ความคิดเห็นที่ 1 อ่อ เถียงกันในเวปยังเปรตครับ มีน้องๆเฝ้าอ่านอยู่เยอะ ขออะไรที่เป็นรูปธรรมครับ จะก๊อปไปให้พวกมันอ่าน จากคุณ : กุหลาบดำเนิน - [ 24 ก.ย. 51 18:47:40 A:125.25.60.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 คนคิดเป็นของหมอชนบทคนนึง ความคิดนี้ไปเสนอหลายรัฐบาลแล้วแต่ไม่มีรัฐบาลไหนสนใจ แต่พอนำไปเสนอต่อ ทรท เมื่อทักษิณได้เป็นนายกก็เอาไปปรับปรุงและออกมาเป็น 30 บาท นายแพทย์คนนั้นเพิ่งจะเสียชีวิตไป คือ นพ. สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ คงไม่เกินเลยถ้าจะบอกว่า  นพ.สงวนคือ  "บิดา  30  บาท"  ที่อาศัยครรภ์ของพรรคไทยรักไทยคลอดมาเป็นนโยบายสวัสดิการสังคมที่ทั่วถึงประชาชนทุกคน  อาศัยความเข้มแข็งของรัฐบาลไทยรักไทย  ความมุ่งมั่นทุ่มเทของ  นพ.สงวน และบุคลากรฝ่ายก้าวหน้าในกระทรวงสาธารณสุข คุณหมอวิชัย   โชควิวัฒน์  เป็นผู้ใกล้ชิดคนหนึ่งของหมอสงวน  ในฐานะคนเดือนตุลารุ่นพี่  แพทย์ชนบทรุ่นพี่ และเป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขด้วยกัน หมอวิชัยเป็นคนหนึ่งที่ไปกับหมอสงวน  รับคำเชิญจาก  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร ไปเสนอนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  ซึ่งใช้เวลาเพียง  45  นาที พ.ต.ท.ทักษิณก็ตัดสินใจว่า "เอา" แล้วมอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ไปดำเนินการต่อ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:18:34 จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 18:58:09 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริง ๆ เป็นกลุ่มหมอที่เสนอแนวคิด 30 บาทรักษาทุกโรคครับ แต่รัฐบาลทักษฺิณ นำมาทำเป็นนโยบาย และผลักดันให้เป็นจริง และฝังรากในใจของประชาชนครับ ส่วนเครดิตจะให้ใครนั้น ขอยกตัวอย่าง  เรื่องการปีนยอดเขาเอเวอร์เรส เรื่องจริง คนปีนยอดเขาเอฟเวอร์เรส คนเแรก เป็นชาวเชอร์ปา แต่คนที่ได้เครดิต  คือเซอร์ เอ็ดมันด์ ฮิลลารี ว่าเป็นคนปีนถึงยอดเขาเอฟเวอร์เรสเป็นคนแรกของโลก เพราะอะไร  เพราะคนอังกฤษ เป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการปีนยอดเขาเอฟเวอร์เรส ชาวเชอร์ปา คนนั้น  (ผมจำชื่อไม่ได้) เป็นเพียงคนนำทางเท่านั้น ดังนั้น  เครดิต ก็ควรให้แก่ หัวหน้ากรุ๊ปที่นำขึ้นไปครับ กลับมาเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค   ใครจะคิดโครงการนี้ก็ตาม   แต่รัฐบาลไหนล่ะ   ที่ผลักดันให้เกิดขึ้นและผลักดันโครงการให้สำเร็จได้ พรรคนั้น ก็ควรได้เครดิตไปครับ... สรุปว่า นายกทักษิณรับเครดิตในเรื่องนี้ได้ครับ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:04:05 จากคุณ : Sky - [ 24 ก.ย. 51 19:01:18 A:124.121.171.153 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ทักษิณ ยุคหมอเลี๊ยบ หมอหน่อย  เป็นคนนำมาใช้ปฏิบัติ ได้รับการคัดค้าน จาก พรรค ปชป.อย่างหนักในขณะนั้น สมัยนั้นการประกันสังคม เป็นที่นิยมกันไปทั่ว โรงพยาบาลหลายแห่งแย่งกันรับผู้ประกันสังคม เลย เป็นที่มาของแนวคิด รัฐจ่ายค่าเบี้ยประกันสังคมให้กับ ประชาชน หัวละ 1250 บาท สมัยนั้น ไปขึ้นทะเบียนต่อกับโรงพยาบาล ในเขตที่ตนอาศัยอยู่ แล้ว เมื่อเจ็บป่วยก็เข้ารักษาตามที่ลงทะเบียนไว้ ถ้าไม่เจ็บป่วยก็ไม่ต้อง โรงพยาบาลก็ได้เงินส่วนนี้ไปเฉลี่ยรักษาคนที่ป่วย..เป็นเหมือนการประกันสุขภาพ หมอสมัยนั้นต่อต้านมาก จนรัฐบาลแทบล่ม.. โรงพยาบาล บ้านแพ้ว เป็นโรงพยาบาลนำร่อง ทดลองออกจากระบบโรงพยาบาลรัฐเพื่อรับเงินรายหัวล้วนๆไม่มีเงินอุดหนุนจากรัฐ หมอก็ออกไปเป็นอิสระ บริหารงานโรงพยาบาลเอง.. ถ้าไม่มีทักษิณ  วันนี้เรายังอาจเห็นคนไข้ อนาถา นอนตามระเบียง คนไข้พิเศษ นอนแอร์  อยู่ตาม โรงพยาบาลรัฐ ทั่วไปจนถึงวันนี้.. จากคุณ : ทรงวิทย์ - [ 24 ก.ย. 51 19:03:03 A:125.24.7.176 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 นพ. เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวว่า เห็นด้วยกับการยกเลิกการใช้ชื่อ 30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค ซึ่งเป็นชื่อกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้หาเสียงของรัฐบาลชุดก่อน ทั้งนี้อยากเสนอให้มีการ หาบุคคลหรือหน่วยงานที่มีความเป็นกลางศึกษานโยบายสาธารณะว่าใน 5 ปีที่ผ่านมา มีผลกระทบกับโรงพยาบาลแพทย์ โรงพยาบาลชุมชน บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนที่เข้ามารับบริการดีขึ้นหรือแย่ลง ทั้งนี้ โครงการ 30 บาทก็ไม่ตรงกับความต้องการของรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ซึ่งการดำเนินนโยบายสาธารณะข้อนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายมหา ศาลกับโรงพยาบาล การบริหารงานขาดธรรมาภิบาล ซึ่งตนเป็นห่วงโรงเรียนแพทย์มาก เนื่องจากมีการเปิดโรงเรียนแพทย์หลาย ๆ แห่งเพื่อผลิตแพทย์ให้ได้ปริมาณมากแต่กลับไม่มีคุณภาพ ส่วนคนเก่ง ๆ ก็ไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนหมด นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ยังคงดำเนินโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อไป ส่วนจะทำอย่างไรต่อจากนี้นั้นอยู่ระหว่างการหารือที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เบื้องต้นคิดไว้ 2 แนวทางคือ การกำหนดให้มีการร่วมจ่าย และการตั้งตู้รับบริจาคช่วยเหลือตามโรงพยาบาล ซึ่งการบริจาคไม่ได้หมายถึงกำลังทรัพย์เท่านั้น แต่รวมถึงแรงกำลังที่มาร่วมดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้โครงการ 30 บาท ที่ผ่านมามีการลักลั่น โดยมีผู้ที่จ่าย 30 บาท และที่ไม่ต้องจ่าย ซึ่งยกมาจากผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล (สปร.) ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม ที่ไม่เป็นไปตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 19:03:43 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 มะเร็งปอดคร่าชีวิตนพ.สงวน นิตยารัมพงศ์ หัวขบวน 30 บาท นายแพทย์ สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการ สปสช.เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ด้วยโรคมะเร็งปอด โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังเข้ารักษากว่า 3 สัปดาห์ หัวขบวน 30บาทรักษาทุกโรค นพ.สงวน เป็นเลขาธิการสปสช.สมัยที่ 2 เป็นบุคคลที่ทุ่มเทเพื่อการสร้างระบบสุขภาพที่เป็นธรรมอย่างเท่าเทียมเพื่อประชาชนทุกคน เกิดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2495 ที่กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในปี 2520 เริ่มรับราชการที่รพ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ในปี2521 จนกระทั่งปี 2526 เป็นผู้อำนวยการรพ.ราษีไศล และย้ายมาเป็นผู้อำนวยการรพ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ซึ่งการทำงานทั้งสองแห่งได้บุกเบิกการสร้างสุขภาพชุมชน จนเป็นที่รักของชาวบ้านอย่างมาก และที่รพ.บัวใหญ่ นพ.สงวน ได้รับคัดเลือกเป็นแพทย์ดีเด่นประจำปี 2528 ด้วยผลงานขยายเตียงรองรับผู้ป่วยจาก 30 เตียงเป็น 60 เตียง ในเวลา 3 ปี จัดทีมบริหารให้คล่องตัวมีประสิทธิภาพ วางแผนงานใช้สาธารณสุขมูลฐานเป็นกลยุทธ์แก้ปัญหา ตั้งกองทุนยา กองทุนโภชนาการหมู่บ้านและชุมชน ฯลฯ ในปี 2538 เป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขในปี 2544-2546 ก่อนที่จะมาเป็นเลขาธิการสปสช.ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2546 นพ.สงวน นับเป็นหัวขบวนที่ปฏิรูประบบสุขภาพไทยครั้งใหญ่ ในการสร้างความเป็นธรรมทางด้านสุขภาพให้กับประชาชน เป็นผู้นำในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือที่รู้จักกันว่าโครงการ 30 บาท จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 19:05:40 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่รู้จักกันว่าโครงการ 30 บาท และปัจจุบันนี้ฟรีหมด ไม่ต้องจ่าย ที่ริเริ่มเป็นหัวขบวนโครงการดังกล่าวนี้ คือ นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์   เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยอายุ 55 ปี 10 เดือน เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ภายหลังจากเข้ารักษาอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด ที่ รพ.รามาธิบดี กว่า3 สัปดาห์ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า การสูญเสีย นพ.สงวน ถือว่าเป็นการสูญเสียคนดี สูญเสียรัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุข เนื่องจาก นพ.สงวน เป็นผู้ทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้เกิดขึ้นกับประชาชนไทย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก ไม่เพียงแต่ประชาชนในยุคนี้ แต่จะมีผลไปถึงรุ่นลูกหลาน ที่จะต้องมีระบบประกันสุขภาพอยู่ตลอดไป และเชื่อว่า ไม่มีใครสามารถจะล้มระบบดังกล่าวได้ และที่ผ่านมา เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องยาก และต้องทนต่อแรงเสียดทานอย่างสูงในการทำงานนี้ให้เกิดขึ้น... ...ท่านทำให้ผมรู้ว่าเรื่องสาธารณสุข ไม่ใช่เพียงการรักษาคนไข้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเสมอภาคด้วย .....” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 19:07:52 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 "สุชัย"เปลี่ยนสโลแกนบัตรทอง "30บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่ง ชาติ เปิดเผยว่า การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ภายใต้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ผ่านมา 4 ปี นับว่าประสบความสำเร็จมาแล้วระดับหนึ่ง มีประชาชนเข้าถึงการบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้มากขึ้น และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ แต่ละปีได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนยุทธศาสตร์เมืองไทยแข็งแรง   ศ.นพ.สุชัยกล่าวว่า ปีนี้โครงการ 30 บาท ได้พัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขมากขึ้นจึงต่อ ยอดโครงการ 30 บาทไปอีกขั้นหนึ่ง ภายใต้สโลแกนที่ว่า " 30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" โดยจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุกเน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีคว ามสำคัญ ได้แก่ เด็ก สตรี วัยหนุ่มสาว ผู้สูงอายุ และผู้พิการ รวมทั้งดึงทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยให้คนไทยมีหลักประกันสุขภาพ เช่น ส่วนราชการต่างๆ องค์กรวิชาชีพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรประชาชน โดยให้ความสำคัญกับแผนการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ประชาชนอย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง   ศ.นพ.สุชัยกล่าวว่า โครงการ 30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เริ่มเปิดตัวให้บริการตรวจสุขภาพเพื่อหาความเสี่ยงป้องกันก่อนเจ็บป่วยให้แก ่ประชาชนทุกวัยทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป โดยเน้นให้บริการสร้างสุขภาพ อาทิ กลุ่มเด็กให้บริการตั้งแต่ การตรวจรักษาฟันให้เด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมต้น ทุกคนทั่วประเทศ ให้ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟัน ซึ่งจะทำให้เห็นว่าเรื่องเคลือบหลุมร่องฟันไม่ใช่มีบริการสำหรับนักเรียนที่ มีฐานะดีในเมืองเท่านั้น   "บัตรทองจะให้บริการตรวจสุขภาพพนักงานขับรถสาธารณะ เช่น คนขับแท็กซี่ สามล้อ มอเตอร์ไซค์ รถเมล์ ขสมก. และรถ บ.ข.ส. จำนวน 100,000 ราย เนื่องจากสุขภาพพนักงานเหล่านี้ มีความสำคัญต่อผู้โดยสารและประชาชนบนท้องถนน" ศ.นพ.สุชัยกล่าว และว่า จะตรวจและรักษามะเร็งปากมดลูกให้หญิงอายุตั้งแต่อายุ 35-60 ปี ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นมะเร็งที่รักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบและรักษาตั้งแต่ระยะต้นๆ รวมทั้งตรวจสุขภาพช่องปากและทำฟันปลอมให้ผู้สูงอายุ จำนวน 40,000 ราย   ศ.นพ.สุชัยกล่าวว่า จะเน้นการตรวจสุขภาพและให้บริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคแก่ข้าราชการและคน งานทั่วประเทศ เพื่อให้ฟิตตลอดเวลาและป้องกันไม่ให้ฟุบก่อนเวลาอันควร รวมถึงการตรวจสุขภาพและขึ้นทะเบียนผู้พิการรายใหม่จำนวนหนึ่ง 100,000ราย เพื่อจัดหาอุปกรณ์เครื่องช่วยและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ นอกจากนั้นจะเน้นการตรวจคัดกรองโรคขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ให้เกลือผสมสารไอโอดีน ให้ธาตุเหล็กแก่เด็กและหญิงตั้งครรภ์ ตรวจพัฒนาการเด็กเล็ก ให้วัคซีนครบชุด คัดกรองป้องกันโรคธาลัสซีเมีย วางแผนครอบครัว ให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีจากแม่สู่ลูก เป็นต้น นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า บริการเหล่านี้ประชาชนสามารถไปใช้บริการได้ที่หน่วยบริการทั้งรัฐและเอกชนที ่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยสโลแกนใหม่ที่จะเปลี่ยนจะมีพิธีเปิดตัวโครงการ 30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรคโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรม "จาก 30 บาทรักษาทุกโรคสู่ 30 บาทช่วยคนไทยห่างไกลโรค" ในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้ จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 19:11:27 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 อาลัยนายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ : พี่ที่แสนดีของเรา เขียนโดย ไท เมื่อ 24 มกราคม, 2008 - 13:29 tags: (ภาพจาก www.mat.or.th/file/16Oct2007-Limages-Snguan3.jpg) นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ผู้บุกเบิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เสียชีวิตลงแล้วด้วยโรคมะเร็ง นพ.สงวน ป่วยด้วยโรคมะเร็ง และมีอาการทรุดหนักด้วยอาการน้ำท่วมปอดและไตไม่ทำงานตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะจากไป เมื่อเวลา ประมาณ 16.15 น. ของวันที่ 18 มกราคม 2551 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ด้วยอายุ 56 ปี พิธีตั้งศพและสวดอภิธรรม จัดขึ้นที่ วัดชลประทาน รังสฤษฎ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อารยชน ขอร่วมไว้อาลัยการจากไปของนายแพทย์ สงวนนิตยารัมภ์พงศ์ : พี่ที่แสนดี ด้วยบทสัมภาษณ์เก่าของนพ.สงวน ดังนี้ ปัจจุบันแม้สังคมจะมองแพทย์ส่วนหนึ่งว่า ก้าวสู่ระบบธุรกิจที่มุ่งเน้นหากำไร จากความเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้คน ยิ่งกว่าการดูแลรักษา ผู้ป่วย ด้วยความเมตตา เราก็ยังมีแพทย์ที่ดี มีอุดมการณ์ ทำหน้าที่ถ่วงดุลสังคม http://arayachon.org/article/20080124/348 ตามลิ้งค์คับ จากคุณ : อักเสบ - [ 24 ก.ย. 51 19:15:46 A:125.24.88.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้เป็นต้นคิดนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จนกระทั่งพรรคไทยรักไทยนำไปบรรจุเป็นนโยบาย "30 บาทรักษาทุกโรค" ซึ่งตอนแรกไม่มีใครคิดว่าจะทำได้  แต่กลับกลายเป็นนโยบายที่ได้รับความนิยมและยั่งยืนที่สุด ในบรรดานโยบายที่ถูกเรียกว่า "ประชานิยม" ทั้งหลาย กระทั่งอำนาจรัฐประหารยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ได้ เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นการรักษาฟรีตามข้อเสนอของแพทย์ชนบท "หมอหงวน"  ก็เป็นผู้ที่เติบโตทางอุดมการณ์ในช่วง 14 ตุลาคม 2516 ถึง 6 ตุลาคม 2519 ไม่ต่างจากสุวิทย์  วัดหนู  หรือวนิดา  ตันติวิทยาพิทักษ์ แต่ในขณะที่ 2 คนแรกเข้าสู่การต่อสู้ภาคประชาชน หมอหงวนแยกไปต่อสู้ในระบบราชการ กระทั่งสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อประชาชนหลายสิบล้านคน คงไม่เกินเลยถ้าจะบอกว่า  นพ.สงวนคือ  "บิดา  30  บาท"  ที่อาศัยครรภ์ของพรรคไทยรักไทยคลอดมาเป็นนโยบายสวัสดิการสังคมที่ทั่วถึงประชาชนทุกคน  อาศัยความเข้มแข็งของรัฐบาลไทยรักไทย  ความมุ่งมั่นทุ่มเทของ  นพ.สงวน และบุคลากรฝ่ายก้าวหน้าในกระทรวงสาธารณสุข คุณหมอวิชัย   โชควิวัฒน์  เป็นผู้ใกล้ชิดคนหนึ่งของหมอสงวน  ในฐานะคนเดือนตุลารุ่นพี่  แพทย์ชนบทรุ่นพี่ และเป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขด้วยกัน หมอวิชัยเป็นคนหนึ่งที่ไปกับหมอสงวน  รับคำเชิญจาก  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร ไปเสนอนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  ซึ่งใช้เวลาเพียง  45  นาที พ.ต.ท.ทักษิณก็ตัดสินใจว่า "เอา" แล้วมอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ไปดำเนินการต่อ แต่ช่วงแรก 30 บาทก็ถูกต่อต้านเยอะมาก "มีการต่อต้านในหลายประเด็น  คนเชียร์เยอะนะแต่ไม่ค่อยออกมา  คนได้ประโยชน์เยอะมาก แต่มักไม่ค่อยส่งเสียงอะไร  คนที่ส่งเสียงมากที่สุดก็คือแพทยสภา  เพราะกลัวว่าจะกระทบผลประโยชน์โดยเฉพาะผลประโยชน์ของโรงพยาบาลเอกชน  ก็บอกว่าเดี๋ยวบริการจะเลวจะอะไรต่างๆ เพราะเป็นระบบเหมาจ่าย ประกันสังคมทำมา 10 ปีแล้วไม่พูด แต่พอจะทำครอบคลุมทั้งประเทศมาวิจารณ์ ก็ต้องต่อสู้กันมา  อีกอันคือกรณีที่เกิดความเสียหายกับผู้ป่วย  พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ มาตรา 41 ก็ทำให้เกิดการต่อต้านเยอะ เพราะกลัวว่าหมอจะถูกฟ้องมากขึ้น ซึ่งความจริงหลังจากทำไปแล้วหมอถูกฟ้องน้อยลง" "อีกฝ่ายหนึ่งที่มีการคัดค้านอย่างรุนแรงที่สุดก็คือประกันสังคม  เพราะกฎหมายฉบับนี้ต้องการให้ระบบบริการเหมือนๆ  กัน ประกันสังคมเขามีเงินกองโต ก็ไม่อยากให้คนอื่นเอาไปบริหาร ก็ต่อสู้กันมาทุกวิถีทาง  จนกระทั่งต้องเอามาตรานี้ออกไป ราชการก็คัดค้านเพราะเกรงว่าตัวเองจะเสียประโยชน์ กลัวจะไปได้สิทธิเท่ากับประชาชนทั่วไป  เพราะฉะนั้นการคัดค้านมันมาจากทุกทิศทุกทางการผลักดันกระทั่งสำเร็จก็ต้องให้เครดิตรัฐบาลไทยรักไทย   ที่มีความมุ่งมั่นแน่วแน่จนกระทั่งงานนี้สำเร็จ  แต่ที่สำคัญก็คือมีฐานสนับสนุนที่ชัดเจน ก็คือคุณหมอสงวน" การต่อสู้ในกระทรวงก็ร้อนแรง แต่หมอวิชัยบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสู้กันมาทุกเรื่อง "แต่ปัจจัยที่มีผลกระทบก็คือการเลือกผู้บริหารควรจะเลือกคนที่เห็นด้วยกับโครงการที่ผ่านมาส่วนใหญ่เลือกคนที่คัดค้านนโยบาย    ที่สำคัญคือคัดค้านเพราะอยากจะเป็นผู้บริหารกองทุนเอง  หลักของคุณหมอสงวนคือแยกกองทุนออกมาจากกระทรวง  ให้กระทรวงเป็นผู้ซื้อบริการไม่ใช่เป็นผู้เอาเงินมาบริหาร  ตรงนี้ก็มีผู้ไม่เห็นด้วย   คนที่อยู่ในกระทรวงก็ไม่อยากให้เงินหลุดออกไป อยากจะดูแลเอง มันมีเรื่องของผลประโยชน์" สิ่งที่ต้องฟันฝ่ามีมากมาย 30 บาทปีแรก นพ.สุรพงษ์เป็นรัฐมนตรีช่วยก็ยังผลักดันได้มาก "หมอเลี้ยบมีส่วนสำคัญในการที่เริ่มต้น แต่พอทำไปสักพักก็ไม่ค่อยมีบทบาท เพราะรัฐมนตรีช่วยก็เป็นดาวนพเคราะห์ ไม่มีแสงในตัวเอง" แต่หมอวิชัยบอกว่าหมอสงวนถือหลักว่าต้องผลักดันให้ออกเป็น พ.ร.บ.  เรื่องอื่นเป็นเรื่องปลีกย่อย  ความขัดแย้งต่างๆ แก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  "เรื่องปลีกย่อยที่ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องปลีกย่อย  เรื่องใหญ่ที่สุดคือต้องออกเป็นกฎหมาย เพราะถ้าออกเป็นกฎหมายแล้วจะมั่นคงยืนยาว เป็นข้อผูกมัด แต่ถ้าไม่มีกฎหมาย เป็นแค่นโยบายต่อไปก็จะอ้างไม่มีเงินบ้างอะไรบ้าง คุณหมอสงวนแกจะมองยุทธศาสตร์ใหญ่ๆ" จากคุณ : For nuch - [ 24 ก.ย. 51 19:16:45 A:124.120.225.177 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 http://arayachon.org/article/20080124/348 ชัวร์คับ เเต่เอาไปเถียงกะพวกนั้นก็เท่านั้น คงอ่านหนังสือกันไม่เป็นมั๊ง ดู ASTV เป็นอย่างเดียว จากคุณ : อักเสบ - [ 24 ก.ย. 51 19:17:22 A:125.24.88.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 30 บาทตายทุกโรค  555+ จากคุณ : อิทัปปัจจยตา - [ 24 ก.ย. 51 19:23:25 A:61.19.67.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วไอ้อ้วนนี่ใครฮึ   ทำไมไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวปั้ด ฮ่าฮ่า จากคุณ : คนเลือกข้าง - [ 24 ก.ย. 51 19:28:01 A:117.47.169.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 จะทำยังไงให้บ้านเมืองของเรามีแพทย์ที่เหมือน นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ มากๆ เพราะสมัยนี้แพทย์ที่เก่งๆ ส่วนใหญ่จะลาออกจาก รพ.ของรัฐ  ไปเป็นหมอที่ รพ.เอกชนแทน......หรือไม่ท่านก็เป็นอาจารย์หมอที่ รพ.รัฐ แต่ออกตรวจที่ รพ.เอกชน จากคุณ : ป้าแตงโม - [ 24 ก.ย. 51 19:32:07 A:222.123.54.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นยุทธศาสตร์ต่อเนื่อง ของกระทรวงสาธารณสุข ครับ ...เป็นยุทธศาสตร์ ลดภาระ "ยารักษาโรค"..1 ในปัจจัย 4... เริ่มจาก...สวัสดิการข้าราชการ+ครอบครัว ..คิดเป็น 5 % ของ ปชก. .............พนักงาน รสก. 2518......บัตรสปน...(ยุคคึกฤทธิ)...........คิดเป็น 15 % ของ ปชก. 2526......บัตรสุขภาพ 2523-2528...บัตร สปร...(ยุคป๋าเปรม) .............ต่อมาก็มี บัตรประกันสังคม,บัตรเด็ก 0-12 ปี, บัตรสูงอายุ, อสม., ผู้นำชุมชน ............ ............ ก่อนเข้าโครงการ 30 บาท คนไทย...มีหลักประกันสุขภาพ รวมแล้วครอบคลุมมากกว่า... 95 % ของ ปชก. ....... โครงการ 30  บาท เป็นเพียง...การประกาศ ความสำเร็จ ครบ 100 % เท่านั้น .... ... สรุปว่า โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นยุทธศาสตร์หลักของ ก.สธ. ที่พยายามผลักดันต่อเนื่องมา กว่าครึ่งศตวรรษ แล้วครับ บางช่วงเวลา รัฐบาลเห็นความสำคัญ...สธ.ก็สามารถรุกคืบหน้าได้ บางช่วงเวลา รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญ..สธ. ก็รุกคืบไม่ได้..จนต้องรุกเอง (เรื่องบัตรสุขภาพ) ช่วงรัฐบาลทักษิณ คีย์แมน ที่จับเรื่องนี้ ของ สธ. (หมอ หงวน หมอเลี๊ยบ ฯลฯ)..มีบทบาท ในรัฐบาล จึงสามารถผลักดัน...โครงการนี้จนสำเร็จ ................คือ..คนไทย สามารถตัดภาระเรื่องการเจ็บป่วยได้ ครอบคลุม 100 % ครับ......... จากคุณ : ss.hh - [ 24 ก.ย. 51 19:38:24 A:222.123.228.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอขอบคุณโครงการ30บาทรักษาทุกโรคครับ... คนสมัยก่อนไม่กล้าไปโรงพยาบาลหรอกครับ เขากลัวไม่มีเงินจ่ายถึงปัจจุบันยังมีคนที่ไม่กล้าไปโรงพยาบาลอยู่เลย แม้จะไม่เสียค่าบริการแล้ว เมื่อก่อนถึงขั้นขายไร่ขายนาไปหาหมอเลย จากคุณ : UNUbon - [ 24 ก.ย. 51 19:39:48 A:222.123.52.200 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท.ไม่ได้ดูดาวสภา(หมอเลี๊ยบ)ในสมัยทักษิณ1...ยืนซดแลกหมัดกับมาร์คหรือครับเป็นบุญตาบุญหูจริงๆไฟท์นั้นใีครพลาดน่าเสียดาย....เรื่อง30บาทนี่แหละมาร์คบอกทำไม่ได้ไม่มีทางจะเอาเงินที่ไหน...แล้วโดนหมอเลี๊ยบตอกหน้าแงจนทุกวันนี้ไม่เคยเห็นมาร์คกล้าพูดถึงหมอเลี๊ยบอีกเลย.....เครดิตน่าจะยกให้2หมอกันหัวหน้าพรรคทรท.นะครับ จากคุณ : จอมยุทธเสเพล - [ 24 ก.ย. 51 19:42:31 A:125.24.182.212 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 30 บาทแนวคิดดี แต่..มีข้อเสียมากมาย จากคุณ : MagicMyth - [ 24 ก.ย. 51 19:44:56 A:58.9.123.17 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้มีสาระครับ นานๆจะมีซะที จากคุณ : WoodyZa - [ 24 ก.ย. 51 19:51:56 A:124.122.158.67 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ ความคิดเห็นที่ 18  : MagicMyth   - [ 24 ก.ย. 51 19:44:56 A:58.9.123.17 X: ]   เท่าที่ ติดตามดูการตอบกระทู้ของคุณมา ระยะหนึ่ง ผมสงสัยว่าคุณอาจจะป่วยนะครับ ลองปรึกษาจิตแพทย์ ดีมั้ย แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:58:56 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:54:30 แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 51 19:53:30 จากคุณ : ss.hh - [ 24 ก.ย. 51 19:53:03 A:222.123.228.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 เป็น แนวคิดและการพลักดัน ของกลุ่มแพทย์ชนบท  กลุ่มหมอสงวน โดยมีหมอเลี๊ยบเป้นผู้สนับสนุนหลัก แต่ถ้าไม่ได้การสนับสนุนจากรัฐบาลเชื่อว่า คงแท้ง เพราะหลักใหญ่ใจความแล้ว นอกจากการรักษาฟรี(30บาท)แล้ว ยังเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงวิธีบริหารงบประมาณด้านสาธารณสุขของประเทศด้วย กระทรวงสารธารณสุขเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่จัดสรรงบประมาณตามปริมาณงาน ไม่ใ ช่ตามความหย่ายของผู้ของบประมาณ  สมัยก่อน งบจะกระจุกตัวอยู่ตาม รรแพทย์ และโรงพยาบาลจังหวัด จากคุณ : ริมน้ำวาง - [ 24 ก.ย. 51 20:01:58 A:58.8.142.6 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 โคตรฮา เถียงไม่ได้ ตอบไม่ตรงใจ ไม่อยู่ฝ่ายตัวเอง มามุขนี้เฉยเลย กร๊ากก อ่อน จากคุณ : MagicMyth - [ 24 ก.ย. 51 20:12:42 A:58.9.123.17 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>       ในความจริงกล่าวรวม นั้นคือ ทีมระดมความคิด สมัยทักษิณ ข้อดี ของการรับฟัง ทำวิเคราะห์ สรุปประเมินผล และนำไปใช้จริง       ในวิธีการคิดนั่น เป็นเหตุผลที่ทำให้ มีคนกล่าวชม มากกว่า... เราเอง ชอบ การคิดแล้ว ทำ (ผลของมันอาจทั่วหรือไม่ทั่ว)       นั่นเป็นสาระหนึ่ง  แต่ยังดีกว่าคิดเป็นอย่างเดียว...อย่างเดียว >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> กระบวนการ " ลบสี บนธงชาติไทย " ทั้งสถาบัน ชาติ  ศาสนา  ถูกย่ำยีเละเทอะ โดยพวกสายพันธุ์เดียวกัน  ที่มีอยู่ทั่ว ๆ .....เราขอสาปแช่ง  ให้ดาบนั้นคืนสนอง......... เราเชื่อ ว่า ในวันหนึ่งข้างหน้า                ความจริงยังคงมีอย่างเดียว http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6998692/P6998692.html จากคุณ : ความจริงมีอย่างเดียว - [ 24 ก.ย. 51 20:17:25 A:58.9.118.22 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นโครงการที่ดีสำหรับผุ้ยากไร้อย่างแท้จริง จากคุณ : กุ้งกระเบื้อง - [ 24 ก.ย. 51 20:21:35 A:61.90.65.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 16 ขอขอบคุณโครงการ30บาทรักษาทุกโรคครับ... คนสมัยก่อน ไม่กล้าไปโรงพยาบาลหรอกครับ เขากลัวไม่มีเงินจ่ายถึงปัจจุบันยังมีคนที่ไม่กล้าไปโรงพยาบาลอยู่เลย แม้จะไม่เสียค่าบริการแล้ว เมื่อก่อนถึงขั้นขายไร่ขายนาไปหาหมอเลย เมื่อก่อนนั้นคนยากจนมักจะพูดว่าขอตายอยู่กับบ้านนี่แหละ เพราะกลัวไม่มีเงินจ่าย ประเมินแล้ว สมัยก่อนคนไทยตายไปก่อนเวลาอันควร พัน หมื่น แสน หรือกี่ล้านคน น่าจะมีการวิจัย 30 บาทที่จ่ายนั้น เขาให้จ่ายเพื่อป้องกันการทำบัญชีผี คนต่อมาไมู่้เรื่องงี่เง่าเปิดช่องหากินทุจริต จากคุณ : surasc - [ 24 ก.ย. 51 20:51:41 A:125.25.217.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ค.ห. 18 รบกวนขอข้อเสียที่คุณว่านั่นหน่อยคับ เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เอาเเบบมีหลักการเเละเหตุผลนะคับ จากคุณ : อักเสบ - [ 24 ก.ย. 51 20:54:25 A:125.24.88.98 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 ความเห็นที่ 15 แสดงลำดับดีมาก 30 บาทเคยเสนอรัฐบาล ก่อนคุณทักษิณ แต่รัฐบาลยุคนั้นเกรงงบจะบานปลาย เลยแตะเปรกชะลอไว้ พรรค ทรท นำมาเป็นนโยบายหลักหาเสียง ยอมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดให้ได้ ปัญหาที่ตามมาในอนาคต คือคล้ายๆต่างประเทศ คือค่าใช้จ่ายจะค่อยๆสูงขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายจริงๆก็เป็นเช่นนั้น จากคุณ : c (ไป่ฉี) - [ 24 ก.ย. 51 21:11:15 A:125.24.79.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 นโยบายของ ทรท สมัยเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน(เคยเป็นแนววิจัยจากTDRI) โอทอป( ต้นแบบจากญี่ปุ่น) 30บาทรักษาทุกโรค ( คุณหมอชนบท) เป็นการรวมแนวคิดต่างๆมาหลอมเป็นนโยบายหาเสียง ซึ่งแตกต่างจากการหาเสียงสมัยก่อนหน้าที่มุ่งแต่จะป้ายสี สาดโคลนพรรคฝ่ายตรงข้าม นับเป็นการหาเสียงด้วยนโยบาย เป็นมิติใหม่ของการเมืองไทยทีเดียว ที่สำคัญเมื่อเลือกตั้งได้ นำนโยบายนั้นมาผลักดันจนปฎิบัติได้จริงเสียด้วย อุปสรรคมีแน่นอน ก็ต้องแก้กันไป .....เฮ่อ.......นึกแล้วเสียดาย จากคุณ : พระจันทร์เต็มดวง - [ 24 ก.ย. 51 21:50:25 A:124.120.199.205 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 โอ.. แค่คิดจะพิมพ์ก็เหนื่อยแล้ว มีเพียบ ไหนจะต้องมานั่งเถียงกับพวกคุณต่ออีก ไปนอนดีกว่า จากคุณ : MagicMyth - [ 24 ก.ย. 51 22:03:48 A:58.9.123.17 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 แถไม่ไหวก็ไปนอนเหอะ ดีแล้ว จากคุณ : มือใหม่หัดโพสต์ - [ 24 ก.ย. 51 22:17:07 A:124.120.173.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยกับ คห .#20 ค่ะ จากคุณ : littlechatte - [ 24 ก.ย. 51 22:47:33 A:114.128.45.123 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 29 ไหนล่ะเหตุผลข้อเสีย เค้าขอให้บอกดีๆก็ไม่บอก หรือกลัวพูดอะไรไปแล้วหน้าแตก ข้อมูลไม่แน่นพอ ถ้าจะให้ดี อ้างอิงที่มาอะไรด้วยนะครับ เห็นตอบในหลายกระทู้แล้ว ไม่มีข้อมูลอะไรมาเลย แถๆ กระแนะกระแหนมาอย่างเดียว เข้าเวบบอร์ดสาธารณะ แล้วกลัวคนเถียง สมองโตให้ทันอายุหน่อยนะครับ หรือว่ายังเด็กอยู่จริงๆ จากคุณ : bassthank - [ 25 ก.ย. 51 01:12:42 A:58.8.155.231 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ ความคิดเห็นที่ 18  : MagicMyth   - [ 24 ก.ย. 51 19:44:56 A:58.9.123.17 X: ]   เท่าที่ ติดตามดูการตอบกระทู้ของคุณมา ระยะหนึ่ง ผมสงสัยว่าคุณอาจจะป่วยนะครับ ลองปรึกษาจิตแพทย์ ดีมั้ย จากคุณ : ss.hh ............................................................................ เอ่อ...อยากทราบว่าโรคนี้ใช้ 30บาท รักษาได้ไหมครับ จากคุณ : แมงง๊องแง๊ง (อ้ายเซียงเมี่ยง) - [ 25 ก.ย. 51 07:22:49 A:203.146.5.69 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : MagicMyth อ่อนหัดจังครับ กลับไปเล่น hi5 ดีกว่าไหม อย่าเข้ามาห้องการเมืองเลยถ้าจะมากระแนะกระแหน เค้าอย่างเดียวเนี่ย เค้าถามข้อเสีย ดี ๆ ตอบไม่ได้ ไม่อยากเถียง เวรกำ ด่าไว้ก่อนเหตุผล ไม่ต้องมี จากคุณ : Natelo - [ 25 ก.ย. 51 10:40:01 A:61.90.138.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 35 ใครจะเป็นคนต้นคิดไม่สำคัญ แต่นโยบายนี้ถูกนำมาใส่ไว้ในนโยบายของพรรคไทยรักไทย ซื่งเมื่อพรรคไทยรักไทยได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาลและได้ผลักดันจนเป็นผลสำเร็จ บนความสำเร็จนี้ก็มีคนไทยทั้งประเทศได้รับอานิสงส์ทั่วทุกตัวคนไม่มีเลือกคนมีหรือคนจน คนที่ไม่เคยได้สวัสดิการแบบนี้ก็ได้ประโยชน์กันถ้วนทั่ว แต่คนที่มีปัญญาจ่ายหรือบรรดาเหล่าผู้ที่มีสวัีสดิการอยู่แต่เดิมอยู่แล้วก็ไม่รู้สึกว่าจะได้ประโยชน์อะไร เหรียญก็ย่อมมีอยู่สองด้านเสมอ เมื่อมีผู้ได้ประโยชน์ก็ย่อมจะมีผู้เสียประโยชน์เช่นกัน บรรดาแพทย์และพยาบาลก็ต้องรับงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมเพราะใครที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็จะเดินทางไปหาสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลมากขึ้นเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกต่อไป บรรดาแพทย์ที่ใช้เวลานอกราชการไปเปิดคลีนิคคนใข้ที่ไปใช้บริการก็น้อยลงไปมาก ร้านขายยาก็ขายยาแทบไม่ได้เพราะใครก็ไปหาหมอกันหมด ดังนั้นก็ย่อมจะธรรมดาที่จะมีผู้ที่พอใจต่อนโยบายนี้(เป็นส่วนมากๆ) และมีผู้ไม่พอใจต่อนโยบายนี้(เป็นจำนวนไม่น้อย)เช่นกัน จากคุณ : อิสระทางความคิด - [ 25 ก.ย. 51 11:25:06 A:124.157.145.204 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่รู้ คุณ MagicMyth จะเข้ามาอีกหรือเปล่า แต่เขียนทิ้งไว้ก็แล้วกันนะครับ คุณบอกว่า "30 บาทแนวคิดดี แต่..มีข้อเสียมากมาย" ก็ดีแล้วครับ ผมเชื่อว่า ทุกๆเรื่องมีทั้งข้อดี และข้อเสีย (ทุกๆเรื่อง จริงๆ) หากเป็นแนวคิดที่ดี เราควรพยายาม ผลักดันต่อไหมครับ หรือ ปฏิเสธ มันไป เครื่องบิน กว่าจะเห็นบินกันอยู่ทุกวันนี้ ตกไปกี่ลำ แล้วตอนกลายมาเป็นเครื่องบินพาณิชย์ ยังคงตก อยู่กี่ลำ แต่เราเลิกใช้ มันไหม เราออกมา สั่งว่า ห้ามใช้เครื่องบิน อีกต่อไปไหม มีปัญหา ก็ต้องแก้ไข ครับ แนวคิดที่ดี ควรได้รับการผลักดัน ผมเคยได้ยินคนพูดว่า "เป็นแนวคิดที่ดี แต่กลัวจะคอร์รัปชั่นกัน ฉะนั้น ไม่ทำดีกว่า" อ้าว! แล้วจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในเมืองไทย ไหมครับนี่ กลัว คอร์รัปชั่น ก็ไปดูที่วิธีการทำงาน สิครับ เจาะให้ลึก จับให้ละเอียด ไม่ใช่ว่า กลัว(แบบลอยๆ) แล้วก็เลยไม่ทำ หากลงรายละเอียดแล้ว ไม่ได้ ไม่ดี ก็ยกเลิกได้ครับ แต่หากวางแผนให้ดี วางกลไกการตรวจสอบให้ดี และสามารถ ทำตามแนวคิดที่ ดีๆ นั้นได้ ไม่ดีกว่า หรือครับ ต้องยอมรับ นะครับว่า ตอนนี้ จริงๆแล้ว โครงการ ๓๐ บาทยังมีอยู่ แต่เปลี่ยนชื่อไป เปลี่ยนเป็นไม่เอา ๓๐ บาทแล้ว ซ้ำยังไม่ทำบันทึก อีกด้วย(อันนี้ เวง จริงๆ ครับ ... แล้วจะเก็บข้อมูลกันอย่างไร ... จะประเมินงาน กันอย่างไร) มันแสดงว่า อะไร หรือครับ น่าคิด นะครับ สรุปคือ ถ้าเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดี ก็อย่าละทิ้ง หรือ เพิกเฉย ครับ เอามาลงในรายละเอียด แก้ไขส่วนที่บกพร่อง ป้องกันความผิดพลาด ทำให้มันดียิ่งขี้น ลดข้อเสียของมันลง มือไม่พาย ก็ไม่ควรเอาเท้าราน้ำ นะครับ จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ - [ 25 ก.ย. 51 13:24:30 A:210.86.146.147 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 ที่กล่าวกันมาทั้งหมด ก็ดีครับ แต่จะมีใครบอกได้อีกบ้างใหมครับว่า โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า เดิม เป็นรูปร่างได้เพราะเงินธนาคารโลก ให้มาทำโครงการ ก่อน ทรท จะเข้ามา ตอนที่เริ่มใน 6 จังหวัดแรก เมื่อ ทรท เข้ามา ก็โดยเงินธนาคารโลก ในเว็บไซท์ กระทรวงสาธารณะสุข ปี2542-2543 เคยมีรายการค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวกับสุขภาพของคนไทยอยู่ที่ 6000(หกพัน)ล้านดอลล่าสหรัฐต่อปี หลังจากนั้นข้อมูลนี้ได้หายไป ขอผู้บริหาร ระดับสูงของ สธ (ในขณะนั้น) กรุณาชี้แจงด้วยครับ (คงจะมีเข้ามาตอบว่า ยังงัยๆ ทรท ก็ผลักดันจนสำเร็จ ก็ไม่ว่ากันครับ) ทีนี้เมื่อบอกว่าดีหนักดีหนา ก็ต้องมีดัชนีชี้วัด ใช่ใหมครับ ? ร้านขายยาทั่วไป จะยังขายได้ใหม? เมื่อโครงการนี้ไม่เสียสักบาท โรงพยาบาลที่ไม่เข้าโครงการ จะยังอยู่ได้ใหม? ประกันชีวิตและสุขภาพ จะยังขายได้ใหม? คลินิคเดี่ยวๆหรือโพลีคลินิค จะยังอยู่ได้ใหม? และสุดท้าย ส.ส. และรัฐมนตรี จะใช้บริการให้เป็นตัวอย่างใหมครับ??? จากคุณ : Sen.MD (Sen. MD) - [ 25 ก.ย. 51 14:56:00 A:202.71.38.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 38 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 51 17:08:57 จากคุณ : HTK - [ 25 ก.ย. 51 17:08:18 A:210.86.128.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ : Sen.MD (Sen. MD) ความคิดเห็นที่ 37 ครับ ประเด็นคืออะไรครับ โครงการนี้ไม่ดี เพราะทำให้ ร้านขายยาทั่วไป , โรงพยาบาลที่ไม่เข้าโครงการ, ประกันชีวิตและสุขภาพ , คลินิคเดี่ยวๆหรือโพลีคลินิค อยู่ไม่ได้ เช่นนั้น หรือครับ? ประเด็นคือการ เสียผลประโยชน์ หรือครับ? ถ้า ประเด็นคือเรื่องนี้ เราสามารถ หาวิธี ที่จะทำให้ คนเหล่านี้อยู่ได้ โดยยังคง โครงการนี้ไว้ ได้หรือไม่? มีใครพูดประเด็นนี้กันหรือยัง ครับ แน่นอน ผลกระทบ อาจจะมีบ้าง แต่การตั้งป้อมเพราะการเสียผลประโยชน์ จะดีหรือครับ? จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ - [ 25 ก.ย. 51 17:48:48 A:210.86.146.147 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห 37 ผมคิดว่าอย่างนี้นะครับ นโยบายนี้เค้าเอาไว้สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ไม่มีปัญญาจะไปซื้อยาเเละเข้ารักษาเเบบปกติทั่วไป ใครมีกำลังก็ไม่ต้องไปใช้บริการ เเค่นั้นเองคับ ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกคน ลองมองอย่างเป็นกลางดูนะคับ ถ้าไม่มีนโยบายนี้ กรรมาชีพที่ไม่มีกำลังทรัพย์ก็ได้ตายกันพอดีน่ะสิคับ หรือว่าคุณเห็นพวกเขาไม่มีสิทธิ์มีชีวิต จากคุณ : อักเสบ - [ 25 ก.ย. 51 22:14:57 A:125.24.37.30 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 คคห 39 และ คคห40 ครับ ประเด็นของผมคือ "เริ่มต้นก็บอกว่าเป็นโครงการสำหรับคนไทย60ล้านคน ใช้งบประมาณต่อหัว 1,200บาท รวม 72,000,000บาท เป็นโครงการที่ดีมาก รักษาทุกโรค บางครั้งก็ ออกทีวี และในหนังสือพิมพ์ เรื่องผ่าตัดหัวใจ" ทีนี้เมื่อดีจริงๆ คนก็ต้องแห่กันมาใช้บริการซีครับ มันก็ต้องมีดัชนีชี้วัด ผมว่าฝ่ายวางแผนและการตลาดของทุกๆองค์กร คงเข้าใจครับว่า ถ้าองค์กรใหนทำธุรกิจอย่างหนึ่งดีมากๆ องค์กรอื่นๆที่ทำอย่างเดียวกันแต่ไม่ดีเท่า คนมาใช้บริการก็จะน้อยลง จนกระทั่งไม่มีเลย ลองคิดดูนะครับว่า ถ้า ร้านขายยายังอยู่ได้ดี โรงพยาบาลที่ไม่เข้าโครงการก็ยังอยู่ได้ดี บริษัทประกันก็ยังอยู่ได้ดี คลินิคก็ยังอยู่ได้ดี จะให้แปลว่าพวกที่เอ่ยมานี้ ทำดีกว่าโครงการ30บาทได้หรือไม่ หรือว่าโครงการ30บาท ทำไม่ดี ผมแค่มาออกความเห็น การปรับปรุง ก็ควรเป็นของคนต้นคิด แต่ที่ติดใจคือ ทำไม ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี ไม่ใช้บริการให้เป็นตัวอย่าง เมื่อทุกๆท่านในฝ่ายโครงการนี้บอกว่า ดีมาก ประสบผลสำเร็จมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : Sen. MD (Sen. MD) - [ 26 ก.ย. 51 17:29:27 A:202.71.38.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตอบ ความคิดเห็นที่ 41 คุณ : Sen. MD (Sen. MD) นะครับ คือผมอ่านแล้ว ค่อนข้าง งงๆ นะว่าความเห็นนี้ ประเด็นอยู่ตรงไหน ผมสรุปเท่าที่ผมเข้าใจก็แล้วกัน นะครับ ถ้าผมเข้าใจผิด ก็รบกวน คุณ : Sen. MD (Sen. MD) อีกครั้งนะครับ >> แต่ที่ติดใจคือ ทำไม ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี ไม่ใช้บริการให้เป็นตัวอย่าง เมื่อทุกๆท่านในฝ่ายโครงการนี้บอกว่า ดีมาก ประสบผลสำเร็จมาก >> ผมเข้าใจว่า ประเด็นอยู่ตรงนี้ หมายความว่า "สส. สว. ไม่ใช้ โครงการ ๓๐บาท แสดงว่า โครงการนี้ไม่ดีจริง" อย่างนั้นใช่ไหม ครับ? ถ้าใช่ ผมตอบตามนี้นะ โครงการ แต่ละโครงการย่อมมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน สร้างเขื่อน -> เกษตรกร+คนใช้ไฟฟ้า คนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ล่ะ คนใช้น้ำทั่วไป ก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์ จากเขื่อนนั้น เพราะ อยู่นอกพื้นที่น้ำ ตัดถนนที่สุไหง-โกลก -> แน่นอน คนในพื้นที่ ผมอยู่กรุงเทพฯ มีโอกาสใช้แทบจะเป็น๐ โครงการ ๓๐บาท ก็เหมือนกัน ครับ มันเป็นสวัสดิการสังคม ของผู้มีรายได้น้อย(หรือไม่มีรายได้) พวกที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างประจำ หรือ พวกคนสูงอายุ ฉะนั้น การที่มีบางคนไม่ได้ใช้ หรือไม่ได้ไปใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด นะครับ รอเอาการฟอกไต เข้าไปอยู่ในโครงการสิครับ คงมีคนได้ใช้เพิ่มขึ้นอีกเยอะ แต่แน่นอน เมื่อมีคนเยอะ ก็จะได้รับความสะดวกลดลง เป็นธรรมดา ก็จะมีบางกลุ่ม ที่ไม่เอา ไปใช้โรงพยาบาลเอกชนที่เขามีปัญญาจ่าย อาจจะแพงกว่า แต่ สะดวกกว่า มันก็เป็นสิทธิ ของเขา ไม่ใช่หรือครับ ส่วนการตรวจวัดผล ก็ควรต้องทำกันไป พัฒนาปรับปรุงกันไป ครับ ไม่รู้ตอบตรงคำถามหรือเปล่า รบกวนด้วยนะครับ จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ - [ 27 ก.ย. 51 15:48:11 A:210.86.146.228 X: ]