ผมว่าการสัมภาษณ์ขอวิศาลสร้างความเสียหายมาก ในฐานะที่เป็นผู้สัมภาษณ์ แต่ไม่สามารถควบคุมการสนทนาให้ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็นได้
เรื่องนี้อย่าโทษชูวิทย์ครับ ต้องโทษวิศาลที่มือไม่ถึง พูดคุยไปมากลายเป็นวิศาลเก็บอารมณ์ไม่อยู่พยายามที่จะหาข้อคำถามที่จะทำให้ชูวิทย์จนแต้มเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองมีกึ๋นมากกว่าชูวิทย์
จุดประสงค์การสัมภาษณ์คือพูดคุยกับผู้ร่วมรายการเพื่อให้ผู้ฟังได้ประโยชน์ในเรื่องที่สนทนา กลับกลายเป็นว่า วิศาลใช้เวลาการออกอากาศเพื่อจะข่มชูวิทย์เพื่อให้ตนเองดูดี โดยใช้โฮกาสที่ตนเองเป้นฝ่ายตั้งคำถาม แล้วเวลาการสนทนาก็หมดไปกับการตอบโต้แบบไร้สาระ ซึ่งผมถือว่าการกระทำของวิศาลในลักษณะนี้ส่อถึงความไม่เป็นมืออาชีพ วิศาลไม่ sensitive เลยว่าประเด็นการสนทนากำลังนำไปสู่การตอบโต้กันด้วยอารมณ์ มากกว่าการดึงข้อมูลจากผู้ร่วมการสนทนา
ซึ่งผู้ดำเนินการการมืออาชีพไม่มทางที่จะให้เหตุการร์แบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด
เท่าที่ผมสังเกต วิศาลแสดงความไม่เป็นมืออาสชีพหลายอย่าง เช่น
- ใช้นิ้วชี้หน้าคุณชูวิทย์ใกล้ๆ ซึ่งเสียมารยาทและถือว่าเป้นการคุกคามฝ่ายตรงข้าม // ปกติแล้วมืออาชีพจะใช้การผายมือ คือ ชี้ทั้งฝ่ามือ
- ไม่ใช่คำว่า คุณ เวลาเรียกชื่อ แสดงถึงการไม่ให้เกียรติผู้ร่วมรายการ // ปกติการสนทนาที่สุภาพเวลาเรียกชื่อ ต้องใช้คุณนำหน้า แม้เวลาการสนทนา ตามปกติ คนที่จะเรียกชื่อผู้อื่นโดยไม่ต้องใช้ คุณ นำหน้า มีอาวุโสมากกว่า ผู้ถูกเรียกชื่ออย่างมาก หรือ ผู้ถูกเรียกชื่อให้การนับถืออย่างมาก ถามหน่อยครับ วิศาลอายุมากกว่าคุณชูวิทย์งั้นหรือ ผมว่า ในแง่ของอาวุโส ชูวิทย์อาจจะมากกว่า วิศาล ถึงสิบปี อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือสนิทสนมกันที่จะเรียกชื่อกันปล่าวๆโดยไม่ใช้คำว่าคุณนำหน้า นี่ยังไมรวมถึง มารยาทของผู้ดำเนินรายการที่ต้องให้เกียรติผู้ร่วมรายการเป็นสำคัญ ตรงกันข้ามผมกับสังเกตเห็นว่า คุณชูวิทยาเวลาพูดถึงวิศาลใช้คำว่า คุณ แทนตัววิศาล และใช้คำว่า ผม แทนตัวเองแทบทุกครั้ง ผิดกับวิศาลที่เรียกคุณชูวิทย์ว่า ชูวิทย์ ๆ ๆ ๆ ซึ่งผมฟังแล้วขัดหูมาก สำหรับที่อาวโสน้อยกว่า เรียกผู้ที่อาวุโสมากกว่าแบบนี้ นี่แค่มารยาทสังคมพื้นๆ วิศาลยังทราบขนาดนี้ ไม่ทราบว่าช่อง 3 ปล่อยให้มีคนมาพูดแบบนี้ในรายการได้ยังงัย
สำหรับคนที่ถืออาวุโสเช่นผม บอกเลยว่า รับไม่ได้ครับ
- วิศาลต่อล้อต่อเถียงกับผู้ร่วมการสนทนาโดยการใช้อารมณ์ แสดงถึงการไม่มีวุฒิภาวะในการดำเนินรายการ หรือเรียกว่าไม่มี E.Q. นั่นเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พออยู่ในสถานะวิกฤติในการดำเนินการรายการ วิศาลไม่สามารถควบคุมการสนทนาให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ ที่ผ่านมาวิศาลรอดมาได้ แม้จะแสดงกิริยาถ่อยๆที่เรียกว่า เสี้ยม กับผู้ร่วมรายการหลายคนได้เพราะผู้ร่วมรายการเหล่านั้นสุภาพและไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับวิศาล วิศาลเลยอยู่รอดปลอดภัยโดยใช้คำว่าสื่อเป็นหน้ากากแฝงให้ตนเองดูดี ทั้งที่พฤติการณ์ในวันนี้แสดงให้ว่าวิศาล ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และวุฒิภาวะในการดำเนินรายการ
ที่ต้องโทษวิศาลวันนี้ เพราะวิศาลอยู่ในฐานะเป็นผู้กำหนดทิศทางการสนทนา
-วิศาลเลือกที่จะแสดงกิริยาที่ให้เกียรติผู้ร่วมรายการมากกว่านี้ก็ได้ แต่วิศาลไม่ทำ
-วิศาลเลือกที่แสดงกิริยานุ่มนวลกว่านี้ก็ได้ แต่วิศาลไม่ทำ
-วิศาลเลือกที่จะตั้งคำถามให้เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์กว่านี้ก็ได้ แต่วิศาลไม่ทำ
แม้การกระทำของชูวิทย์จะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมและผิดกฎหมาย แต่นั่นก็เป็นความรับผิดชอบตามกฎหมายของตัวชูวิทย์เอง
ส่วนวิศาลแสดงออกในฐานะสื่อสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มีเป็นมืออาชีพพอที่จะมานั่งจัดรายกายสัมภาษณ์ใหผู้ชมรับชมทั่วประเทศเช่นนี้ได้
หากช่อง 3 ยังปล่อยให้วิศาลจัดรายการ ถือว่าเป็นการลดมาตรฐานของช่อง 3 ซึ่งไม่ต่างจาก Nation หรือ ASTV ที่เป็นสื่อธุรกิจมากกว่าความเป็นสื่อมืออาชีพ
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 51 19:38:16
จากคุณ :
Xomega
- [
2 ต.ค. 51 19:16:23
A:202.28.52.254 X:
]