 |
แฉแผนตุลาการภิวัฒน์ ที่ มล ปลื้มพูดถึง
สื่อต่างชาติแฉแผนตุลาการภิวัฒน์ ยุบพลังประชาชน ตั้ง"ประสงค์ สุ่น"ประธานสภาปกครองสูงสุด เร่งออกกฎหมายสร้างการเมืองใหม่ ดัน"พลากร สุวรรณรัฐ"นั่งนายกฯคนกลาง
นายกิตติพงษ์ สุ่นประเสริฐ ผู้สื่อข่าวให้ "ประชาชาติธุรกิจออนไลน์" รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวบไซต์หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ เอเชียไทมส์ออนไลน์ ของฮ่องกง และ มีความเกี่ยวพันกับ บริษัทแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป ได้ตีพิมพ์รายงานชื่อ "เสียงกระซิบเรื่องตุลาการภิวัฒน์ในไทย" ( Judicial Coup murmurs in Thailand ) โดย นาย ชอน คริสปิน บรรณาธิการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ เอเชียไทมส์ออนไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับแผนการตั้งรัฐบาลใหม่หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน ( พปช. )
นายคริสปินอ้างแหล่งข่าวจากแกนนำระดับสูงของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.) ที่ได้บอกกับเขาว่า หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค พปช. จริง จะมีการหาช่องโหว่ทางกฏหมายรัฐธรรมนูญในการตั้งรัฐบาลใหม่ที่นายกฯไม่ต้องเป็น ส.ส. เพื่อจะได้สร้างการเมืองใหม่
แหล่งข่าวจาก พธม. อธิบายให้นายคริสปินถึงวิธีการว่า ถ้าพรรค พปช.ถูกยุบ สส.ต้องหาพรรคอยู่ใหม่ภายใน 60 วันตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน นายกฯที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก็ต้องพ้นตำแหน่งไปด้วย ซึ่งในช่วงนั้นจะมีสุญญากาศทางการเมืองที่รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ให้ทางออกไว้ชัดๆว่าใครจะปกครองประเทศ
นายคริสปินรายงานว่า ทางแหล่งข่าวซึ่งเป็นผู้นำ พธม. อ้างว่า ประมุขของสามศาลคือ ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และ ศาลปกครอง ได้หารือถึงแนวทางผ่าทางตันโดยน่าจะเป็นการตั้ง "สภาสูงสุด"ที่มีสมาชิก 9 คน ซึ่งทางผู้นำพธม. ที่ให้ข่าวอ้างว่าจะทำหน้าที่เหมือนเป็นรัฐฎาธิปัตย์ เหมือน สภาแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน และ สภาสูงสุดนี้จะได้อำนาจในการแต่งตั้งนายกฯกับคณะรัฐมนตรีชั่วคราว กับ อำนาจในการออกกฎหมาย
แหล่งข่าวยังบอกนายคริสปินว่า แผนการตั้งสภาสูงสุดนี้คืบหน้ามากขนาดที่มีการวางตัว น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ ไว้เป็นประธานสภาฯ และ นายพลากร สุวรรณรัตน์ องคมนตรี เป็นนายกฯชั่วคราว
นายคริสปินรายงานว่า หากมีการตั้งสภาสูงสุดดังกล่าวขึ้น สภาฯนี้จะเร่งรัดการออกกฎหมายที่จะสร้างการเมืองใหม่ที่ พธม. เรียกร้อง ที่สำคัญ คือ การมี ส.ส. เลือกตั้งควบกับ ส.ส. สัดส่วน ซึ่งแผนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยออกมาในรูปการกระทำโดยใช้หลักกฎหมายแทนที่จะใช้การรัฐประหาร
นายคริสปินวิเคราะห์ในรายงานว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นจริง ก็ยังไม่มีใครเดาได้ว่าปฎิกิริยาของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรกับผู้สนับสนุนต่อคำตัดสินยุบพรรคจะแรงแค่ไหน นายคริสปินยังมองว่าความรุนแรงของการประท้วงของ พธม. อาจจะปะทุขึ้นมาเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายผู้สนับสนุนทักษิณและพธม. โดยไม่มีใครจะยับยั้งได้อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียุบพรรคว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดตัวแทนพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และ มัชฌิมาธิปไตย มาตรวจเอกสารในวันที่ 26 พ.ย. นี้ ------------ เพิ่มเติม วันที่ 2 ธันวาคมให้สามพรรคมาแถลงปิดคดี ----------------- ตอนแรกที่ผมอ่านบทความนี้ ผมรู้สึกว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะคิดว่าพันธมิตรหมดความชอบธรรมในการชุมนุมแล้วหลังจากยึดสนามบินเพราะคิดว่าทหาร ตำรวจต้องเข้ามาปกป้องความเสียหายของชาติที่เกิดขึ้น แต่เวลาผ่านมาหลายวันแม้กระทั่งรัฐบาลประกาศ พรบ ฉุกเฉิน นี่ผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆๆความคืบหน้าในการยึดคืนสนามบินไม่มีวี่แววเรียบร้อย มองในแง่ดีเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการเตรียมการและทำตามหลักสากล ละมุนละม่อม แล้วสนธิพูดถึงว่า นายกสมชายต้องยุบสภาหนี ก่อนวันที่ 2 ธค ฉะนั้้นไม่จำเป็นต้องเจรจานายกต้องออกอย่างเดียว นี่คือเหตุผลที่นายกสมชายเลือกที่ไม่ออก ไม่ยุบสภา เพราะกลัวสูญญากาศแบบนี้ นี่เอง รอดูครับว่าพรุ่งนี้วันที่ 29 พย ถ้าสนามบินยังไม่ได้คืน พี่น้องชาวไทยเตรียมทำใจรับสภาพการต่อสู้ ของชาวเสื้อแดงที่จะออกมา สงครามนองเลือดคงหนีไม่พ้นดั่งที่บทความข้างบน อยู่ที่ว่าพี่น้องชาวเสื้อแดงจะทรหด อดทน ทรงพลังกว่ากลุ่มพันธมิตรไหม
จากคุณ :
ฟ้าแกมแดง
- [
28 พ.ย. 51 23:50:20
A:125.27.164.122 X:
]
|
|
|
|
|