ปกติข้าพเจ้าอยู่ห้องไกลบ้าน ไม่ค่อยได้เข้ามาในห้องนี้ อยากขอแสดงความเห็นดังนี้
เชื่อว่าท่านหลายคงได้ยิน " การเมืองรูปแบบใหม่ " ของพันธมิตรกันมาแล้ว ซึ่งแต่ละท่านจะเข้าใจอย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ จากการมีประสบการณ์ทางการเมืองภาคประชาชนในอดีตมาพอสมควร ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตเผยแพร่ความเข้าใจของข้าพเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังต่อไปนี้
1. แกนนำพันธมิตรเคยกล่าวในหลายวาระ ว่า ไม่ยอมรับการเมืองรูปแบบรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน เนื่องจากการเลือกตั้งทุกครั้งมีการซื้อเสียง ดังนั้น จึงเสนอการเมืองรูปแบบใหม่ คือให้มีการแต่งตั้ง 70 % และเลือกตั้ง 30% ซึ่งจะสามารถแก้ไขการเมืองแบบซื้อเสียงแบบเก่าได้และจะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า
2. ข้อเสนอดังกล่าวคือการนำเอาระบอบการปกครองแบบ " เผด็จการ " โดยชนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจรัฐเข้ามาใช้ในประเทศไทย เป็นการปฎิสธประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง 100 % อย่างเด็ดขาด
3. ดูเบื้องหลัง ของผู้อยู่เบื้องหลังของพันธมิตรหลายคน คืออดีตนักศึกษาในยุค 14 ตุลา 2516 ที่ต่อมาในปี 2519 ส่วนใหญ่มีความนิยมในระบอบการปกครองแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ บางคนได้เข้าป่าไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่เมื่อผิดหวังจาก พ.ค.ท. จึงกลับเข้าเมือง และหลายคนรุ่งเรืองกับการทำธุรกิจ หลายคนเติบโตทางการเมือง ( ไม่อยากเอ่ยชื่อพาดพิง) บางคนเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักการเมืองดังๆ เพราะผู้คนเหล่านี้เคยเป็น activist เด่นๆ ในสมัยนักศึกษา จึงมีความเก่งกาจในการจัดม๊อบ และรู้เรื่องจิตวิทยาการเมืองเป็นอย่างดี
4. ส่วนหนึ่งของคนเดือนตุลา ฯ ที่ในปัจจุบันนี้มีความประสงค์อันยิ่งใหญ่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ไปสู่ระบอบการปกครองในรูปแบบ Socialism อีกครั้งหนึ่ง โดยได้เสนอความคิดเช่นว่าให้แก่แกนนำกลุ่มพันธมิตร โดยชี้ให้เห็นว่าการเมืองไทยในปัจจุบัน จากทักษิณ ฯ ถึงสมัคร ฯ มีแต่ความชั่วร้าย จึงจำเป็นต้องกวาดล้างเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน โดยมิจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร แต่ใช้ความจัดเจนในการ "ปลุกระดมมวลชน" แบบที่เคยทำในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมือ่ ปี 2516 และ 2519 แต่ปัจจุบันมีเทคโยโลยีที่ก้าวหน้ากว่า จึงใช้ ASTV ในการล้างสมองคนให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ชั่วร้าย จึงต้องล้มล้าง และก็ได้ผล มีผู้คนหลงเชื่อเข้าร่วมแบบคนถูกล้างสมอง เพราะดู ASTV แบบติดงอมแงม ทุกวันเปิดดูตั้งแต่เช้าจนเข้านอน วันไหนไม่ได้ดู หงุดหงิด จนเหมือนหุ่นยนต์ที่ตอนนี้ยอมรับคำสั่งจากผู้นำให้ไปทำอะไรก็ได้ทั้งสิ้นตามแต่จะบัญชา
การปลุกระดมแบบนี้ Hitler เคยทำมาแล้วกับคนเยอรมัน โดยเอาเรื่องชาตินิยม และการแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่เยอรมันต้องยอมปฎิบัติตามสนธิสัญญาแวร์ซาย มาเป็นตัวกระตุ้น ตรงใจคนเยอรมันพอดี และเช่นเดียวกับเมื่อครั้งพรรคบอลเชวิค เมื่อปี 1917 ที่โค่นล้มพระเจ้าซาร์ ก็เคยปลุกระดมล้างสมองคนรัสเซียแบบนี้มาแล้ว
