เทียบกับท่านผบทบ.แล้วผมคงเป็นเพียงมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งที่ไม่มีอำนาจจะไปขัดขวางต่อสู้ต้านทานกำลังทหารของท่าน
เทียบวัยวุฒิและชาติวุฒิแล้วผมก็เป็นเพียงประชาชนธรรมดาเท่านั้น ที่ไม่ควรนักที่จะมาเสนอชี้แนะอะไรแก่ท่าน
อยากจะขอให้ท่านคิดเสียว่า เป็นบทสนทนาธรรมดาจากน้องถึงพี่ จากคนไทยถึงคนไทย
ผมทราบดีว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ท่านอนุพงษ์กำลังครุ่นคิดสับสนอย่างมาก
กับการตัดสินใจว่า จะทำหรือไม่ทำรัฐประหารดี
ทำก็มีคนทั้งรักและแช่ง ไม่ทำก็มีทั้งคนประนามและสรรเสริญ
ทั้งสองทางเหมือนจะเป็นทางเดินที่เลี่ยงการเจ็บเนื้อเจ็บตัวไม่ได้เลย
ผมอยากจะบอกแบบนี้ครับ
สำหรับมนุษย์ปุถุชนเดินดินอย่างพวกเรา
ถ้าอยากแค่มีชีวิตรอด ก็มองแค่วันพรุ่งนี้
ถ้าอยากสอบไล่ได้ต้องมองไกลสามสี่เดือน
ถ้าอยากทำธุรกิจสำเร็จต้องมองไกล 4-5 ปี
ถ้าอยากสำเร็จในวงราชการต้องมองไกล 10-20 ปี
ถ้าอยากเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมองไกล 50 ปี
แต่ถ้าอยากเป็นรัฐบุรุษ หรือวีระบุรุษ ต้องมองให้ไกลนับ 100 ปี
ถูกผิด ดีชั่ว นิยมหรือเกลียดชังในยุคปัจจุบันท่ามกลางความสับสน ผมคิดว่า หาคำตอบได้ยากครับ
แต่ถ้ามองไปอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า มองว่าสุดท้ายประเทศจะเป็นอย่างไร
ผมคิดว่าตรงนั้นแจ่มชัดมากๆว่า ใครที่วางตัวแบบไหนเลือกทางเดินไหน จะได้เป็นวีระบุรุษ
ผมคิดว่าท่านอนุพงษ์ อยู่ในบทบาทที่สำคัญมากๆ มากจนกระทั่งว่า ประวัติศาสตร์จะจารึกชื่อท่านเอาไว้อย่างแน่นอน
มีเพียงตัวท่านเองเท่านั้นที่จะตัดสินได้ว่า จะให้ประวัติศาสตร์ จารึกชื่อท่านเอาไว้แบบใดครับ
ผมคิดว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน นายทหารทั่วไป ย่อมตัดสินใจกระทำการรัฐประหาร ด้วยเหตุผลต่างๆที่ทราบกันดี
แต่นายทหารที่ปฏิเสธการรัฐประหาร จะเป็นนายทหารที่สร้างความแตกต่างขึ้นในประวัติศาสตร์
และนายทหารท่านนั้นจะได้รับการกล่าวขานต่อไปในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นวีระบุรุษประชาธิปไตย
ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า เป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของประเทศไทย
ผมเห็นว่าบุคคลที่มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์สูงที่สุดในช่วงนี้คือท่านอนุพงษ์นี่แหละ
ผมอยากจะขอร้องในฐานะประชาชนให้ท่านยืนข้างพวกผมบ้าง ถึงผมจะไม่ได้อยู่ฝั่งพันธมิตรก็ตาม
แต่ผมทราบข้อจัดกัดของท่านดี กรตัดสินใจของท่านไม่ใช่เรื่องง่าย
มีคนกล่าวเอาไว้เสมอๆว่า ประวัติศาสตร์เขียนโดยผู้ชนะ ซึ่งก็มักจะเป็นแบบนั้นเสมอๆ
แต่กระนั้นประวัติศาสตร์ก็ถูกรื้อเสมอๆ เพราะไม่มีใครที่ชนะได้ตลอดไป
ผมต้องขอบอกว่า ผมเอาใจช่วย ผมเคารพการตัดสินใจของท่าน
และผมก็ขอเฝ้าดูการตัดสินใจของท่านอนุพงษ์ นายทหารสำคัญท่านหนึ่งที่ผู้คนฝากความหวังไว้
ผมขอเฝ้าดูว่าอาทิตย์หน้าท่านจะเขียนประวัติศาสตร์ให้ตัวท่านเองว่าอย่างไรครับ
อยากให้ท่านมาเป็นพวกเราจริงๆ แต่คงไม่กล้าที่จะคาดหวังแบบนั้นครับ
ไม่กล้าจริงๆ แต่ก็ยังอยากที่จะคาดหวังเสมอครับ
ยังรออยู่เสมอว่าเมื่อไหร่ จะมีนายทหารคนแรกที่ถูกเรียกได้เต็มปากว่านายทหารนักประชาธิปไตยครับ
ตั้งแต่ประเทศไทยมีประชาธิปไตยมาจะแปดสิบปีแล้ว ยังไม่มีสักคนเลยครับ รอกันมานานมากแล้วจริงๆ
ด้วยความเคารพ
ปีศาจเงินตรา
จากคุณ :
ปีศาจเงินตรา
- [
18 ต.ค. 51 09:49:09
A:58.9.185.124 X:
]