www.bangkokbiznews.com
วันพฤหัสบดีที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2551
เปิดใจ "เตช บุนนาค" รัฐมนตรีพระราชทาน ก่อนลาออก
" สุทธิชัย หยุ่น" บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น สัมภาษณ์พิเศษ นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพียงวันเดียวก่อนมีข่าวว่า นายเตช ลาออกจากตำแหน่ง
ต่อไปนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจในการสัมภาษณ์ครั้งนี้
ถาม คุณเตชทำงานกระทรวงต่างประเทศตั้งแต่เรียนจบรวมเวลากว่า 40 ปี และเกษียณออกไปในฐานะปลัด แต่ดูเหมือนคุณเตชจะออกจากกระทรวงนี้ไปก่อนเกษียณ
ตอบ ผมอยู่กระทรวงต่างประเทศมา 35 ปีพอดี และปีที่จะเกษียณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเมตตาโปรดเกล้าฯ โอนผมไปทำงานที่สำนักงานราชเลขาธิการ เป็นเวลา 4 ปี 5 เดือน
ถาม คุณเตช เคยคิดมั้ยครับว่าในชีวิตจะจับพลัดจับผลูได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ตอบ ไม่เคยคิดครับ แต่ผมถือว่าตัวเองเป็นข้าราชการประจำ การที่ได้เป็นปลัดกระทรวงก็ถือว่าสูงสุดแล้ว เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุด แต่คราวนี้ได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศที่กระทรวงนี้อีกจึงถือเป็นของ แถม
ถาม ตัดสินใจยากมั้ยครับในการรับตำแหน่งนี้
ตอบ ไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจครับ เพราะนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ได้เข้าเฝ้าฯ ขอพระราชทานตัวผมมา ผมเป็นข้าราชการ ไม่สามารถปฏิเสธได้ ถือเป็นหน้าที่
ถาม ตอนที่คุณเตชเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ คุณอานันท์ ปันยารชุน บอกว่านายกรัฐมนตรีสมัครโชคดีมาก ที่ได้คุณเตชมา เหมือนเป็นบุญสำหรับรัฐบาลชุดนี้ มาดูแลกระทรวงต่างประเทศ คุณเตชรู้สึกเสียใจมั้ยครับที่เข้ามารับตำแหน่งนี้
ตอบ ผมไม่ทราบว่าเป็นบุญสำหรับรัฐบาลหรือเปล่า และไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นบุญต่อตัวผมอย่างไร
ถาม คุณเตชคิดว่า ดีสำหรับรัฐบาลตรงไหนที่มารับตำแหน่งในช่วงที่มีเรื่องร้อนคือกรณีเขาพระวิหาร
ตอบ หลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ผมก็ไปเจรจากับกัมพูชาทันที โชคดีที่ผมมีความคุ้นเคยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชามาก่อน และคุ้นเคยกับปัญหานี้พอควร
ถาม ช่วงนั้นมีคนสงสัยว่านักการเมือง ที่มีผลประโยชน์การเมืองกับ พ.ต.ท.ทักษิณมาทำให้ข้าราชการกระทรวง ตปท.หลายคนปั่นป่วนพอสมควร อาจโดนย้ายบ้าง บางคนอาจต้องยอมตามแรงกดดันการเมือง ตอนคุณเตชเข้ามา ได้ย้อนไปคุยกับพวกเขามั้ย
ตอบ ขณะนั้นผมไม่อยู่ และเมื่อกลับมาแล้วผมก็ไม่ได้ถามเพราะไม่ค่อยมีเวลา แต่สิ่งที่ผมทำในวันแรกๆ ของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ คือการสับเปลี่ยนข้าราชการที่ถูกโยกย้ายให้กลับไปทำงานตำแหน่งเดิม เพื่อฟื้นฟูกำลังใจของข้าราชการ
ถาม ตอนนี้ไม่มีแรงกดดันทางการเมืองใดๆ มาทำให้กระทรวงต่างประเทศต้องทำในสิ่งที่ไม่ควรจะทำ
ตอบ ยังไม่มีเลย
ถาม แต่คุณเตชอยู่ที่นี่นาน ตั้งแต่เป็นข้าราชการ ก็ต้องผ่านช่วงหลายช่วงที่กระทรวงต่างประเทศถูกการเมืองกดดันบีบคั้นให้ทำใน สิ่งที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ไม่อยากจะทำ ที่ผ่านมาข้าราชการกระทรวงต่างประเทศเข้มแข็งพอที่จะเป็นตัวของตัวเองที่จะ ดันไม่ให้แรงกดดันที่ไม่ถูกต้องของการเมืองมากระทบการทำงานไหม
ตอบ ผมเองไม่เคยเจอ และได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำตามกาลเทศะ และทำจนสำเร็จ เช่น งานด้านฟื้นความสัมพันธ์กับจีน
ถาม ณ วันนี้ เมื่อมีเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ผลประโยชน์ของนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง กระทรวงต่างประเทศต้านไหวมั้ยครับ
ตอบ เราไม่ควรหวั่นไหวจากความกดดัน ถ้าเราทำในสิ่งเราเห็นว่าถูกต้อง
ถาม ทางออกคืออะไร ถ้าโดนกดดันจริงๆ แล้วเราคิดว่าผลประโยชน์ประเทศชาติเสียหาย แต่นักการเมืองที่เข้ามามีวาระซ่อนเร้นบางอย่างที่มาสั่งให้ข้าราชการ กระทรวงต่างประเทศทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
ตอบ ง่ายนิดเดียว ถ้ามีแรงกดดันที่จะบังคับกดดันให้ผมทำในสิ่งที่ผมเห็นว่าไม่ถูกต้องและไม่ เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศไทย ง่ายนิดเดียวก็จะต้องลาออก
ถาม อย่างกรณีพาสปอร์ตสีแดงของคุณทักษิณ มีแรงกดดันทางการเมืองหรือไม่
ตอบ ผมไม่เห็นว่ามีแรงกดดันทางการเมือง
ถาม ณ วันนี้ไปถึงไหนแล้วเรื่องพาสปอร์ตคุณทักษิณ
ตอบ ท่านนายกฯ บอกว่าได้รับเรื่องไปจากผมไปแล้ว และผมไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องนี้อีก
ถาม แล้วเรื่องที่เสนอไป เสนอว่ายังไง
ตอบ พอเรื่องนี้เกิดขึ้น มีหมายจับ ทางกรมการกงสุลได้จัดทำบันทึกที่มีทั้งกฎเกณฑ์ กฎระเบียบ กฎหมาย รวมทั้งรัฐธรรมนูญ ในที่สุดได้ข้อสรุปว่าเรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศน่าจะเสนอให้นายก รัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องที่สำคัญ ผมก็เห็นด้วยกับข้อเสนอของข้าราชการ จึงได้ลงนามและส่งข้อเสนอไปกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราก็กราบเรียนให้ท่านหมดว่าหนังสือเดินทางทูตเป็นอย่างไร หนังสือเดินทางธรรมดาเป็นอย่างไร
ถาม แปลว่าพาสปอร์ตที่คุณทักษิณถืออยู่มี 2 ประเภท คือแบบธรรมดาที่ประชาชนคนไทยมีสิทธิ์จะถือ และพาสปอร์ตการทูตที่เป็นการให้เกียรติพิเศษบางอย่าง สองอย่างมีกติกาต่างกัน คือพาสปอร์ตการทูตให้พิเศษ เพราะฉะนั้นถอนก็ได้
ตอบ ได้ครับ ซึ่งอดีตนายกรัฐมนตรีทุกท่านก็ถือพาสปอร์ตชนิดนี้อยู่ หรืออดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศที่ขอไป
ถาม การเมืองในประเทศเป็นอย่างนี้ การดำเนินนโยบายต่างประเทศลำบากกว่าปกติมั้ย
ตอบ แน่นอน ผมยังไม่ทราบเลยว่าจะเป็นรัฐมนตรีต่อไปกี่วัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องวางแผนการ อย่างเช่น อีก 20 วันสมัชชาสหประชาชาติจะเปิดแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศของทุกประเทศในโลกจะไปอยู่ที่นั่น ผมจะไปหรือเปล่ายังไม่ทราบ แต่ก็ต้องวางแผนไป จองโรงแรม อะไรต่ออะไร
ถาม ความยากลำบากในภาวะที่ต้องอธิบายอะไรในประเทศไทย เช่นตอนที่ต้องออกแถลงการณ์ตอบโต้คุณทักษิณกรณีความเป็นอิสระของระบบศาลไทย ตอนนั้นคิดยังไงถึงเขียนออกมาค่อนข้างชัดเจน ซึ่งหลายคนแปลกใจว่าคุณเตชมาถึงปั๊บภารกิจแรกก็ต้องตอบโต้คุณทักษิณในเรื่อง นี้
ตอบ ก็ไม่ใช่ภารกิจแรก แต่เป็นภารกิจแรกๆ ผมเห็นว่าทันทีที่มีข่าวอะไรในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ที่กระทบกระเทือนภาพลักษณ์หรือภาพพจน์ของประเทศไทย ไม่ว่าในเรื่องใด กระทรวงการต่างประเทศจะต้องชี้แจง ในเมื่อมีเรื่องในหน้าหนังสือพิมพ์ระหว่างประเทศว่าคุณทักษิณพูดว่ามีการ แทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม ทางกระทรวงการต่างประเทศจะต้องออกมาปกป้องระบบยุติธรรมของไทยอย่างแน่นอน
ถาม ไม่ใช่เรื่องปกติเท่าไหร่ เพราะว่าแต่ไหนแต่ไรมา กระทรวงต่างประเทศไม่ต้องแถลงการณ์จุดยืนเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่ต้องตอบโต้กับอดีตนายกรัฐมนตรีของตัวเอง
ตอบ ก็โดยบังเอิญ เป็นการตอบโต้อดีตนายกรัฐมนตรีของตัวเอง แต่สำหรับผม ไม่ว่าที่ไหน ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก อยู่ที่กรมสารนิเทศ อะไรก็ตามที่จะมากระทบกระเทือนภาพลักษณ์และภาพพจน์ของประเทศไทย ผมเห็นว่าข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศต้องตอบโต้ทันที
ถาม กรณีปฏิวัติก็ต้องออกแถลงการณ์เหมือนกัน อย่าง 19 กันยา แต่ตอนนั้นคุณเตชอาจไม่ได้อยู่ที่กระทรวง
ตอบ ไม่ได้อยู่
ถาม แต่ที่เคยผ่านมา ทุกครั้งที่ปฏิวัติในประเทศ เราก็ต้องชี้แจงออกไปว่าทำไมถึงเกิดขึ้น
ตอบ แน่นอน
ถาม เหมือนกับที่ล่าสุด ที่กระทรวงต่างประเทศต้องชี้แจงออกไปว่า การที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของ ระบอบประชาธิปไตย
ตอบ ผมก็พูดอย่างนั้น ผมบอกว่าสำหรับผมก็เป็นปรากฏการณ์ส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของ ไทย และเรายังไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป มันเป็นปรากฏการณ์ เป็นอีกฉากหนึ่งของประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของไทย แต่แน่นอนว่าภาพลักษณ์ภาพพจน์ของประเทศไทยเสีย และเรากำลังเสียหายอย่างหนัก อย่างที่ภูเก็ตบอกเสียหายวันละ 250 ล้านบาท กระทบกระเทือนเศรษฐกิจของบ้านเมืองแน่นอน
ถาม ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ทำให้นโยบายต่างประเทศที่ดำเนินอยู่ยากลำบากแค่ไหน
ตอบ มันลำบากขึ้นอย่างแน่นอน อย่างผมมีนัดไปเยือนเวียดนามวันที่ 10 กันยา ผมก็ไม่รู้จักรัฐมนตรีต่างประเทศของเขามาก่อน แต่ก็มีนัดแล้ว ผมจะไปได้หรือไม่ยังไม่ทราบเลย แต่อย่าลืมว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่จำเป็นต้องเป็นผม เพราะว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดูแลผลประโยชน์ของชาติ ในมิติในบริบทของต่างประเทศ ถ้าไม่เป็นผมก็จะเป็นคนอื่น
จากคุณ :
ekky@mail
- [
4 ก.ย. 51 01:22:48
A:118.174.80.152 X:
]