ลำดับ เหตุการณ์เคร่าๆ
5.30น. กองทัพติดอาวุธประมาณ100คนบุกเข้ายึด กรมประชาสัมพันธ์
8.30น. ผู้นำม็อบเดินทางมาถึงกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วย ประชาชนประมาณ 1000คน
จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน พนักงานเอเอสทีวี เข้าทำการต่อเชื่อมสัญญาณเพื่อแพร่ภาพ ของเอเอสทีวีเข้าสู้กรมประชาสัมพันธ์
จนกระทั่ง 16.00น. ยังไม่แล้วเสร็จ และสรุปว่าไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้ อีกทั้งกรมประชาสัมพันธ์ก็ยังแพร่ภาพออกอากาศได้เหมือนเดิม แม้ไม่ได้อยู่ในตัวอาคาร
ตั้งแต่ เวลา10.00น. นายพิเชษ พัฒณโชติ ตั้งกองกำลังออกไล่ล่า ผู้ประกาศข่าวของกรมประชาสัมพันธ์ อย่างต่อเนื่อง เหมือนตัวเองเป็นผู้บัญชาการกรมตำรวจแห่งรัฐอิสระ พร้อมที่จะปะทะกับอำนาจรัฐทุกเมื่อ
สถานที่ราชการหลายแห่งถูกบุกเข้าไปยึดเอาไว้ ด้วยกำลังผู้สูงอายุ แห่งละ1000-2000 คน
จนกระทั้งถึงเวลา 16.00น.ทั้งหมด จึงกลับมารวมตัวกันที่ ทำเนียบรัฐบาล
นี่คือเหตุการณ์เคร่าๆ ที่ การปฏิวัติทางการเมืองของกลุ่มผู้หากินบนท้องถนนได้กระทำลงไปในวันที่26สิงหาคม2551
สรุป..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือน การไปเดินเล่นทั่วกรุงเทพฯ เสร็จแล้วก็มานั่งฟังเพลงต่อที่สะพานมัฆวานอาจมีเพิ่มเติมมาบ้าง ก็แค่ ได้เข้าไปนั่งเล่นไปถ่ายรูปในสนามหญ้าหน้าทำเนียบฯ แค่นั้น
นี่หรือ..คือการเป่านกหวีด ระดมพลเป็นครั้งสุดท้าย พวกพันธมิตรฯผลาญเงินไปหลายร้อยล้านบาททำได้แค่นี้เองหรือ?
เบื้องหลัง มันมีอะไรบ้าง
ทำไม คนแซ่ลิ้มถึงได้มั่นใจนักหนา ก่อนทำการประกาศศึก ว่า การรบครั้งนี้มีชัยแน่นอน
ทำไม พล.ต. จำลอง ผู้ผ่านศึกมาอย่างโชคโชน คิดได้แค่นี้เองหรือ
ทำไม ผู้นำม็อบย่อยๆ ก็คนที่มีความรู้ทั้งนั้น ถึง เชื่อว่าเรื่องแค่นี้ จะทำให้ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้
คิดว่า..คงเป็นไปไม่ได้ ว่าแผนทั้งหมดมีอยู่แค่นี้ แล้ว จะรบชนะได้?
แล้ว..มีอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราไม่รู้กันบ้าง แล้วสิ่งที่เราไม่รู้หายไปไหนกันหมด
1.เวลาที่หายไป จาก 5.30น.จนถึง 8.30 น. ช่วงเวลานั้น3ชม.เต็มๆ ทำไมจึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุม นักรบที่บุกเข้าไปยึด เอ็นบีที ไปได้เกือบทั้งหมด ทั้งที่ยึดได้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว พร้อมพยานหลักฐานมัดตัวอย่างดิ้นไม่หลุดแบบนั้น หรือมีใครไม่มาตามนัด
2.ทำไมนายกสมัคร ถึงเปิดประชุมคณะรัฐมนตรีได้อย่างสะดวกสบายแบบนั้น แถมออกมาแถลงข่าวอย่างผู้มีชัย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าท่านเพลี่ยงพล้ำไปแล้ว ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ทำไมอยู่ดีๆพันธมิตรฯจึงเปิดช่องให้ท่านออกมายืนได้อย่างสง่างาม หรือ ที่นัดกันเอาไว้ไม่มาตามนัด และที่สุดก็ ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
3.ภาพถ่ายจากวีดีโอ มาจากไหน ทำไมมันถึงออกมาเรื่อยๆอย่างละเอียดแบบนั้น ทั้งภาพถ่ายวีโดโอ ตอนบุกยึดกรมประชาสัมพันธ์ ภาพถ่ายตอนทำร้ายคุณกิติ สิงหาปัตย์ ภาพถ่ายตอนคุณตวงพรถูกลุ่มผู้คนที่ไปประท้วงด่าอย่างหยาบคาย ภาพถ่ายตอนที่นักรบรุมซ้อมคนขับรถตู้ ภาพถ่ายตอนนักข่าวช่อง9ถูกทำร้าย และอีกมากมาย ทั้งยังมีเหตุการณ์จากปากนักข่าวโทรกลับมาที่ห้องส่ง อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทำไมภาพแบบนี้จึงหลุดรอดออกมามาอย่างง่ายดาย
เป็นไปได้ไหมภาพถ่ายวีดีโอนั้นมาจากกลุ่มพันธมิตรนั่นเอง
ก่อนการเคลื่อนทัพ
มีเสียงแว่วมาว่า ข่าวดีที่คนแซ่ลิ้มจะประกาศก่อนเคลื่อนทัพออกไปนั้น ถูกยกเลิกไป(และถอดผ้าพันคอสีฟ้าออกจากคอ)
แล้วสิ่งที่คนแซ่ลิ้ม จะประกาศข่าวดีให้กับพวกพ้องของพวกเขา คืออะไร? มาจากไหน?
