โดยลักษณะทั่วไปของความเป็นสื่อ คือการนำเสนอข้อมูลของทั้งสองฝ่าย อย่างเท่าเทียมกัน คนคนรับฟังสื่อได้พิจารณาตามข้อมูลหลักฐานที่เป็นจริง คนฟังก็จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ตามข้อมูลที่สื่อได้นำเสนอนั้น แต่เมื่อใดก็ตามที่สื่อเสนอข้อมูลด้านเดียว โดยไม่มีข้อมูลด้านอื่นมาประกอบ ธรรมชาติของจิตใจคนมักวิ่งสู่ที่ต่ำกว่าอยู่แล้ว ก็มักจะหลงเชื่อในข้อมูลเหล่านั้นอย่างหัวปักหัวปำ และในที่สุดย่อมนำมาซึ่งความเกลียดชัง ในสิ่งที่สื่อนั้นนำเสนอ
สิ่งที่ ASTV นำเสนอ เพื่อให้เกิดความเกลียดชังนั้น ก็คือ คำว่า "ระบอบทักษิณ" ต้องกำจัดให้สิ้นซาก มันเป็นคำที่กินความหมายกว้างมาก ไร้ขอบเขต เป็นระบอบที่อันตราย ฯลฯ แต่ถ้าจะว่าตามความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่อันตรายจนถึงกับทำลายประเทศให้ย่อยยับ ในขณะเดียวกัน "ระบอบทักษิณ" นั้น เป็นปรากฏการณ์รูปแบบใหม่ ซึ่งคนไทยไม่เคย ได้รับมาก่อนนั่นเอง เป็นการพัฒนาคนจะระดับล่างสุดของประเทศขึ้นมา อาจจะยังมีความไม่สมบูรณ์บ้าง แต่มันเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ที่คนชนบท ชาวบ้านตาดำๆ ไม่เคยได้รับมาก่อน และส่วนมากก็จะเป็นแถวภาคเหนือ และ ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศ นั่นเองคือสาเหต ที่ "ระบอบทักษิณ" เป็นที่นิยมชมชอบของชาวชนบทในแถบภาคเหนือ ภาคอีสาน ซึ่งแต่ก่อนคนในภาคอีสานเป็นอยู่ ตามมีตามเกิด และคนอีสานเริ่ม เปล่งประกายแห่งความหวังเมื่อระบอบทักษิณเข้ามา
แต่อย่างว่า เมื่อมีคนได้ประโยชน์ ก็มีคนเสียประโยชน์ และที่สำคัญอาจไม่เป็นที่ชอบใจของใครหลายๆคน ซึ่งอาจเป็นปัญหาในระบบชนชั้น เพราะฉะนั้น "ระบอบทักษิณ" จึงต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก โดยการนำเสนอผ่าน ASTV ทีวีปลุกระดมแห่งความเกลียดชัง เกลียดรัฐบาลที่มาจากพรรค พลังประชาชน ซึ่งเป็น นอมินี ของ คุณทักษิณ แต่ว่า "ระบอบทักษิณ" ได้ฝังลึกเข้าไปในระบบชนชั้นชาวรากหญ้า
การขับไล่ คุณทักษิณ เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งก็ควรจะหยุด แต่สำหรับ ASTV นั้นหาได้หยุดไม่ ตามล้าง ตามบี้ ตามจิก ตามไล่ไม่เลิก นั่นหมายถึง ASTV กำลังต่อสู้กับพลังมวลชนอย่างมหาศาลในระบบชนชั้นชาวรากหญ้า วันนี้ระบบชนชั้นชาวรากหญ้าได้ลุกฮือขึ้นมาแล้ว ข้อมูลต่างๆ ได้แผ่ขยายไปอย่างรวดเร็ว ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ASTV ไม่ได้มีอิทธิพลอย่างมหา ศาลอย่างที่เคยเป็นมา
หากว่าสามารถปิดการนำเสนอ การปลุกระดมของ ASTV ได้ ความสงบสุขของประเทศไทยคงกลับคืนมา แต่ใช่ว่า สิ่งที่ ASTV ต้องการนำเสนอ นั้นหาไร้ประโยชน์ไปทุกอย่างไม่ สิ่งที่จะมาทำหน้าที่แทน ASTV ก็คือ องค์กรตรวจสอบนักการเมืองที่เข้มแข็ง ตัดสินทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ต้องรับใบสั่งจากใคร อยากให้ประเทศไทยเป็นดั่งสยามเมืองยิ้ม เช่นเคย คงเป็นความหวังที่เลือนลาง เพราะรู้สึกว่า จะกู่ไม่กลับซะแล้ว แต่ที่เขียนมาเพราะอยากให้คนไทยรักกันนะครับ
จากคุณ :
กล้วยไม้ดำ
- [
วันลอยกระทง 07:28:37
A:24.91.182.21 X:
]