วิบากกรรมที่ 1 รัฐนาวาของท่านสมัคร หลังจากได้รับเลือกตั้ง
จากประชาชน แม้คะแนนเสียงจะไม่ถึงขั้นถล่มทลาย แต่ก็เพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไม่มีปัญหา การถูกค่อนขอดว่าเป็นรัฐบาลนอมินี โดยกล่าวอ้างจากคำพูดที่เผลอพลั้งหลุดปากไปโดยไม่ตั้งใจตามประสาคนปากไว ยังผลให้เป็นที่มาของการหวนคืนเวทีอีกครั้งของบรรดา พันธมิตรฯ ที่ไม่อิ่มเอมในยศถาบรรดาศักดิ์หลังจากได้รับการประเคนสนองจาก
คณะคมช. เพียงแต่คราวนี้ นอกจากจะใช้ สื่อโทรทัศน์อย่าง ASTV , นสพ.ผู้จัดการ เป็นหัวหอกคอยกรอกหูสาวกยังมีสื่อที่ถูกปู้ยี่ปู้ยำจาก คมช.และรัฐบาลขิงแก่ อย่าง Thaipbs คอยช่วยเสริมเติมแต่ง หนังตัวอย่าง หนังเรื่องนอมินี ถูกฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งถูกยำรวมไป
กับเรื่องคุณไชยา , คุณยงยุทธ แม้กระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้ามันก็ด่าได้เป็นตุเป็นตะดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ก็ไม่เว้น ถูกลากพ่อลากแม่มาสาวไส้ แถมยังป่วนไปถึงบ้านพัก ต้องออกมากราบขอโทษร้องขอชีวิตแทบไม่ทันเพราะกลัวความป่าเถื่อนแต่ทั้งหมดทั้งปวง ก็ไม่โดนใจเท่ากับ กรณีเขาพระวิหาร ที่ส่งผลถึงขั้นต้องเปลี่ยนรัฐมนตรีกลางเวหา
วิบากกรรมที่ 2 ต่อจากนั้น ก็หันรีหันขวางเล่นงานแบบดาวกระจาย
ตั้งแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องสร้างรัฐสภา และสุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิมคือ
นายกฯต้องลาออก นั่นแสดงให้เห็นว่า เงื่อนไขถูกปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสภาวะและสถานการณ์บ้านเมือง แถมข้อเสนอแนะแต่ละข้อก็สุดโต่งพิลึกพิลั่นสิ้นดี ไม่ว่าจะเป็นสูตรการเมืองพันธุ์ผสมใช้ระบบคัดสรรกันเข้ามา ซึ่งก็คือมุขเดิมๆ ที่เคยนำมาใช้สมัยรัฐบาลทักษิณ 2
วิบากกรรมที่ 3แต่กลเม็ดเด็ดพรายมันหนักหนาสาหัสกว่าหลายสิบเท่า แนวร่วมของพันธมิตรฯ คราวนี้ มีนักรบศรีวิชัยเป็นแนวหน้า คอยจัดการระรานทุกสิ่งที่เป็นอุปสรรค มีใบกระท่อมเป็นอาหาร มีดาบ ปืนไม้ เป็นศาสตราวุธ ที่สำคัญกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ถูกอิมพอร์ตมาจากดินแดนด้ามขวาน แม้จะไม่
เคยถูกฝึกฝนในการทหาร แต่ด้วยวิธีการรบแบบกองขี้ ( ไม่มีใครอยากตอแยด้วย เพราะมันเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน ) ทำให้ใช้ได้ผลตลอดมา แม้จะผิดกฎหมายก็ตามที เฉกเช่นรุกคืบไปยังสถานที่ราชการ ไม่เว้นแม้แต่ความอหังการที่จะยุติการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์NBT ช่อง 11
ด้วยข้อกล่าวหาว่าเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ซึ่งเป็นผลมาจาก รายการ ความจริงวันนี้ ดันเอาประวัติของกลุ่มพันธมิตรมาเล่าสู่กันฟัง เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเป็นเรื่องอย่างที่เห็น
วิบากกรรมที่ 4นักวิชาการน้อยใหญ่ก็เริ่มออกมาพ่นน้ำหมากกระจุยกระจาย อวดภูมิปัญญา เสมือนหนึ่งว่าตนเองเป็นผู้หยั่งรู้ บ้างก็รับจ้างหากินแถวๆ Thaipbs เนชั่น ไม่แปลกที่ช่วงนี้เราจะเห็นนักวิชาการออกมามากเป็นประวัติการณ์ ส่วนข้อเสนอก็เดิมๆ ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร ( เห็นชื่อ เห็นคุณวุฒินึกว่าจะแน่)ศัพท์ที่มักได้ยินและพล่ามกันบ่อยๆ ก็คือ อารยะขัดขืน ได้ยินคำนี่ทีไรอยากจะอาเจียนวันละหลายสิบหนพูดได้ไม่อายปาก
วิบากกรรมที่ 5 สังเกตให้ดีจะเห็นว่า เหตุการณ์เริ่มจะประทุ และเพิ่มระดับดีกรีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในประเทศ เหมือนยังมีความเกรงใจ เกรงบารมี อดีตนายกฯอยู่ไม่น้อย กลุ่มพันธมิตรฯ
รู้ดีว่า ต่อให้มีคนหนุนหลังสักเท่าใด ก็ไม่อาจสู้ หากอดีตนายกฯ ท้าฟัน กันจริงๆ เพราะฉะนั้นห้วงเวลานี้จึงเหมาะสมเป็นที่สุด
วิบากกรรมที่ 6 การเปิดประชุมสภาฯ หาหนทางแก้ไขก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ทั้ง สว.ลากตั้ง ทั้งฝ่ายค้านเรียงหน้ากันอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แทนที่จะช่วยหาทางออก แต่ถึงแม้จะได้ทางออก ก็กลับกลายเป็นทางที่ นายกฯไม่เออออห่อหมกด้วย
วิบากกรรมที่ 7 มีกลุ่มอีกกลุ่มที่ต้องขอพูดถึง นั่นก็คือ นปช. หรือ นปก.เดิมที่เริ่มระดมสรรพกำลังทั้งคนและเสบียงในการเข้าต่อต้านการกระทำของ พันธมิตรฯ ซึ่งก็ได้ผลทันตาเห็น จัดตั้งแป๊บเดียว แต่ผลที่ได้รับเหลือคณานับจริงๆ ทำให้รัฐบาลประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่ผลเสียที่เกิดขึ้น ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นก็คือมีประชาชนต้องเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ก็น่ายินดีอีกเรื่องก็คือเมื่อมีการประกาศสถานกาณ์ฉุกเฉิน กลุ่มคนดังกล่าวก็สลายตัว แต่ก็ยังชุมนุมต่อในเขตรอบนอกกรุงเทพ เพื่อไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย
วิบากกรรมที่ 8ผู้บัญชาการทหารบก คือคนที่ได้รับกระทะร้อนจาก เชพมือดีอย่างนายกฯสมัคร แต่กลับไม่เอาอ่าวเอาทะเล ดันสวมบทบาทกรรมการห้ามมวยบนเวที แทนที่จะเข้าควบคุม บริหาร จัดการ ให้ทุกอย่างถูกบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง แต่นี่ท่านเหมือนไม่ยินดียินร้าย แถมให้สัมภาษณ์พิกลๆ โดยให้ภาคการเมืองไปแก้ไขกันเองในระบอบรัฐสภา ( ซึ่งมีเพียงแค่ 2 ทาง ไม่ลาออก ก็ ยุบสภา )
วิบากกรรมที่ 9 รัฐมนตรีบางคนของรัฐบาลที่เป็นคนนอก เริ่มจะถอดใจ ลาออก ซึ่งคล้ายๆกับช่วงรัฐบาลทักษิณ 2 ยังกับแกะ ซึ่งเหตุการณ์คงจบลงเหมือนกัน เพียงแต่ อาจไม่ต้องเสียแรงทหารให้ออกมาทำรัฐประหาร เท่านั้นเอง
จากคุณ :
ดาราเดช
- [
4 ก.ย. 51 10:36:28
A:61.7.146.201 X:
]