คำถาม :ไฟเขียว ใช่หรือไม่ ?
คำถาม : ไฟเขียว มาจากใคร?
คำถาม : คนที่ท่านนายกออกมาพูดว่า มือที่มองไม่เห็นใช่ไหม ?
เหล่านี้คือคำถาม เหล่านี้ถูกเชื่อมโยงออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ข้อเท็จจริง มันอยู่ที่ว่า ทั้งเงินและความบ้าบิ่นของคนแซ่ลิ้มครั้งนี้ มีที่มาที่ไปอย่างแน่นอน ลำพังคนแซ่ลิ้มคนเดียว ไม่สามารถทำได้แน่
และสามารถทำให้บริวารและพวกพ้องของพวกเขา มั่นใจกระทำความผิดได้ถึงขั้นนั้น โดยเฉพาะพล.ต.จำลอง และคุณประพันธ์ คูณมี
ข่าว ที่กรองแล้ว แต่ไม่สามารถเอาหลักฐานมายืนยันได้
ทั้งหมด ที่ทำมาในวันที่26 สิงหาคม 2551 นี่คือการปฏิวัติจริงๆ ปฏิวัติอย่างมีระบบ มีแบบแผน มีเงินทุนสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีกำลังจากกองทัพส่วนหนึ่งให้การสนับสนุน มีฝ่ายเสธฯวางแผนเป็นอย่างดี มีฝ่ายข่าวรายงานมาทุกระยะ มีการประเมินสถานการณ์นาทีต่อนาที มีแผนการแก้เป็นระบบ มีแผนหนึ่งแผนสองสามตามมาตลอด ผู้ปฏิบัติงานรู้เฉพาะส่วนที่ตนเองต้องทำเท่านั้น
แผนคือให้ประชานออกมาปฏิวัติแทนทหาร ยึดสถานที่ราชการทั้งหมด ยึดกรมประชาสัมพันธ์ ยึดทำเนียบรัฐบาล จับตัวนายกรัฐมนตรีมาเป็นตัวประกัน และบีบบังคับให้นายกฯประกาศลาออกทางทีวี
จากนั้นกองกำลังจะเข้ามาสวมแทน ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประชาชนจะถูกกำหนดไว้ ฉลองชัยชนะที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รางวัลของผู้ชนะได้ส่วนแบ่งเต็มที่
จากนั้น..ด้วยอำนาจทางทหารส่วนหนึ่งและตุลาการอีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุน บีบให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เสนอชื่อคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกฯรักษาการ พร้อมประกาศปฏิรูปการเมืองใหม่ โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อ้างเหตุการณ์โกงของนักเลือกตั้ง ใช้เวลาสั้นแค่ไม่เกิน3เดือน จะยุบสภาฯแล้วเริ่มต้นนับหนึ่งกับการเมืองใหม่
รัฐธรรมนูญฉบับที่จะนำมาใช้ ถูกร่างไว้แล้ว โดยกลุ่มผู้ร่างเดิม ดำเนินการมากว่า3เดือนแล้ว โดยยึดถือรัฐธรรมนูญปี50เป็นหลัก เปลี่ยนแปลงเฉพาะบางมาตราในส่วนของที่มาของ สส. สว.องค์กรอิสระ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะ เท่านั้น
มาถึงคำถาม เกิดอะไรขึ้น ทำไมแผนนี้จึงพลาดความผิดมันอยู่ตรงไหน
ทำไมทหารส่วนหนึ่ง ถึงไม่ออกมาตามนัด
มีสองคำตอบครับ
1.ไฟเขียวกลายเป็นไฟแดง แต่ เรื่องเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว จึงถอนตัวไม่ได้
2 .หรือ มือที่มองไม่เห็นและบริวาร ถูกบล็อก และสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดสื่อสารกันไม่ได้
อดีตมันสอนปัจจุบันตลอดมา มีเรื่องหนึ่งที่ อยากบอกให้พวกเราย้อนดูกัน ครับ
1.พล.ต.มนูญกฤติ รูปขจร ไม่เคยกระทำรัฐประหารสำเร็จเลยสักครั้งเดียว ในชีวิตเป็นกบฏทุกครั้งมากกว่า3ครั้ง แม้แต่ตนเองอยู่ฟากประชาธิปไตยแท้ๆก็ยังโดนรัฐประหารจนตนเองต้องหนีหัวซุกหัวซุนไม่มีที่อยู่
2.พล.อ.เปรมไม่เคยแพ้ใคร แม้แต่ครั้งเดียว แต่ ก็ทุกครั้งที่พล.เปรมมีอำนาจคนที่เป็นบันไดให้ท่านได้ไต่เต้าขึ้นไป จะถูกท่านเองโค่นลงไปทุกครั้ง
ไม่มีบทสรุปในกระทู้นี้ เพราะยังไม่สรุป
แต่..ผมจะเขียนทิ้งท้ายกันเอาไว้ ให้อ่านกัน ท่านสมัคร สุนทรเวช เหมือนมีสองคนในตัวเอง
มองดูกันต่อไปครับ ท่านสมัคร จะใช้คนไหนออกมาเล่นงานม็อบในครั้งนี้
Credit : อ่างขาง
จากคุณ :
Haptz
- [
27 ส.ค. 51 19:08:20
A:124.120.21.116 X:
]