Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    มุมมองสื่อต่างประเทศที่มีต่อการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม "กบฏพันธมิตรฯ"

    เหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรกระจายกำลังกันเข้ายึดสถานที่สำคัญต่างๆของรัฐ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการจับตามองอย่างสนใจจากสื่อต่างประเทศหลายสำนักทั้งในยุโรป และอเมริกา พวกเขามีมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่บทสรุปที่คล้ายกันก็คือ พวกเขามองว่ากลุ่มกบฎพันธมิตรฯเป็นกลุ่มที่ได้รับการหนุนหลังจากกองทัพและชนชั้นสูงที่นิยมเจ้าและการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรก็เป็นไปเพื่อยั่วยุให้ทหารออกมาทำปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการชุมนุมเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการทำตามเงื่อนไขปลุกระดม เพื่อยกระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้นจากที่เป็นอยู่

    สื่อดังจากสหรัฐและอังกฤษอย่างซีเอ็นเอ็น ดิอีโคโนมิสต์ และบีบีซี เกาะติดสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดพร้อมมีการรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ที่บุกยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมถึงสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช และรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลชุดนี้ลาออก โดยกล่าวหาว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นร่างทรงของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่ตอนนี้ลี้ภัยอยู่ที่อังกฤษ

    เริ่มกันที่สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษที่ออกบทความในชื่อว่า “Thai protesters want new coup” หรือ “ผู้ประท้วงชาวไทยต้องการรัฐประหารครั้งใหม่” โดยมีเนื้อหาว่า กลุ่มพันธมิตรฯได้บุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีตอนอรุณรุ่งเช้าวันอังคารเพื่อยึดสถานีเป็นที่ออกอากาศหรือยุติการออกอากาศและบุกเข้าไปในบริเวณทำเนียบรัฐบาลโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำกลุ่มพันธมิตรฯประกาศปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบฯ ประกาศต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า “ตอนนี้พวกเราอยู้ในทำเนียบรัฐบาลแล้วและจะไม่เคลื่อนย้ายไปไหนจนกว่ารัฐบาลจะลาออก”

    โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงเทพฯ รายงานว่า แม้จะใช้ชื่อว่าเป็นกลุ่มพันธมิตร “เพื่อประชาธิปไตย” แต่จริงๆแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯกำลังรณรงค์เรียกร้องให้ยุติการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยกลุ่มนี้อ้างว่า การเลือกตั้งแบบตะวันตกนี้นำไปสู่การคอร์รัปชั่นและการบริหารประเทศอย่างไร้ประสิทธิภาพ และเรียกร้องให้รัฐสภามาจากการแต่งตั้ง รวมทั้งให้ทหารมีบทบาทโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นกรรมการทางการเมือง  

    กลุ่มพันธมิตรมีบทบาทสำคัญในการเมืองไทย เริ่มตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วในฐานะกลุ่มความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต้องการโค่นล้มทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งที่ทรงอำนาจมากที่สุดที่เป็นที่รู้จักกันมา

    การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯมีขึ้นเพื่อเป็นใบเบิกทางให้กับรัฐประหารที่โค่นล้มคุณทักษิณเมื่อปี 2549 และเป็นไปได้ว่าเพื่อกดดันให้คดีความของคุณทักษิณที่อยู่ในชั้นศาลดำเนินต่อไปได้ในปีนี้ ซึ่งยังผลให้คุณทักษิณและภริยาต้องลี้ภัยการเมืองในที่สุด

    คุณสมัครยังคงยืนหยัดต่อสู้ รัฐบาลของเขาครองเสียงข้างมากในสภาฯอย่างขาวสะอาดและเขายืนยันว่าเขายังคงรักษาอำนาจเต็มในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาฯไว้ได้

    แต่ดูเหมือนว่าเขายังไม่สามารถหนีรอดจากการไล่ล่าของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นและได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินเป็นอย่างดีได้เลย และเขาก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้กองกำลังความมั่นคงควบคุมกลุ่มผู้ประท้วงได้ซึ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยตามมาว่ากลุ่มพันธมิตรฯต้องมีผู้สนับสนุนที่ทรงอิทธิพลมากจำนวนหนึ่งอยู่ในกองกำลังรักษาความมั่นคงหรือในกลุ่มพวกชนชั้นนำที่นิยมเจ้า

    ทางด้านนิตยสารดิ อิโคโนมิสต์ของอังกฤษได้วิเคราะห์พฤติกรรมอันอุกอาจเย้ยกฏหมายของกบฏพันธมิตรฯที่บุกยึดสถานีโทรทัศน์NBTและทำเนียบรัฐบาลภายใต้บทความที่ชื่อว่า “Under siege” หรือ “ยุทธการยึดทำเนียบ” ว่า หลังจากที่อดีตนายกฯทักษิณและคุณหญิงพจมานได้ลี้ภัยไปอังกฤษแล้ว คนไทยบางส่วนหวังว่าอุณหภูมิการเมืองที่ขัดแย้งกันอย่างหนักตลอดสามปีจะเย็นลงบ้าง แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต่อต้านทักษิณที่จัดชุมนุมประท้วงตามท้องถนน อย่างกลุ่มพันธมิตรฯยืนยันไม่ยอมแพ้จนกว่ารัฐบาลที่สนับสนุนทักษิณภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวชจะลาออก

    โดยเมื่อวันอังคารที่ 26 ที่ผ่านมาผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯหลายพันคนได้บุกเข้าไปในอาคารทำการของรัฐบาลและสถานีโทรทัศน์ของรัฐในกรุงเทพฯ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำกลุ่มพันธมิตรเรียกปฏิบัติการครั้งนี้ว่า “วันพิพากษา”

    ในตอนดึกกลุ่มผู้ประท้วงที่อยู่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลได้ปีนรั้วข้ามเข้าไปยัง ทำเนียบรัฐบาลล้อมทำเนียบรัฐบาลไว้ คุณสมัครเตือนว่าความอดทนของรัฐบาลได้ยาวมาถึงเกือบจะสิ้นสุด แต่กลุ่มพันธมิตรฯไม่สนใจคำเตือนของนายกฯที่ต้องการให้พวกเขาออกจากทำเนียบรัฐบาล ทางตำรวจกล่าวว่าพวกเขาจะขอหมายศาลเพื่อให้ตำรวจสามารถนำตัวกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงออกไปได้ ด้านนายสนธิที่มักจะแสดงความกล้าหาญแบบจอมปลอมเป็นประจำกล่าวว่าตำรวจต้องข้ามศพเขาไปก่อน

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปยากที่จะคาดเดา นายสนธิพูดแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนก่อนหน้านี้เพียงเพื่อให้การชุมนุมประท้วงดังปะทุเป็นพักๆ เช่นกันคุณสมัครเองก็พูดถึงการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมแต่ก็ยอมถอย แต่หากตำรวจใช้กำลังเข้าปราบกลุ่มผู้ประท้วงอาจมีการนองเลือดเกิดขึ้นได้ นี่เป็นความมุ่งหมายของแกนนำพันธมิตรฯเพื่อยั่วยุให้ทหารออกมาทำรัฐประหารเหมือนรัฐประหาร 19 กันยาฯที่ยึดอำนาจจากคุณทักษิณ

    พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกยืนยันว่ากองทัพของเขาจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ในอดีตที่ผ่านมากองทัพมีความอดทนต่ำกับเรื่องความไม่เป็นระเบียบของสังคมและมองว่าตัวเองมีหน้าที่ๆจะต้องเข้าไปแทรกแซงในสถานการณ์ดังกล่าวไม่สำคัญว่าการกระทำของกองทัพจะเป็นการล้มล้างอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อสองปีที่แล้วผู้บัญชาการทหารบกคนก่อน พลเอกสนธิ บุญรัตกลินก็พูดย้ำแล้วย้ำอีกว่าจะไม่ทำรัฐประหาร จนกระทั่งเย็นย่ำ เขาก็นำรถถังมาเดินบนท้องถนนเพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ

    จนถึงตอนนี้คุณสมัครตัดสินใจทนต่อแรงกดดันและไม่ลาออก เขาพยายามทอดสะพานผูกสัมพันธ์กับกองทัพและกลุ่มนิยมเจ้า โดยไม่นานมานี้เขาได้แต่งตั้ง รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ นายเตช บุนนาค ที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการซึ่งถูกมองว่าเป็นคนใกล้ชิดกับกษัตริย์ภูมิพล

    กลุ่มพันธมิตรฯชักจูงให้ผู้สนับสนุน “ใส่เสื้อเหลือง” ซึ่งเป็นสีของกษัตริย์ และอ้างว่าเพื่อเป็นการปกป้องชาติและราชบัลลังค์จาก ระบอบสาธารณรัฐทักษิณ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือสนับสนุนเรื่องนี้โผล่ออกมาให้เห็นแต่อย่างใด ผู้สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯบางส่วนก็เป็น “พวกหัวเสรีนิยมของแท้” ที่โกรธว่ารัฐบาลทักษิณใช้อำนาจในทางมิชอบแต่แกนนำของกลุ่มพันธมิตรเป็นพวกฝ่ายขวาแบบสุดโต่ง  “การเมืองใหม่”(70:30) ที่พวกเขาเทศนาอยู่นั้นอันที่จริงมันคือการย้อนกลับไปเป็นการเมืองยุคก่อนประชาธิปไตยที่รัฐสภามาจากการแต่งตั้งและทหารมีอำนาจในการเข้าแทรกแซงการเมืองเมื่อพวกเขาพึงพอใจ

    ด้านสำนักข่าวซีเอ็น เอ็นของสหรัฐอเมริการายงานว่า บรรยากาศในกรุงเทพศยังคงตึงเครียดมากเมื่อวานนี้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนมากยังคงยึดพื้นที่ในบริเวณสนามหญ้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนนตรีสมัคร สุนทรเวช ลาออกจากตำแหน่งโดยยืนกรานว่าสมัครพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ต้องทักษิณรอดตัวจากข้อกล่าวหา และยังกล่าวโทษรัฐบาลดที่ไม่พยายามดำเนินเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน  อดีตนายกฯกลับประเทศ

    แดน รีเวอร์ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า เท่าที่เขารู้มานี่เป็นครั้งแรกที่มีการประท้วงยึดทำเนียบรัฐบาลก่อนหน้านี้ผู้ประท้วงชุมนุมในพื้นที่ไม่ไกลจากทำเนียบรัฐบาลมานานหลายเดือนแล้ว แต่การชุมนุมเมื่อวานได้ก้าวกระโดดไปอีกขึ้น ขณะที่นายกรัฐมนตรีซึ่งไม่สามารถเข้าทำเนียบได้ แถลงข่าวเมื่อค่ำวานนี้ว่าจะไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งและเตือนว่าตำรวจจะเข้าสลายผู้ชุมนุม และดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติการประท้วงแต่อย่างใดแต่กลับพยายามตั้งรั้วลวดหนามโดยรอบเพื่อป้องกัน ผู้ประท้วงยังได้ชุมนุมนอกกระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรอีกด้วย แม้กลุ่มผู้ประท้วงต้องการให้สมัครลาออกแต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการใครมาแทนที่

    แดนริเวอร์กล่าวว่า “พวกเขาบอกกับผมว่าพวกเขาต้องการกำจัดสมัคร ทักษิณและพวกพ้อง แต่ปัญหาก็คือ พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเขาทำลงไป สนธิ ลิ้มทองกุลผู้นำกลุ่มพันธมิตรฯบอกกับผมว่าบางทีประเทศไทยยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตยเต็มใบเพราะการระบาดของคอรัปชั่น”

    คุณทักษิณชนะการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมาอย่างถล่มทลายและครั้งที่สามไม่มีพรรคร่วมฝ่ายค้านลงแข่งขันรับสมัครเลือกตั้ง ต่อมาพรรคพลังประชาชนภายใต้การนำของสมัคร สุนทรเวชได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาปีที่แล้วโดยได้ที่นังในสภาฯน้อยลงกว่าเดิมนิดหน่อย แต่พวกเขายังคงสวามิภักดิ์ต่อคุณทักษิณอย่างชัดเจน

    กลุ่มพันธมิตรฯได้รับการสนับสนุนในหมู่ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ แต่ได้รับการรังเกียจเดียดฉันท์ในต่างจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอิสาณ) เป็นผลให้ชนกลุ่มน้อยที่มีพลังในเมืองหลวงไม่ชอบรัฐบาลที่คนต่างจังหวัดซึ่งเป็นเสียงข้างมากเลือกเข้ามา คุณทักษิณและคุณสมัครยังคงได้รับความนิยมจากประชาชนไม่เปลี่ยนแปลง

    ด้านสำนักข่าวอัลจาซีราห์ภาคภาษาอังกฤษ ได้รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏพันธมิตรฯในครั้งนี้ว่า เมื่อวันพุทธที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรเรือนหมื่นไม่สนใจคำสั่งศาลที่สั่งให้เคลื่อนย้ายออกจากทำเนียบรัฐบาลที่ถูกยึดมาเป็นเวลาสองวันหากไม่เช่นนั้นต้องเจอกับการดำเนินการตามกฏหมายและการปฏิบัติการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

    พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่าตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 9 คนในข้อหา กบฏ วางแผนการสมรู้ร่วมคิด จัดการชุมนุมอย่างผิดกฏหมายและปฏิเสธคำสั่งที่ให้สลายการชุมนุม

    ความผิดฐานกบฏนี้ภายใต้กฏหมายไทยเท่ากับการทรยศต่อชาติหรือพระมหากษัตริย์ซึ่งมีโทษสูงสุดคือประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต

    กลุ่มพันธมิตรฯซึ่งอิงแอบอยู่กับฝ่ายอนุรักษ์นิยมสายพิงวังและทหารเป็นผู้นำในการชุมนุมประท้วงต้อต้านรัฐบาลทั่วทั้งกรุงเทพฯในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาโดยเรียกร้องให้คุณสมัครลาออก

    กลุ่มพันธมิตรฯประกาศตัวเองว่าเป็นกลุ่มผู้พิทักษ์กษัตริย์ภูมิพล อุลยเดชต่อต้านแผนการของคุณทักษิณที่ต้องการเปลี่ยนการปกครองของประเทศไทยไปเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งรัฐบาลและคุณทักษิณที่ตอนนี้ลี้ภัยอยู่ที่ลอนดอนได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงนี้ทั้งหมด

    อย่างไรก็ตามในตอนนี้คุณสมัครปฏิเสธที่จะลาออกแต่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม และกล่าวหากลุ่มพันธมิตรฯว่าต้องการยั่วยุทหาร

    “พวกเขาต้องการให้เกิดการนองเลือดขึ้นในประเทศ พวกเขาต้องการให้ทหารออกมารัฐประหารอีกครั้ง”

    เรียบเรียงและแปลข่าวบางส่วนจาก
    1.The Economist
    http://www.economist.com/world/asia/displaystory.cfm?story_id=11998386
    2. Aljazeera.net /english
    http://english.aljazeera.net/news/asia-pacific/2008/08/20088281039574245.html
    3. BBC News
    http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/7581565.stm
    4. CNN
    http://www.cnn.com/2008/WORLD/asiapcf/08/27/thailand.protests.arrest/

     
     

    จากคุณ : เอื้องอัยราวัณ - [ 29 ส.ค. 51 03:22:46 A:24.222.191.131 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom