ความคิดเห็นที่ 1 จะภูมิใจที่เป็นคนไทยหรือ อายที่เป็นคนไทยดีล่ะ จากคุณ : มนชิจัง - [ 15 ก.ย. 51 22:08:27 A:86.205.210.202 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านไปร้องไห้ไป เหมือนกันครับ ---------------------------------------------------- ทักษิโณมิกส์ชำแหละ"ทักษิโณมิกส์" แค่ "เคนเซียนกำมะลอ" อโนทัย จันทร์ดี นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองเปิดประเด็นวิพากษ์นโยบายทักษิโณมิกส์ เป็นแค่ "pseudo-Keynesian" หรือ "เคนเซียนกำมะลอ" ที่ถูกนำมาใช้บริหารประเทศให้บรรลุเป้าหมายระยะสั้น โดยกระตุ้นการบริโภคและทำให้ประชาชนเป็นหนี้ ซึ่งไม่ใช่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเร็วตามลัทธิเคนส์ ในการสัมมนาทางวิชาการประจำปี 2548 ครั้งที่ 28 ของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวข้อเรื่อง "การปฏิรูปสังคมเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ.2540 : ความก้าวหน้าและความล้มเหลว" ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย.นั้น ได้เป็นแหล่งรวมคิดเห็นของบรรดา "ขาประจำ" ที่มีการเปิดวิวาทะกับผู้นำรัฐบาลในขณะนี้ก็ว่าได้ โดยผลงานวิจัยและบทความทางวิชาการหลายเรื่องโดยเฉพาะ "ยุทธศาสตร์การพัฒนาทวิวิถี : ความสำเร็จและความล้มเหลว" ของ ดร.อภิชาติ สถิตนิรามัย และดร.ดวงมณี เลาวกุล อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มุ่งประเมินความสำเร็จและความล้มเหลวของยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจแบบ dual-track ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และชี้ถึงผลกระทบที่มีต่ออนาคตของระบบเศรษฐกิจ บทสรุปของบทความชี้ว่า นโยบายเศรษฐกิจภายใต้การนำของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เรียกกันทั่วไปว่า “ทักษิโณมิกส์” หรือยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศแบบทฤษฎีรางคู่ หรือ dual-track ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่มีแนวโน้มว่าไม่ยั่งยืน และกลับเพิ่มความเสี่ยงให้ระบบเศรษฐกิจระยะยาว ดร.ปราณี ทินกร คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์หนึ่งใน "ขาประจำ" ของผู้นำรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อธิบายว่า เหตุที่ทักษิโณมิกส์มีความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะเป็น “pseudo-Keynesian” หรือเคนเซียนกำมะลอ ผลการศึกษาของนักวิชาการทั้งสองชี้ประเด็นว่า กลไกหลักที่รัฐบาลทักษิณ 1 (ระหว่างปี 2544-2547) ใช้ในการเพิ่มระดับการบริโภคภายในประเทศเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ คือกลไกทางการเงิน ที่รู้จักกันในแนวทางประชานิยม เช่น กองทุนหมู่บ้าน การพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกร ธนาคารประชาชน รวมทั้งการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โดยมุ่งที่คนในระดับรากหญ้า แนวคิดนี้อาจเหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปี 2544 ซึ่งเศรษฐกิจโลกประสบกับภาวะตกต่ำ ทำให้ระดับการส่งออกของไทยลดลง หากเป้าหมายหลักของรัฐบาลคือกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น อันเป็นแนวคิดมาตรฐานในสำนักเคนเซียน (Keynesian) ที่ใช้กันมานานแล้ว "แต่นโยบายทักษิโณมิกส์เป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายการบริโภคที่ทำให้ประชาชน เป็นหนี้เพิ่ม ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวคิดของสำนักเคนเซียน ไม่เชื่อลองไปอ่านหนังสือ The General Theory of Employment, Interest and Money ของจอน เมนาร์ด เคนส์" ดร.ปราณีกล่าว นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสำนักเคนเซียนมีเป้าหมายหลักคือ ต้องการเพิ่มความสำคัญของอุปสงค์มวลรวมภายในประเทศในระยะยาว จึงเน้นเรื่องการจ้างงาน ทำให้ประชาชนมีงานทำ ซึ่งเมื่อประชาชนมีรายได้ก็จะนำไปใช้จ่าย ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวมีการเติบโต โดยที่ประชาชนไม่มีหนี้สิน และไม่เป็นภาระต่อประชาชน ส่งผลให้สามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้เรื่อยๆ การเติบโตของเศรษฐกิจก็จะยั่งยืน เคนเซียนแท้ต้องกระตุ้นจ้างงาน ดร.ปราณี ยกตัวอย่างการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสำนักเคนเซียน คือในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำมาก รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดี รูส เวลส์ ซึ่งรับแนวนโยบายเศรษฐกิจของเคนเซียนมาดำเนินการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยการเริ่มก่อสร้างโครงการพื้นฐาน เช่น เขื่อน เพื่อทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก มีการใช้วัสดุก่อสร้าง มีการใช้จ่ายเกิดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น จะเห็นว่านโยบายเศรษฐกิจของเคนเซียน ภาครัฐต้องลงทุนใช้จ่าย แต่เป็นการใช้จ่ายเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ให้คนมีงานทำ ไม่ใช่เน้นเรื่องการใช้จ่ายอย่างที่รัฐบาลพรรคไทยรักไทยดำเนินการ จึงเป็น pseudo-Keynesian เพราะสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำคือใส่เงินลงไป และสร้างความหวังให้ประชาชนว่าจะร่ำรวยในอนาคต โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่เกิดจากตัวบุคคล และระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องคุณธรรมหรือธรรมาภิบาล คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เสนอแนะว่า รัฐบาลทักษิณ 2 ควรปรับนโยบายเน้นมาดูเรื่องการสร้างศักยภาพการผลิต และเน้นแก้ปัญหาระยะยาว ดูเรื่องปัจจัยการผลิต คุณภาพแรงงาน ประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยทุน ที่ดิน ส่วนการกระตุ้นอุปสงค์โดยรวมควรลดลง เพราะระยะยาวการเติบโตทางเศรษฐกิจต้องมาจากความสามารถในการผลิตที่แท้จริง “รัฐบาลยังมีเวลาปรับตัว ปรับนโยบาย และต้องปฏิรูปสถาบันต่างๆ ให้มีกฎกติกาถูกต้อง และอย่าเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ ควรปล่อยให้องค์กรอิสระมีการสรรหากรรมการ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” ดร.ปราณีกล่าว การเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เป็นโอกาสที่ผู้นำเข้มแข็งสามารถดำเนินการต่างๆ ให้กับประเทศในระยาวได้ และประวัติศาสตร์อาจจารึกท่านเป็นรัฐบุรุษ แต่ถ้าผู้นำเข้มแข็ง กลับไม่ใส่ใจนำพาการสร้างสถาบัน ระบบระเบียบ การกำกับการดำเนินกิจการต่างๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดีในระยะยาว ประวัติศาสตร์ก็จะจารึกท่านเป็นแค่ "นักการเมือง"คนหนึ่งเท่านั้น ทักษิโณมิกส์สู่ความเสี่ยง ดร.อภิชาติ และดร.ดวงมณี สรุปผลศึกษานโยบายทักษิโณมิกส์ ว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านการบริโภคประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถยกระดับกำลังซื้อภายในประเทศทดแทนการส่งออกได้ ทำให้ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกไม่ลดลง เพราะการกระจายรายได้ยังไม่ได้ดีขึ้นมาก และการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตยังไม่สำเร็จ จากผลการศึกษาหากพิจารณาอัตราการเติบโตของรายได้ประชาชาติในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่าการกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจระยะสั้นทำให้อัตราการเพิ่มของ การบริโภคมีผลต่อการเพิ่มของจีดีพีเป็นอันดับ 3 รองจากการลงทุนเอกชนและการส่งออก จึงกล่าวได้ว่าทักษิโณมิกส์ประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช่วง 2 ปีหลัง ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวสูงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว มากกว่าการบริโภคภายในประเทศ เมื่อพิจารณาอัตราการเติบโตของรายได้ประชาชาติในปี 2544-2547 พบว่าอัตราการเติบโตของการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.65% การลงทุนเอกชนเพิ่มขึ้น 12.80% และการบริโภคเพิ่มขึ้น 5.37% ขณะที่แหล่งที่มาของการเติบโตมาจากการส่งออกถึง 63.87% และมาจากการลงทุนเอกชน 14.56% และการบริโภค 54.82% สำหรับโครงการเพิ่มสภาพคล่องของรัฐบาล จากผลการศึกษาพบว่า หนี้ครัวเรือนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัวในช่วงเวลา 10 ปี (2537-2547) คือจาก 31,079 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นเป็น 110,133 บาทต่อครัวเรือน สัดส่วนหนี้เพื่อการบริโภคมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 59.7% ในปี 2537 เป็น 65.3% ในปี 2547 ที่สำคัญสุด สัดส่วนหนี้ต่อรายได้เพิ่มขึ้นจาก 3.7 เท่าเป็น 6.4 เท่า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคือหนี้เพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ สะท้อนว่าการเน้นสร้างอุปสงค์มวลรวมภายในประเทศกลับเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ให้กับระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ความพยายามจัดการด้านอุปทานยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน ทำให้อุปสงค์ภายในประเทศขาดกำลังซื้อที่ยั่งยืน นักวิชาการทั้งสองยังชี้ถึงผลพวงของการใช้นโยบายประชานิยมต่างๆ และมาตรการกึ่งการคลังว่า ทั้งสองเครื่องมือมีนัยต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคในแง่ที่อาจทำให้ประเทศ ไทยประสบกับวิกฤตการณ์ “วัฏจักรธุรกิจการเมือง” แบบเดียวกับประเทศแถบละตินอเมริกาใต้ เนื่องจากโครงการประชานิยมมีแนวโน้มที่จะไม่ผ่านการพิจารณาถึงผลตอบแทนทาง เศรษฐกิจอย่างเหมาะสม ไม่ได้คำนึงถึงภาระทางการคลังเท่าที่ควร เพราะเป้าหมายหลักที่มุ่งเน้นความนิยมทางการเมือง มิใช่ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ และอาจนำไปสู่การใช้ทรัพยากรของรัฐอย่างไร้ประสิทธิภาพ และขาดความเป็นธรรมทางสังคม และงบประมาณภายใต้มาตรการกึ่งการคลังเพิ่มขึ้นมากจากปี 2545 ที่มีจำนวน 103,699 ล้านบาท เป็น 569,597 ล้านบาทในปี 2547 หรือ 8.7% ของจีดีพี และมีสัดส่วนถึง 49% ของงบประมาณประจำปี สะท้อนถึงการเพิ่มความเสี่ยงทางการคลังนั่นเอง “มาตรการกึ่งการคลังในที่สุดแล้วก็คือวิธีเลี่ยงกติกาทางการคลัง เพราะการใช้เงินส่วนนี้ไม่ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้นอาจเป็นเครื่องมือนำไปสู่การใช้จ่ายเกินตัวของภาครัฐในอนาคต เพราะความจำเป็นทางการเมืองที่ต้องทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้" ดร.อภิชาติ กล่าว จากคุณ : คนเลือกข้าง - [ 15 ก.ย. 51 22:13:06 A:222.123.220.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณคุณ arginine ที่เอามาฝากครับ ส่วนเคนเชี่ยนอะไรนั่น ผมเคยแปลนะ แปลแล้วยังงงงงเลย ที่แน่ๆ ช่วงทักษิณ โรงงานเย็บผ้าเล็กๆ หลายสิบแห่งในซอยบ้านผม มีการจ้างงานมากมาย ลูกจ้างเพียบ จนพ่อค้าแม่ขายขายอาหารได้ดี มีกำไร แต่พอ คมช มา  โรงงานเย็บผ้าปิด คนงานกลับไปทำไร่ไถนา พ่อค้าแม่ขาย ก้อยืนตาย  เจ้าหอยแครงลวก ที่ยืนหยัดขายมาร่วมสิบปี ร้องไห้ลาผม  บอกไม่ไหวแล้วขอกลับไปอดตายที่บ้าน ทั้งซอย เงียบสงบ ไม่มีแม้แต่วงสุรา คาราโอเกะ ที่เพิ่มขึ้นมาคือการลักขโมย ตีชิง วิ่งราว  และยาเสพย์ติด ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเมืองไทย เคนเชี่ยนจริงหรือกำมะลอ มาช่วยได้มั้ยครับ จากคุณ : DZL - [ 15 ก.ย. 51 22:34:32 A:58.9.223.124 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 นักวิชาการที่วิเคราะห์คนอื่นแบบเลวๆเคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ว่าเคยทำอะไรดีๆให้กับประเทศชาติบ้าง...ผมเห็นตอนเป็นอาจารย์เก่งเรื่องวิจารณ์น่าดูแต่พอเข้ามาอยู่หรือมาเป็นนักการเมือง...:-)...ไม่เคยเห็นทำในสิ่งที่วิจารณ์เลย.............................................................................. จากคุณ : เสือคาบดาบ - [ 15 ก.ย. 51 22:47:46 A:125.25.28.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 โพสต์ทูเดย์        วันที่ 21/02/2006 สมัชชาคนจนลุย ปักหลักหน้าสภา ประจาน‘ทักษิณ’ โพสต์ทูเดย์ — “สมัชชาคนจน” เปิดหมู่บ้าน คนจน ดาหน้าเปิดโปงรัฐบาลผลงานเหลว วานนี้ กลุ่มสมัชชาคนจนได้เดินทางมาเปิด หมู่บ้านคนจนขึ้นที่ด้านหน้ารัฐสภาเพื่อปักหลักชุมนุมประท้วงที่รัฐบาลไม่ สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ตามที่ให้สัญญาไว้ นายภักดี จันทะเจียด ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อม ตัวแทนจาก 7 เครือข่าย อ่านแถลงการณ์ระหว่างพิธีเปิด “หมู่บ้านคนจน” ว่า การชุมนุมของสมัชชาคนจนเมื่อวานนี้ เป็นต้นไป จะเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนของสมัชชาคนจน เพื่อเปิดเผยถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคนจนของรัฐบาลทักษิณ และชี้ให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาล ถือการสร้างละครน้ำเน่าขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศว่า จะพัฒนาประเทศโดยฟังเสียงของคนยากจนและจะแก้ไขปัญหาต่างๆ กว่า 205 กรณีปัญหาที่สมัชชาคนจนเสนอ แต่นับจากวันนั้นเป็นต้นมา นอกจากจะไม่ปฏิบัติตามคำพูดที่ได้ลั่นวาจาไว้แล้ว รัฐบาลทักษิณยังใช้กำลังตำรวจสลายการชุมนุมของชาวบ้านสมัชชาคนจนด้วยความ รุนแรง เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2546 รวมทั้ง ยกเลิกมติข้อตกลง ขณะเดียวกันรัฐบาลได้เดินหน้าดำเนินนโยบายประชานิยมต่างๆ หลายด้าน เพื่อสร้างภาพว่าได้แก้ปัญหาความยากจนที่รัฐบาลรับปากไว้แล้ว “เราจะไม่ยอมรับการแก้ปัญหาแบบสร้างภาพหลอกลวงจอมปลอมอีกต่อไป” นายภักดี กล่าว นายชัยพันธ์ ประภาสวัต ที่ปรึกษาสมัชชา คนจน กล่าวว่า การเข้ามาชุมนุมในครั้งนี้ มี เป้าประสงค์ที่จะเปิดโปงความล้มเหลวในการ แก้ปัญหาคนจน โดยจะเป็นการชุมนุมยืดเยื้อ ขณะนี้ทางสมัชชาคนจนยังไม่มีมติจะไล่นายกรัฐมนตรี ยังคงใจดีอยู่ แต่จะนำรายละเอียดความคืบหน้าในการแก้ปัญหาที่รัฐบาลเคยสัญญาว่าจะแก้มาเปิด เผย จากคุณ : คนเลือกข้าง - [ 15 ก.ย. 51 22:57:37 A:222.123.220.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 บางครั้งการสร้างหนี้เพื่อลงทุน ก็นับเปนความจำเปนและได้เปรียบ ในสภาวะเศรษฐกิจหลังไทยวิกฤตจนต้องกู้ ไอเอมเอฟ มีความยากลำบากเพียงไรที่ธุรกิจใหญ่น้อยล้วนซวนเซ ต้องลดเงินเดือน โละคนทำงานออก ค่าเงินที่ลดน่าใจหาย ต่างกระเสือกกระสนช่วยตนเองตามสภาพ... มีตลาดเปิดท้ายเอาของที่มีเลี้ยงตัวไปวันๆ...ต่างก็หันไปหาใครไม่ได้...บริษัทการเงินแบงก์ไทยทุกแห่งหรือ เอนพีแอวกดจนแทบไม่มีการปล่อยกู้...มีการยึดทรัพย์ประมูลขายทั่ว... ทักษิณต่อมาจาก ...หนี้แปลงเปนทุน... แม้จากหาเสียงมีนโยบายประหลาดออกมา ช่วยคนจน  จึงเปนที่ชอบ จากคุณ : แพะโง่ (แพะโง่) - [ 16 ก.ย. 51 00:07:53 A:118.173.35.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 สมัชชาคนจน กลุ่มนี้ร่วมหัวจมท้ายกับพธม.แล้วไม่ใช่หรือ? ส่วนคนเลือกข้าง ถ้าเลือกข้างกบฏก็ให้ระวังอาญาแผ่นดินหน่อยนะ จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 16 ก.ย. 51 03:27:16 A:124.121.64.169 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับที่เป็นห่วง คนเราต้องเลือกที่จะเป็นอะไรสักอย่างในชีวิต ถึงตรงนี้ไม่มีความหวาดหวั่นแล้วครับ เพิ่งลงเต๊นท์ถาวรหรูหราในทำเนียบไปอีกหนึ่งชุด สบายขึ้นเยอะฝนตกไม่เปียก กำลังจะหาเงาะทุเรียนลำใยลองกองไปปลูกครับ กะว่าจะเศรษกิจพอเพียงอยู่ในนี้ ------------------------------------------------------------- ขอแสดงความน่าเป็นห่วง ทักษิณขวัญใจพ่อแม่พี่น้องโดนหมายจับเอ็กซิมแบ็งค์ อีกแล้วครับ จุดจบของคนที่หมกมุ่นกับตัวเองมักจะเป็นแบบนี้ จากคุณ : คนเลือกข้าง - [ 16 ก.ย. 51 19:06:10 A:222.123.220.126 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ค่ะคนเราเลือกอะไรที่จะเป็นสักอย่างในชีวิต ดิฉันก็ขอเลือกเป็นคนที่ไม่สร้างราคีให้แผ่นดินและยืนอยู่ข้างคนที่ยอมอยู่ใต้กฏหมายไม่ว่าคนนั้นจะผิดหรือถูก รอให้ศาลตัดสิน  ขอให้เล่นตามกติกาก็พอ อ่อดิฉันดีใจนะคะ ที่ทำเนียบเราจะมี เงาะ ลำใย ลองกอง  ปลูกกันไปเหอะค่ะ เพราะพธม.ชอบอ้างว่าเป็นที่ของประชาชนที่ประชาชนมีสิทธิ ทางต่อสู้ที่ต่อสู้มีเยอะค่ะ ไม่ใช่หน้าทำเนียบทีเรียกได้ว่าสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างเก่าแก่ รักชาติแบบนี้ก็ไม่ไหวค่ะ ทำลายข้าวของ ........แล้วเดี๋ยวก็จะมีพวกบอกว่าให้ข้าวของมันเสียไป ยังไงเสีย ทำเนียบก็ยังอยู่ แต่ประเทศชาติเสียหายใครจะแก้.........จริงๆคนทั่วไปไม่ว่าหรอกค่ะพันธมิตรชุมนุมกันอ่ะ ขออย่างเดียวอย่าทำลายข้าวของ ถ้าไม่ได้สร้างมา (ตามประวัติของทำเนียบไม่ใช่เงินของประชาชนนะคะ ถึงแม้ในช่วงเวลาก่อนพันธมิตรครอบครองจะใช้ไปเพื่อประเทศชาติก็ตามแต่) แต่กระนั้นต่อให้เป็นเงินของประชาชน ก็เป็นของประชาชนทั่วประเทศ พันธมิตรเป็นเพียงแค่คนกลุ่มหนึ่ง (ดิฉันย้ำนะคะว่าเป็นคนกลุ่มเดียว) จะเข้าไปทำลายก็น่าเกลียดเต็มทีแล้วคะ อ้างสิทธิมั่วซั่วเละเทะ คนที่ไม่เห็นด้วยแต่เป็นประชาชนเหมือนกันกลับมาตีขลุมทำว่าไม่มีสิทธิ   ......... เก็บเงาะ ลำใย ลองกองของคุณนั่นไปปลูกให้ความร่มเย็น ให้ดอกให้ผลกับแผ่นดินที่มันเป็นของคุณคนเดียวเหอะคะ ถึงคุณเป็นประชาชน คุณก็ไม่มีสิทธิทำลายข้าวของ ทักษิณผิดมันก็ยอมขึ้นศาลคะ จุดจบของเขาไม่ว่าจะเรื่องคดีใดๆ  เชื่อได้ว่าผ่านศาล แต่จุดจบของ 9 แกนนำ (ไม่ได้ว่าคุณนะคะ หมายถึงแกนนำอย่างเดียวที่หลอกประชาชนตาดำๆเรื่อยมา) ที่ไม่ยอมขึ้นศาลเสียที หรือจะรอลงประชาทัณฑ์คะ จากคุณ : moonny - [ 17 ก.ย. 51 10:19:16 A:203.146.82.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ทักษิณผิดมันก็ยอมขึ้นศาลคะ จุดจบของเขาไม่ว่าจะเรื่องคดีใดๆ  เชื่อได้ว่าผ่านศาล -ณ.วันนี้คุณทักษิณโดนหมายจับอีกสองใบแล้ว เพราะไม่ยอมมาขึ้นศาล -------------------------------------------------------------------------- แต่จุดจบของ 9 แกนนำ (ไม่ได้ว่าคุณนะคะ หมายถึงแกนนำอย่างเดียวที่หลอกประชาชนตาดำๆเรื่อยมา) ที่ไม่ยอมขึ้นศาลเสียที หรือจะรอลงประชาทัณฑ์คะ -INN HOT NEWS 10.17 น. ศาลอุทรธ์สั่งศาลชั้นต้นรับอุธรณ์ถอนหมายจับ 9 พธม. จากคุณ : คนเลือกข้าง - [ 17 ก.ย. 51 12:43:42 A:222.123.201.199 X: ]