ทวิภาวะ ตัวการวิกฤตการเมือง อนาถ!กรรมของแผ่นดิน
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551
หมายเหตุ-มูลนิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ จัดงาน"เปิดประตู...สวนโมกข์กรุงเทพฯ ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวปาฐกถา เรื่อง อำนาจแห่งความว่าง ความว่างแห่งอำนาจ ว่า ความว่าง หรือ สุญญตา หมายถึงสภาพของความจริงที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามเหตุปัจจัย และหมายถึงความจริงแบบองค์รวมมากมากกว่าความจริงแบบแยกส่วน ซึ่งความว่างคือหัวใจสำคัญของคำสอนของท่านพระพุทธทาส ที่สอนไว้การเมืองต้องไม่แยกจากธรรมะ
ในเมื่ออำนาจเป็นปรากฏการณ์แห่งความว่าง ผู้กุมอำนาจก็ควรหยั่งถึงความว่างในดวงจิต ใครก็ตามที่นำอัตตาตัวตน ผลประโยชน์ส่วนตัว และยืนยันผลประโยชน์ของตนเองเป็นเอกขึ้นสู่เวทีอำนาจ ไม่ว่าจะลาภ ยศ หรือสรรเสริญ ท้ายที่สุดจะไปไม่รอดทั้งสิ้น เพราะกฎแห่งอำนาจ เป็นกฎเดียวกับ อิทัปปัจจยตา ใครก็ตามที่คิดจะตั้งศูนย์อำนาจใหม่ หรือต่อต้านอำนาจเก่า ควรจะต้องรู้ว่า อำนาจเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และอิงอาศัยนานาปัจจัย อำนาจไม่ได้บรรจุอยู่ในอาคารสถานที่ การยึดอำนาจรัฐไม่ได้เกิดจากการยึดตัวอาคาร หากจะต้องยึดครองที่ หัวใจคน นายเสกสรรค์ กล่าว
นายเสกสรรค์ กล่าวว่า วิกฤตการเมืองไทยในขณะนี้เพราะต่างฝ่ายต่างอยู่ใน ทวิภาวะ กล่าวคือ การสร้างทฤษฎี อคติ หรือ ทิฐิโจมตีใส่ฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจุด เริ่มต้นที่ดีคือ คู่ขัดแย้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องหยุดพูด เพื่อจะนำไปสู่ก้าวแรกของการหลุดพ้นจากทวิภาวะ ยกตัวอย่างเช่น ในเวลานี้พี่น้องชาวไทยเราจำนวนหนึ่งกำลังถูกพัดพาให้ไปยึดถือบัญญัติว่า อะไรเป็นประชาธิปไตย อะไรไม่ใช่ประชาธิปไตย แล้วเถียงกันเอาเป็นเอาตาย โดยลืมไปว่าทั้งหมดเป็นแค่สมมติสัจจะ เป็นความจริงสัมพันธ์ที่ขึ้นต่อนานาปัจจัย และไม่มีอันใดเที่ยงแท้ถาวร อย่างที่เรียกว่า ติดกับอยู่ในทวิภาวะ
การที่คนเรามองไม่เห็นเห็นสุญญตา ทำให้ชอบแบ่งโลกออกเป็นคู่ขัดแย้งต่างๆ ชอบบัญญัติลงไปว่าสิ่งนั้นดีสิ่งนี้ชั่ว สิ่งนี้สวยสิ่งนั้นอัปลักษณ์ สิ่งนี้มีมลทิน ฯลฯ การมองโลกแบบทวิภาวะเช่นนี้ แท้จริงแล้ว มักผูกโยงอยู่กับอัตตา ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันขัดแย้งอยู่เนืองๆ เพราะต่างฝ่าย ต่างอยากกำหนดความเป็นไปของโลก ด้วยปัจจัยเดียว คือ ตัวเอง และโทษ ผู้อื่นเป็นต้นเหตุแบบไม่มีที่มาที่ไป นายเสกสรรค์ กล่าว
นายเสกสรรค์ กล่าวต่อว่า ความจริงโลก คือ ภาวะแยกเป็นคู่ๆ แบบขาวล้วน ดำล้วนนั้น เป็นแค่เรื่องสมมติ เป็นบัญญัติทางโลกที่อาจทำได้กระทั่งมีประโยชน์ หากอยู่ในระดับพอเหมาะพอสม ไม่ยึดติด อีกทั้งรู้เท่าทันมัน แต่ถ้าใครก็ตามพาทัศนะเช่นนี้เตลิดไปอย่างไร้ขอบเขต สุดท้ายย่อมติดกับอยู่กับความขัดแย้งชนิดหาทางออกไม่ได้ ทั้งขัดแย้งในตัวเอง และกับผู้อื่น
แพ้ชนะถึงที่สุดแล้วก็เป็นสุญญตา ไม่มีความจริงรองรับ มีแต่เราเองไปบัญญัติมันขึ้นมา นายเสกสรรค์ กล่าว
นายเสกสรรค์ กล่าวว่า คุณสมบัติของผู้นำทางการเมืองที่สำคัญ จะต้องประกอบด้วย 3 ประการ คือ อำนาจเป็นสิ่งที่จะต้องมีเงื่อนไข คือ ผู้นำจะต้องได้รับมอบและอนุมัติอำนาจจากคนส่วนใหญ่ที่อยู่ใต้อำนาจ 2.อำนาจมีไว้เพื่อการแก้ไขปัญหา และ 3.ตำแหน่งของผู้นำเป็นเพียงสิ่งสมมติขึ้นมาเท่านั้น ดังนั้นการได้มาซึ่งอำนาจและการรักษาอำนาจ จะต้องคำนึงถึง 3 เงื่อนไขดังกล่าว ซึ่งหลักรัฐศาสตร์ อำนาจนั้นเปลี่ยนมือได้เสมอ ถ้าผู้ปกครองไม่สามารถแก้ปัญหาให้ผู้ใต้การปกครองได้
แต่เปลี่ยนแล้วจะดีขึ้นหรือไม่ ยังไม่ใช่สูตรสำเร็จ ขึ้นอยู่กับผู้นำการเปลี่ยนแปลงว่ามีปัญญาญาณมากน้อยเพียงใด คนในสังคมเห็นพ้องต้องกันในทิศทางของการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน หากสังคมยังไม่เห็นพ้องต้องกันในทิศทางเปลี่ยนแปลง การล้มลงของระบอบเก่า หรือ อำนาจเก่า ก็รังแต่จะนำไปสู่สภาพกลียุค และ อนาธิปไตย นายเสกสรรค์ กล่าว
นายเสกสรรค์ กล่าวอีกว่า บางครั้งอำนาจใหม่กลับฆ่าคนเสียยิ่งกว่าอำนาจเก่าที่ล่มสลาย เนื่องจากทิฐิที่ยึดติดในการเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการรอคอยให้ผู้คนเห็นด้วย เรื่องเช่นนี้เคยเกิดมาแล้วในหลายๆ ประเทศ ซึ่งควรถือเป็นบทเรียน ดังนั้นในทัศนะของท่านอาจารย์พุทธทาส ระบอบการเมืองแบบไหนยังไม่สำคัญเท่ากับว่ามีธรรมะหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีธรรมะ ถึงอย่างไรก็สร้างสันติสุขให้บังเกิดมิได้ และท่านถือว่าภาวะไร้สันติภาพเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดของมนุษย์
นายเสกสรรค์ กล่าวว่า การไม่ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขนับเป็นเคราะห์กรรม อย่างยิ่งของแผ่นดิน ด้วยเหตุนี้ความพยายามที่จะรักษาระบอบการเมืองก็ดี ความพยายามที่จะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองก็ดี จึงไม่อาจสำเร็จได้ด้วยความชัง ไม่อาจใช้โลภะ โทสะ โมหะ มาขับเคลื่อน เราจะสร้างสังคมที่สันติสุขได้อย่างไร หากวิธีการขัดแย้งกับจุดหมายเสียตั้งแต่ต้น สำหรับชาวพุทธแล้วมรรควิถีมีค่าเท่ากับจุดหมายปลายทาง
จากคุณ :
นาบุญ
- [
14 ก.ย. 51 09:15:53
A:117.47.79.37 X:
]