Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    “การยุติบทบาท” ของ “ท่านอดีต นายกฯ สมัคร” ในตอนนี้ คือ “การรักษาระบอบประชาธิปไตย”

    เย็นวานนี้ท่านอดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร  สุนทรเวช  ได้ขอยุติการได้รับเสนอชื่อเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ สส. ภายในพรรคพลังประชาชน สามารถลงมติเลือกผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อในสภาผู้แทนราษฎรขึ้นทูลเกล้าเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยไม่ต้องพะวงกับธรรมเนียมปฏิบัติที่หัวหน้าพรรคการเมืองซึ่งมีเสียงข้างมากจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อโดยผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร

    เชื่อว่า หลายท่านโดยเฉพาะผู้สนับสนุน ท่านสมัคร คงรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และอาจรู้สึกว่า “ประชาธิปไตย” ได้พ่ายแพ้อีกคำรบหนึ่งแล้ว  แต่โดยส่วนตัว ผมกลับรู้สึกชื่นชม ท่านอดีตนายกฯ สมัคร  มากขึ้น และเห็นว่า  การที่ท่านถอนตัวในการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่ช่วย “รักษาระบอบประชาธิปไตย” ไว้        

    ในกระทู้ก่อนๆ ผมได้แสดงความเห็นไว้ว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งผลให้ท่านสมัคร สุนทรเวช ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  เนื่องจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความกฎหมายโดยไม่อ้างอิงตามนิยามของกฎหมายที่มีอยู่แต่กลับไปตีความตามพจนานุกรม ซึ่งคงจะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่เหล่านักกฎหมายและบรรดาที่ปรึกษาทางกฎหมายว่า จะยึดถือนิยามอ้างอิงกันอย่างไรต่อไปในการทำนิติกรรมสัญญาต่างๆ  

    แม้ท่านสมัครต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องก็ตาม  แต่เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีว่าผู้นำฝ่ายบริหาร ยังคงให้เกียรติและยอมรับในการใช้อำนาจของฝ่ายตุลาการ  จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากท่านอดีตนายกฯ สมัครจะยังไม่กลับมารับตำแหน่งประมุขฝ่ายบริหารในช่วงนี้  เว้นแต่ว่าสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติเห็นชอบต่อการเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในรอบที่สองของท่าน  

    แต่เหตุการณ์ในวันที่ 12 กันยายน 2551  ที่ รัฐสภา เป็นภาพที่สะท้อนอย่างชัดเจนว่า สภาผู้แทนราษฎร ไม่มีความสบายใจต่อการกลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่านสมัคร ซี่งจะมาจากเหตุผลที่แท้จริงอะไรก็ตาม  แต่ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน คือ สมาชิกผู้แทนราษฎร ทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนในพรรคพลังประชาชน ต่างมีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองโดยเฉพาะในเรื่องความขัดแย้ง ซึ่งมีหลายฝ่ายท้วงติงว่าไม่ควรจะกระทำการอันใดที่จะเป็นเงื่อนไขหรือเป็นเการเติมชื้อไฟให้สถานการณ์ทางการเมืองยิ่งลุกลามไปกว่าที่เป็นอยู่ในเวลานี้

    หากพรรคพลังประชาชนจะยืนกรานในการเสนอให้ท่านสมัคร ได้รับการเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้า เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็เท่ากับว่าพรรคพลังประชาชนกระทำการที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย ที่แม้จะต้องให้การยอมรับในมติของเสียงส่วนใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักเคารพในความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อยด้วย  

    การดื้อแพ่งไม่ฟังเสียงทักท้วงของภาคส่วนอื่นๆ ในสังคมเลยจะทำให้พรรคพลังประชาชนมีภาพพจน์ไม่แตกต่างจากกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ละเมิดอำนาจอธิปไตยของปวงชน ทั้งอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ  อำนาจตุลาการ โดยไม่เคยรับฟังเสียงท้วงติงจากองค์กรหรือสถาบันใดเลย ซ้ำยังกระทำการกล่าวหาดูหมิ่นว่ากล่าวผู้มีความเห็นแตกต่างด้วยถ้อยคำหยาบคาย    

    การประกาศถอนตัวของท่านสมัครในครั้งนี้ ได้สะท้อนว่า ท่านมีความเข้าใจในหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และท่านมีความห่วงใยชาติบ้านเมืองจริงๆ

    ดังนั้น ความเสียสละของท่านอดีต นายกฯ สมัคร ในวันนี้ จึงเป็นเรื่องน่ายกย่อง  เพราะท่านได้ทำให้ระบอบประชาธิปไตย  เดินหน้าต่อไปได้ตามครรลอง  ซึ่งขั้นตอนต่อไปพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากจะต้องลงมติเลือกผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อในสภาผู้แทนราษฎรขึ้นทูลเกล้าเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในวันพุธที่ ๑๗ กันยายน ที่จะถึงนี้ โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ประกาศกับสาธารณชนแล้วว่า ยินดีที่จะให้การสนับสนุนพรรคพลังประชาชน เนื่องจากตามระบบรัฐสภาและระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  พรรคเสียงข้างมากย่อมมีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

    เมื่อพรรคการเมืองในรัฐบาลทุกพรรคได้แสดงออกซึ่งการรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็สมควรถึงเวลาแล้วที่กลุ่มอำนาจและกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ได้แก่ กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มอำนาจและกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่ม รวมทั้งพรรคการเมืองบางพรรคที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มพันธมิตรฯ จะต้องยุติความเคลื่อนไหวทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยุติสร้างความขัดแย้งแตกแยก ยุติการทำลายความสงบสุขในสังคมไทย และแกนนำพันธมิตรควรได้แสดงออกซึ่งความเคารพในอำนาจตุลาการอย่างปากว่าโดยการยินยอมเข้ามอบตัวเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม

    จากคุณ : จำปีเขียว - [ 13 ก.ย. 51 15:00:28 A:125.27.214.245 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom