Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ........ประชาชนเลือกข้าง ???? .............

    จากสภาพความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมปัจจุบัน  ดูผิวเผินคล้ายเป็นการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับพันธมิตร แต่ลึกลงไปกว่านั้น   สิ่งที่พันธมิตรกำลังต่อสู้อยู่นั้น เป็นเสมือนหนึ่งในตัวแทนการต่อสู้ระหว่างขั้วของอำนาจ  

                        ขั้วอำนาจเก่าที่กำลังมีแนวโน้มจะสูญเสียอำนาจ และจะเสียมากขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยให้สถานะของ ทักษิณ ชินวัตรและกลุ่มทุนที่รวมตัวเป็นกลุ่มการเมืองในวันนั้นจนมาถึงวันนี้  แม้กระทั่งตัวเองมีเหตุต้องระหกระเหินไปอยู่ในต่างแดนก็ตามที
                       ขั้วอำนาจเก่า อันประกอบไปด้วยกลุ่มศักดินา ชนชั้นกลางและชนชั้นสูงที่มีฐานะในสังคม รวมถึงข้าราชการ ที่เคยมีบทบาทครอบงำสังคมไทยมาเป็นเวลาช้านาน    ส่วน ทักษิณนักการเมืองแนวใหม่และกลุ่มทุนที่จับขั้วเป็นกลุ่มการเมือง โดยมีชนชั้นล่างส่วนใหญ่ซึ่งมีฐานะยากจน และด้อยโอกาส และชนชั้นกลางบางส่วนเป็นฐานรากในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง….
                       ด้วยการเข้าถึงมวลชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้เอง ทำให้ทักษิณสามารถกุมใจพื้นฐานชาวรากหญ้าในสังคมไทยผ่านทางนโยบายถึงล่างถึงบน  ต่อให้เลือกตั้งอีกกี่ที ทักษิณและไทยรักไทยก็นอนมา

                        ความร่วมมือหะแรกของการกำจัดทักษิณออกจากการเมืองเริ่มต้นขึ้น การเดินสายปฐกถาของชายชราผู้หนึ่ง  ( ในนามของอำนาจนอกรัฐธรรมนูญที่ทักษิณเรียกในขณะนั้น ) ตามด้วยเสียงประสานจากพรรคการเมืองโดยการบอยคอตการเลือกตั้ง  เรื่อยมาจนถึงการได้แนวร่วมอันเกิดจากข้อขัดแย้งส่วนตัวระหว่างสนธิ ลิ้มทองกุล และทักษิณชินวัตร ที่วิวัฒนาการมาเป็นพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย    ปูทางสร้างเงื่อนไขให้นำไปสู่การปฎิวัติรัฐประหาร  ตามมาด้วยการจัดระเบียบโครงสร้างองค์กรอิสระ และคณะกรรมการต่างๆ ภายใต้โครงสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จัดตั้งคัดสรรกันเรียบร้อย     องค์กรต่างๆที่จัดตั้งขึ้นนั้น กลุ่มบุคคลที่เข้ารับหน้าที่ล้วนแต่เป็นผู้มีส่วนได้เสียจากการสูญเสียอำนาจจากกลุ่มอำนาจเก่าทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนพรรคการเมือง  นักสื่อสารมวลชน กลุ่มธุรกิจ แม้กระทั่งข้าราชการ ตลอดจนนักวิชาการที่ถูกละเลยความสำคัญและนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของทักษิณ ในช่วงเวลาที่ทักษิณบริหารงานบ้านเมือง  

                      การรัฐประหารที่มุ่งกำจัดทักษิณให้สิ้นซากจากการเมืองไทย ได้เริ่มออกฤทธิ์  เริ่มตั้งแต่การยุบพรรค ตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารที่เหลืออยู่ ตลอดจนการชี้มูลขององค์กรอิสระต่างๆชงเรื่องขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม  และการนำไปสู่อายัดทรัพย์สินจนเรียกได้ว่ากินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว ไม่ให้มีวันโงหัวขึ้นได้ในทางการเมือง

                       อีกทางหนึ่งนั้น จะด้วยกลไกอำนาจทหารผ่านองค์กรอิสระที่ตัวเองจัดตั้งขึ้น  หรือการชักจูงจาก คณะ สสร. นักวิชาการฝ่ายเดียวกัน นักสื่อสารมวลชน ที่นำเสนอข่าวสารเพียงครึ่งเดียวให้ประชาชนยอมลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญที่มีเจตนาเพื่อกำจัดคนๆเดียวแอบแฝงอยู่นั้น โดยให้คำมั่นว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้หลังจากมีการเลือกตั้งในบรรยากาศที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว......หลังจากนั้น ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเรียบร้อยลงตัว  หลายสิ่งอย่างได้เข้ารูปเข้ารอยตามแผนบันไดสี่ขั้นแล้ว การเลือกตั้งครั้งใหม่ก็เกิดขึ้น ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้วยความคาดหวังว่าทุกสิ่งจะเรียบร้อย ปรากฏว่าชาวบ้านร้านตลาดที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังคงเสพติดยาหลายขนานที่ทักษิณเคยมอบเอาไว้ให้

                        การต่อสู้ของทักษิณเริ่มมีความหวังที่จะกลับมาลบล้างภาพที่ขั้วอำนาจเก่าสร้างไว้ยังไม่จบสิ้น... จึงเป็นที่มาของนอมินีที่ชื่อ  สมัคร สุนทรเวชและ พรรคพลังประชาชนจึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้การชูธงของชายที่ชื่อว่า สมัครและบุคคลที่ทักษิณไว้วางใจ  
                     
                         จากความหวังเรืองรองในการมีรัฐบาลนอมินี  เป้าหมายในการแก้รัฐธรรมมนูญช่วยเหลือทักษิณ กลับเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งในการดำเนินการ จากพิษสงของรัฐธรรมนูญฉบับปัจุบัน เนื่องเพราะฝ่ายนิติบัญญัติที่ครึ่งหนึ่งมาจากการเลือกสรรทำหน้าที่ในสภาบน   ขณะที่สภาล่างก็มีพรรคการเมืองเก่าแก่คอยทำหน้าที่อยู่แล้ว อีกฝั่งก็มีพวกที่อยู่ข้างถนนโดยอ้างสิทธิความชอบธรรมตามมาตรา 63  ส่วนฝ่ายตุลาการก็เพียงดำเนินการพิจารณาความต่างๆที่มีองค์กรอิสระชงเรื่องให้ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ  เท่านั้นเป็นอันเสร็จพิธี

             การต่อสู้ในวันนี้ จึงป็นการต่อสู้ของขั้วอำนาจกลุ่มเดิมที่กุมสภาพนิติบัญญัติและตุลาการ    กับกลุ่มอำนาจฝ่ายทักษิณผ่านไปยังรัฐบาลสมัครที่กุมอำนาจฝ่ายบริหารเพียงอย่างเดียว  จะมุ่งหน้าไปทางใดก็ยักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก เพราะฝ่ายตรงข้างแฝงเร้นกายอยู่ในทุกหนทุกแห่ง

         ตีเหล็กต้องตีตอนร้อนฉันท์ใด รัฐบาลที่เพลี่ยงพล้ำก็มีสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่ จากผลการตัดสินจากศาลที่จะทยอยปรากฏในเวลาไม่ช้านาน ในช่วงเวลาคาบลูกคาบดอก  ............ พันธมิตรชิงไหวชิงพริบเป่านกหวีดหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมืองหากนายกลาออก หรือ ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกเพื่อนำไปสู่การรัฐประหารอีกครา.... อย่างน้อย รัฐธรรมนูญที่จะคลอดออกมาใหม่ก็คงพอต่อสายตรงกันได้  

    การต่อสู้ในวันนี้ ที่ดูเหมือนเกิดขึ้นระหว่างพันธมิตรและรัฐบาลสมัครนั้น มีคำถามว่าจะจบลงตรงไหน …………

                          ดังจะเห็นว่าข้อเรียกร้องของพันธมิตรตามที่พลตรีจำลองเรียกร้องนั้น คือ หนึ่ง ... ต้องให้นายกลาออก และห้ามแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเด็ดขาด มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือล้างขั้วอำนาจทักษิณใช่หรือไม่ ????
    สองนั้น....การเมืองใหม่ที่นำเสนอโดยให้มีการเลือกสรร 70% และเลือกตั้ง 30% . …….มีจุดมุ่งหมายที่แท้จริงอยู่ตรงไหน เอื้อประโยชน์แก่ขั้วอำนาจเดิมใช่หรือไม่ ????? ..........
                            ประชาชนที่เลือกข้างแล้ว....ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใด ลองใช้สติปัญญาพิจารณากันดูเอาเองเถิดครับ......สุดท้ายใครอยากเลือกเป็นเบี้ยให้ฝ่ายใดก็เลือกกันเอาเอง.........

    จากคุณ : พลเมืองชั้นสอง - [ 1 ก.ย. 51 09:17:40 A:124.121.189.11 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom