ความคิดเห็นที่ 1 อยู่ในคห.9 ในกระทู้.. http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7057239/P7057239.html จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 09:15:10 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตกลงเขามุ่งทำกิจการโรงพยาบาลหรือกิจการมหาวิทยาลัยกันแน่ และในกิจการมหาวิทยาลัยนี้นะ เขาบริหารหากำไรได้ตามอำเภอ ใจเลย อย่างกิจการธุรกิจทั่วๆไป ใช่หรือไม่ครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 10:00:03 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 .....นี่หละ ความหมาย และค่าของ คำว่า ปริญญาตรี ............ที่พวกนักวิชาการบูชา..............ว่าสามารถกำหนดความเป็น มนุษย์ ได้ จากคุณ : เด็กส่งโอเลี้ยง - [ 3 ต.ค. 51 10:17:57 A:124.120.153.100 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 การจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ในหนังสือบริคณฑ์สนธิก็ระบุอยู่แล้วว่า เพื่อดำเนินธุรกิจ เพื่อหากำไร ส่วนทำแล้วจะมีกำไรหรือไม่ หรือจะมีนโยบายไม่หากำไร ไม่ใช่ประเด็น ถ้าไม่มุ่งหากำไรก็ควรไปจดทะเบียนเป็นมูลนิธิสิ อย่างนั้นชัดเจนว่าเป็นองค์กรไม่หากำไรจริงๆ อาทิ ม.หัวเฉียว ม.อัสสัมชัญ พวกนี้ดำเนินการโดยมูลนิธิทั้งนั้น จะมาอ้างว่า มหาลัยไม่หวังผลกำไรนั้นไม่ถูกต้อง แต่การหาผลกำไรนั้นอาจถูกจำกัดโดยกรอบของกฏหมายควบคุมนั้นใช่แน่ อีกอย่างประสิทธ์พัฒนาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับม.รังสิตแล้ว หลังจากมีการแลกหุ้นกันประมาณสองปีที่แล้ว จากคุณ : ริมน้ำวาง - [ 3 ต.ค. 51 10:24:58 A:202.149.25.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ประสิทธ์รัตน์ บริหารมหาวิทยาลัยรังสิต ประสิทธิพัฒน์ บริหารโรงพยาบาล เดิมถือหุ้นไข้วกัน ต่อมาถูกครอบธุรกิจ ก็ขายหุ้นแยกการบริหาร แต่ที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยรังสิต มีการบริหารเพื่อผลกำไร ได้กำไรไปแบ่งในผู้ถือหุ้นปีก่อน สองร้อยกว่าล้าน ดังนั้นจึงไม่ใช่การดำเนินงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยไม่เอากำไรมาแบ่งกัน การมีข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ไปร่วมทำงาน รับผลประโยชน์ และให้ใช้ชื่อเสียงในตำแหน่งไปโฆษณา เพื่อสร้างจุดดึงดูด ให้มีลูกค้าเข้ามาเรียน จึงน่าจะเป็นการรับจ้าง หรือเป็นลูกจ้าง ตามแนวที่ศาลรํบธรรมนูญตัดสินไว้หรือไม่ จากคุณ : คนแดนไท - [ 3 ต.ค. 51 10:30:06 A:124.121.92.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประเด็นง่ายๆๆๆ ใครทำงานให้หน่วยงานใด ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน = ลูกจ้างหรือรับจ้าง 100 % นอกนั้นนอกประเด็น เป็นแค่ของพวกนักกฏหมายที่นิยมตีความแบบที่ตนเองต้องการหรือได้เปรียบ จากคุณ : สลักหิน - [ 3 ต.ค. 51 10:52:14 A:58.10.9.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องหากำไรหรือไม่  ผมว่าต้องดูแบบนี้ดีกว่า ม. A มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย(กำไร) ต่อปี 50 ล้านบาท ทุกปี ไม่มากไม่น้อยกว่านี้เท่าไรนักในแต่ละปี ม. B มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย(กำไร) ต่อปี 50 ล้านบาทในปีแรก ต่อมาเป็น 100ล้าน 200ล้าน ปัจจุบัน 500ล้าน ต่อปี แบบนี้ ม. ไหนหาผลกำไร จากคุณ : peamsosad - [ 3 ต.ค. 51 10:53:23 A:125.26.8.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุที่สอบถามเพราะเคยทราบมาว่า บริษัทพวกนี้เป็นผู้ขอตั้งมหาวิทยาลัยเท่านั้น ไม่ใช่ผู้เข้ามาบริหาร กิจการโดยตรง เท่าที่เคยทราบ การบริหารมหาวิทยาลัยนั้นทำโดยสภาสถาบัน ซึ่งแม้จะมีคนของบริษัทเข้ามา อยู่ในสภาสถาบันนี้หรือเป็นถึงอธิการบดี แต่การบริหารงานของสถาสถาบัน มีข้อกำหนดชัดเจนโดยกฏหมาย กฏหมายกำหนดถึงวัตถุประสงค์ในการบริหารงานของสภา(ซึ่งไม่มีระบุเรื่องมุ่งค้ากำไร) และกำหนดหลักวิธี การนำรายได้มาใช้จ่าย จึงมีความรู้สึกว่า ไม่ใช่บริษัทประสิทธิ์พัฒนาที่เป็นผู้ที่บริหารมหาวิทยาลัยรังสิต แต่เป็นสภามหาวิทยาลัยรังสิต ที่เป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่างหาก และรายได้ของบริษัทประสิทธิ์พัฒนาก็มาจากการที่สภามหาวิทยาลัยแบ่ง คืนมาให้ ตามที่กฏหมายกำหนดไว้เท่านั้น จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 11:23:29 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 สภาสถาบันของมหาวิทยาลัย ดำเนินการให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพรบ.สถาบันเอกชน พศ.2546 ในมาตรา 8 ซึ่งระบุไว้เช่นนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 12:05:23 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 โรงพยาบาลเอกชน และมหาวิทยาลัยเอกชน มีโครงสร้างและวิธีดำเนินการ คล้ายกัน คือมีเจ้าของและผู้ถือใบอนุญาต ในนามบุคคลหรือนิติบุคคล เจ้า ของนั้นหมายถึงผู้ถือกรรมสิทธิในทรัพย์สินทกประเภท และเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนมหาวิทยาลัยในทางทรัพย์สินทางกายภาพ ส่วนในทางการ รักษา ทางการศึกษา อยู่ในกำกับของผู้ถือใบอนุญาต มีคณะกรรมการดูแลแยก ต่างหากจากนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของ ซึ่งคณะนี้ก็ต้องมุ่งประโยชน์สาธารณะ ด้วยเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่รัฐบาลมีเงื่อนไขอนุญาตด้วย ประโยชน์ สองส่วนต้องไปด้วยกัน เมื่อนิติบุคคลผู้เป็นเจ้าของเป็นผู้ลงทุนก็ย่อมแสวง หากำไรตามสมควร กิจการพวกนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ด้วย จากคุณ : NiyomC - [ 3 ต.ค. 51 12:14:34 A:61.19.66.181 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 มหาวิทยาลัยของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคลตาม พรบ.ที่จัดตั้งขึ้น ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชนมีฐานะเป็นนิติบุคคตลตามกฎหมายแพ่งและพานิชย์โดย นิติบุคคลที่เป็นเจ้าของ ซึ่งเมื่อจดทะเบียนเป็นบริษัทย่อมแสวงหากำไรได้ เป็นธรรมดา ส่วนกฎหมายที่อนญาตให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเอกชนมีวัตถุประ สงค์เพื่อการศึกษาและประโยชน์สาธารณะด้วย ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้แสวงหากำไร และไม่ขัดกับประโยชน์ผู้เป็นเจ้าของซึ่งเป็นผู้ให้กำเหนิดมหาวิทยาลัยเอกชน นั้นๆแต่อย่างใด จากคุณ : NiyomC - [ 3 ต.ค. 51 12:53:00 A:61.19.66.174 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอแค่เข้ามาแจมแซวเล่นนะครับ เพราะ จขกท. ถามคุณ RotoTheHERO ตรงๆ จะโรงเรียนสอนภาษา โรงเรียนฝึกสุนัข หรือมหาวิทยาลัยไหนจะแสวงหาผลกำไรหรือไม่ผมไม่รู้ ผมรู้แต่มหาวิทยาลัยราชดำเนินไม่แสวงหาผลกำไรแน่นอน ฟันธง เพราะแกเล่นมุ่งแสวงหาเงินเดือนเพื่อมาจ่ายเงินให้ลูกจ้าง astv อย่างเดียว ปล. ภาพประกอบจากคุณ mcu51 เท้าความเดิมจากกระทู้ท่านท้าวไทโรเอง http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7012399/P7012399.html ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7017120/P7017120.html#5 ความคิดเห็นที่ 5   ถ้าเป็นรพ. และสถานพยาบาล ของรัฐ ไม่ใช่ ครับ เป็นบริการประชาชน แต่ถ้าเป็นของเอกชน เป็นธุรกิจ ที่ต้องทำกำไรให้เลี้ยงตัวเองอยู่รอดและให้ผลตอบแทน แก่ผู้ประกอบการ แต่ ธุรกิจ สถานพยาบาล จะต่างกับ ธุรกิจอื่นที่จะต้องมีเมตตาธรรม และความเหมาะสม ด้วย ครับ จากคุณ : -=Jfk=-    - [ 20 ก.ย. 51 14:16:52 A:118.172.176.116 X: ] จากคุณ : สิงห์สนามหลวง - [ 3 ต.ค. 51 13:00:30 A:58.8.196.11 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ thyrocyte ผมว่าเรื่องนี้ต้องเอามาตรฐานเดียวกันเป็นที่ตั้งนะครับ โปรดเอาพจนานุกรมเป็นหลักครับ เพราะคุณไม่สามารถใช้กฏหมายด้อยศักดิ์กว่ามาถกนะครับ ความยุติธรรมจะเอนเอียงไม่ได้นะครับ จากคุณ : kriengchai - [ 3 ต.ค. 51 13:04:11 A:58.8.49.71 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ฏีกาที่ 5576/2548 นั้น เคยพยายามชี้ให้สมาชิกหลายท่านเห็นแล้วว่า บางท่านตีความผิด จากการอ่านฏีกานี้ จากฏีกา จะเห็นข้อกฏหมายชัดเจนว่า โรงเรียนเอกชนหรือสถาบันศึกษาเอกชนถือเป็นกิจการที่ไม่แสวงกำไร เห็นในคำพิพากษาหรือไม่ครับ ตรงกับกฏหมายอื่นที่ถือว่า สถาบันศึกษาเอกชนนั้นถือเป็นกิจการที่ไม่แสวง กำไร และได้รับการยกเว้นภาษี ฯลฯ แต่หากสถาบันเอกชนหรือโรงเรียนนั้น ไปทำกิจการที่นอกเหนือจากการศึกษา เฉพาะกิจการนั้นๆจึงถือว่าเป็น การแสวงกำไร แต่ลำพังการให้การศึกษา ถือเป็นกิจการที่ไม่แสวงกำไรครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 13:33:03 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฏีกาอื่นๆ ก็แจ้งทำนองเดียวกันว่า กิจการของสถาบันศึกษาเอกชน ถือเป็นกิจการที่ไม่มุ้งแสวงกำไร จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 13:41:06 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 .... จากคุณ : thyrocyte - [ 3 ต.ค. 51 13:41:32 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 ครู อาจารย์ เป็นการทำงานที่อยู่ในสถานะ ลูกจ้าง+รับจ้าง  หรือไม่ ---------------------------------- http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P6985940/P6985940.html แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 51 14:37:42 จากคุณ : mcu51 - [ 3 ต.ค. 51 14:35:06 A:124.122.182.125 X: ]