สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ นับว่าอยู่ในภาวะล่อแหลมอย่างยิ่ง หากมองกันตามหลักปรัชญา สภาพที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก็ไม่ต่างอะไรไปกับ State of Nature หรือสภาวะที่ผู้คนและบ้านเมืองไร้ขื่อไร้แป ไม่มีกฎและบรรทัดฐานมาไว้ควบคุมสังคม และสังคมจะอยู่อย่างสงบสุขได้ ก็ต่อเมื่อกฎและระเบียบต่างๆ เป็นที่ยอมรับของคนในสังคม
ระบอบประชาธิปไตยก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับปรัชญาเหล่านี้ โดยถือว่าผู้นำที่จะมาบริหารบ้านเมืองนั้น จะต้องมาจากเสียงส่วนใหญ่ที่ประชาชนให้การยอมรับ โดยการเลือกตั้งนั้น ก็ไม่ต่างอะไรไปกับสนธิสัญญายินยอมมอบอำนาจการบริหารจากประชาชนในสังคมให้กับคณะผู้บริหารที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ
ในมุมมองของปรัชญาการเมืองตะวันตก ก็ได้มีมุมมองเกี่ยวกับการปฏิวัติเอาไว้เช่นกัน โดยบอกว่าหากผู้ครองอำนาจรัฐทำหน้าที่ไม่เป็นที่น่าพอใจต่อประชาชน ประชาชนเหล่านั้นก็มีสิทธิ์ที่จะขับไล่รัฐบาล
แต่.....
หากเสียงที่ต้องการขับไล่รัฐบาลนั้น ไม่ได้เป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ในสังคม ก็ไม่มีทางที่การปฏิวัตินั้นจะมีความชอบธรรมเกิดขึ้นได้
ลองมามองประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2475 กันดูบ้าง เรามีประชาธิปไตยมาแล้วกว่า 75 ปี แต่จะถามว่าเราเคยมีประชาธิปไตยจริงๆ กันกี่ปี่ เชื่อผมเลย ไม่เกิน 30% ของ 75 ปีหรอก (ประมาณ 22 ปี ลองไปนับดูได้เลยว่าเราเคยมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งถึง 22 ปีหรือเปล่า)
ส่วนที่เหลืออีก 70% นั้น เรามีรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร หากการรัฐประหารนั้น คนส่วนใหญ่เห็นด้วย ย่อมต้องเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ชอบการปกครองของรัฐบาลก่อน แต่การที่จู่ๆ มาทำรัฐประหาร โดยที่ทึกทักเอาว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับตนนั้น การกระทำเยี่ยงนี้ ก็ไม่ต่างอะไรไปกับโจรปล้นอำนาจนั่นเอง
คำว่า อำนาจ เป็นสิ่งหอมหวลชวนใฝ่หา ใครก็ตามที่ได้สัมผัสมันล้วนแล้วแต่ถอนตัวไม่ขึ้นกันทั้งนั้น ฉะนั้น กลุ่มนายทหารที่เคยมีอำนาจมาในอดีตย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพิ้อให้เชื้อร้ายนี้ยังคงอยู่รอดในสังคมได้ ดังในรธน.50 ที่กล่าวว่าทหารปฎิวัติไม่ผิด ไม่ผิด ถ้า มวลชนเห็นชอบด้วย ไม่ใช่มาปล้นอำนาจกันดื้อๆ
คุณจะปล่อยให้อนาคตประเทศอยู่ในมือของนายพลบ้าอำนาจไม่กี่คนงั้นหรือ ทหารมีความเชี่ยวชาญเรื่องการรบ ควรทำหน้าที่คอยระวังข้าศึกศัตรู และคอยรักษาความมั่นคงภายในถ้าตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกามาสมัยปลายๆ กรุงธนบุรี ประเทศเค้าก็ยังไม่เคยมีทหารเอารถถังออกมาขู่รัฐบาลซักที ทั้งๆ ที่กองทัพของอเมริกามีแสนยานุภาพสูงที่สุดในโลก อยากยิงนิวเคลียร์หรือล่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดรัฐสภาหรือทำเนียบขาวก็ย่อมทำได้ ทำไมเค้าไม่ทำ เพราะทหารบ้านเค้าตระหนักถึงหน้าที่
คงมีแต่ประเทศไทยที่เดียวในโลกนี่แหละ ที่คนบางคนรู้ไปโม้ดดดด รู้ไปได้ทุกเรื่อง ตัวเองมีหน้าที่อยู่แล้วแต่ทำตนเกินหน้าที่ หน้าที่ของทหารคือ ปกป้องรักษาบ้านเมืองจากข้าศึก หน้าที่ของนักการเมืองคือ บริหารและปกครองประเทศ หน้าที่ของพลเมืองที่ดีคือ เรียนหนังสือ เกณฑ์ทหารรับใช้ชาติ และเสียภาษี รวมทั้งใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกคณะบุคคลเข้ามาบริหารประเทศ
กรณีการยึดอำนาจนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับการกระทำเกินหน้าที่ของทหารที่ไปแทรกแซงการบริหารประเทศของภาคการเมือง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่เลย อีกทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิ์ของประชาชนที่ได้ลงคะแนนเลือกผู้แทนไปแล้ว การรัฐประหารทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาจึงถือเป็นการเหยียบหน้าประชาชน ไม่ใช่เป็นการกระทำที่น่าสนับสนุนแต่อย่างใด
กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีการบุกรุกสถานที่ราชการ เป็นการละเมิดสิทธิการบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกเข้ามา และการขับไล่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่ละเมิดสิทธิของประชาชนอย่างน่ารังเกียจ เพราะเหตุใดนักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายถึงได้เชืดชูการรัฐประหารและการกระทำของ พธม ทั้งๆ ที่ทั้งสองการกระทำนี้เป็นการละเมิดสิทธิผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนอย่างไม่น่าให้อภัย
มาร่วมกันต่อต้านการรัฐประหาร และการชุมนุมที่ไม่สงบ และมีอาวุธกันเถอะ ประชาชนชาวไทย ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องรักษาสิทธิของประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย ไม่ให้คนพวกนี้มาละเมิดและทำตนเกินหน้าที่ หากเพียงแต่ผู้คนเคารพสิทธิของกันและกัน และปฏิบัติตนตามหน้าที่ที่พึงกระทำ เหตุการณ์แบบ 19 กันยา 49 ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และผมขอสนับสนุนการแก้ไข รธน.50 เพื่อกำจัดเชื้อร้ายคณะปฏิวัติให้หมดไป เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่ประชาชนคนไทยทุกคนยอมรับในสิทธิ และหน้าที่ที่แต่ละคนมีและพึงกระทำ
แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 51 02:47:39
จากคุณ :
KP3@UTH
- [
23 พ.ย. 51 02:44:40
A:98.220.236.236 X:
]