Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ตอน ๑. อดีตผู้พิพากษา ย้ำ “ปฏิวัติสำเร็จก็เป็นกบฏ” !

    -ในระบอบประชาธิปไตย การบัญญัติกฎหมายเป็นอำนาจของรัฐสภา
    -ศาลฎีกาไม่มีอำนาจบัญญัติกฎหมาย
    -คำพิพากษาฎีกาไม่เป็นกฎหมาย มีผลบังคับเฉพาะคดี
    -ศาลฎีกาไม่มีอำนาจกำหนดประเพณีการปกครอง
    -คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรเถื่อนที่ตั้งขึ้นโดยคณะปฏิวัติ ซึ่งเป็นกบฏ ถือว่าไปทำงานในฐานะส่วนตัว  ไม่มีฐานะเป็นศาล ไม่มีอำนาจตุลาการ ไม่มีอำนาจพิพากษาชี้ขาดคดี ไม่มีอำนาจบัญญัติกฎหมาย

    บทนำ :
       ผู้เขียนต้องขออภัยที่จะต้องเริ่มต้นบทนำนี้ว่า บทนำนี้ผู้เขียนตั้งใจเขียนให้ท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยอ่านบทความทางกฎหมายของผู้เขียน สำหรับท่านผู้อ่านที่เคยอ่านแล้ว กรุณาเปิดผ่านไปจะได้ไม่เสียเวลา
       เพื่อให้ท่านผู้อ่าน อ่านข้อเขียนของผู้เขียน แล้วมีความเข้าใจความหมายตรงกับความมุ่งหมายที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอความคิด ความเห็นในทางกฎหมาย  
       ขอเรียนว่าผู้เขียนจะเขียนบทความเรื่องนี้ด้วยภาษาหนังสือไทยตามพจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ทุกถ้อยคำ  หากท่านผู้อ่านมีความสงสัยความหมาย ของถ้อยคำ  ขอความกรุณาตรวจสอบคำศัพท์และคำนิยามความหมายจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒

        ขอเรียนว่าที่ผู้เขียนเขียนบทความเรื่องนี้โดยใช้ภาษาหนังสือไทยตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน เนื่องจากคนไทยมีภาษาไทยที่เป็นภาษาเฉพาะของท้องถิ่นของตน ที่มีรูปลักษณะเฉพาะตัวทั้งถ้อยคำและสำเนียง  คนที่อยู่ต่างท้องถิ่นกันไม่สามารถเข้าใจภาษาของท้องถิ่นอื่น  และรัฐบาลในอดีตเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว  จึงได้ตราพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสถานขึ้น เพื่อจัดตั้งราชบัณฑิตยสถานขึ้นมาและกำหนดอำนาจหน้าที่ให้จัดทำพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานขึ้น เพื่อให้เป็นหนังสือตำรา เรื่องระเบียบการใช้ตัวสะกดและคำนิยามความหมายของถ้อยคำภาษาไทยที่เป็นภาษากลาง โดยมีความมุ่งหมายให้คนไทยได้ใช้ภาษาไทยที่ถือว่าเป็นภาษาราชการให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ   การเขียน การอ่าน การแปล และการตีความภาษาไทยจะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน  และรัฐบาลผู้บริหารประเทศเห็นความสำคัญ ในเรื่องนี้ จึงได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องระเบียบการใช้ตัวสะกดภาษาหนังสือไทย กำชับให้หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาใช้ภาษาไทยตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ในการทำหนังสือราชการ

    หมายเหตุ :
        ขอให้ดูเหตุผลในการตราพระราชบัญญัติราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่ปรากฏอยู่ท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าว และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องระเบียบการใช้ตัวสะกด ฉบับลงวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๔๕ ที่ได้ตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒ ทุกฉบับ  ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมมาไว้ในภาคผนวกแล้ว

    มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ
    ๙  เมษายน  ๒๕๕๑

        ขอเรียนว่าที่ผู้เขียนจำเป็นต้องเขียนบทความเรื่องนี้เพราะหลังจากวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ซึ่งมีการยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และผู้ที่ทำการยึดอาจได้เปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศจาก ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบอบเผด็จการทหารอันมีหัวหน้าคณะปฏิวัติเป็นประมุข ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎของปวงชนชาวไทย หรือ รัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทยที่ปวงชนชาวไทยร่วมกันตราไว้เพื่อให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ได้แก่  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๖๓ ซึ่งกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทย คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๓ บัญญัติว่าเป็นความผิดฐานเป็นกบฏ มีโทษหนักถึง ประหารชีวิต คณะปฏิวัติ ไม่สนใจ “พระบรมราชโองการ”  ไม่เห็นความสำคัญของ “พระปรมาภิไธยของพระเจ้าอยู่หัว” ที่ปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทย คือ รัฐธรรมนูญ
    แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐    เขาประกาศใช้กฎของคณะปฏิวัติ ยกเลิกน่าตาเฉย  และยังประกาศยกเลิกล้มล้างองค์กรต่างๆ ที่มีพระบรมราชโองการตั้งไว้ มีพระปรมาภิไธย  ยิ่งกว่านั้นคณะปฏิวัติยังบังอาจตั้งองค์กรที่มีชื่อต่างๆ ให้มาทำหน้าที่เหมือนองค์กรตามรัฐธรรมนูญของประชาชนที่ทรงมีพระบรมราชโองการตั้งไว้

      ที่น่าประหลาดใจคือ บรรดาสื่อมวลชน ประเภทหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะฉบับใหญ่ที่มีอิทธิพลชี้นำสังคมไทย ไม่มีฉบับใดออกมาปกป้องสิทธิและเสรีภาพของตนเอง ของประชาชน และปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชน แม้แต่ฉบับเดียว  แถมยังพากันเขียนชื่นชมยินดีที่คณะปฏิวัติประกาศจำกัดสิทธิและเสรีภาพของพวกตนและของปวงชนชาวไทย   บางฉบับยังเขียนยกย่องสนับสนุน เหมือนร่วมกันเป็นกบฏ โดยแบ่งหน้าที่กันทำ

        สื่อมวลชนดังกล่าวไม่คิดบ้างเลยหรือว่า แม้ว่าคณะปฏิวัติและตนเองจะไม่ชอบ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เป็นส่วนตัว   เหตุใดจึงไม่ดำเนินการกับ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร คนเดียว จะจัดการอย่างไรก็มีกฎหมายบ้านเมืองดูแลอยู่แล้ว ทำไมต้องร่วมกันทำลาย ระบบกฎหมายของประเทศ ที่ปวงชนชาวไทยร่วมกันกำหนดไว้เป็น กฎ เป็น ข้อบังคับ เป็น กติกา ของปวงชนชาวไทย ที่เรียกชื่อเป็น ภาษาราชการ ว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย,  พระราชบัญญัติ,  พระราชกฤษฎีกา,  พระราชกำหนด, ฯ และเรียกเป็นคำรวมว่า “กฎหมาย” ซึ่งโดยแท้จริงแล้ว เราเรียกเป็น ภาษาชาวบ้านที่ให้ฟังแล้วเข้าใจง่ายๆ ว่า “กฎของปวงชนชาวไทย” นั่นเอง

        ที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งคือ บรรดาครู อาจารย์ ที่สอนวิชานิติศาสตร์  วิชารัฐศาสตร์ ในมหาวิทยาลัย ทั้งของรัฐและของเอกชนจำนวนไม่น้อย รวมทั้งข้าราชการตุลาการ ก็พากันเห็นดีเห็นชอบเขียนสนับสนุน  บางคนเข้าไปร่วมรับใช้และเข้าไปรับจ้างทำงานให้
    คณะปฏิวัติ โดยเฉพาะข้าราชการตุลาการที่ได้เข้าไปทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยข้อความว่า  “จะรักษาไว้ และปฏิบัติตามซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายทุกประการ" ยังกล้า ตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคํามั่นสัญญา

        อย่างไรก็ตาม  เมื่อคณะปฏิวัติถอนตัวออกไปจากการยึดำนาจแล้ว ประกาศคืนอำนาจอธิปไตยให้ปวงชนชาวไทยแล้ว คืนอาคารรัฐสภาและอาคารทำเนียบรัฐบาลให้แล้ว  และปวงชนชาวไทยก็ได้ออกมาใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้แทนของตน ให้เข้าไปร่วมกันใช้อำนาจอธิปไตยแทนแล้ว  ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้าไปเป็นผู้แทนราษฎร หลายคนกลับไม่ยอมใช้อำนาจอธิปไตยแทนปวงชนชาวไทย ไม่ยอมใช้ กฎของปวงชนชาวไทย  หรือกฎหมายของปวงชนชาวไทยบริหารประเทศ กลับแสดงท่าทีว่าจะนำเอา กฎของคณะปฏิวัติ ซึ้งเป็นกฎของอาชญากร  กฎของโจร มาบังคับใช้กับประชาชนเสียอีก

    จากคุณ : จำปีเขียว - [ 25 ส.ค. 51 19:01:50 A:125.25.56.228 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom