิยมเข้ามากุมอำนาจรัฐ บางคนเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ฝ่ายทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เอาเผด็จการทหารกลับคืนมา ทั้งหมดนี้เพื่อโค่นล้มผู้นำรัฐาลเพียงคนเดียว ที่น่าสังเวชคือ นักวิชาการเหล่านี้บางคนปากอ้างมาตลอดชีวิตว่า เป็นทายาททางคุณธรรมของนายป๋วย อึ้งภากรณ์ แม้แต่อดีตฝ่ายซ้ายและนักต่อสู้กับเผด็จการทหารในอดีต มาวันนี้กลับขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อชีวิต วิงวอนร้องขอ "รัฐบาลพระราชทาน" ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ฟื้นระบอบจารีตนิยม แม้เฉพาะหน้าจะเป็นประเด็นความไม่โปร่งใสของผู้นำรัฐบาล แต่พื้นฐานความขัดแย้งคือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้และผู้นำรัฐบาลทำให้ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองสูญเสียประโยชน์และสถานภาพอภิสิทธิ์ ทำให้ชนชั้นล่างทั้งในมืองและชนบทได้มีสิทธิมีเสียงทัดเทียมกัน แม้คำขวัญเบื้องหน้าคือ "กู้ชาติ" "ปฏิรูปการเมือง" และชื่อกลุ่มลงท้ายด้วยคำว่า "เพื่อประชาธิปไตย" แต่เนื้อแท้คือ ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญและทำลายระบอบประชาธิปไตยที่แบ่งอำนาจให้กับชนชั้นล่างมากเกินไป และเปิดช่องให้มีการปฏิรูปทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ฉะนั้นวาระของพวกเขาจึงเป็นปฏิกิริยาและถอยหลังเข้าคลอง สิ่งที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่"หนึ่งคนหนึ่งเสียงเท่ากัน" แต่เป็นระบอบคณาธิปไตยที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองมีอำนาจอภิสิทธิ์ และมีเสียงเหนือชนชั้นล่าง เป็นระบอบที่คนส่วนน้อยในเมืองจำนวนหนึ่งมีเสียงเหนือกว่า สามารถ "สั่ง" และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนชั้นล่างนับสิบล้านคนได้ ประชาธิปไตยไทย จึงไม่มีวันเป็น "ประชาธิปไตย" ไปได้ เป็นได้แค่คณาธิปไตยจารีตนิยม จากคุณ : ใบโหระพา - [ 24 ส.ค. 51 07:41:00 A:58.8.230.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะฉะนั้น ท่านทักษิณ ไม่ได้เป็นผู้วิเศษ อะไร เป็นเพี่ยง คนของยุคสมัยที่โผล่เข้ามาในระบบการปกครอง แลัวก็จัดการปรับปรุงอย่างลืมหูลืมตา เห็นระบบที่ขัดต่อความเจริญ เช่น ระเบียบที่ประชาชนทั่วไปไม่เข้าใจ ท่านสั่งแก้ไข โดยฉะเพาะ เน้นๆเรื่องการเปิดโอกาสการหากิน น้องจะได้ยินว่า คนธรรมดาสามัญสามารถส่งสินค้าไปขายต่างประเทศได้ง่าย เมื่อก่อนมันถูกล้อกให้พวกอภิสิทธิ์ชนเท่านั้น คนทั่วไปมีรายได้เพิ่มขึ้น ยิ่งราคาน้มันขึ้นแบบโหดร้าย ประเทศยังอยู่รอดได้ ลองถามคุณพ่อของน้องว่า จำได้ไหม เมื่อก่อน หากน้ำมันขึ้นเพียงนิด จะมีคนจนเดินขบวนคัดค้านจนรัฐบาลล้มไป ที่เรียกว่า เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลย คือ การให้เงินหมู่บ้านละ หนึ่งล้านบาท เป็นทุนแก้ไขความยากจน แม้ฝ่ายตรงข้ามจะบิอเบือนว่า ไม่ได้ผล แต่ผลที่ทำให้ชาวบ้านมีความมั่นคง มีความสามารถคำนวณเรื่องทุน เรื่องดอกเบี้ย มีการจดบันทึกรายรับรายจ่าย ตามคำขวัญว่า จดไว้ไม่มีจน ผลงานมันเดินไปอย่างไม่มีใครหยุดได้แล้ว จากคุณ : ใบโหระพา - [ 24 ส.ค. 51 07:51:48 A:58.8.230.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 แต่เดิมผมไม่เคยสนใจเว็บบอร์ดเลย ปี พศ. 2549 เห็นหนังสือเล่มหนึ่ง รวบรวมกระทู้ตามเว็บบอร์ดเกี่ยวกับการเมือง เลยติดตามมาตั้งแต่ตอนนั้น เริ่มเขียนกระทู้ครั้งแรก ในเว็บบอร์ดของสื่อผู้จัดการ ผมมักจะเขียนชี้แจงเหตุผล แก่ผู้ที่ผมเห็นว่าเข้าใจผิด เขียนได้สักพักหนึ่ง ก็ไม่สามารถเขียนได้อีก ถูกบล็อคไว้หมด ไม่สามารถตั้งกระทู้หรือตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดสื่อในเครือผู้จัดการได้อีกเลย ทำให้สงสัยการกระทำของสื่อในเครือผู้จัดการนี้ ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ต่างๆ ตามความเข้าใจของผม รวบรวมไว้ที่กระทู้ตาม Link ข้างล่าง อาจเป็นข้อมูลให้ จขกท. พิจารณาอีกทางหนึ่ง http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6919613/P6919613.html จากคุณ : วษณ - [ 24 ส.ค. 51 07:56:48 A:58.8.133.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 .                    อย่าไปใส่ใจครับ ตอนนี้นายสนธิจับประเด็นการเมืองถูก จึงนำเสนอการเมืองในรูปแบบ Gossip และ ละครน้ำเน่า เพื่อเรียกขาจรมาร่วมแจม ก็เหมือนกับนักจัดรายการข่าวทั่วไปที่กำลังอินเทรนด์ เพียงแต่ลากออกมาเล่นนอกจอ ................. แต่ไม่ว่างานเลี้ยงใด อย่างไรก็ต้องเลิกราครับ                    คนเมือง อาจจะสนใจการเมือง เป็นเรื่องบันเทิงสนองตัณหาอารมณ์ ไม่ว่าปมประเด็นเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ มีสาระหรือไม่อย่างไร  ก็ไม่ใส่ใจนำพา .................. ขอเพียงให้ข้าได้เม้าส์เป็นพอ บ้านเมืองจะเสียหายอย่างไรก็ไม่สนใจ เพราะผลกระทบมาไม่ถึงตัว                    แต่คนชนบท สนใจการเมือง เพราะ เป็นเรื่องของปากท้อง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจ นโยบายที่จับต้องได้ ....................... จึงเป็นตัวชี้ขาดในคูหาเลือกตั้ง ไม่ใช่เงิน                    ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานครับ ................ ชั่วหรือดี โกงหรือไม่ ผลงานมันฟ้องตัวมันเอง จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก - [ 24 ส.