Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ระบอบอำมาตยาธิไปไตย น่าเกลียด น่ากลัวอย่างไร โปรดอ่าน

    อ่านหน่อย จะได้ตาสว่าง เขียนโดย อ่อนนุช

    " อำมาตย์ คือ กลุ่มคนรับใช้ในราชสำนักที่สืบทอดมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สืบทอดลูกหลานยาวนานมาจนปัจจุบัน


    คนกลุ่มนี้เปรียบเสมือนรัฐบาลของกษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธราช การรีดนาทาเร้นและภาษีโหดต่อราษฎรก็มาจากคนกลุ่มนี้ โดยอ้างบัญชาของกษัตริย์ แต่ละตระกูลจะมีที่ดินและทรัพย์สินมากมายที่ได้รับจากการถวายเป็นค่าตอบแทนมาตั้งแต่โบราณสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

    ช่วงต้นรัตนโกสินทร์(1-4) นอกจากสายเลือดแล้ว กษัตริย์ยังสืบทอดด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว กลุ่มอำมาตย์ยังมีอิทธิพลต่อกษตริย์ได้ไม่มากนัก

    ร.5 เป็นกษัตริย์ที่ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นตัวของตัวเองสูง และพระองค์ทำการปฏิวัติการบริหารประเทศครั้งใหญ่ เอาความทันสมัยเข้าประเทศมากมาย และเริ่มมีแนวคิด "ระบบสภา"

    ร.6-ร.7 กระแสประชาธิปไตยรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลายๆประเทศระบอบกษัตริย์ถูกโค่นล้มอย่างราบคาบ จนสมัยร.7 คณะราษฎรยึดอำนาจ ร.7 ได้อย่างสมบูรณ์

    แต่การเจรจาที่รอมชอบ คณะราษฎรให้ ร.7 ทรงเป็นประมุข แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศอีกต่อไป ไม่มีอำนาจแม้แต่การลงพระปรมาภิไธยในเรื่องต่างๆ และให้ทรัพย์สินส่วนพระมหากษตริย์ส่วนหนึ่งตกเป็นของแผ่นดิน โดยไม่ไปแตะต้องทรัพย์สินของ ร.7 ที่เป็นของพระองค์ตั้งแต่ต้นและทรัพย์สินบางส่วนที่ควรเป็นของกษัตริย์แต่เดิม

    เหตุการณ์คราวนี้แหละครับ ที่ทำให้กลุ่มอำมาตย์และข้าราชบริพาลทั้งหลายเดือดร้อน เพราะผลประโยชน์ต่างๆที่ได้จากทรัพย์สินของประเทศและของพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าค่าเช่าที่ตามพื้นที่การค้าใจกลางเมือง สินบนจากการประมูลของภาครัฐทุกประเภท การเลือกผู้รับเหมาตามใจชอบเพื่อก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ การคอรัปชั่นทั้งทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนภาษีนอกระบบทุกชนิดที่อยู่ในมือคนกลุ่มนี้มาอย่างยาวนาน ถูกบั่นทอนลงทันที

    เพราะรัฐบาลของคณะราษฎร เป็นคนละชุดกับรัฐบาลกษัตริย์!


    กลุ่มอำมาตย์หมดอำนาจ การทำมาหากินบนหลังคนสิ้นสุด!


    แต่.....อำมาตย์ไม่เคยยอมแพ้...

    กลุ่มนี้ทำการปฎิวัติคืนหลายครั้ง จนสำเร็จเมื่อปี 2500

    และเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ให้กษัตริย์ถูกฟ้องร้องเอาไม่ผิดไม่ได้ และให้กษัตริย์มีสิทธิพิเศษและอำนาจหลายอย่างที่ขัดกับระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องดำรงระบอบประชาธิปไตยไว้โดยอาศัยรัฐธรรมนูญเป็นกำแพงเพื่อป้องการรุกรานจากต่างชาติ  

