ในสังคมอินเทอร์เน็ตที่ประชาชนผู้เสพข่าวเข้าถึงข่าวได้หลากหลายมากมายอย่างแท้จริง ทำให้เรารู้ว่าสื่อที่ทำตัวไม่เป็นกลางนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากผู้เสพข่าว ตัวอย่างจากกรณีคุณชูวิทย์ผู้สมัครผู้ว่ากทม.เบอร์ 8 ศอกกลับ กระทืบคุณวิศาลพิธีกรผู้วิจารณ์ข่าวช่อง 3 ผู้ทำตัวเป็นผู้รอบรู้สารพัด
ทางสมาคมผู้สื่อข่าวได้รีบออกมาประนามคุณชูวิทย์ในทันทีที่สิ้เสียงการศอกกลับ ซึ่งผิดกับอีกหลายๆครั้งที่ผู้สื่อข่าวท่านอื่นถูกกระทำและถูกเหยียดหยามมากก่วานี้ไม่ได้รับการปกป้องจากทางสมาคมผูสื่อข่าวเนื่องจากผู้สื่อข่าวท่านนั้นๆทำข่าวเป็นกลางมากเกินไปและไปกระทบกับผลประโยชน์ของพวกท่านคนของท่าน พร้อมกับชักนำ ชี้นำให้ให้สื่อต่างๆ ประชาชนที่เสพข่าวร่วมออกมาตำหนิว่ากล่าวคุณชูวิทย์ แต่ผลที่ได้รับจากการตอบกล้บจากสังคมผู้เสพข่าวกับได้ผลตรงกันข้าม ประชาชนที่เสพข่าวกลับหันไปตำหนิและกล่าวโทษนายวิศาลที่กระทำต้วเป็นสื่อที่ไม่เป็นกลางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจนเน็ตหลายๆแห่งแทบล่ม ข่อง 3 ที่นายวิศาลสังกัดอยู่ถูกว่ากล่าว ถูกตำหนิและถูกต่อต้านถึงขั้นให้ปลดออกไปอยู่ที่อื่นเช่น ASTV หรือช่อง THAI ที่มีอุดมการณ์เดียวกับนายวิศาล นับว่าเป็นการตบหน้าสมาคมผู้สื่อข่าวอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากประชาชนผู้เสพข่าว
จากการที่สมาคมผู้สื่อข่าวได้ออกมาประนามผู้ที่ไม่เห็นด้วยและผู้ที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกของตนว่าผิดอย่างโน้นอย่างนี้มาตลอดโดยไม่ได้กับมามองตัวเองว่าตลอดระยะ 2-3 ปี ท่านปกป้องสื่อที่ไม่เป็นกลางที่เป็นพวกท่านมานานแล้ว พยามยามปกปิดข่าวหลายๆข่าวที่สมควรจะให้ประชาชนผู้เสพข่าวสมควรจะรับรู้ และพยามยามร่วมกับสื่อไม่ป็นกลางทั้งหลายลงข่าวเท็จหรือลงข่าวที่ทำให้เกิดผลเสียหายกับฝ่ายตรงข้ามโดยไม่คำนึงว่าจะเกิดผลเสียหายต่อประเทศชาติหรือไม่
แล้ววันหนึ่งสมาคมผุ้สื่อข่าวและสื่อที่ไม่เป็นกลางก็จะถุกประชาชนผู้เสพข่าวตำหนิ ก่นด่ามากมายกว่าที่ประชาชนผู้เสพข่าววากล่าวและตำหหนินายวิศาลอีกร้อยเท่าพันเท่า แล้ววันนั้นท่านยังจะมีศักดิ์ศรีอยู่อีกหรือ
จากคุณ :
DONGDIB2490
- [
4 ต.ค. 51 08:36:47
A:61.19.65.24 X:
]