ไม่เห็นด้วยกับทหาร (45 คน)
	เห็นด้วยกับทหาร (10 คน)
	จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 55 คน

	81.82%
	18.18%

อนุพงษ์"ย้ำถ้าเป็นนายกฯ คงอยู่ไม่ได้ต้องลาออก ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ อยู่บนกองเลือดไม่ได้

"อนุพงษ์"ลั่นถ้าเป็นนายกฯ "ออกแล้ว" "ผมก็ออกแล้วครับ ไม่อยู่แล้ว อยู่ทำไม บ้านเมืองมันเสียหาย ผมก็ไม่อยู่แล้ว เป็นผมนะครับ ... แต่เรียกร้องว่าสังคมเขารับไม่ได้ เลือกจะกดดันเอง ซึ่งผมขอเรียกร้อง แต่ไม่ได้กดดัน ..."


http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1224156513
-----------------------------------------------------------------------------

อันชาติใดมีขุนพลที่กล้าแต่ปาก แต่การกระทำนั้นขลาดเขลา คิดไม่เป็น
ชาตินั้นก็เสมือนมีรั้วที่ผุพัง เป็นคุณต่อขโมย ขโจร  และที่สุด ก็คงต้องรอวันสิ้นชาติ

ฟังดูทหารหัวหน้าทัพบก ฟังแล้วก็ดูไม่แมนเลย  จริง ๆ นะ
ดูไม่รู้จักหน้าที่แห่งตน และที่ชัดเจนคือเป็นการ ลับ ลวง พราง ทางความคิด

ละเลยประเด็นใหญ่ ใส่ใจประเด็นเล็ก ไม่เลือกวิธีการ ขอเพียงให้บรรลุวัตถุประสงค์เป็นพอ จะถูกกฏหมายหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นปัญหา ตามแนวทางพันธมิดเป๊ะ ๆ

หากไม่เป็นเช่นว่าแล้ว ไฉนเลยจะนั่งบิ้วท์อารมณ์ รัก สาม เศร้า ซื่อ ใส ขุ่น
ยกร่ำ รำพรรณ ถึงการตายของผู้ร่วมก่อการจราจลเพื่อขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ซี่งเป็นการกระทำที่มีฐานความผิดเป็นกบฏ ! ราวกับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาติ ก็ไม่ปาน ซี่งจิง ๆ แล้วไม่ใช่ !

และที่จริงยังไม่ได้พิสูจน์เลยว่าสาวนั่นตายด้วยอาวุธใด อะไรด้วยซ้ำไป

และเหตุใดหัวหน้าทัพบก จึงลืมที่จะนึกถึง ผู้ล่วงลับที่ออกมาต่อต้านการยึดทำเนียบ จนตัวเองถูกพันธมิตรรุมฆ่าหน้าจอโทรทัศน์ อย่าง
"นายณรงค์สักดิ์ กรอบไธสงค์"

และไฉนเลยจึงไม่ตระหนักกัน และร่วมกับทุกเหล่าทัพประชุมหาทางออก หรือสลายม็อบกบฏที่ยีดทำเนียบรัฐบาลไว้ เพราะชัดเจนว่าเป็นฐานทัพที่สั่งการให้ฆ่าคนหน้าจอโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 51 ที่ผ่านมา ทำไมในหัวใจในความคิดของทหารหัวหน้ากองทัพ จึงมีแต่ 7 ต.ค. 51 เท่านั้น ประหลาดจริง ๆ !

แค่ให้มีการบังคับใช้กฏหมาย หาตัวฆาตกรที่รุมฆ่ามาลงโทษก็ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายใดดำเนินการเพื่อให้เกิดความยุติธรรมในแผ่นดินขี้นได้ !

ส่วนทหารภายใต้การบัญชาการของหัวหน้าทหารบก ก็ยังไม่เห็นว่าจะทำอะไรในขณะที่มีหน้าที่ตามที่นายกฯสมัครได้มอบหมายให้ทำ

ก็เห็นแถลงข่าวที่ไม่เข้าท่า 2-3 ครั้งแล้วก็จบกันไป ไม่ได้อะไรเป็นมรรค เป็นผล เหลว !

ประกาศสภาวะฉุกเฉิน ประกาศข้อห้ามตามกฏหมายซะดิบดี 4-5 ข้อ ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน แต่พันธมิตรมันทำตามหรือไม่ แล้วทหารได้จับผู้ฝ่าฝืนพรก. หรือไม่ ที่เห็น ก็ไม่เห็นทำอะไร

ให้ทหารทำเอง ทหารก็ไม่ได้ทำอะไร  ที่จริงแล้ว ทหารภายใต้การสั่งการของผบ.ทบ. ต้องมีความผิด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา 157 ด้วยซ้ำไป

นี่ความผิดของทหารเต็ม ๆ เลย แล้วรับผิดชอบตามกฏหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่กันไปหรือยัง

เหตุไฉน "อนุพงษ์" จึงไม่พิจารณาตัวเอง
ก่อนที่จะกล้าลุกมาแนะนำให้ผู้อื่นพิจารณาตน ในขณะที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ไม่ทำนั้นก็จะทำให้ผิดกฏหมายฐานละเว้นฯ

ก็ยังกล้าที่จะไม่ทำ เวรจริง ๆ !!

ทำไม"อนุพงษ์" + "ทหารที่ออกมารักษาการณ์ตามคำสั่งฯ" ไม่จัดการหยุดการชุมนุมภายใต้การประกาศใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ

อนุพงษ์ ต้องรับผิดชอบหรือเปล่า หรือยัง  ก็ยังไม่เห็นจะรับผิดชอบอะไรไม่ว่าจะทางกฏหมาย หรือทางจริยธรรม !

และการพาเหรดมาขัดขวางการประชุมรัฐสภา 7 ต.ค. 51ครั้งนี้
ศาลปกครอง ก็มีคำพิพากษาลงมาแล้วว่าฝูงชนที่ก่อการจราจลขัดขวางการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาโดยการปิดล้อมรัฐสภานั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ม.63 ชัดเจน

ได้ผลแล้วก็ปฏิบัติตามกฏหมายกันไปสิ กลัวอะไร ใยจึงไม่ทำ  แต่ทำไมเลือกที่จะกดดันรัฐบาล แทนปราบผู้ก่อการจราจล !

ทำไมเหล่าทัพไม่ลุกขี้นมาใช้ความคิดปราบโจร แต่ดันจะอุ้มโจรซะนี่
สิ่งที่ทำอยู่นี้ ไม่ต่างกับเด็ก ที่มาแบมือ ร้องขอ เรียกร้องโน้น เรียกร้องนี่ เด๊ยวอีกหน่อยก็คงจะฟ้องร้อง --"

ทำอย่างนี้ มันก็เป็นวิธีการเดียวกันกับเหล่าพันธมิตรที่เห็นพฤตกรรมผ่านหูผ่านตาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นแหละ


--------------------------------------------------------------------------
การก่อการจราจลขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่ม็อบที่ถูกกฏหมาย แต่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการปะทะกันระหว่าง ตำรวจผู้ปฏิบัตหน้าที่โดยชอบ กับม็อบที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เพราะในม็อบสะสม และเต็มไปด้วยอาวุธที่เอาไว้ฟาดฟันผู้ที่ไม่เห็นด้วยกันกับตน

ฝ่ายประชาชนที่นิยมประชาธิปไตย ในอินเตอร์เนต และ ในนานาอารยประเทศ ก็ได้เห็น ภาพถ่าย วิดีโอคลิป ข้อมูล  ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  ได้เห็นข่าวสารจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศในม็อบ ว่ามันมีอะไรเป็นข้อเทจจริงบ้าง ได้เห็นการรายงานข่าวของผู้สื่อข่าว่ต่างประเทศที่อยู่ในม็อบ รายงานว่าเห็นม็อบพันธมิตรขว้างระเบิด ก็มี

ภาพการใช้ความรุนแรง และการใช้อาวุธ การทำผิดกฏหมาย โดยพันธมิตรมันก็เต็มล้นไปทั้งใน และต่างประเทศ

แต่ทหารหัวหน้ากองทัพบก เรือ อากาศ ตำรวจ สูงสุด ก็มิได้นำพา ถ่างตาดูแต่อย่างใด

ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตา ร่ายสิ่งที่ฟังดูเชยในการรับรู้ หรือว่านี่คือทัศนคติเชิงลับลวงพราง ของรั้วผุ ๆ กันแน่ !


และประเด็นที่สำคัญ ตอนนี้ประเทศไทยก็กำลังมีศึก มีปัญหา มีสถานการณ์ปัญหาชายแดน ให้แก้ไข

แต่ผู้นำเหล่าทัพกลับโผล่มาพูดการเมือง ก้าวล่วงต่อตัวแทนประชาชน
กดดันนายกฯลาออก รวมหัวกันพูดจาทางการเมือง อย่างกับตัวเป็นนักการเมืองก็มิปาน ซี่งมันไม่ใช่หน้าที่ตัว มันผิดที่ผิดเวลาเป็นที่ยิ่ง

ที่สำคัญก็ชัดเจนว่ากบฏพันธมิตรวางแผนสร้างความวุ่นวายเพื่อโค่นล้มรัฐบาล ในทุกวิถีทาง ซี่งการจราจลขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภานั้น ก็เป็นหนึ่งวิธีการอันต่ำช้า และถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฐานความผิดเป็นกบฏ ตาม ม.113 แต่พันธมิตรมีหรือ จะสน ดังนั้นความรุนแรงมีเท่าไหร่ ก็ใส่เข้าไป !

ในขณะที่ชายแดนเขมรนั้นรบกันแล้ว ซี่งก็เป็นผลมาจากพันธมิตรจุดชนวนห่างไปหลายร้อยกิโลเมตร ซี่งมันแผนการณ์ต่อเนื่อง สร้างประเด็น แล้วประเด็นเล่า เพื่อโค่นล้ม แล้วทำให้เกิดภาวะการณ์ที่นำไปสู่การสู้รบกันจนได้ มันทำให้รบกันจนได้ !

ทหารหัวหน้าเหล่าทัพพวกี้  แทนที่จะคิดอ่านงานประเทศเรื่องสงครามกับเขมรหาทางทำให้ปัญหาคลี่คลายลง  บ่ะ แต่ดันเลือกที่จะมานั่งเรียกร้องทำตัวเป็นเครื่องมือให้กลุ่มอนาธิปไตยพันธมิตร มันดูแล้วไร้ศักดิ์ศรีซะเหลือเกิน

การที่หัวหน้าทหาร ทำอย่างนี่น่าจะเป็นตัวเร่งให้เกิดสถานการณ์ความวุ่นวายครั้งใหญ่ขี้นไปเรื่อย ๆ ๆ

ไม่รู้จักกาละเทศะ น่าจะเป็นคำกล่าวที่เหมาะสม สำหรับการกระทำของ
ท. ทหารกลุ่มนี้ !

จากคุณ : +:Non Media:+ - [ 17 ต.ค. 51 04:23:14 A:125.25.180.148 X: ]