    ก่อนคณะราษฎรถูกปฏิวัติ หลังร.7 สละราช อำมาตย์กลุ่มนี้ได้อันเชิญ ร.8 ที่มีพระชนพรรษาเพียง 11 ขวบ ขึ้นครองราชย์ เพื่อง่ายต่อการแนะนำจากกลุ่มของตน และหวังจะสร้างบารมีชนะใจคนส่วนใหญ่ให้ได้ โดยพยายามทำลายรัฐบาลประชาธิปไตยให้หมดความชอบธรรมในทุกวิธี(สมัยรัฐบาลปรีดี พนมยงค์)


    แต่ ร.8 เป็นเด็กนักเรียนนอก หัวทันสมัย ครอบครัวหนีภัยการเมืองไปต่างประเทศตั้งแต่สมัยยึดอำนาจ 2475  พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่เด็ก แต่ต้องกลับไปเรียนต่อต่างประเทศ พออายุ 20 กลับมาเมืองไทย มีแนวคิดอยากลงเลือกตั้ง ต้องการเป็นประธานาธิบดี ไม่นิยมระบอบกษัตร์ย์ เพราะทั้งโลกเขาต่อต้านระบอบนี้กันเกือบหมดแล้ว แต่สุดท้ายพระองค์ก็ไม่ได้ลงเลือกตั้ง!

    ร.9 จึงได้ขึ้นครองราชย์แทน และยังเด็กเหมือนเดิม แน่นอนไม่ต้องสงสัยว่าการสำเร็จราชการแทนตกอยู่กับกลุ่มใด


    หลังปฏิวัติ 2500 มีการจัดเลือกตั้งเพื่อให้ชาวโลกเชื่อว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย กลุ่มนิยมเจ้าหรือกลุ่มอำมาตย์เก่านี้ ได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้น และชนะการเลือกตั้งเป็นรัฐบาลด้วยระบบ "บัตรผี" ไม่ใช่"ซื้อเสียง"  รัฐบาลก็กลับมาเป็นของกลุ่มอำมาตย์อีกคำรบหนึ่ง โดยผ่านพรรคการเมืองตัวแทนพรรคหนึ่ง(นอมินีของแท้)


    จากนั้นมา การดำเนินการที่เด็ดขาด การล้างบางฝั่งตรงข้ามอย่างรุนแรง (หนีไปต่างประเทศกันจ้าละหวั่น) การปลูกฝังค่านิยมกษัตริย์แบบสมมติเทพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญแบบอำมาตย์มาอย่างยาวนาน เราจึงเรียกว่า "ประชาธิปไตยครึ่งใบ" มาโดยตลอด


    จนปี 2539 ความสุกงอมในระบอบประชาธิปไตยก็เกิดขึ้นอีกครั้ง  เมื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นปัญหาของชาติอยู่ที่รัฐธรรมนูญ จึงเกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นในปี 2540 และเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดตั้งแต่เคยมีมา


    และแล้ววงจรความหายนะต่อกลุ่มอำมาตย์ก็เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง!


    อำมาตย์กลุ่มนี้ คือใครในปัจจุบัน ต้องไปหากันเอาเองครับ ให้สังเกตุพวกเจ้าพระยาเก่าทั้งหลายจะมีนามสกุลพระราชทาน ซึ่งดังๆทั้งนั้นในปัจจุบัน สืบค้นประวัติศาสตร์เก่าๆดู มักมีนามสกุลใหม่วงเล็บเอาไว้ และนามสกุลจำพวก "ณ" ทั้งหลาย พวกนี้ที่ดินเยอะมาก เพราะได้พระราชทานตกทอดกันมา บางคนก็ขายไปบ้าง บางคนก็ขายไปเกือบหมด ที่เห็นว่าไม่ได้ทำธุรกิจอะไรแล้วรวย ส่วนหนึ่งก็มาจาการขายที่ดินนี่แหละ แต่ที่ร่ำรวยกันส่วนใหญ่มาจากการคอรัปชั่นสมัยกุมอำนาจหลัง ปี 2500..................

    จากคุณ : อ่อนนุช  - [ 13 ก.ย. 51 15:12:17 A:58.8.153.63 X: ]"

    จากคุณ : พิจารณ์รัฐกิจ - [ 13 ก.ย. 51 17:43:01 A:192.168.50.195 X:118.175.64.156 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom