ความคิดเห็นที่ 1 ก็สึกออกมา เล่นการเมืองไปเลย จบ จากคุณ : อาตี๋_น่ารัก - [ 7 ก.ย. 51 13:25:35 A:124.121.151.137 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 เสียใจครับ เพราะผมไม่นับถือว่าคนพวกนี้เป็นพระ...มันอาบัตตั้งแต่มายุ่งการเมืองแล้ว.. จากคุณ : T_Romance - [ 7 ก.ย. 51 13:27:27 A:124.120.177.43 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 สันติอโศกไม่ใช่พระ เท่าที่ผมตามเหตุการณ์ข่าว และสถานการณ์ทั่วไปจากห้องราชดำเนิน มีหลายกระทู้กล่าวถึงสันติอโศก หรือกองทัพธรรมที่ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตร หลายกระทู้สงสัยว่า ทำไมพระมาทำแบบนี้ หรือ พระอะไรยุ่งกับการเมือง หรือ พระอะไรมาพูดบนเวทีพันธมิตร ขับไล่รัฐบาล หรืออื่นๆ ในฐานะที่ผมศึกษาเกี่ยวกับแนวคิดของกลุ่มคนพวกนี้มานานพอควร เพราะผมศึกษาพระพุทธศาสนา จึงมีเรื่องที่อยากให้ได้เข้าใจว่า กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่ากองทัพธรรม แต่งตัวคล้ายนักบวช โกนหัว ไม่โกนคิ้ว นั้น เป็นกลุ่มลัทธินอกพระพุทธศาสนา เป็นกลุ่มนักบวชไม่ได้สังกัดคณะสงฆ์  และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับมหาเถรสมาคม และคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาใดๆทั้งสิ้น กลุ่มนี้มีชื่อว่า สันติอโศก สันติอโศก ก่อตั้งโดยนายรัก รักพงษ์ ซึ่งเคยบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ครั้งแรก บวชในคณะธรรมยุติ โดยมีพระราชวรคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513  แต่ไม่ยอมอยู่ในโอวาทของพระอุปัชฌาย์ และได้ลาสิกขาออกไป บวชใหม่เป็นพระสังกัดคณะมหานิกาย มีพระครูสถิตวุฒิคุณเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2516 สังกัดวัดหนองกระทุ่ม จังหวัดนครปฐม การตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิสันติอโศก เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2518 นายรัก รักพงษ์ หรือโพธิรักษ์ ซึ่งยังไม่ได้ลาสิกขา และยังอยู่ในสังกัดวัดหนองกระทุ่ม แต่ไม่ได้อยู่ในบริเวณวัด กลับประกาศบ้านพักใกล้วัด เป็นพุทธสถาน แดนอโศก ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้เอง โพธิรักษ์และกลุ่มคนที่ศรัทธาในลัทธิของตนเอง ซึ่งมีโดยรวมประมาณ 60คน ในช่วงนั้น ได้ประกาศแยกตัวออกจากคณะสงฆ์ไทย ประกาศไม่อยู่ภายใต้กฏระเบียบและการปกครองของมหาเถรสมาคมและคณะสงฆ์ โดยอ้างว่ายึดเอาพระธรรมวินัยเป็นหลักปกครองพวกกลุ่มตนเอง หลังจากการประกาศแยกตัวจากคณะสงฆ์ครั้งนั้น ก็ไม่ปรากฏว่าโพธิรักษ์ได้สละสมณเพศซึ่งบวชตามขั้นตอนของคณะสงฆ์แต่อย่างใดไม่  ยังคงถือตนเองเป็นนักบวชอยู่ และได้มีพฤติกรรมแปลกๆออกมาอีกมากมาย ตั้งแต่การตั้งตนเองเป็นพระอุปัชฌาย์ ทั้งๆที่พรรษาไม่ถึง 10 บวชให้กับคนที่ศรัทธาในลัทธิของตนเอง โดยใช้วิธีการเรียกคนที่ต้องการจะบวชเข้ามา แล้วก็บอกว่า "เธอเป็นสมณะ" ชื่อนั้น ชื่อนี้ ทำเหมือนกับพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา หลังจากที่มีจำนวนนักบวชในลัทธิตนเองมากขึ้น ก็เพิ่มอีกขั้นตอนหนึ่งคือการโหวตเสียงของคณะสมณะ ว่าจะให้คนๆนี้บวชหรือไม่ ขึ้นมาอีก  ซึ่งไม่ใช่วิธีการบวชที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย นอกจากนั้นโพธิรักษ์ยังได้กล่าวอวดอุตริมนุสสธรรม คือการอวดอ้างคุณวิเศษ การบรรลุธรรม ของตนเอง ในหลายๆครั้ง ต่างกรรม ต่างวาระ ยกตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่ง ที่โพธิรักษ์กล่าวอวดอ้างตนว่าได้บรรลุธรรม ปรากฏในหนังสือคนคืออะไร ทำไมสำคัญนัก ความตอนหนึ่ง ว่า "ลุเวลา 2 นาฬิกา ของวันอังคารที่  27 มกราคม พุทธศักราช 2531 ตรงกับวันแรม 6 ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ ข้าพเจ้าลุกขึ้นมา เดินออกจากห้องนอน เข้าห้องน้ำทำธุระเบา และณ บัดนั้นเอง ขณะที่ข้าพเจ้าปฏิบัติธุระนั้น ณทันทีนั้น ความสว่างใดๆก็บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า กังขาสุดท้ายที่ยังมิรู้ได้สิ้นลง จบลง ณ ตรงนั้น ........" การอวดอ้างว่าได้บรรลุธรรมขณะปัสสาวะนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ และผู้ที่บรรลุธรรมจริงๆนั้น ย่อมไม่ป่าวประกาศบอกต่อใครๆเช่นนี้ การที๋โพธิรักษ์ป่าวประกาศ มีแม้แต่ลงในหนังสือของสำนักตนเอง ก็เท่ากับอวดอ้างอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน โพธิรักษ์จึงไม่อยู่ในฐานะของเพศสมณะ และได้ปาราชิกไปแล้ว พฤติกรรมโดยรวมของกลุ่มสันติอโศก นำโดยโพธิรักษ์ และผู้ที่เป็นนักบวชที่อ้างตนว่าเป็นสมณะนั้น แม้จะมีลักษณะภายนอกน่าศรัทธา เหมือนนักบวชที่กินน้อย ใช้น้อย แต่กลับมีลักษณะแปลกๆ หากไม่พิจารณาให้ดี เช่น การไม่ทานเนื้อสัตว์นั้น หากจะบอกว่า เพื่องดเว้นจากการเบียดเบียน ก็น่าศรัทธา แต่พฤติกรรมที่เหนือไปกว่านั้นก็คือ การตำหนิผู้ที่ทานเนื้อสัตว์ ฉันเนื้อสัตว์โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ ว่าผู้ที่กินเนื้อสัตว์ เป็นยักษ์มาร เป็นผู้โหดร้าย ซึ่งผิดไปจากแนวทางคำสอนของพระพุทธเจ้า  ไปเข้าข่ายลัทธิเทวทัต ที่อวดอ้างว่าไม่กินเนื้อสัตว์ เป็นสิ่งดีกว่าพวกกินเนื้อสัตว์ ประพฤติเคร่งครัดกว่าพวกกินเนื้อสัตว์ นอกจากนั้นก็คือการมีคำสอนที่แปลกประหลาดออกมาอีกมากมาย โดยโพธิรักษ์อ้างว่า คำสอนเหล่านี้ ตนเองไม่เคยเรียน แต่รู้ได้ด้วยญาณวิเศษ เช่น - สอนว่า พระอรหันต์ แม้นิพพานแล้ว ก็ยังมาเกิดอีกได้ เพื่อช่วยเหลือคนอื่น - อวดอ้างว่าตนเอง (โพธิรักษ์) เป็นพระสารีบุตรสาวกของพระพุทธเจ้า กลับชาติมาเกิด  แล้วยังเป็นผู้ที่เง๊กเซียนฮ่องเต้ส่งมาเกิดเพื่อช่วยมวลมนุษย์ -อวดอ้างว่าตนเอง (โพธิรักษ์) เป็นทั้งพระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์ ในเวลาเดียวกัน นอกจากนั้นก็ยังแปลภาษาบาลีผิดๆ มีความหมายแปลกประหลาด ที่ลือลั่นที่สุดก็คือ แปลคำว่า ตัณหา ว่า ตัณ - ทางมันตัน  + หา- ยังไม่เจอ  รวมแปลว่า ตัณหา แปลว่า ทางตัน จึงหาไม่เจอ พฤติกรรมนอกเหนือจากนี้ยังมีอีกมาก เท่าที่ผมได้ศึกษามา แต่ที่เด่นชัดก็คือ มีลักษณะความรู้สึกที่เป็นปฏิปักษ์กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน และการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองแบบเต็มรูป เช่น การตั้งพรรคพลังธรรม โดยมีนายจำลอง เป็นหัวหน้าพรรค เป็นต้น  หรือการที่นักบวชในลัทธินี้ สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ โดยใช้บัตรประชาชน เป็นการยืนยันสถานภาพว่าตนเองไม่ใช่พระภิกษุ เพราะในรัฐธรรมนูญระบุว่า พระภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้  การที่พวกนักบวชในลัทธิสันติอโศกไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง จึงเป็นการประกาศสถานะของตนเองอย่างชัดเจนว่า ไม่ใช่นักบวช และไม่ใช่พระสงฆ์แต่ประการใด พฤติกรรมของนายโพธิรักษ์และกลุ่มนักบวชนอกรีตที่เรียกตัวเองว่า สมณะ มีชื่อประหลาดๆ เช่น สมณะเพาะพุทธ (นายจันทร์)  สมณะกระบี่บุญ  สมณะฟ้าดิน อะไรต่างๆ หรือการตั้งนามสกุลของบรรดาสานุศิษย์ที่ไม่ใช่นักบวชแบบประหลาดๆ เช่น นามสกุล ชาวหินฟ้า  อะไรประหลาดๆแบบนี้ จึงกล่าวได้ว่า กลุ่มพวกสันติอโศกเหล่านี้ มิได้เกี่ยวข้องใดๆกับคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนาในประเทศไทย และไม่ใช่พระสงฆ์ ที่เขียนมายืดยาวนี้ ก็เพื่อเป็นข้อพิจารณา และขอให้ได้ทำความเข้าใจว่า กลุ่มนักบวชสันติอโศก ที่อ้างตนเองเป็นกองทัพธรรมนั้น ไม่ใช่พระสงฆ์แต่ประการใดทั้งสิ้นครับ จากคุณ : p.p_upasmo  - [ 4 มิ.ย. 51 15:24:53 A:58.9.46.163 X: ] จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:29:35 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ คคห.ที่9 เคยศึกษาประวัติความเป็นมาของสันติอโศกหรือเปล่าครับ? ดูท่าทางคุณคงเป็นผู้มีความรู้พอสมควร ทราบว่านิกายในพระพุทธศาสนามีหินยาน (จริงๆแล้วต้องเรียกว่า เถรวาท) กับมหายานด้วย แต่สันติอโศกนั้น ไม่ใช่พระพุทธศาสนาครับ ข้อความที่คุณบอกว่า ---------------------- กลุ่มย่อย ๆ อย่าง สมณะ ที่ สันติอโศก ก็เป็นฝ่ายหนึ่ง ซึ่งยึดถือพระวินัย แบบ พระสงฆ์ คือ ศีล 227 ข้อ แต่ เพิ่มมาคือ      1 ฉัน มังสวิรัติ   เพื่อไม่เบียดเบียน สัตว์      2. ไม่โกนคิ้ว  ( เพราะยึดตามพระสงฆ์ ในอินเดีย ซึ่งสมัยพุทธกาล พระก็ไม่โกนคิ้ว แต่ไทยมาเปลี่ยนภายหลัง เพื่อกันพม่าปลอมมาป็นพระ  )      3. ไม่มีพระพุทธรูป  เพราะ หลักความเชื่อที่ว่า พระพุทธเจ้า ท่านไม่ ดำรัสให้ สร้างพระพุทธรูปไว้กราบบูชา กลัวจะไม่คล้ายกับ ฮินดู พราหมณ์ ซึ่งทำให้คนยึด   ------------------------------ ยึดถือพระวินัยแบบพระสงฆ์ คือศีล227 ข้อ... เข้าใจผิดไปไกลเลย พวกสันติอโศกนั้นมิได้ยึดถือสิกขาบท227ข้อแต่อย่างใด และไม่มีการสวดปาฏิโมกข์ การอยู่จำพรรษา ซึ่งเป็นไปตามแบบวินัยของพระสงฆ์ด้วย ส่วนข้อที่คุณอ้างเพิ่มเติมมานั้น คือ ๑. เรื่องการกินเนื้อสัตว์ จริงอยู่ แม้ฝ่ายมหายานจะมีศีลในข้อห้ามการกินเนื้อสัตว์ก็จริงอยู่ แต่มิได้เป็นศีลของภิกษุมหายาน เป็นศีลระดับโพธิสัตว์ หรือระดับของผู้ปรารถนาจะปฏิบัติเพื่อสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ของฝ่ายมหายานต่างหาก แต่การอ้างของสันติอโศกนั้น ที่ว่าเพื่อไม่ให้เบียดเบียนสัตว์ ย่อมเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากเนื้อสัตว์นั้น ไม่ใช่สัตว์มีชีวิต แต่เป็นอาหารต่างหาก ถ้าหากการอ้างเพื่อไม่เบียดเบียนสัตว์แล้ว การกินผักก็ย่อมถือเป็นการเบียดเบียนสัตว์ได้หรือไม่? เพราะพวกหนอนแมลงต่างๆที่ต้องกินพืชผักเป็นอาหาร อาหารของมันกลับถูกนำมากินอย่างมากมาย แต่ข้อนี้ย่อมอ้างไม่ได้ พระพุทธเจ้าเองนั้น ไม่ได้ทรงบัญญัติให้พระภิกษุไม่ฉันเนื้อสัตว์ การฉันอาหารที่มีเนื้อสัตว์ประกอบนั้น สามารถฉันได้ หากเป็น อาหารที่ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่ได้สงสัยว่าเขาฆ่าสัตว์นั้นเพื่อให้ตนเองได้ฉัน นอกจากนั้น เนื้อสัตว์บางประเภทก็ทรงห้ามฉัน  แต่ก็เป็นเพราะเรื่องมรรยาททางสังคม และเพื่อความปลอดภัยของพระสงฆ์ เช่นเนื้อของสัตว์ดุร้าย หรือเนื้อของสัตว์ที่ถือว่าน่ารังเกียจ  รวมถึงการห้ามฉันเนื้อมนุษย์ การที่อ้างว่าไม่ทานเนื้อสัตว์ เป็นการไม่เบียดเบียนสัตว์นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน สมมติว่าการฆ่ามนุษย์ เป็นการเบียดเบียน หรือไม่ ก็ต้องตอบว่า เบียดเบียน แล้วถามว่า เมื่อฆ่าแล้ว เอาเนื้อมนุษย์นั้นมาเป็นอาหารหรือไม่?   พระสงฆ์นั้น  อยู่ในฐานะของผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม อาหารทั้งหลายเป็นเพียงเหตุปัจจัยอันยังร่างกายให้ดำรงอยู่เพียงเท่านั้น  และพระสงฆ์ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเรียกร้องว่า จะฉันสิ่งนั้น จะฉันสิ่งนี้  ขึ้นอยู่กับศรัทธาของโยมที่จะถวาย อาจจะมีฆราวาสบางคนเห็นว่าการทานอาหารที่ไม่เนื้อสัตว์ประกอบนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการไม่เบียดเบียนสัตว์ ก็ไม่เป็นอะไร แล้วถ้าหากเขานำอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ประกอบ มาถวายพระสงฆ์ พระสงฆ์ท่านก็ฉันได้ แต่ฆราวาสบางคน ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เขาซื้อเนื้อสำเร็จรูปมาจากตลาด แล้วก็นำมาประกอบอาหาร และก็เลยทำอาหารถวายพระสงฆ์ด้วย ท่านก็รับมา แล้วก็ฉันได้เช่นกัน จุดประสงค์ของการฉันอาหารนั้น ไม่ได้อยู่ที่ "ฉันอะไร" แต่อยู่ที่ "ฉันเพื่ออะไร" ระหว่างแนวความคิดสองประการนี้ คุณคิดว่า ใครดีกว่าใคร พระ ก. หรือ ฆราวาส ก.  ฉัน / ทานอาหารได้ทั้งแบบที่มีเนื้อสัตว์ประกอบ และไม่มีเนื้อสัตว์ประกอบ โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการเบียดเบียนสัตว์อะไร เพราะเนื้อนั้นไม่ได้ฆ่าด้วยมือตนเอง เมื่อบริโภคแล้ว มีกำลัง ก็ใช้กำลังนั้นในการประกอบกิจการงานอันดี หรือใช้ในการดำรงพรหมจรรย์ ปฏิบัติธรรมตามสมควรแก่ธรรมต่อไป โดยไม่ได้ยึดติดในอาหารนั้นๆ เพียงถือว่าเป็นเหตุในการทำให้ร่างกายดำรงอยู่ กับ พระ ข. หรือ นาย ข.  ฉัน/ทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ประกอบเลย แต่กลับมีพวกอาหารแป้งที่ทำรูปลักษณ์ให้คล้ายเนื้อสัตว์ แล้วปรุงรสอย่างดี ทำให้คล้ายอาหารที่มีเนื้อสัตว์ประกอบ แล้วก็ลงชื่อท้ายอาหารว่า เจ เช่น กระเพราเจ ขาหมูเจ พะโล้เจ อะไรต่อมิอะไร เจ  แล้วก็บริโภคด้วยความเอร็ดอร่อย ประมาณว่า "แหม ผักนี่มันช่างอร่อยจริงๆ"  แล้วก็ยึดติดในรสของอาหารผักนั้น ขณะเดียวกันก็ตำหนิติเตียนคนที่ทานอาหารมีเนื้อสัตว์ประกอบว่า เป็นพวกยักษ์มาร พวกเบียดเบียนทำร้ายสัตว์ ต้องฉันสิ ฉันดีกว่า ฉันเคร่งกว่า เพราะฉันไม่กินเนื้อสัตว์ สันติอโศก เมื่อเริ่มเผยแพร่อุดมการณ์ใหม่ๆนั้น มีการสร้างค่านิยมและประกาศว่า พระที่ฉันอาหารมีเนื้อสัตว์ประกอบ นั้น ไม่ใช่พระ แต่เป็นแพะ เป็นพวกยักษ์พวกมาร ขณะเดียวกันก็สร้างภาพว่า ตนเองเป็นผู้เคร่งครัด ดีกว่าผู้อื่น เพราะไม่กินเนื้อสัตว์ ๓. เรื่องการไม่มีพระพุทธรูป ข้อนี้ที่บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสไว้ อันนี้จริง  แต่ผมสงสัยว่า การไม่ให้มีพระพุทธรูป แต่ให้มีการกราบรูปของเจ้าสำนัก คือ โพธิรักษ์ แทน อยากถามว่า เป็นการยึดติดหรือเปล่า?   สันติอโศกนั้น คุณ Nokay  อาจจะบอกว่าเป็นลัทธิหนึ่งในสายพระพุทธศาสนา คุณจะกล่าวเช่นนั้นก็ได้ แต่ผมอยากถามว่า เจ้าสำนักคือโพธิรักษ์ ที่พูดว่า   "เป็นพระสารีบุตรของพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด" "อาตมายืนยันว่าตนเองเป็นทั้งพระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์ เอาทั้งสองทิศเลย พวกเถรวาทกับมหายานนี่ มิจฉาทิฏฐิทั้งคู่ อาตมาจะมาแก้มิจฉาทิฏฐิของทั้งสองนิกายนี้" "อาตมาเป็นเทวทูตที่องค์เง๊กเซียนฮ่องเต้ส่งมาจุติ" คำพูดเหล่านี้ ปรากฏในหนังสือและข้อความเผยแพร่ จากสำนักสันติอโศก ในหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ไม่รวมไปถึงข้อความที่อ้างการบรรลุธรรมของโพธิรักษ์ ว่าบรรลุขณะกำลังยืนฉี่อยู่ คุณ Nokay จะกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือครับว่า.. นี่คือนักบวชในพระพุทธศาสนา สอนอยู่ในแนวทางของพระพุทธศาสนา จากคุณ : p.p_upasmo จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:29:58 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 การจะนับถือพระสักองค์ ผมไม่ได้นับถือที่ผ้าที่ห่ม หรือว่าการโกนหัว ผมนับถือที่การกระทำ โจรหนีไปบวช ห่มจีวร ก็ไม่ได้แปลว่าต้องกลายเป็นผู้ทรงศีลขึ้นมาทันที จากคุณ : ~STEP-PANDA~ - [ 7 ก.ย. 51 13:29:59 A:124.121.73.128 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 พระโอวาทของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก ในการเปิดประชุมคณะการกสงฆ์  พิจารณากรณีสันติอโศก ณ หอประชุมพุทธมณฑล เมื่อ วันอังคารที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ http://newweb.bpct.org/content/view/233/ จากคุณ : DOTA online - [ 7 ก.ย. 51 13:30:56 A:124.121.64.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 คำพิพากษาศาลฎีกากรณีสันติอโศก คำพิพากษาฎีกา ที่ 3699-3739/2541 http://newweb.bpct.org/content/view/233/ จากคุณ : DOTA online - [ 7 ก.ย. 51 13:31:48 A:124.121.64.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระ...เทวทัตหรือเปล่า?? จากคุณ : littlejinny - [ 7 ก.ย. 51 13:31:58 A:203.131.217.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 เดียรถีย์ ก็คือ เดียรถีย์!!! จากคุณ : clean no10 - [ 7 ก.ย. 51 13:32:32 A:203.144.187.19 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A8%E0%B8%81 โพธิรักษ์มีการอวดอุตริมนุสสธรรม คือการอวดอ้างคุณวิเศษ การบรรลุธรรม ของตนเอง ในหลายๆครั้ง ต่างกรรม ต่างวาระ เช่น อวดอ้างว่าตนเป็นพระสารีบุตร สาวกของพระพุทธเจ้า กลับชาติมาเกิด แล้วยังเป็นผู้ที่เง๊กเซียนฮ่องเต้ส่ง มาเกิดเพื่อช่วยมวลมนุษย์ อวดอ้างว่าตนเป็นทั้งพระอรหันต์ และพระโพธิสัตว์ ในเวลาเดียวกัน และอวดอ้างว่าตนได้บรรลุธรรมในขณะปัสสาวะ ซึ่งผู้ที่บรรลุธรรมจริงๆนั้น ย่อมไม่ป่าวประกาศบอกต่อใครๆเช่นนี้ โพธิรักษ์จึงไม่อยู่ในฐานะของเพศสมณะ และได้ถือว่าปาราชิกไปแล้ว [2] ในวันที่ 10 มิถุนายน 2532 ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติเอกฉันท์ ขอให้สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ทรงลงพระนามในพระบัญชาให้สึกพระโพธิรักษ์ จากสมณเพศภายใน 7 วัน แต่ พระโพธิรักษ์ ไม่ยอมเปล่งวาจาสึก ตำรวจนำกำลังไปควบคุมตัวไปที่ สน.ดุสิต ก็ไม่เปล่งวาจาสึก จึงทำได้แค่ให้เปลี่ยนชุด เป็นสีขาว และโดนฟ้องอีก 78 คดี สมณะและสิกขามาตุถูกฟ้องแต่งกายเลียนแบบพระการต่อสู้คดีดำเนินไป โดยมีคณะทนายอาสามาช่วย 53 คน แต่ได้รับแต่งตั้งให้ว่าความเพียง 10 คน มี ทองใบ ทองเปาด์ รางวัลแมกไซไซ เป็นหัวหน้าคณะ และ ประดับ มนูรัษฎา, สงบ สุริยินทร์, สัมผัส พึ่งประดิษฐ์, ชำนาญ พิเชษฐพันธ์ และ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ (ส.ส. พรรคพลังธรรม) ศาลแขวงพระนครเหนือ มีคำพิพากษาเมื่อ 29 ธ.ค. 2538 หลังสืบพยานนานถึง 6 ปีเต็ม ให้จำเลยทั้งหมดมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง จำคุกโพธิรักษ์ รวม 66 เดือนโทษจำรอลงอาญา 2 ปี คนอื่นๆ ก็เช่นกัน 3 เดือนรอลงอาญา ทั้งหมดยืนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษา เมื่อ 19 มี.ค. 2540 ยืนตามชั้นต้น โพธิรักษ์ ไม่ยื่นฎีกา ส่วนคนอื่นๆ ยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิพากษา 15 มิ.ย. 2541 ให้ยืนตามศาลอุทธรณ์ ตัดสินให้พระโพธิรักษ์แพ้คดี มีคำสั่งรอลงอาญา 2 ปีพร้อมคุมประพฤติ[3] จากคุณ : นายจอมทะเล้น - [ 7 ก.ย. 51 13:32:46 A:127.0.0.1 X:58.8.234.127 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระวัดไหน  ตักบุพเฟ่ซะ.... พระต้องมีโยมถวายครับ... จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:32:47 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ระวังบาป... ผมว่าชาวพุทธต้องมีสติที่ดีพอ อะไรที่ดูแล้วไม่เป็นเนื้อนาบุญ ทำบุญไปแล้วอาจจะนำความลำบากใจให้ภายหลัง กราบไหว้ไปแล้วเกิดความไม่มั่นใจ อย่าเลยดีกว่าครับเป็นทุกข์เปล่าๆ พระดีๆมีมากไม่ต้องไปหาเอาในกลุ่มกระบดหรอกครับถ้าจะไหว้พระสักรูป จากคุณ : smdm - [ 7 ก.ย. 51 13:33:05 A:125.24.252.84 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตักเบาๆ พี่... ตักเยอะกินไม่หมด... ไม่ดีนะพี่... จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:33:56 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่บาปครับ จะให้บอกกี่ครั้ง ผมก็จะบอกว่า สันติอโศก ไม่ใช่พระสงฆ์ คุณยกข้อความของคนอื่นมา ผมอ่านดูแล้ว ก็คิดว่าจะตอบอย่างไรดี จะไปตอบในกระทู้โน้นดี หรือกระทู้นี้ดี.. แต่เอาเป็นว่า ตอบลงในกระทู้นี้ก็แล้วกัน เรื่องแรก คือ เรื่องของการเรียกว่าเดียรถีย์ คำว่าเดียรถีย์นั้น  ถ้าเราพูดตามคำศัพท์จริงๆ มาจากบาลีว่า ติตถิยะ ซึ่งแปลว่า ท่า  ที่ลง  หรือหมายถึงศาสนาก็ได้ โดยปกติการเรียกผู้ที่เป็นนักบวชนอกศาสนา ในบาลีจะใช้คำเต็มว่า อัญญติตถิยะ  - อัญญเดียรถีย์ คือ  เดียรถีย์เหล่าอื่น , เดียรถีย์พวกอื่น  ซึ่งหมายถึง เป็นนักบวชศาสนาอื่น ในความหมายนี้ พระพุทธศาสนาก็อาจจะได้ชื่อว่าเป็นเดียรถีย์หนึ่ง  เพราะหมายถึงศาสนาหนึ่ง แต่โดยทั่วไปคำว่าเดียรถีย์ จะใช้แทนคำว่า อัญญเดียรถีย์ ที่ผม หรือใครๆเรียกนักบวชสันติอโศก รวมถึงโพธิรักษ์ จึงมิใช่การกล่าวจ้วงจาบแต่อย่างใด  เพราะเขาก็เป็นนักบวชแบบหนึ่ง  ก็เลยเรียกว่า เดียรถีย์ อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของการบวช หรือการให้อุปสมบท  ที่ข้อความลงว่าโพธิรักษ์บวชให้ตามหลักธรรมวินัย โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องการสอบอุปัชฌาย์ กรณีนี้อาจจะมีคนไปเทียบกับหลวงพ่อครูบาศรีวิชัย ซึ่งท่านไม่ได้สอบเป็นพระอุปัชฌาย์เหมือนกัน แต่ตอนที่ท่านให้การบวชกุลบุตรนั้น ท่านมีพรรษา10 ขึ้นไป แล้ว ในส่วนของโพธิรักษ์  ข้อมูลระบุชัดว่า โพธิรักษ์ให้การบวชคนอื่น "โดยที่ตนเองยังพรรษาไม่ถึงสิบ" ดังนั้น การให้การบวชของโพธิรักษ์ จึงผิดพระธรรมวินัยด้วยตั้งแต่แรก  ถึงไม่มีเรื่องการสอบเป็นอุปัชฌาย์ โพธิรักษ์ก็ผิดตามพระธรรมวินัยอยู่แล้ว นอกจากนั้น การให้การบวชของโพธิรักษ์ ยังผิดจากพระธรรมวินัย ซึ่งใช้การบวชโดย ญัตติจตุตถกรรม  ซึ่งมีคณะสงฆ์ 10 รูปขึ้นไป  มีพระกรรมวาจาจารย์ พระอนุสาวนาจารย์  และพระอุปัชฌาย์ แต่การบวชให้คนอื่น ของโพธิรักษ์นั้นไม่ใช่แบบนี้  แต่เป็นการเรียกคนที่ต้องการจะบวช เมื่ออยู่ในสำนักสันติอโศกได้ตามสมควรแล้ว ต้องการจะบวชในสำนักสันติอโศก ก็จะมีกลุ่มนักบวชของสันติอโศก เป็นสักขีพยาน และโพธิรักษ์เป็นผู้บวชให้ เมื่อจะเริ่มบวช ก็จะทำการโหวตเสียง ว่าต้องการจะให้คนนี้บวชไหม  แล้วโพธิรักษ์ก็จะพูดกับคนๆนั้นว่า "เอาล่ะ เธอเป็นสมณะแล้ว" เป็นการเลียนลักษณะ เอหิภิกขุอุปสัมปทา  ของพระพุทธเจ้า ฝากคุณผีบุญ (แองเจิ้ลอีวิล น่าจะแปลว่า เทพแห่งความชั่ว ผมขอแปลชื่อของคุณว่า ผีบุญ ก็แล้วกันนะครับ) ช่วยไปบอกคุณไกลมากด้วยนะครับว่า  ถ้ามีอะไรจะยืนยันความเป็นนักบวชของโพธิรักษ์ได้ ช่วยมายืนยันลงในกระทู้นี้หน่อย  แล้วผมจะอธิบายให้ ป.ล.  ผมไม่เก่งเรื่องการเมืองเหมือนใครหลายๆคนในราชดำเนิน แต่ถ้าอ้างหลักพระพุทธศาสนาอย่างผิดๆ  ผมก็มีศักยภาพพอที่จะชี้แจงได้ จากคุณ : chohokun - [ 7 ก.ย. 51 13:34:58 A:58.9.48.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 พระขึ้นเวทีประท้วงด้วย ถามคำเดียว  " เหมาะสม " หรือไม่ กับยูนิฟอร์มที่สวม กิจของสงฆ์เหรอ จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:36:29 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 มันทำตัวไม่เหมือนพระ จากคุณ : Ballmakoto - [ 7 ก.ย. 51 13:38:06 A:61.90.76.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ลองไปหาข่าวดูเอง สิบกว่าปีก่อน มติมหาเถรสมาคม ออกมาเองเลยนะครับ *************** ไม่เห็นว่ามีคนโพสแล้วข้างบน ที่ว่าคนอื่นๆเป็นพระ ผมว่ารอให้มีมติอีกครั้งดีกว่าไหมครับ คุณจะได้แน่ใจ ว่าอีกกี่คนที่ปราชิต แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 13:43:01 จากคุณ : พวกทำลายบ้านเมืองจงแพ้ลูกเห็บ๛ (ฺิnopponj) - [ 7 ก.ย. 51 13:38:17 A:71.109.64.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะเป้นพระหรือไม่ได้เป็นพระก็ตามเถอะ แต่สื่งที่ทำไม่ถูกคือ เข้ามายุ่งกับการเมือง พาพรรคพวกมาร่วมกับกบฎพันธมิตรเพื่อกดดันรัฐบาล และสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศชาติและประชาชน ธรรมสำคัญข้อแรกของศีล 5 คือ โดยเฉพาะห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต กลุ่มพันธมิตร ได้สั่งให้การ์ด หรือนักรบศรีวิชัย ถืออาวุธออกมาฆ่าฟันและรุมทำร้ายประชาชน ผู้บริสุทธิ์ ถึงแก่ชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการทำผิดศีลธรรมข้อที่ 1 นอกจากนี้ ศีลธรรมข้ออื่นๆ กบฎพันธมิตรก็ละเมิดอยู่ตลอดเวลา เป็นต้นว่า  -  การพูดบิดเบือนข้อมูลเล่าความเท็จบนเวทีปราศรัยให้ประชาชนเข้าใจผิด เป้นการผิดศีลข้อ มุสาวาจา - การดื่มสุรา เสพยาเสพติดเช่นใบกระท่อม เป็นการผิดศีล ข้อ 5 เช่นกัน หากผู้ถือบวชในสันติอโศก เป็นผู้เคร่งครัดในหลักธรรม ก็ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ และไม่ควรสนับสนุนกลุ่มพันธมิตร ที่ไล่ฆ่าคนอย่างป่าเถือน ทำผิดศีลธรรมในทางพุทธศานสนา เรียกว่า สร้างบาปกรรมแทบทุกข้อ ดังกล่าว จากคุณ : saipin - [ 7 ก.ย. 51 13:38:45 A:124.122.200.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนใครจะนับถือว่าเป็นพระ ก็นับถือไปครับ แต่... พ่อแม่ปู่ย่าตายายโคตรเหง้าของผม ไม่เคยสอนให้ไหว้พระที่ไม่โกนคิ้วและสวมชุดประหลาด ๆ แบบนี้ครับ จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 13:42:38 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 พระอะไรมาเล่นการเมือง แถมไม่โกนคิ้วแต่โกนหมอy จากคุณ : เก้าอัศวิน - [ 7 ก.ย. 51 13:49:05 A:222.123.190.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 นานๆตอบที ข้อนี้ ผมยืนยันว่า สันติอโศก ไม่ใช่พระ 1000000% จากคุณ : จำใจต้องเลือกข้าง - [ 7 ก.ย. 51 13:49:38 A:118.172.242.131 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 พระรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่า ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา จากคุณ : แม็กซิม - [ 7 ก.ย. 51 13:50:21 A:124.121.163.21 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 รูป จากคุณ : Sky คห.15    เค้าชื่ออะไรคะ... เมื่อก่อนเคยฟัง เค้าพูด เคยชอบนะคะ  พูดเก่ง น่าฟังดี... น่าเสียดาย กลายเป็นเครื่องมือกบฏ ไปซะแล้ว... จากคุณ : ริมคันนา - [ 7 ก.ย. 51 14:01:43 A:124.121.123.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าเรียกว่า "แพะ" น่าจะใกล้เคียงมากที่สุด จากคุณ : เกลอแก้ว - [ 7 ก.ย. 51 14:02:23 A:125.24.188.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 23   รูป จากคุณ : Sky คห.15    เค้าชื่ออะไรคะ... เมื่อก่อนเคยฟัง เค้าพูด เคยชอบนะคะ  พูดเก่ง น่าฟังดี... น่าเสียดาย กลายเป็นเครื่องมือกบฏ ไปซะแล้ว... จากคุณ : ริมคันนา    - [ 7 ก.ย. 51 14:01:43 A:124.121.123.247 X: ^ ^ ^ ชื่อนายจันทร์  ครับ จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 14:03:42 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ของผมง่าย ๆ นะ ธรรมต้องสงบ จากคุณ : คนบางสนาน - [ 7 ก.ย. 51 14:04:16 A:125.24.96.214 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่กลัวบาปค่ะ เราพยายาม คิดดี ทำดี (แม้บางครั้งไม่ 100% เหอะ) แต่เราคิดว่าพวกนี้ไม่ใช่พระ เป็นแค่อะไรสักอย่างที่ไม่เห็นจะมีดีอะไร เลยไม่เคารพ ไม่ศรัทธา และไม่กลัวบาปที่จะไม่เชื่อถือพวกนี้ พวกนี้น่าจะบาปกว่าคนอีกหลายคนอีกนะคะ ไม่นิมนต์ขอบิณฑบาตร เวลาเขาเข่นฆ่ากัน แต่กลับยุยงให้กบฏ ทำความเดือดร้อน ทำลายข้าวของ แอบอ้างสิทธิ์ของคนอื่น จากคุณ : เงี้ยว - [ 7 ก.ย. 51 14:06:37 A:124.121.1.64 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่นับถือ จะทำไม จากคุณ : rajata - [ 7 ก.ย. 51 14:08:14 A:117.47.224.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ทำไมจะด่าพระไม่ได้ครับ ถ้าพระทำผิด ไม่ยึดตามคำสอนพระพุทธองค์ พระปกติทั่วไปที่ทำไม่ดีก็ว่าได้ วิจารณ์ได้ ไม่ต้องเคารพก็ได้ กรณีก็เหมือนกัน อย่างดีก็ให้เป็นพระครึ่งๆกลางๆ ยิ่งมายุ่งเรื่องการเมือง ถือว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่นับถิอ และถ้าเจอจะด่าด้วย จากคุณ : sin (sin_b) - [ 7 ก.ย. 51 14:08:51 A:58.8.137.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 อวดอุตริมนุษยธรรม ผิดไหม ? จากคุณ : วางไว้ - [ 7 ก.ย. 51 14:10:30 A:58.8.57.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 พระที่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก  ขึ้นเวทีทั้งที่รู้ว่าอาจนำมาสู่การแตกแยกเกลียดชัง ถือว่ายังยุ่งกับกิเลสตัณหาอยู่  จุดประสงค์ของการเข้ากับฝ่ายพันธมิตรคืออะไร นั่นคือคำตอบว่ายังสมควรถือว่าเป็นพระในพระพุทธศาสนจักรหรือเปล่า คนที่ทำให้ศาสนาต้องมัวหมองน่าจะบาปมากกว่าคนที่นั่งตำหนิการประพฤติของสันติอโศก จากคุณ : Fox Gracier - [ 7 ก.ย. 51 14:10:58 A:124.157.178.224 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 อยากบอกว่า......สมณะที่นี่ มีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายพระ และอาจจะดีกว่าพระวัดบางวัด  ที่ตอนบ่ายนอน  ตกเย็นเตะตะกล้อ แซวสาว หรือบางวัด มีสีกาไปหาที่กุฏิเหมือนที่มีข่าวออกทางหน้าหนังสือพิมพ์.....สำหรับสมณะที่นี่ไม่มีค่ะ  ไม่นอนกลางวัน ยกเว้นป่วยจริงๆ แต่เสียดายไม่น่าเลย.........ไม่น่าเลยจริงๆ ค่ะ จากคุณ : ป้าแตงโม - [ 7 ก.ย. 51 14:11:49 A:117.47.96.197 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมก็จำได้ว่าพรรษาไม่ถึง 10 จากคุณ : vision - [ 7 ก.ย. 51 14:13:44 A:124.121.153.54 X:61.90.250.33 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เป็นพระก็ด่าครับไ่ม่สน ถ้าทำตัวไม่น่าเคารพนับถือ พระที่น่านับถือมีอีกเยอะครับ ถึงจะไม่ดังก็ตาม แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 14:15:20 จากคุณ : attribute - [ 7 ก.ย. 51 14:13:55 A:58.8.154.163 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่อง...สันติอโศก.....จากห้องศาสนา ....ไปโผล่ที่...ห้องราชดำเนิน ....เถียงกันมั้นส์หยด !!!!!   ระวังบาปนะครับ พวกที่ด่าสันติอโศก เพราะคิดว่าเขาไม่ใช่พระ แท้ที่จริงเขาก็คือพระ จากคุณ : Angleevil    - [ 7 ก.ย. 51 13:08:01 A:124.121.65.215 X: ] จากคุณ : kongsilp2000  - [ 7 ก.ย. 51 14:08:39 ] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y6973355/Y6973355.html จากคุณ : kongsilp2000 - [ 7 ก.ย. 51 14:15:24 A:58.8.231.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่สนครับจขกท.คิดยังไงจะเห็นว่าเป็นพระในพุทธศาสนาก็เรื่องของคุณ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่พระ ไม่ใช่แค่เรื่องทำอาบัตนะ ตั้งแต่เรื่องแอบอ้างว่าตนเองบรรลุมรรคผลตอนยืนปัสสะวะแล้ว คนแบบนี้ไม่ใช่พระ และผมจะด่ามันต่อไป รวมทั้งมหาบัวด้วย ผมก็ไม่นับว่าเป็นพระ ทำผิดพระธรรมวินัยตั้งกี่ข้อ ถ้าจะเล่นการเมืองก็ศึกออกมาเลยดีกว่า ปล. ถ้าเป็นสันติอโศกเป็นพระแล้วทำใมวันที่มีลูกเห็บตกในทำเนียบ รวมทั้งเสียงแปลกๆ แกนนำต้องไปนิมนต์พระมาทำพิธีปัดรังควาญล่ะ จัดการเองสิ -*- จากคุณ : firefoxC4 - [ 7 ก.ย. 51 14:16:39 A:125.25.142.174 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 จะมีพิธีกรรมอะไรก็ไม่ได้ว่านี่ครับ ตามความเชื่อ  แต่มายุ่งกับการเมืองโดยไม่สมควรนี่ไม่ไหวนะ   ทำเป็นพระเวียตนามไปได้ ยังดีที่ไม่เผาตัวเองเหมือนพระเวียตนาม แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 14:20:29 จากคุณ : ReHeat - [ 7 ก.ย. 51 14:20:07 A:117.47.151.153 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 ด่าใคร มันก็บาปทั้งนั้นหล่ะครับ ยิ่งดู ASTV ด่า คนอย่างงั้น บาปหรือเปล่าครับ ? จากคุณ : Soul To Squeeze - [ 7 ก.ย. 51 14:21:17 A:58.136.76.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 25   ความคิดเห็นที่ 23   รูป จากคุณ : Sky คห.15    เค้าชื่ออะไรคะ... เมื่อก่อนเคยฟัง เค้าพูด เคยชอบนะคะ  พูดเก่ง น่าฟังดี... น่าเสียดาย กลายเป็นเครื่องมือกบฏ ไปซะแล้ว... จากคุณ : ริมคันนา    - [ 7 ก.ย. 51 14:01:43 A:124.121.123.247 X: ^ ^ ^ ชื่อนายจันทร์  ครับ จากคุณ : Sky ^ ^ ขอบคุณมากค่ะ.... จากคุณ : ริมคันนา - [ 7 ก.ย. 51 14:22:04 A:124.121.123.247 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ใครจะนับถือก็ตามสบาย แต่ผมไม่นับถือว่าเป็นพระ ถ้าสังคมยอมรับการกระทำแบบนี้อีกหน่อยคงจะมีกลุ่มลัทธิอะไรแปลกๆ มากมายตามความคิดความเชื่อที่จะจินตนาการไป แต่งกายแปลกไปตามต้องการเต็มบ้านเต็มเมือง จากคุณ : ไม่ได้โม้ - [ 7 ก.ย. 51 14:27:10 A:210.203.179.133 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 แถมให้อีกรูป... มันเท่ห์จังครับ.... จากคุณ : Sky - [ 7 ก.ย. 51 14:31:12 A:124.121.173.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ราชดำเนินเจ๋งจริงๆครับ แย้งกันด้วยเหตุผล ไม่เหมือนที่managerมีแต่สบถด่าเอามัน จากคุณ : ต๋อยเซมเบ้ - [ 7 ก.ย. 51 14:31:14 A:124.120.3.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 . จากคุณ : NightWolf - [ 7 ก.ย. 51 14:34:21 A:58.64.123.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 แล้วทำไมทางเถระสามาคมมีแถลงการณ์ออกมาว่าสันติอโศก...ไม่มีคุณสมบัติตามพระพุทธศาสนาล่ะครับ...ขนาดพระด้วยกันเองทานยังไมาเอาเลยครับ... จากคุณ : TUKsubaru - [ 7 ก.ย. 51 14:34:27 A:202.28.252.81 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 พวกเขา ไม่ใช่พระ สมเด็จพระสังฆราช และมหาเถรสมาคม สั่งสึกนานแล้ว ท่านที่ยังไม่ทราบรายละเอียด อ่านข้อมูลของท่าน SKY และท่านอื่นๆที่ผ่านมาข้างบนๆนั้นเถิืด แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 51 14:39:24 จากคุณ : พฤษภเสารี - [ 7 ก.ย. 51 14:38:22 A:125.25.141.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 . . ไม่ได้อ่านโพส จขกท หรอก แปะไว้ซะยืดยาว ไม่รู้ได้คำตอบไปหรือยัง จขกท อยากจะเป็น พระสังฆราช หรืออย่างไร มาบอกให้เรานับถือคนนั้นคนนี้ . . จากคุณ : Rights of Man - [ 7 ก.ย. 51 14:44:26 A:202.149.25.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 มันไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า จะเรียกมันว่าพระได้ยังไงเล่าครับ โถ้ๆๆๆๆ จากคุณ : kiamour - [ 7 ก.ย. 51 14:56:19 A:125.24.56.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 พระอะไรมานั่งประท้วง ผิดพระธรรมวินัย แล้วยังมาเรียกตนเองว่าพระ!! จากคุณ : Jarod - [ 7 ก.ย. 51 14:56:46 A:58.8.51.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 แถแบบไม่อายเลยวุ๊ย จากคุณ : kriengchai - [ 7 ก.ย. 51 14:57:39 A:58.26.41.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ลัทธิเทวทัคิ ใครเคยอ่านพระสูตรเกี่ยวกับพระเทวทัติต้องการจะเป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง จึงไปทูลขอให้พระพุทธเจ้าสละให้ โดยให้เหตุผลคล้าย ๆกับที่สันติพยายามจะบ่งชี้ว่าเประพฤติคร่งครัด เช่นไม่กินเนื้อสัตว์ ป็นต้น แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงเห็นด้วย ทรงตรัสทำนองว่า อย่าเลยเทวทัติ อย่าเลย สันติเองก็มีแนววความคิดอยากให้ประเทศดำเนินชีวิตแบบชาวสันติ จึงพยายามสร้างศรัทธา ด้วยการอวดอุตริที่ไม่มีในตน  ให้คนยอมสิโรราบ เพราะเห็นว่ายากที่พระบ้านจะทำได้ ก็อาจจะมีความคิดไปไกลกว่านั้น เรื่องการทำให้ลัทธิของสันติมีตัวตนในทางสังคมจริง ๆ แต่น่าเสียดาย สันติบิดเบือนคำสอนของพระพุทธองค์หลายอย่าง  แล้วก็ทำผิดวินัยสงฆ์อีกหลาย เช่นพระอรหันกลับชาติมาเกิดได้ ตัวเองเป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด ฯลฯ จากคุณ : รอน้องเจ้าน้อย - [ 7 ก.ย. 51 14:58:12 A:58.9.188.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 ฆ่าสันติอโศกไม่บาป  ฆ่าคอมมิวนิสไม่บาป  ฆ่าอวิชาตันหาอุปทานก็ไม่บาป แต่การให้การสนับสนุนพระชั่วๆ นั่นแหละบาปอย่างมหัน  จะพาคนและสัตย์ตกนรกเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น จากคุณ : knoy - [ 7 ก.ย. 51 14:58:51 A:117.47.46.57 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ๋อ......แพะนั่นเอง จากคุณ : kokoko12.2 - [ 7 ก.ย. 51 15:01:42 A:192.168.0.88 X:58.8.211.253 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เปิดใจ....แฟนพันธ์แท้   เรื่องนี้ผมติดตามมาแบบเคยกินมังสะวิรัติ จำได้เมื่อครั้งที่สันติอโศกโดนตัดสิน ให้แพ้...ตอนนั้น ทางชมรมฯหรือมูลนิธิฯก็ทำเสื้อยึดโลโก เป็นรูปโซ่ตรวนคล้องมือ แล้วมีอักษรคำว่า "อภัย"  เป็นเครื่องปลอบใจ  ตอนนั้นหัวมุมจตุจักร์ จะทำเป็นซุ้มขายมังสะวิรัติ   เครื่องหมายโซ่ กับ คำว่า "อภัย" แสดงให้เห็นถึง การแพ้เป็นพระ  หรือ เราจำต้องทน ถึงแพ้แต่ให้ยึด ปลอบใจว่าเป็นพระ สงบเสงี่ยมมาเรื่อย  เราก็เห็นว่าดีนะ เขาไม่ยุ่งกะทางโลก  แล้วก็เริ่มออกหนังสือ แจกบ้างขายบ้าง กระทั่งปี2535 พฤษภาทมิฬ เราก็ออกไปร่วมสู้ ร่วมต่อต้านเผด็จการ ที่ถนนราชดำเนิน  แม้จะเจ็บปวดกับคำว่า "จำลองพาคนไปตาย" เหมือนกะตาอนตานาทะเลาะกัน  ตาอยู่มาคว้าพุงไปกินเฉยเลย เราก็จำ ยอม  เพราะพรรคที่ชื่อว่า ปชป. บอกว่าควรจะทำตามกฎกติกาของบ้านเมือง ไม่ควรใช้ความรุนแรง  เป็นไง..ซึ้งใจเลย เจ็บแล้วต้องจำ  มิใช่ว่าต้องทำเพื่อใคร ครั้นพอมา..ปี2548 -2549 มหาจำลองพาคนออกมาประท้วง เอ้า..เรื่องภาษี เรื่องหุ้น แม้กระทั่งเรื่องเบียร์  แล้วก็ขนเอาพวกสันติอโศกมาพูดหน้าดำ คร่ำเครียด ผิดงานแล้วครับงานนี้ ในมุมมองของผม หากว่าจะประท้วงเรื่องมิให้หุ้นเบียร์เข้าตลาดด้วยถือว่าเป็นการมอมเมา อบายมุข  ผมก็บอกว่า..หากท่านเปลี่ยนมาเป็นการประท้วงห้ามผลิต ประท้วงโรงกลั่น ต้นตอเลยสิ ผมจะร่วมด้วย ๆถือว่าต่อต้านอบายมุขจริงๆ ก็แล้วทำไมปฏิวัติเสร็จได้เข้าไปนั่งเป็นสว. ทำไมไม่จัดการล่ะ ใครหนอที่บอกว่าควรจะเอาหุ้นเบียร์กลับมา เพราะขณะนี้ผลประโยชน์ไปเกิดกับต่างชาติ นี่ความเคลื่อนไหว ในขณะที่ คมช.บริหารอยู่ แล้วก็เรื่องหวยบนดินอีก  โอ๊ย..ยิ่งเรียนสูงยิ่งโง่  อะไรกันนักกันหนา ในเมื่อเห็นว่าผิดหวยหรือฉลากผิดกฎหมาย   ต้นตอครับ ปิดไปเลยกองสลาก  ไม่ต้องออกสลาก เรื่องจบ อย่างนี้ถือว่าต่อต้าน อบายมุขจริง เราก็เห็นด้วย  หากบอกว่าหวยบนดินผิด ก็ไม่อยากพูด หรอกว่า  เจ้ามือหวยใต้ดิน ที่ทำเป็นไขสือ ไม่รู้ไม่เห็น น่ะ ไม่ผิดหรือ เพราะฉะนั้น..วกเข้าเรื่องสันติอโศกต่อ  เมื่อออกมาร่วมประท้วงไล่ รัฐบาลทักษิณกระทั่งชนะ  แล้วคราวนี้ก็ออกมาร่วมประท้วงไล่ รัฐบาลสมัคร  ที่ผมก็ 1 คะแนน ให้พปช.ด้วยความจริงใจแห่งพลังเงียบ ระยะทางพิสูจน์ม้า  กาลเวลาพิสูจน์คน  ท่านจำลองบอกว่าเมื่อคราว ประท้วงพฤษภาทมิฬ  เป็นเพราะรัฐฯสร้างสถานการณ์ เหอ  เหอ ก็เมื่อเร็วๆนี้เจอแล้วคร๊าบบบ..หน้ากากเปิดออกมาแล้ว นายทหารเพื่อน ซี้บอกว่าเขาเองแหละที่ทำ  เพราะเพื่อจำลอง แล้วก็พรรคผู้ดีแตกน่ะ..ผมก็เอียนจริงๆ พอทักษิณโดนปฏิวัติ สมน้ำหน้า ดีใจกันใหญ่ พอทักษิษแค่เดินทางมาใกล้ประเทศไทย บอกว่าหากเห็นแก่ ความสงบในประเทศ ก็ไม่ควรเข้ามาในตอนนี้  พอเขาไม่มาก็บอกว่าให้ กลับ อะไรกันนักกันหนา   ดังนั้นกรณีสันติอโศกก็เช่นกัน  ตอนนี้ผมไปที่นครปฐม  หากเห็นจีวร สีคล้ำๆ ผมก็เฉยๆ   หากชนะในครั้งนี้ ผมสงสัยว่า คงต้องมีกฎหมายออกโดยพวกพ้องเพื่อ ปกป้องหรือแต่งให้เป็นฝ่ายควบคุมดูแล พระทั้งหลาย หรือเป็นใหญ่ในกรมการศาสนา เป็นแน่แท้... ความสันโดษ  แต่การกระทำที่ไม่สันโดษ ไหนล่ะ..ห่างไกลจากกิเลส ในเมื่อโมหะและโทสะยังมีอยู่ หากท่านจะพิจารณาใบไม้ใบหญ้าที่ปลิวในร่องสวนผัก พร้อมกับนึกถึงกฎไตรลักษณ์ ผมว่า ผมพอจะยกมือสาธุได้ ไม่ใช่ออกมาตะโกน "ออก ปายยย" คำว่าออกไป ควรจะเป็นสันติอโศก มากกว่า ให้สมกับคำว่าปลีกวิเวก   หรือท่านจะอ้างว่าเพื่อมาโปรดหมู่สัตว์  ด้วยบารมีแห่งโพธิสัตย์หรืออรหันต์ ก็ตามใจท่านนะ  หันซ้ายหันขวาน่ะสิ... จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 7 ก.ย. 51 15:05:50 A:58.9.16.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่ต้องทำงานก็มีกินมีใช้ตลอดชาติ ที่ไหนจะสบายเท่าสันติอโศก ที่นี่ คือมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ของแท้ คนที่เข้ามาตอบกระทู้ส่วนใหญ่ เป็นผู้มีความรอบรู้ มีหลักการ และเหตุผล จากคุณ : sahaimali (sahaimali) - [ 7 ก.ย. 51 15:07:45 A:222.123.40.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่นับถือ  แล้วก็จะเรียกว่า  เดียรถีย์  ต่อไป จากคุณ : รากเหง้า - [ 7 ก.ย. 51 15:08:59 A:222.123.52.69 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 พะ หรือ แพะ จากคุณ : hiawang - [ 7 ก.ย. 51 15:13:30 A:118.172.92.40 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่นับถือ ไม่ไหว้ ไม่กลัวว่าจะบาป จากคุณ : jintra - [ 7 ก.ย. 51 15:14:51 A:124.122.155.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่ใช่ยอมให้มีเมียได้อีกอย่างล่ะ จากคุณ : คุณต้องการใคร - [ 7 ก.ย. 51 15:27:51 A:58.8.83.152 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่ยึดถือกฎของสังคม ทำสังคมแตกแยก ไม่รักความวิเวก ชอบความวุ่นวาย นี่คือการปกครอง 70/30 (ยุคศิวิไลของศักดินาล้าหลังเสียงจริง) จากคุณ : อำแดงแจ๋ว - [ 7 ก.ย. 51 15:31:21 A:118.174.95.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 "โพธิรักษ์ ตามพระธรรมวินัยสามารถให้บวชพระได้ไหม" แบ่งเป็นสองกรณีครับ กรณีแรก พระในประเทศไทย นิกายหินยาน โดยพรบ. คณะสงฆ์ กับพระธรรมวินัย ทำไม่ได้ครับ เพราะ ขาดคุณสมบัติของผู้ให้อุปสมบท คือ เมื่อมีพรรษาไม่ครบกำหนดที่จะเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อ ๑. ผิด องค์ประกอบที่เหลือ ไม่ต้องถามถึง ไม่มีสิทธิครับ กรณีที่สอง ทำได้ โดยเป็นสมณะในรูปแบบของสันติอโศกเอง บัญญัติธรรมวินัย กฏระเบียบเอง อันนี้ทำได้ครับ ดังนั้น เขาเป็นสมณะในรูปแบบของเขา แต่ไม่ใช่"พระ"ในรูปแบบของ พุทธศาสนา ประจำชาติไทย บาปมั้ย ถ้าจะวิจารณ์ ก็แล้วแต่มุมมองครับ อย่างเช่น ถ้าจะตำหนิว่าเขาขาดจากความเป็นพระเพราะอวดอุตรมนุสธรรม ก็เท่ากับเรายอมรับว่าเขาเป็นพระมาก่อน ถ้าเขาไม่ได้เป็นพระ เพราะถูกคำสั่งให้หมดจากความเป็นพระแล้ว เขาจะอวดอย่างไร ก็เรื่องของเขาครับ จากคุณ : Zax. - [ 7 ก.ย. 51 15:43:59 A:76.167.114.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 โล้นซ่ากินข้าวเช้ายัง.. จากคุณ : Epicurean. - [ 7 ก.ย. 51 15:47:37 A:124.121.44.180 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 แต่ผมไม่ถือว่าเขาเป็นพระครับ พระอิงการเมืองใครอยากนับถือก็นับถือไป จากคุณ : Tarogril - [ 7 ก.ย. 51 15:57:39 A:124.121.182.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 ดูที่เจตนาและการกระทำครับ .. พวกนี้เขาเรียก " มารศาสนาครับ " แค่จุดเริ่มต้นมันก็ผิดแล้ว ... จากคุณ : aviruth - [ 7 ก.ย. 51 16:10:08 A:124.121.175.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64     ไอ้รักษ์ รักพงศ์       มีใครว่าไรมั้ย จากคุณ : ตี๋แกงป่า - [ 7 ก.ย. 51 16:27:30 A:124.120.164.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65   พะอันทวง   จากคุณ : ทิดโจ้ - [ 7 ก.ย. 51 16:33:34 A:58.9.39.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 มาตามคำเชิญ  ของ  คุณ chohokun  คุยกันฉันมิตรนะครับ ก่อนอื่นใจเย็นๆ ก่อนนะครับ    ผมไม่ใช่พวกพันธมิตร   ไม่เห็นด้วบกับพันธมิตร    ไม่ใช่สาวกสันติอโศก    ไม่เคยไปสันติอโศก เพียงแต่ผมก็มาคุยกันเรื่องศาสนาในห้องนั้น  เพราะบางรูปก็บวชถูกต้อง   เพราะเพื่อนผมคนหนึ่งแหละที่บวชจากข้างนอกแล้วเข้าไปอยู่ในนั้น  จึงบอกว่าพระสันติอโศกนี่ เราจะไปฟันธงว่าไม่ใช่พระคงไม่ได้ แต่เรื่องยุ่งการเมืองโดยเฉพาะไปร่วมกับพันธมิตรนี่    คงไม่ไหว   ไม่สนับสนุน ผมกับเพื่อน(บวชพระไปแล้ว) ก็เถียงกันหน้าดำหน้าแดง  เรื่องแนวทางของสันติอโศก   และผมจะโดนท่าไม้ตาย  ที่เพื่อนผมชอบงัดมาใช้ เวลาหลักฐาน  สู้ไม่ได้  คือ  ท่านพ่อรู้ด้วยฌาน  คุณไม่มีฌาน  จะจบที่ตรงนี้เสมอ  ผมก็ไม่ถือสาเพราะ  ท่านเป็นพระเถียงไปมากๆ   ก็ดูจะไม่ดี ปัญหาที่ คุณ chohokun  บอกว่า  โพธิรักษ์บวชพระให้ตอนไม่ถึง 10 พรรษา  นี่     เราไม่สามารถมีตัวกำหนดที่แน่นอนว่า  ท่านบวชให้พระรูปแรก  นี่ พ.ศ.  ใด    ที่ผมบอกนี่คือ   ผมก็ฟังมาจากเพื่อนที่เข้าไปอยู่ในนั้น  และเราก็คุยกันเรื่องนี้   เขาก็บอกมาว่าพรรษาท่านถึง   เพราะไม่เคยมีเอกสาร  หรือมีแต่ผมไม่เคยเจอ   ถ้าคุณ chohokun   สามารถหาได้   ผมก็ขอขอบคุณ  ผมจะได้ไปบอกเพื่อนอีกทีว่า   คุณเข้าใจมาผิด  เพราะบวชครั้งที่ 2 ปี  2518 ถูกคำสั่งให้สึก  ปี2532   ก็เท่ากับ 14 พรรษา    นะครับ     นี่คือหลักฐานว่าที่คุณบอกให้ผมยืนยันว่าโพธิรักษ์เป็นนักบวช  ก่อนหน้าปี  2532  นั้นเป็นนักบวช ถ้าหลังจากนั้น  ผมไม่ทราบ ส่วนถ้าจะแย้งว่าเขาอวดอุตตริมนุสสธรรม  ปราชิกไปแล้ว    ข้อนี้ก็ยกเว้นให้สำหรับคนเข้าใจผิด  ว่าตัวเองเป็น  หรือได้   เพราะโพธิรักษ์เข้าใจว่าได้บรรลุจริง   แต่บรรลุหรือเปล่าก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน    ดังที่เพื่อนในนี้  ยกข้อความมา  ซึ่งเมื่อก่อนผมเอาไปล้อเพื่อนประจำ   แปลกจัง  บรรลุตอนฉี่ อีกอย่างที่คุณพูดเรื่องการบวชนั้น  ผมได้ทราบว่าเขาก็ไม่ได้บวชแบบนั้นทุกคน   แต่มีแบบที่คุณว่าจริง   เรื่องการตีความแบบประหลาดๆ  ก็จริง   ที่ผมบอกในห้องโน้น  เพื่อจะบอกเพียงว่า  พระของสันติอโศก  ไม่ได้บวชกับโพธิรักษ์ ทุกคนครับ    และเราก็ไม่ทราบรายละเอียดของแต่ละรูป  ผมจึงติงๆ  ว่า   อย่าไปบอกว่าไม่ใช่พระแค่นั้น เพราะเพื่อนผมก็เป็นรูปหนึ่ง ที่บวชจากข้างนอก  ผมเคยถามเพื่อนว่าศรัทธามาก ทำไมไม่ไปบวชกับโพธิรักษ์   เพื่อนเขาบอกบวชยาก  บวชข้างนอกง่ายกว่า ที่เข้ามาที่นี่เพราะเห็นกระทู้นี้โผ่ลที่ห้องศาสนา  และมีผมด้วย จริงๆ  ผมไม่จริงจัง  กับคำว่า   สันติอโศกจะใช่ หรือไม่ใช่  พระ    เพราะไม่ค่อยได้สนใจ     แต่ที่มาบอกเพราะผมเห็นและรู้  จึงเพียงมาบอกว่าอย่าเพิ่งฟันธง  เพราะคนที่เรารู้จักเขาก็บวชถูกต้อง ขอแจ้งให้ทุกคนทราบด้วยความเคารพแค่นี้ครับ ปล.  คุณ chohokun   ครับ  ผมไม่มีเจตนา อ้างหลักพุทธศาสนาให้ผิด  มีแต่ความปรารถนาดี  ต่อทุกคนครับ จากคุณ : ไกลมาก - [ 7 ก.ย. 51 16:34:10 A:202.149.25.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 67 ถ้าสันติอโศกผิดเพราะมายุ่งกับการเมือง พวกนี้ก็ผิดด้วยครับ เพราะมาขึ้นเวทีประท้วงพันธมิตร จับสึกให้หมดเลยครับ อย่าอ้างว่าปกป้องศาสนา ทำตัวแบบนี้เค้าเรียกทำลายครับ จากคุณ : นีละปอย~* - [ 7 ก.ย. 51 16:35:20 A:61.19.65.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 ดูเหมือนว่า...จะมีผู้รู้เรื่องศาสนามากมายจริงๆนะ ครับกระทู้นี้ สาธุ...สาธุ....ท่านผู้เชี่ยวชาญทุกๆ ท่าน จากคุณ : วิญาณเร่ร่อน - [ 7 ก.ย. 51 16:37:33 A:124.122.205.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 ดูในรูปชาวสันติอโศกที่ลง  ยังไม่เห็นเพื่อนผม   ถ้าใครเจอ  อ้วนๆ  ดำๆ  ช่วยบอกให้ออกมาเถอะ   อย่าไปชุมนุมกับเขาเลย ว่าแต่เมื่อไร  จะเลิกนะพวกนี้   น้องผมจะได้มาพักซักที (เป็นทหาร)   เห็นไปตรึงกำลังกันหลายวันแล้ว จากคุณ : ไกลมาก - [ 7 ก.ย. 51 16:43:43 A:202.149.25.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 ผมต้องขอโทษคุณ ไกลมากด้วยที่ทำให้เดือดร้อน ผมตั้งกระทู้นี้มาเพื่อเจตนา แค่อยากโพสเตือนเท่านั้น ไม่ได้สั่งให้ใครศรัทธาไม่ศรัทธา ไม่เชื่อไม่เป็นไรครับ กรรมใครกรรมมัน จากคุณ : Angleevil - [ 7 ก.ย. 51 17:11:05 A:124.121.65.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 เถระ สมาคม ไม่ยอมรับมิใช่หรือ จากคุณ : คนไทยต้องรักกัน (gammy) - [ 7 ก.ย. 51 17:21:41 A:58.8.181.79 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่เป็นไรครับ    คุณ Angleevil    สบาย ๆ  ครับ    ไม่ถือว่าเดือดร้อน เออผมอยากให้ทุกคนที่เข้ามาในนี้สังเกตุ  พระในภาพถ่ายของ  ความเห็นที่ 11 จะเห็นแบบที่ผมบอก  คือ   เขาไม่ได้ห่มแบบ  สมณะ  แต่ห่มแบบพระทั่วๆไป  สังเกตุมีลูกบวม ที่ไหล่   ในภาพพระทั้ง  3  รูป  จะห่มต่างจากคนที่อยู่หน้าสุด ผมจึงบอกว่า  มีพระที่บวชที่อื่น  ไปร่วมแจมด้วย จากคุณ : ไกลมาก - [ 7 ก.ย. 51 17:26:50 A:202.149.25.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 ช่างหัวมัน คนละศาสนา จากคุณ : Altier - [ 7 ก.ย. 51 17:58:50 A:58.8.92.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นด้วยกับประโยคที่ว่า " กรรมใคร....กรรมมัน " ผมเห็นมานานพอสมควรแล้ว กับผู้ที่มักกล่าวว่า รู้ซึ้งถึงพระพุทธศาสนา มีปัญญามากพอที่รู้จักแยกแยะว่า ใครใช่หรือไม่ใช่พระ แต่กลับไม่สามารถเห็นทิฐิของตนที่มีอยู่ ลำพังการการกล่าวร้าย เสียดสี ด่าทอ ผู้อื่น ก็ไม่ใช่วิสัยของผู้ประพฤติ ปฎิบัติธรรม อยู่แล้ว มิว่าผู้ที่เรากำลังกล่าวถึงจะเป็นใครก็ตาม หากยังมีกิเลสจับอยู่เต็มตัว มีความขุ่นมัวเป็นที่ตั้ง ลองพิจารณาดูอีกทีนะครับว่า เราจะสมอ้างว่า รู้และเข้าใจในพระธรรมคำสอนจริงแล้วหรือ หรือเพียงเพื่อยกฐานะความน่าเชื่อถือ ในการพาดพิงผู้ที่เราไม่ชอบเท่านั้น จากคุณ : วิญาณเร่ร่อน - [ 7 ก.ย. 51 18:12:17 A:124.122.205.218 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ครับ จะเชื่อว่าเป็นพระตามใจเจ้าของกระทู้ แต่ตามไทยพุทธศาสนา ไม่นับว่าใช่ การที่พระสงฆ์ที่ได้รับการอุปสมบทถูกต้องจากวัดอื่นๆ ไปร่วมก็ถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของท่าน ผมไม่อาจระบุว่าท่านเห็นถูกหรือเห็นผิด แต่หากว่าตามกฏพระธรรมวินัย แม้แต่พระพุทธเจ้ายังไม่ส่งเสริมให้ สอง นิกายเข้าทำสังฆกรรมร่วมกัน ถือว่าเป็นโมฆะ ดังนั้น แค่บอกได้ว่าทุกอย่างที่สันติอโศก และกล่าวอ้างว่าเป็นการกระทำของศาสนาพุทธอย่างแท้จริง เป็นโมฆะครับ ได้แต่รูป แต่คุณสมบัติไม่ได้ จากคุณ : Zax. - [ 7 ก.ย. 51 18:45:20 A:76.167.114.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ตกลง พระ คืออะไรครับ งง มากครับ ใครตอบได้ มั้งครับ ว่า มีอะไรบ้างถึงเรียก พระ ใน บวรพุทธศาสนา ครับ เอา แบบ 1 2 3 4 ฯลฯ เลยนะครับ จากคุณ : a235 - [ 7 ก.ย. 51 19:27:30 A:125.27.245.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 77 ที่มหาเถระสมาคมไม่ไปจับสึก เพราะเค้าไม่ถือว่าคนกลุ่มนี้เป็นพระตั้งแต่แรกอยู่แล้วไง จากคุณ : เทเลทับขี้ - [ 7 ก.ย. 51 19:45:02 A:124.121.224.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 เรื่องของหลักฐานว่า โพธิรักษ์บวชให้คนๆแรกเป็นสมณะ หรือนักบวชในแบบสันติอโศกเมื่อไหร่ ตอนพรรษาถึง 10 หรือยังนั้น ผมอาจจะมีปัญหาเรื่องหลักฐานว่า ครั้งแรกที่บวชให้คนเป็นสมณะนั้น เขามีพรรษาเท่าไหร่ พ.ศ.อะไร แต่เท่าที่ค้นคว้ามา อยู่ในราวๆ ก่อนพ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่พรรษายังไม่ถึง10 ถึงคุณไกลมาก ผมอาจจะใช้คำที่สื่อความหมายผิด ที่บอกว่าให้คุณช่วยหาหลักฐานการเป็นนักบวชของโพธิรักษ์ จริงๆผมต้องการจะให้หา "หลักฐานที่บ่งบอกได้ว่า  เขาเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา"  น่ะครับ... เรื่องนี้ต้องขออภัย จากคุณ : chohokun - [ 7 ก.ย. 51 20:36:20 A:58.9.48.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่ใช่พระในศาสนาพุธแน่นอน จากคุณ : BOHEMIAN - [ 7 ก.ย. 51 21:22:46 A:202.149.24.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 ไปดู รายละเอียด เจ้าลัทธิสันติอโศก กันครับ จากคุณ : Zatan - [ 7 ก.ย. 51 21:48:29 A:58.64.113.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 ศาสนาพุทธ จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! - [ 7 ก.ย. 51 21:52:32 A:58.147.45.173 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 โกนหัว โกนคิ้ว ห่มเหลืองใช่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ พระสงฆ์ที่มีหน้าที่เผยแผ่คำสอนของพระพุทธเจ้า ประพฤติตัวให้อยู่ในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นพระทำไมไม่อยู่วัด ไม่ปฏิบัติธรรม ปลอมเป็นพระ นรกจะกินหัว จากคุณ : น้องโม่กาแมว - [ 7 ก.ย. 51 22:28:09 A:58.64.67.157 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณ chohokun  ถามว่า    จริงๆผมต้องการจะให้หา "หลักฐานที่บ่งบอกได้ว่า  เขาเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา"   ก็ เถรสมาคม  ใช้พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในการจัดการกับ  โพธิรักษ์  ก็แสดงว่ายอมรับเขาอยู่แล้วว่า  ก่อน  พ.ศ.  2532  เขาเป็นพระในพระพุทธศาสนา  เพราะพระราชบัญญัติคณะสงฆ์  ใช้กับพระ   ถ้าฆราวาส  ก็ต้องใช้กฏหมายฉบับอื่นๆ  และถ้าเขาไม่ใช่พระต้องไปแจ้งตำรวจทำสำนวนส่งไปอัยการ   เถรสมาคมคงไม่มาประชุมกันหรอกครับ   อีกอย่างหลังปี  27    โพธิรักษ์  ก็มีพรรษา 10  ช่วงนี้  ถ้าบวชได้ตั้งหลายรูปแล้วนะครับ   ก่อนจะมาโดน  ให้สึกปี  32      4  ปี    นี่ถ้าบวชแค่เดือนละรูป    ก็ปาเข้าไป  48  รูป    แล้วนะครับ นี่คือความหมายที่ผมสื่อถึงในห้องศาสนา นะครับ   คือมีบางส่วนที่บวชถูกต้อง  และมีบางส่วน  ที่ไม่ถูกต้อง    ไม่ได้หมายถึงทุกคน  บวชถูกหมด   คุณลองพิจารณาเนื้อความผมอีกที จริงๆ  ผมก็ งง  นะครับ  ว่า  ลูกศิษย์เขาทำไม  ถึงไม่แอะใจ   เพราะแนวทางเขา  เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด    เขามีชั่วโมง  โลกวิทู   ด้วย  คือ เอาหนังมานั่งดูกัน  แล้ววิเคราะห์กัน  บอกเพื่อรู้แจ้งโลก    ผมฟังจากเพื่อนยังรับไม่ได้เลย  มีแบบนี้ด้วย  งงๆ   กับสำนักฯนี้ ส่วนใครจะมีความรู้สึกว่าใช่  หรือไม่ใช่พระ  ก็ตามแต่ละท่านครับ    ทุกคนสามารถคิดได้   อีกอย่างคุณมีความรู้ทางพุทธศาสนา  ก็คงทราบว่า  ถ้า  สมบัติในการอุปสมบทครบ  ๕  อย่าง  ถูกต้อง   แม้อุปัชฌาชย์  ที่บวชให้เป็นปราชิก   คนนั้น  ยังเป็นพระเลย   ถ้าเขาไม่เปล่งวาจา กับประกอบด้วยใจที่คิดจะลาสิกขา   ในโลกนี้ก็ไม่มีใคร  ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้   ถึงแม้จะมีคนเอาปืนมาจ่อหัวให้พูด  ถ้าใจไม่คิดนี่  ก็ไม่ถือว่าลาสิกขา  จริงไหม   ลองไปอ่านดูใน  วินัยปิฏก  เรื่องการลาสิกขาได้ ผมคงไม่ต้องทำลิงค์ให้นะครับ  คงทราบอยู่แล้ว   แต่ยังไงก็แล้วแต่  เถรสมาคม  ท่านก็ประกาศไปแล้ว   ก็คงต้องเป็นตามนั้นครับ   รูปที่ลงก็สามารถพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่งว่า  พระที่อยู่ในกลุ่มสันติอโศก   บวชมาจากที่อื่นก็มี ผมมาที่ห้องนี้  ตามคำขอของคุณ เท่านั้น  ครับ   คนไทยรักกันนะครับ จากคุณ : ไกลมาก - [ 7 ก.ย. 51 22:50:18 A:202.149.24.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 85 ส่วนตัวผมก็ไม่ด่านะครับ ก็เหมือนกับว่า ผมคงไม่ด่าหลวงพ่อของศาสนคริสต์หรือพระจีน หรือนิกายอื่นเหมือนกัน ส่วนเรื่องที่บอกว่าไม่ใช่พระ เพราะ ทำผิดพระธรรมวินัย เช่น อวดอุตริฯ อันนี้ผมเห็นด้วย   แต่พวกท่านก็ยอมรับไปแล้วนี่ครับ พวกท่านถึงเรียกตัวเองกันว่าสมณะ ส่วนเรื่องความคิดเห็นทางการเมือง  ก็ไม่เห็นด้วยกับพวกท่านๆ เท่านั้นครับ ไม่ได้โกรธเกลียดอะไร จริงๆ พวกท่านก็คือผู้ทรงศีล ที่ปฎิบัติเคร่งมากนะครับ เพียงแต่ว่าไม่ใช่แนวทางแบบพุทธแบบที่เราคุ้นเคย  แต่เป็นพุทธแบบที่พวกท่านตีความและเข้าใจกันเอาเอง กลายเป็นอีกนิกายไป  ข้อดีของสมณะนี้คือ สมถะครับ และพึ่งพาตัวเองได้เป็นชุมชน และยังยึดแนวทางให้คนทำดีนะ เพียงแต่ว่าเรื่องทางการเมืองอาจเป็นเรื่องที่คิดเห็นไม่เหมือนกันได้ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 04:42:35 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 51 04:40:37 จากคุณ : seven-elephant - [ 8 ก.ย. 51 04:36:34 A:117.47.247.102 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่ติดที่ว่า ด่าใคร แต่บุคคล หรือ สมณะ ใดๆ ที่ตั้งใจถือศีล จะ 5 ก็ดี จะ  8 ก็ดี หรือ ศีล 227 ตามแบบระสาวกก็ดี โดยไม่ได้บวชหรือได้บวชก็ดี คนที่ทำร้ายผู้ยึดมั่นในศีลทั้งทางใจก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางกายก็ดี ย่อมได้รับผลกลับคืนมากกว่า คนทั่วไปนัก ดังนั้นถ้าถามว่า คนที่กระทำใดๆทั้งดี ทั้งไม่ดี กับ ผู้บรรลุโสดาบันที่เป็นฆาราวาศ กับ ผู้บรรลุโสดาบัน ที่เป็น สงฆ์ ต่างกันยังไง... ผมไม่ได้ยึดถือสันติอโศก นะครับ ผมยึดแนวทางของพระพุทธเจ้า จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 8 ก.ย. 51 08:36:42 A:161.200.255.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 ยังไม่มีใครให้คำตอบผมในเรื่องนี้เลยครับ หรือสันติอโศกผิดที่อยู่ฝั่งพันธมิตร ถ้าสันติอโศกอยู่ฝั่งรัฐบาลจะไม่ผิดครับ จากคุณ : นีละปอย~* - [ 8 ก.ย. 51 10:30:16 A:61.19.65.85 X: ]

ความคิดเห็นที่ 88 ไอ้หนุ่มข้างบนเอ้ย.... เค้าคุยกันเรื่อง สันติอโศกเป็นพระหรือเปล่า และชาวพุทธควรนับถือหรือไม่ เอ็งอย่าเกรียน ส่วนเรื่องพระกับการเมือง ไปดูพม่าเป็นตัวอย่างนะเอ็ง จากคุณ : PLUTONIUM - [ 8 ก.ย. 51 12:52:34 A:119.42.72.55 X: ]

ความคิดเห็นที่ 89 ถ้าอย่างนี้ใครก็เป็นพระไปหมดซีครับ นึกจะบวชใครก็บวช ไม่สั่งสอนพระธรรมวินัยตามพระไตรปิฎก ไม่อยู่วัด แล้วเป็นพระสายไหนหรือครับ การจะเป็นพระนั้นอันดับแรกคือถือนิสสัยจากพระอุปัชฌาย์ ครับท่านจะสอนการครองตนให้ถูกพระวินัย ว่างๆลองไปหาหนังสือวิธีสร้างบุญบารมี ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช มาอ่านบ้างนะครับแล้วจะเข้าใจว่าการรู้ว่าพระสงฆ์ที่ควรจะทำบุญด้วยมีลักษณะอย่างไรแค่นี้ก็เป็นบุญแก่ตนเองแล้วละครับ จากคุณ : ลุงน้อยลำปาง - [ 8 ก.ย. 51 16:40:15 A:118.174.123.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 คห.88 ที่นี่ประเทศไทยครับ (อย่าหลง!!!) เมืองที่(บอกว่า)เป็นประชาธิปไตย และอ่านดูแล้ว แต่ละความเห็นส่วนใหญ่ ต่างบอกว่าสันติอโศกผิดที่เข้ามายุ่งกับการเมือง ส่วนเรื่องสันติอโศกเป็นพระหรือไม่นั้น ท่าน จขกท. ได้ชี้แจงไว้แล้ว แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน อย่างน้อยเค้าก็ยังถือว่าเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนา หรือแม้แต่เค้าจะเป็นนักบวชนอกศาสนา พระพุทธองค์ก็ไม่ได้ตรัสว่าเป็นเรื่องผิด และยังอนุญาตให้อุปถัมป์ได้ด้วยซ้ำไป ส่วนพระกลุ่มในรูปนี้ เป็นพระในพระพุทธศาสนาชัวร์ๆ แต่ทำตัวไม่ต่างสันติอโศกเลยครับ จากคุณ : นีละปอย~* - [ 8 ก.ย. 51 17:04:29 A:61.19.65.199 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 จาก คห 66 ที่ บอกว่า สันติอโศก บวช ยาก บวช ข้างนอก ง่ายกว่า หมายความว่าไงครับ ที่ยาก ยาก อย่างไร ที่ง่าย ง่ายอย่างไร เมื่อ สันติอโศก เลือกคนที่จะมาร่วม แล้ว ทำไม พอเป็น พระ แล้วไม่เลือก หรือครับ งง มากๆ จากคุณ : a235 - [ 8 ก.ย. 51 18:53:32 A:125.27.247.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผม จาก คห 66  ตอบคุณ  a235 คือที่ว่าบวชยาก  ก็อย่างที่มีผู้โพส  ให้ทราบว่า    ต้องมีการขอความเห็นชอบว่าคนนี้ผ่านไหม  ที่จะมาบวชที่นี่    คือต้องดูกันก่อนไม่ใช่อยากบวชก็บวช   ระยะเวลาที่ดู  นี่ไม่ทราบชัด  เพราะไม่เคยถามเพื่อน  ว่าดูกันเป็นเดือน  หรือปี  และรายละเอียดผมไม่ทราบชัด   เพราะไม่เคยสนใจ นี่คือที่บอกว่าบวชยาก ที่ว่าบวชข้างนอกง่าย  ก็คุณอยากบวชก็ไปหาวัดที่มีอุปัชฌาชย์  บอกจะบวชวันไหน  บอกวันนี้   อีก 5 วันบวช   ก็ยังได้ นี่คือที่บอกบวชง่ายครับ แต่ถ้าบวชข้างนอกแล้ว เข้าไปอยู่  เขาก็ถือเป็นอาตันตุกะ  คือผู้ไปเยือน  แต่บางคนเช่นเพื่อนผมก็ไปอยู่นานๆ  เขาก็ไม่ว่าอะไร จากคุณ : ไกลมาก - [ 8 ก.ย. 51 22:30:17 A:202.149.25.225 X: ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณไกลมาก... ไม่ทราบคุณเคยบวชหรือไม่นะครับ การบวชในสมัยนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนนะครับ เอาเป็นว่า ผมเล่าจากประสบการณ์ละกัน ก่อนอื่นต้องไปขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐ(เท่านั้นด้วยนะ) ที่ระบุว่าไม่ได้เป็นโรคติดต่อทุกชนิด ไม่ได้ติดยาเสพติด ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ ไม่ได้เป็นคนพิการที่จะบวชไปแล้วเป็นภาระกับคนอื่น แล้วไปปรึกษาคนในครอบครัว (พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก เมีย) ว่าจะให้บวชหรือไม่ แล้วพากันไปที่วัดที่ต้องการบวช ติดต่อเจ้าอาวาส ทางวัดจะจัดหาอุปัชฌาย์ให้ บางทีท่านเจ้าอาวาสก็เป็นอุปัชฌาย์ให้เอง กรณีของผม ท่านเจ้าอาวาสเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นอุปัชฌาย์ได้ไม่ทันข้ามคืน ผมก็ได้มาฉลองตำแหน่งท่านเป็นคนแรกที่ได้บวชกับท่านในวันที่ท่านได้รับการแต่งตั้งนั่นเอง (ตอนที่ผมไปขอบวช ท่านขอใบรับรองแพทย์ด้วย เห็นท่านบอกว่า ต้องทำตามกฎหมาย) ถ้าคนในครอบครัวของคุณไม่ให้บวช คุณจะดื้อไปบวชเองไม่ได้นะครับ เพราะอุปัชฌาญ์จะถามว่าคนในครอบครัวอนุญาตหรือยัง ถ้ายังท่านก็บวชให้ไม่ได้ หรือ ถ้าคุณโกหกเพื่อให้ได้บวช คุณก็มีบาปติดตัว... บางวัด..ก่อนจะบวชต้องมาฝึกตัวก่อน โดยอยู่วัดนุ่งขาว ถือศีลแปด เป็นระยะเวลา 1 - 3 เดือนแล้วแต่วัด จึงจะขอบวชได้ แต่การบวชแบบสันติอโศกเนี่ย...มันง่ายไปมั้ง จากคุณ : ทัชชี่ - [ 12 ก.ย. 51 03:49:38 A:202.91.18.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 เถียงกันมา 20 ปีแล้วครับเรื่องนี้ แนะนำให้หาหนังสือ ทางออกของสังคมไทย กับ กรณีสันติอโศก ของพระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต) มาอ่านนะครับ ถ้าหาไม่ได้ให้ไปที่หอสมุดวัดญาณเวศกวัน แถวพุทธมณฑลสาย4 http://118.175.68.30/wat/map.htm แล้วจะกระจ่างเองครับ จากคุณ : ทิดมีน (mean2523) - [ 17 ก.ย. 51 12:26:33 A:61.7.186.38 X: ]