ความจริงของการเมืองไทย
การเมืองไทยที่มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้เพราะ มีการบิดเบือนระบอบการปกครองของระบอบประชาธิปไตยให้ผิดเพี้ยนไปจากหลักการประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกต้องตรงไปตรงมาไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน อย่างเช่นประเทศอังกฤษ ที่เป็นแม่แบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของไทย เขามีกฎหมายระเบียบการปกครองที่เรียกว่า รัฐธรรมนูญเพียง 7 ข้อเท่านั้น การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นมีหลักการที่สำคัญ คือความเสมอภาคเท่าเทียมกัน มีหลักประกันในสิทธิเสรีภาพของแต่ละบุคคล เป็นการปกครองที่ให้ "อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชน" ซึ่งหมายถึงประชาชนทั้งประเทศ คือ "โดยประชาชน และเพื่อประชาชน"
โดยทั่วไปแล้วมีการแบ่งอำนาจการปกครองออกเป็น 3 อำนาจคือ
1.อำนาจบริหาร 2.อำนาจตุลาการ 3.อำนาจนิติบัญญัติ
ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้อำนาจการปกครองเหล่านี้ได้ จะต้องได้รับการมอบอำนาจจากประชาชนเสียก่อน จึงจะมีอำนาจตามหลักการของระบอบประชาธิปไตย
ผู้ที่จะเข้าไปใช้อำนาจต่างๆเหล่านี้จึงจำเป็นต้องผ่านการเลือกตั้งทุกคนไม่เช่นนั้นแล้วเราจะถือได้ว่า บุคคลเหล่านั้น ใช้อำนาจเผด็จการ เป็นการโกงอำนาจของประชาชน เช่น สว.ที่มาจากการสรรหาในปัจจุบัน ซึ่งประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจไม่ได้มอบอำนาจให้ สว.เหล่านั้นเลย
เมื่อเราได้ตัวแทนครบถ้วนแล้ว ตัวแทนเหล่านี้จะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการปกครอง หรือเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเต็ม มีอำนาจเต็มตามหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อำนาจทั้งหมดจะอยู่ที่ตัวแทนเหล่านี้อย่างเต็มที่ คือ อำนาจบริหาร และอำนาจนิติบัญญัติ
ส่วนอำนาจตุลาการ หรือศาล ก็ต้องมาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นการเลือกตั้งโดยรัฐสภา หรือ เลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน บุคคลเหล่านั้นถึงจะมีอำนาจในการตัดสินอรรถคดีต่างๆได้
การปกครองระบบประชาธิปไตยให้อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศรวมอยู่ที่ รัฐสภา ในรัฐสภาซึ่งประกอบไปด้วย สส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล ในการประชุมจะมีการลงมติในกรณีที่ความเห็นต่างกัน โดยยึดถือมติของเสียงข้างมากเป็นหลัก
สาเหตุของปัญหาของการปกครองไทยคือ
เป็นการปกครองที่ปราศจากรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย เพราะรัฐธรรมนูญต้องมาจากประชาชนหรือตัวแทนของปวงชนเท่านั้น หากมาจากทางอื่นจะเรียกว่ารัฐธรรมนูญการปกครองไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นกฎหมายที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มันคือกฎข้อบังคับของขบถ เรียกให้ชัดเจนและถูกต้องก็คือ กฎข้อบังคับของขบถปล้นชาติ (กบช.50) ที่เขานำมาบังคับให้ประชาชนใช้โดยใช้ชื่อว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งมันเป็นการแอบอ้างหรือโฆษณาชวนเชื่อทั้งสิ้น
รัฐธรมนูญของประเทศอังกฤษที่เป็นแม่แบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยมีเพียง 7 ข้อ แต่ กฎข้อบังคับของกบถปล้นชาติ(กบช.50)ของไทยมีมากถึง 309 ข้อ ซึ่งยังไม่รวมข้อย่อยอีกมากมาย อย่าลืมว่ายิ่งมีกฎข้อบังคับมากเท่าใดก็ยิ่งมีการลิดรอนสิทธิของประชาชนมากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญคือ กฎของกบถ(กบช.50) ยังทำให้ผู้มีอำนาจนอกระบบสามารถบังคับ ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบประชาชน และผู้แทนปวงชนได้ตามใจชอบ จึงเป็นภัยที่ร้ายแรงต่อการปกครองของประเทศในขณะนี้ โดยที่มันมีกฎข้อบังคับประชาชนมากมายหลายข้อกว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยมีมาในโลก
ด้วยพิษร้ายของกฎข้อบังคับของกบถปล้นชาติ(กบช.50) ทำให้รัฐบาลสมัครต้องประสบปัญหารุนแรงในทุกๆด้าน การทำงานของรัฐบาลติดขัดไปหมด รัฐบาลขาดเสถียรภาพ รัฐมนตรีต้องถูกปรับถูกปลด และลาออกอย่างต่อเนื่อง การใช้อำนาจในการปกครองทั้ง 3 อำนาจติดขัดไปหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีจุดประสงค์ที่จะสร้างการเมืองแบบเผด็จการ โดยให้อำนาจการปกครองอยู่ที่คนเพียงกลุ่มเดียว สูตร 70/30 คือ ในส่วนของ 70% มาจากการแต่งตั้งของพวกเผด็จการ ส่วนที่เหลือ 30% ให้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งเป็นเพียงการเอาส่วนที่มีการเลือกตั้งมาบังหน้าเท่านั้น เพราะเมื่อมีการออกเสียงลงมติเรื่องต่างๆ ข้างที่มาจากการเลือกตั้งก็ต้องแพ้วันยังค่ำ ไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งไปทำไม ถ้าไม่ใช่เป็นเพียงการหลอกลวงประชาชนอีกตามเคย การเสนอสูตรการเมืองแบบนี้มันเข้าข่ายต้องการล้มล้างระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ดังนั้นคนที่ไปร่วมชุมนุมกับพวกพันธมิตรจึงต้องรู้สำนึกว่าตนเองกำลังกระทำการสนับสนุนให้มีการล้มล้างระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย ถ้าถือตามหลักกฎหมายแล้ว จะมีโทษขั้นต่ำถึงจำคุกตลอดชีวิต
ทำไมพวกเผด็จการและกลุ่มอิทธิพลจึงต้องทำลายระบอบประชาธิปไตย
ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ประชาชนเริ่มมีโอกาสมากขึ้น รัฐบาลทักษิณ ได้ดำเนินนโยบายต่างๆเพื่อบรรเทาทุกข์บำรุงสุข ตามนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ เหมือนๆกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในนานาอารยประเทศทั่วไป คือต้องทำงานเอาใจเจ้าของอำนาจหรือเอาใจประชาชนนั่นเอง รัฐบาลทักษิณ 1 จึงเป็นรัฐบาลที่ เป็นขวัญใจของประชาชนในช่วงนั้น จนได้รับการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศอีกเป็นสมัยที่ 2 แบบขาดลอยสามารถตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวได้ และรัฐบาลทักษิณก็ได้เดินหน้าสร้างผลงานต่อไปอย่างไม่ลดละ ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างขยันขันแข็ง รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จำเป็นต้องทำงานเพื่อเอาใจประชาชน เพื่อหาคะแนนเสียง นี่คือข้อดีของการปกครองระบอบประชาธิปไตย คือ ผู้แทนจะต้องแข่งกันทำความดี เพื่อเรียกความนิยมจากประชาชน ใครมีความสามารถอะไรก็ต้องแสดงความสามารถให้ประชาชนได้เห็นอย่างเต็มที่ เพราะการที่จะไปซื้อเสียงเหมือนในอดีตนั้น มันชักจะไม่ได้ผลแล้ว ประชาชนเริ่มมองที่ผลงาน หากทำดีมีผลงานเหมือนพรรคไทยรักไทย ประชาชนเขาเลือกเองโดยไม่ต้องซื้อเสียง
นโยบายต่างๆของรัฐบาลทักษิณได้ไปทำลายธุรกิจนอกกฎหมายของกลุ่มอิทธิพล สร้างความโกรธแค้นแก่พวกมันอย่างหนัก ถึงกับมีวางแผนการลอบสังหารนายกฯทักษิณหลายครั้ง เช่นเรื่องระเบิดเครื่องบินและคาร์บอมบ์ เป็นต้น
เช่น เรื่องหวยบนดิน ที่ได้ทำให้ธุรกิจหวยใต้ดินของพวกกลุ่มอิทธิพลที่ทำกันมานานหลายสิบปี พังพินาศเสียหายยับเยิน พวกธุรกิจผิดกฎหมายจึงสมคบกับพวกเผด็จการ ลงขันทุ่มทุนมาจัดฉากจัดตั้งมวลชน สร้างกระแสความรุนแรงให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ โดยมุ่งทำลายและโจมตีรัฐบาลทักษิณอย่างหนัก มีการตั้งคณะทำงาน วางแผนโค่นรัฐบาลทักษิณ มีการชุมนุมโจมตีและเดินขบวนขับไล่ หาเรื่องให้ร้ายนายกทักษิณสารพัดเรื่องโดยไม่มีมูลความจริง ทำการปลุกระดมโฆษณาชวนเชื่อโดยอาศัยสื่อต่างๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
มวลชนที่เป็นกองกำลังจัดตั้งขึ้นมาส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ ซึ่งฐานเสียงของพรรค ประชาธิปัตย์ รองลงมาก็เป็นมวลชนของสันติอโศก และองค์กรทำลายชาติต่างๆ ระดมมวลชนก่อตัวมากขึ้นๆ จนรวมตัวกันได้แล้วตั้งชื่อหลอกลวงประชาชนตามเคย ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ทำการชุมนุมอย่างต่อเนื่องข้ามวันข้ามคืน โดยปลุกให้กระแสแรงขึ้น สร้างความวุ่นวายภายในประเทศได้เหมือนถึงขั้นวิกฤติ เพื่อให้เผด็จการทหารนำไปเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจของปวงชน แล้วตั้งชื่อหลอกลวงประชาชนอีกตามเคยว่า คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือการ ปล้นอำนาจประชาชน เพราะพวกมันได้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากปวงชนชาว ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้เป็นการทำการผิดกฎหมายอาญาอย่างชัดเจนในข้อหาเป็นขบถ แล้วพวกมันได้แต่งตั้งพวกพ้องเข้ายึดอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน เข้าไปกอบโกยผลประโยชน์ในหน่วยงานต่างๆ โดยประชาชนผู้ที่เป็นเจ้าของอำนาจมิได้มีการมอบอำนาจให้แต่อย่างใด
จากคุณ :
3bww
- [
9 ก.ย. 51 20:29:37
A:124.157.231.20 X:
]