คือพูดเก่ง รู้จักจิตวิทยามวลชน และพูดตรงจุด สำหรับม๊อบพันธมิตรในเมืองไทยก็ปลุกเรื่องหมิ่นสถาบัน และเรื่องการเสียดินแดน แค่นี้ก็ได้ผลเหลือกินแล้ว
5. สำหรับในเมืองไทยในขณะนี้ พันธมิตรกำลังจะประสบความสำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้วในตอนแรกจะขอนายก ฯ พระราชทานก่อน หลังจากนั้นไม่นาน ตัวจริง- เสียงจริงจะเข้ามาบริหารเอง เขาจะตั้งสภาการปกครองในรูปแบบ " คณะกรรมการการปกครองประเทศ " หรืออะไรทำนองนี้ เพื่อการบริหารประเทศ โดยมีพวกเขา และพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการ " แต่งตั้ง " เข้ามา 70 % อีก 30% มาจากการเลือกตั้งเพื่อแต่งหน้าให้อเมริกาและยุโรปพอใจ หลังจากนั้นจะค่อยๆ หาทางถีบประชาธิปัตย์ออกไปนอกเส้นทาง ต่อมา เขา ( ก็คือพวกแกนนำทั้งหลายในปัจจุบัน ที่ตอนนั้นมีตำแหน่งใน Polit Buro คือกรมการเมือง หรือภาษาอังกฤษว่า Politic Office และแกนนำคนสำคัญจะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค) จะปิดประเทศ โดยบอกกับประชาชนไทยและคนทั่วโลกว่า ไทยจะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงประเทศใหม่หลังจากพังพินาศเพราะทักษิณ-สมัคร มาเป็นเวลา ถึง 8-9 ปี
ศาสนาก็ต้องปฎิรูปใหม่ โดยต้องเดินตามแนวทางของสันติอโศก
6. แน่นอน ตอนนั้นประเทศไทยเป็นเผด็จการสมบูรณ์แบบ สิทธิเสรีภาพต้องถูกจำกัดเพื่อการสร้างชาติใหม่ ใครผู้ใดก่อม๊อบไม่เห็นด้วย จะโดนปราบเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อการ " บูรณาการประเทศใหม่ " ฯลฯ ฯลฯ แบบประเทศสังคมนิยมทั่ว ๆ ไป
7. ถามว่าการปกครองแบบนี้ไม่เกินไปหรือ คำตอบคือ ไทยมิใช่เป็นประเทศแรกที่ปกครองประเทศแบบนี้ ขอให้ดูจีน ดูสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ดูกัมพูชา ดูเวียตนาม เขาทำมาแล้ว และได้ผลทั้งนั้น เป็นปีกแผ่น และมั่นคงมีเสถียรภาพทางการเมืองดีด้วย
หนักกว่านี้ ขอให้ดูพม่า ดูเกาหลีเหนือ ดูคิวบา ก็คงอยู่ในโลกนี้ได้ปกติ
8. สรุปว่า " การเมืองรูปแบบใหม่ " ก็เป็นประการฉะนี้ คือใหม่สำหรับเมืองไทย แต่หลายประเทศเคยทำมาแล้วอย่างได้ผล
ก็เป็นการสร้างชาติให้มั่นคงในทุกทาง เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่เป็นปึกแผ่นน่ะ
ดังนั้น โปรดอย่าหวั่นกลัว แต่จงเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงโดยพลัน ..
ข้อคิดเห็นสุดท้าย... ความต้องการของพันธมิตร ฯ ... มิใช่ตื้นๆ แค่ต้องการขับไล่ทักษิณ และสมัคร...เท่านั้น.... เขามีจุดมุ่งหมายที่ไกลกว่านั้นแน่นอน และแน่นอน
และไม่อย่างนั้น คนระดับแกนนำ 6-7 คน (และผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังอีกเป็นร้อย) จะยอมลำบาก อดตาหลับ ขับตานอนทำไมเป็นเดือน ๆ เพื่ออะไร หากไม่มีรางวัลใหญ่กว่าที่คนทั่วไปจะนึกถึงรออยู่ข้างหน้า
นี่แหละ " การเมืองในรูปแบบใหม่ " ของประเทศไทย
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 02:46:37
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 51 02:26:08
จากคุณ :
Detente
- [
31 ส.ค. 51 02:12:09
A:202.57.173.3 X:
]