ความคิดเห็นที่ 13

6. จากการขยายตัวอย่างไร้ทิศทาง การพยากรณ์ธุรกิจอย่างผิดพลาด และความล้มเหลวในการบริหาร ประกอบกับสภาพธุรกิจที่ตกต่ำนับตั้งแต่ปลายปี 2539 ทำให้ นายสนธิ ต้องขายธุรกิจในเครือเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ร วมทั้งโครงการ ดาวเทียมลาวสตาร์ ที่ขายให้กับกลุ่มยูคอม แต่ นายสนธิยังมีหนี้สินอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อ พ.ย.2542 ธนาคารนครหลวงไทย ได้ยื่นฟ้องนายสนธิ และบริษัท เอ็มกรุ๊ป ให้เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะไม่สามารถชำระหนี้ให้กับธนาคารได้จำนวน 150 ล้านบาท จนกระทั่ง ศาลมีคำสั่งให้นายสนธิ และบริษัท เอ็ม กร๊ป เป็นบุคคลล้มลาย ปัจจุบันนายสนธิ ยังคงบริหารหนังสือพิมพ์ในเครือที่เหลือเพียง 3 ฉบับ คือผู้จัดการรายเดือน, รายสัปดาห์และรายวัน ซึ่งนายสนธิ ถือว่าเป็นหัวใจหลักที่จะต้องคงไว้และดำเนินงานต่อไป แต่นายสนธิไม่มีตำแหน่งใดๆ ใน นสพ.ผู้จัดการ เพียงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการบริหารงานเท่านั้น นอกจากนี้นายสนธิ ยังร่วมจัดรายการ คารวะแผ่นดิน ร่วมกับ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ทุกวันอังคารระหว่างเวลา 21.00-2.300 น. ทางคลื่น 99.5 FM 7. นายสนธิ มีความสนิทสนมกับบุคคลในกลุ่มนักธุรกิจ และข้าราชการหลายคน คือ นายชัยยันต์ โปษยานนท์ อดีตรองอธิบดีกรมสรรพสามิต, นายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย, นายทนง พิทยะ รมว.กค., นายศิรินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย, และนายเอกกมล คีรีวัฒน์ อดีตรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของนักการเมือง เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นรม., นายบุญชู โรจนเสถียร, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์, นายโภคิน พลกุล ประธานรัฐสภา ซึ่งเคยใช้บ้านพัก พีเควิลล่า ของนายสนธิ เป็นที่เจรจาจัดตั้งรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา, พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก, นายเนวิน ชิดชอบ, นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 8. นายสนธิ มีความสนิทสนมกับ นายศิรินทร์ และ นายธารินทร์ มากโดย นายสนธิ จะได้รับความช่วยเหลือด้านเงินจากธนาคารกรุงไทย เพื่อมาพยุงฐานะธุรกิจของ นายสนธิ ตลอดเวลา ในช่วงที่นายศิรินทร์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยเมื่อ พ.ย.2542 บริษัท Pricewaterhouse Coopers ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ธนาคารกรุงไทยว่าจ้างมาปรับปรุงโครงการตรวจสอบภายในระบุว่า บจ.เอ็ม กรุ๊ป มีหนี้สินอยู่กับธนาคารกรุงไทย จำนวน 2,123 ล้าน เป็นหนี้เสีย (NPL) เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นการปล่อยสินเชื่อโดยความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารกรุงไทย นายสนธิได้เขียนบทความ รวมทั้งออกหนังสือ ชื่อ เปลือยธารินทร์ โจมตีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องส่วนตัวของ นายธารินทร์ ตลอดมา ซึ่งน่าจะไม่พอใจที่ นายธารินทร์ ไม่ยอมช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทางธุรกิจให้ นายสนธิ นอกจากนี้นายสนธิ ยังสนิทสนม หรือสามารถ สั่ง นายทนง พิทยะ ในขณะดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารทหารไทยได้ เนื่องจากนายสนธิเป็นผู้มีบุญคุณกับ นายทนง โดยออกเงินค่าใช้จ่าย ในการจัดงานและค่าสินสอดการแต่งงานครั้งที่ 2 ของนายทนง กับนางมธุรส รัตนปรารมย์ นายทนง จึงตอบแทนนายสนธิด้วยการปล่อยสินเชื่อเพื่อมาใช้ในธุรกิจของ นสพ.ผู้จัดการ ตลอดเวลาเช่นกัน ขณะเดียวกันนายทนง ก็เป็นตัวกลางเชื่อมให้นายสนธิไปมีความสัมพันธ์อันดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากใน ขณะนั้นนายทนง ช่วยเหลืองานกับ กลุ่มบริษัท ชินวัตร 9. นายสนธิ ยังมีความสนิทสนมกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เนื่องจาก นางจันทร์ทิพย์ เป็นญาติของ นายบัญญัติ และนายสนธิ กับ นายบัญญัติ เคยลงทุนทำธุรกิจโรงแรมด้วยกันที่ประเทศลาว ปัจจุบันการพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันเป็นประจำ นอกจากนี้ นายสนธิ ยังเคยสนิทสนมกับ ร.ตอ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นอย่างมาก ซึ่งนายสนธิให้เงินสนับสนุน ร.ต.อ.เฉลิม ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. โดยเฉพาะการเลือกตั้งเมื่อ 22 มี.ค.35 ร.ต.อ.เฉลิม ได้ขอเงินสนับสนุนจากนายสนธิ จำนวน 10 ล้านบาท แต่หลังจากการเลือกตั้งเมื่อ 17 พ.ย.39 บุคคลทั้งสองเกิดแตกแยกกัน จนถึงขั้นไม่เผาผีกัน เป็นลักษณะเดินทางใครทางมัน จนเมื่อปี 2541 นายสนธิ เปิดคอลัมน์ของตัวเองใน น.ส.พ.ผู้จัดการรายวัน ชื่อ แค้นสั่งฟ้า ซึ่งมุ่งเน้นเจอะลึกทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม โดยใช้นามปากกาว่า พายัพ วณาสุวรรณ และเมื่อเดือน ก.ย.41 ได้เขียนโจมตี ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยวกับความประพฤติของบุตรชาย ทำให้เมื่อ 19 ก.ย.41 ได้มีการลงโฆษณาใน นสพ.ไทยรัฐ และมติชนรายวัน ว่า งานฌาปนกิจศพ นายโกคั้บ แซ่ลิ้ม หรือ โกคั้บ แซ่ลิ้ม ณ เมรุวัดป่าบ้านเหนือ (เป็นวัดที่นายสนธิ นับถือและศรัทธาเจ้าอาวาสวัดนี้) จ.อุดรธานี ในวันที่ 20 กันยายน
จากคุณ :
lager
- [
31 ส.ค. 51 08:56:39
A:125.26.84.72 X:
]
|
|
|