Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เพิ่งรู้จริงๆว่า "เรารัก อะไรกัน ?"

    ขออนุญาตนะครับเพื่อนพี่น้องห้อง ราชดำเนิน แห่งนี้ ผมไม่เคยสร้างกระทู้เลยซักครั้ง ไม่คิดจะสร้างด้วยครับ
    ผมเป็นหนี้พวกท่าน ชอบอ่านมากกว่า แต่ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ในกระแสการเมืองเท่าไรนัก  
    แต่เป็นปัจจัยหลักก่อนหน้า และเป็นผลพลอยได้ ที่ทำให้ผมจับมันได้ ว่ามันก็ซ่อนอยู่ในเราๆ ถ้ามีโอกาส ลองสังเกตุ
    ครั้งแรกนี้ ผมเสนอ รอยยิ้ม มาเผื่อท่านด้วยครับ :)

    ตั้งแต่ประมาณบ่ายโมง เริ่มเดินทางไป  ก็อีกไกลเหมือนกัน บนถนนสายยาวนั้น ระหว่างทางพบเห็นความแปลก
    ผมกะลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ว่าก่อนหน้านี้โทรชวนพี่ชายมาด้วย พี่บอกว่า นายพลท่านหนึ่งเป็นคุณพ่อของเพื่อนพี่เค้า  
    เรียกลูกๆกลับมาอยู่บ้านให้หมด บอกว่าอาจจะมีปฏิวัติกัน ตัวพี่เค้าก็ไม่มา ผมจะไปทำไมคนเดียว (แต่ไม่วายกระซิบให้ถ่ายรูปมาเยอะๆ)
    กำลังคิดเพลินๆ ก็บังเอิญสายตาไปนอกหน้าต่างสังเกตุโดยบังเอิญเหมือนกัน ว่ามีชายที่ซ้อนมอร์โตไซด์รับจ้างคันนึงบิดมาหัวฟู
    ขนานกันแต่เว้นช่วงข้ามไปเลนใน  ยิ้มให้ผม  นึกได้ภายหลังว่าลืมลืมตัวขณะนั้น ว่าเราก็ยิ้มพร้อมๆกับเค้า ทั้งใบหน้าเลย :)
    และเผลอยิ้มบ่อยๆไปตลอด ที่เห็น  ขี่มาเองบ้าง บ้างก็ขับรถส่วนตัว บ้างก็กระบะมีคนนั่งกองท้าย โบกมือหน้าตามีความสุขดี  
    อาจจะเป็นเพราะ เสื้อสีแดง ทำให้เราต่างหันส่งยิ้มกันโดยไม่ได้รู้จักกันมาก่อนได้สนิท และเต็มใบหน้า  บนถนนเส้นทางไปสู่สนามรัชมังคลาฯ
    แม้การขับเคลื่อนของรถจะขนานกันได้ก็ระยะเวลาน้อยนิด แต่ก็พอให้ติดตา เห็นรอยยิ้มที่ส่งกันให้กันทุกคนดูบริสุทธิ์เหลือเกิน ทั้งใบหน้า
    ผมเองก็ไม่เคยรู้สึกยิ้มให้ใครทั้งใบหน้า และอารมณ์ได้ขนาดนี้มาก่อน โดยเพาะกันคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนแบบนั้น

    ช่วงไฮไลท์ก็มาถึง เวลานั้นโดยก็ประมาณ 20:47น.ทั้งสนามเงียบอยู่ระยะสั้นๆ
    ทันทีทีมีเสียงจากลำโพงสนามกีฬาดังชัดเจนว่า.."สวัสดีครับ พี่น้องที่รักประชาธิปไตยทุกท่านครับ "
    {{{สารพัดเสียงกระหึ่มกึกก้อง}}}

    ผมยืนซ้อนหลังสุดชั้นบน เพื่อจะถ่ายภาพรวม สังเกตุจากระยะสายตา ก็เห็นสายตาหลายคู่หันซ้ายหันขวา ใครหันเห็นใครก็ยิ้มให้กันมั่วไปหมด และมากมายทั่วไป แบบก็น้ำตาคลอไปด้วย ยิ้มไปด้วยก็มี ยิ้มกันสะเปะสะปะแบบนั้น คงเป็นเพราะ ไม่มีภาพเจ้าของเสียงบนเวทีหรือที่ไหน  มีแต่เสียงเท่านั้น
     
    จุดนี้มั๊งครับ ทำให้ผมสรุปส่วนตัวว่า นี่ล่ะผลพลอยได้ สิ่งพบมันที่ซ่อนในตัวเอง และเชื่อว่าซ่อนในพี่น้องเพื่อนร่วมแผ่นดิน และที่ก่อให้เกิดมิตรภาพในรอยยิ้มที่ให้กันแบบออโตเมติคตลอดเวลานั้น คงเป็นประโยคของคำว่า "ประชาธิปไตย"
    แม้ว่าจะคุ้นประโยคนี้ดีมาตลอด แต่ที่สะดุดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เราจะได้ยินคำนี้บ่อยแต่ไหนแต่ไรมา ขนานไปกับตัวของบุคคลท่านนี้ คือคำว่าประชาธิปไตย..ไม่ต้องเอ่ยนามท่านก็ได้ครับ แตพี่น้องเราที่นี่มากมายหลายท่านหลงรัก และทราบดี
    จะว่าอุปทานหมู่!? หรือว่าเราคิดคนเดียว? ก็ตาม ที่ทำให้รู้สึกกับประโยคที่เป็นแก่นแท้ ที่โผล่แสดงออกมาได้กับรอยยิ้มที่ไม่เคยพบ และไม่คิดว่าจะได้เห็นที่ไหน ในวาระที่ประเทศกำลังอึมครึม จากพลังเงียบ พลังส่วนย่อยเฉียดแสนที่กลายมาเปิดเผย ไม่รวมพลังที่ยังเงียบอีกทั้งประเทศ(ส่วนมาก) การยอมรับ จากมวลพี่น้องผองเพื่อนร่วมแผ่นดินจากทุกสารทิศ ทำให้คิดได้อีกมุมหนึ่งว่า ที่จริง "เรารักกัน และร่วมรักในสิ่งเดียวกัน" ในส่วนหลักส่วนหนึ่ง ที่เรารัก

    ครับ ที่เล่ามาก็เป็นเพียงผลพลอยได้ส่วนตัวผมเอง ไม่ได้เน้นประเด็นการเมืองอย่างก็ที่บอกนะครับ ;)
    ขอขอบคุณผู้จัดงานอันยิ่งใหญ่นี้ และขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ ด้วยครับ.

    จากคุณ : Mr.Slowly - [ 2 พ.ย. 51 07:29:38 A:58.8.102.149 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com