ค. 51 09:23:48 A:117.47.90.43 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 แป๊ะลิ้มเป็นนักพูดและนักการตลาดที่มีจิตวทยาสูง ASTV  ถ่ายทอดสดม๊อบเหมือนทำรายการประเภทเรียลิตี้โชว์ ทำให้คนดูมีส่วนร่วม  ผู้ชมมีความรู้สึกว่าตนเองมีความหมาย เห็นได้ชัดเจนว่าคนที่ไปเข้าม๊อบจะรู้สึกว่าเขากำลังกู้ชาติปกป้องสถาบัน เมื่อก่อนตอนแป๊ะออกช่อง9  ผมก็เคยเคลิ้มไปกับมันเหมือนกัน   แต่ผมโชคดีที่ไม่ติดASTV   และหลังๆจับผิดโกหกมันได้เยอะ ผมเริ่มเกลียดมันที่สุดตอนก่อนรัฐประหาร   ยิ่งพอเข้ามาที่นี่เจอหลักฐานเพียบ ปะติดปะต่อเรื่องราวจนเห็นชัดว่า  มันทำลายประชาธิปไตยกันเป็นกระบวนการ เพราะมีคนเสียผลประโยชน์จากนโยบายของทักษิณแทรกซึมอยู่ทุกวงการ ยินดีด้วยครับที่คุณยังไม่ถูกล้างสมอง  และชื่นชมที่คุณรับข้อมูลทุกด้านมาวิเคราะห์ด้วยตัวเอง........อย่างปัญญาชน จากคุณ : ด้องศักดิ์ - [ 24 ส.ค. 51 09:38:33 A:58.10.102.123 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 คห.15 ผมหัวอกเดียวกับคุณ จากคุณ : hotginger - [ 24 ส.ค. 51 09:56:49 A:222.123.16.170 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ชื่นชมที่คุณรับข้อมูลทุกด้านมาวิเคราะห์ด้วยตัวเอง จากคุณ : ขยะแห้ง - [ 24 ส.ค. 51 09:57:35 A:58.8.213.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 โดยพื้นฐาน คนไทยทุกคนมีความรักชาติเป็นเบื้องต้น ASSTV นำมาใช้ประโยชน์ ใส่ใคล้ฝ่ายตรงข้ามโกงชาติโกงแผ่นดิน ด้วยข้อเท็จจริงเพียงนิด ใส่ไข่บานในทุกเรื่องที่ รบ.เก่าทำ ชาวบ้านไม่ได้รอบรู้ไปทุกเรื่อง ฟังจริงๆ เท็จๆ ก็หลงเชื่อบวกความรักชาติ ถูกปลุกเร้ากระตุ้นการต่อต้านสืบต่อมาถึง รบ.ปัจจุบัน (ดู ตย.จากดาวเทียมเทมาเส็ก ถึงปราสาทพระวิหาร) ฟังบ่อยๆ กลายเป็นเสพติด แยกแยะไม่ได้ว่าจริงหรือเท็จ สร้างความแตกแยกในบ้านเมือง เพียงเพื่อสนองประโยชน์ของกลุ่มอันทมิดเท่านั้น จากคุณ : WindReturn - [ 24 ส.ค. 51 10:00:17 A:203.156.11.167 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19  ...  เหมือนกันเลยครับ..... ถ้าน้อง เข้ามาอ่านที่นี้บ่อยๆ  และอ่านโดยไม่ได้ผ่านการคิดและไต่ตรอง.......ตามข้อมูลที่เขาเอามาเขียนให้อ่าน.... อ่านจากใครก็ไม่รู้ที่เขียนแต่ไม่มีหลักฐานมาประกอบกับสิ่งที่เขียนอ่ะ......   เชื่อผมเถอะ...... ของแบบนี้ต้องคิดและต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานต่างๆที่นำมาประกอบครับ....ไม่งั้นก็เป็นการแสดงความคิดเห็นธรรมดาที่ไม่มีน้ำหนัก....... หวังว่าน้องคง.....คิดและคิดในการเลือกยืนอยู่ข้างที่ถูกครับผม. ด้วยความเคารพจากใจใช่หน้าที่........ จากคุณ : ป๋าฉัตร พันธมิตร - รัชดา. (ป๋าฉัตร เมืองสมุทร 59) - [ 24 ส.ค. 51 10:03:01 A:125.24.224.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องฟังเหตุและผลของทั้งสองข้างก่อนจะตัดสินใจ  นั่นถึงจะเรียกว่ายุติธรรม แต่ถ้าเชื่อว่า .... ตั้งแต่เริ่ม นั่นเรียกว่าเอียง ความเป็นเหตุและผลของคนเราโดยมาก มักจะถูกคำว่าอคติบดบัง ไม่ว่าใครก็ตาม  เมื่ออคติบังเกิด ความยุติธรรมก็จะหายไปแล้วส่วนนึงค่ะ จากคุณ : sri123 - [ 24 ส.ค. 51 10:06:48 A:75.202.221.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 กระทู้ดีครับ ความคิดเห็นก็ดี มีเหตุผล ยกเว้น คห 9. จากคุณ : มะนาวไร้น้ำ - [ 24 ส.ค. 51 10:24:00 A:192.168.10.200 X:203.156.64.28 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การเสพสื่อในยุคปัจจุบัน ต้องมีวิจารณญาณและต้องมีความหนักแน่น ต้องยึดหลักกาลามสูตรของพระพุทธเจ้า    เพราะสื่อถือเป็นสิ่งมีอำนาจ มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกยุคนี้ บ้านเมืองจะสงบหรือแตกแยก สื่อมีส่วนสำคัญมาก     ถ้าสื่อส่วนใหญ่มีความเป็นมืออาชีพ มีความเป็นกลาง นำเสนอข้อมูลหลายด้านที่เป็นข้อเท็จจริง  และมีความรับผิดชอบต่อสังคม บ้านเมืองก็จะมั่นคง     แต่ถ้าสื่อมีอคติ ใช้ความเกลียดความไม่ชอบชี้นำสังคม หรือมุ่งเป้าแต่ทำลายล้างฝ่ายที่ตนไม่ชอบ ให้ข้อมูลทางลบด้านเดียว สร้างความกังขาแก่มวลชน ก่อความแตกแยกบาดหมางในสังคม สื่อที่ส่อเจตนาเช่นนี้ไม่ควรเชื่อถือ ไม่ควรติดตาม โดยเฉพาะหากเรายังไม่หนักแน่นเพียงพอ        การแยกแยะสื่ออคติ ไม่น่าจะยาก ถ้าเราถอยตัวเองออกมามองมุมนอก ไม่ต้องเลือกข้างหัวปักหัวปำ  ต้องบินให้สูงมองให้กว้าง ใช้ความคิดเป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช้อารมณ์โกรธหรือเกลียดตัดสิน เราก็จะเห็นว่าสื่อไหนส่อเจตนามอมเมาทำลายล้างให้ข้อมูลด้านเดียว สื่อไหนสร้างความร้าวฉานแก่บ้านเมือง สื่อที่คิดลบด้านเดียวอย่างนี้ ไม่ควรเชื่อถือติดตาม  เป็นสิ่งที่น่าละอายนัก ถ้าเราจะต้องพลาดหลงงมงายไปกับสื่อที่มอมเมาเราให้มีแต่ความโกรธเกลียดชิงชัง เมืองไทยที่เคยร่มเย็นสงบสันติ กลับต้องมาทะเลาะแตกแยกบาดหมางแบ่งขั้วเพราะสื่ออคติชี้นำ ก่อนนี้มีหลายคนเอาจพลาดเผลอคล้อยตาม แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป ถ้าเรายังงมเชื่อสื่อเสี้ยมอย่างนี้ ทั้งๆผลการกระทำของสื่อฝ่ายจองล้างนั้นสร้างความปั่นป่วนจนเห็นผลชัดอยู่อย่างนี้แล้ว  หากยังไม่ทบทวนปรับเปลี่ยนความคิดยังดันทุรังหน้ามืดตามัวต่อ ก็นับว่าน่าอายนัก!        ดีที่สื่อหลักหลายสำนัก ยังมีความเห็นหลายด้าน ในสื่อเดียวอาจมีความเห็นต่าง ก็ได้แต่หวังว่าสื่อหลักเหล่านี้ จะมีความเป็นมืออาชีพ นำเสนอความต่างได้อย่างลงตัว ไม่เอนเอียง         และถ้าจะมีการชี้นำ ก็ขอให้เป็นไปในแนวทางสร้างสรรค์มีประโยชน์ สร้างความสมัครสมานมากกว่าการมุ่งทำลาย  แล้วบ้านเมืองเราจะอยู่รอด        ความหวังของบ้านเมือง ขึ้นอยู่กับจริยธรรมและความสำนึกในวิชาชีพของสื่อ        และพวกเรายังโชคดี ที่ยังมีทางเลือก มีช่องทางให้ติดตามข้อมูลหลายด้านจากสื่ออิสระเสรีเฉกเช่นในราชดำเนินแห่งนี้       ที่นี่มีหลายความคิดหลากความเห็นที่เป็นประโยชน์       ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาวิจารณญาณของแต่ละคนที่จะเสพรับข้อมูล และเลือกจะเชื่อถือ       หลายคนในพันทิปราชดำเนินล้วนมีความรู้เชิงลึกในเรื่องการเมือง ติดตามกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีความคิดอ่านเป็นตัวของตัวเอง       ดังนั้น ความคิดต่างในที่นี้ หากเป็นไปในทางเดียวกันย่อมต้องมีน้ำหนัก!        เชื่อไม่เชื่อก็ลองตรองดู! แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 16:43:22 แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 51 12:21:53 จากคุณ : Rakeeagle - [ 24 ส.ค. 51 10:31:42 A:124.120.28.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 จขกท. การที่เข้ามาในห้องนี้และได้สัมผัสกับความเห็นต่าง มีมุมมองที่ต่างออกไปจากบุพการีของคุณ มันไม่ได้หมายความว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งมันจะผิดแน่ๆ...................!! คนเราย่อมมีทั้งถูกและผิด  เพราะ เราต่าง เป็น "คน" ด้วยกันทั้งนั้น หากแต่การเลือก "ยืน" เลือกที่จะ "เชื่อ" ....!! "หลักการ"และ "เหตุผล" จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อการพิจารณา!!!!!! ผมแค่ขอเสนอเหตุผลแบบธรรมดาๆสักเรื่องเดียว..!! คุณลองพิจารณานะครับว่า ในฝั่งของรัฐบาล ฝั่งของคุณทักษิณ  คุณลองศึกษาประวัติคนเหล่านี้ดู แล้วจะเห็นว่า หาได้ง่าย บุคคลเหล่านี้มีประวิติ ภูมิหลัง ความเป็นมา ที่ "เปิดเผย" สาธารณะรู้จักทุกคน ว่าเป็นใคร มาจากไหน มีพื้นฐานชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างไร ลูกเมีย พ่อแม่ ชาติตระกูล เป็นอย่างไร ประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงชีวิตมาแต่หนหลังอย่างไร  มีทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน มีมุมมองความคิดเห็นอย่างไร คุณจะเห็นว่าคุณ "รู้" ได้ทุกๆเรื่อง ในเรื่องของคนเหล่านี้ จากสื่อหลายๆมุมมอง ซึ่งคุณเอามาศึกษาและเปรียบเทียบได้ อีกอย่างที่สำคัญ คือ สังคมเลือกบทบาทให้เขาตามวิถีทางการเมือง ให้เขามา "ทำหน้าที่"แล้ว..จริงไหมครับ? แล้วฝั่งพันธมิตรล่ะ...คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้บ้าง.......? คุณลองหากระบุงมาสักสองใบ เอาไม้คานมาทำสาแหรก แล้วลองเอา "สิ่งที่คุณรู้" ของทั้งสองฝั่งใส่ลงไป  แล้วพิจารณาด้วยหลัก "กาลามสูตร" เข้าไป(คุณจบ ป.ตรี แล้วนี่คงรู้หลักนี้) แล้วถามตัวเองว่า   ฝั่งไหนมีความ "ชัดเจน" และ ได้"น้ำหนัก"ความน่าเชื่อถือ...มากกว่ากัน?????????? จากคุณ : กิจ กังวาน - [ 24 ส.ค. 51 10:36:59 A:118.172.203.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับคห.๒๓ จากคุณ : แม่หมีเหงา (แม่หมีเหงา) - [ 24 ส.ค. 51 11:51:49 A:124.121.229.83 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 การเมืองบ้านเราสังเกตง่าย ถ้ามันมีอะไรแปลกๆ ที่หาจุดลงตัวไม่ได้ เกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด ขอให้เดาไว้ได้เลยว่า พวกอภิสิทธิ์ชนมหาอำมาตย์บ้าอำนาจ มันอยู่เบื้องหลังแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่น้อย ลองไล่เรียงเหตุการณ์ความวุ่นวายในประเทศเราย้อนหลังไปดูก็ได้ ทุกครั้งที่เกิดการนองเลือด จะมีคนพวกนี้ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น *************************************** เหลือเรื่อง 3 จังหวัดปักษ์ใต้เพียงอย่างเดียวที่ยังดูๆอยู่ว่า "มันเกิดอะไรกันแน่" จากคุณ : Black Propaganda - [ 24 ส.ค. 51 12:19:10 A:124.121.218.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20 เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20 เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20 เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20 เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20   เห็นด้วยกับ คห.20 จากคุณ : manussp - [ 24 ส.ค. 51 15:22:12 A:125.25.134.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เคยเข้าอบรม การขายตรง ไหมครับ??? สินค้า 5 บาท แต่ขาย 500 ล่ะครับ วิธีที่ แป๊ะลิ้มทำอยู่... แล้วเวลาเข้าเป็นก๊วนแล้ว ออกยาก...แบบนั้นละครับ... ซื้อมาแล้ว ใช้ไม่คุ้ม ขายไม่ได้ ต้องอดทนทำใจ เป็นบริวารพันธมิตรต่อไป... จากคุณ : Dreamhunter007 (ต้องตา) - [ 24 ส.ค. 51 15:32:06 A:71.219.65.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบ คห. 5 ครับ ตรงใจ ๆๆ สุดๆๆ จากคุณ : โยธาไทย - [ 24 ส.ค. 51 18:00:28 A:118.173.142.84 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 โลกกว้างใหญ่ไพศาลมาก อย่าคิดว่าประเทศไทยเป็นโลก ถ้าไม่อย่างนั้นจะ เหมือนกบในกะลา ชอบคนพูดแต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อคนพูด แต่พยามยามดูที่ การกระทำ บางครั้งเราด่าแต่คนอื่น แต่เราเคยไม่เคยดูที่ตัวเราเอง เราอาจจะ เลวกว่าคนที่เราด่าก็ได้ จากคุณ : sunsuri - [ 24 ส.ค. 51 23:59:19 A:117.47.100.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอย้ำข้อความของคุณความเห็นที่ 8 อีกที ... ชอบ ------------------------------------------------------------ "การที่ปลูกฝังลงไปในใจให้เกลียดคนบางคนทุกวันๆ การรับเอาแต่เรื่องอัปมงคลเข้ามาวันละนิดๆ การรับเอาอารมณ์ที่ขุ่นมัวเข้ามาให้จิตใจหม่นหมองเป็นประจำ 24 ชม. ทุกวัน คุณว่ามันดีกับชีวิตท่านๆหรือเปล่า" ---------------------------------------------------- นี่คือเหตุผลว่าทำไม ถึงไม่ดูASTV เพราะเคยดู และเห็นแล้วว่าเป็นอย่างที่คห .8 พูดจริง ๆ จึงไม่ดู... จากคุณ : Ailong - [ 25 ส.ค. 51 15:02:38 A:203.147.4.17 X: ]