"สงครามเกิดจากความล้มเหลวในการสื่อสาร"
ผมจำไม่ได้ว่า ใครเป็นคนพูดประโยคนี้ แต่ผมเห็นว่า มันสะท้อนถึง ความไม่สมเหตุสมผลของสงคราม มันต้องเป็นความผิดพลาดอะไรบางอย่างที่มนุษย์สองกลุ่มไม่สามารถสื่อสารได้อย่างเข้าใจ
วันก่อนผมนั่งประชุมติดกับพี่นักกฎหมายท่านหนึ่ง เราพูดคุยกันเรื่องมาตราการจัดการกับพันธมิตรที่ยึดสนามบิน พี่เขาเชื่อว่า พันธมิตรเป็นพวกสุดโต่ง และ เป็นอันตพาล ต้องใช้มาตราการทางกฎหมายอย่างเข็มงวดเพื่อจัดการขับไล่กลุ่มคนกลุ่มนี้ออกจากสนามบิน โดยพี่เขายกตัวอย่างฮิตเลอร์ ที่บุกโปรแลนด์ และอังกฤษและหลายประเทศไม่ยอมทำสงครามกับเยอรมัน จนทำให้เยอรมันได้ใจและเติบโต สร้างความปั่นป่วนไปทั้งยุโรป และสุดท้ายก็ต้องทำสงครามรบกัน เพื่อหยุดฮิตเลอร์ ดังนั้นพี่เขาไม่เชื่อว่า มาตราการในลักษณะสันติวิธี หรือ ใช้กระบวนการทางการเมืองจะจัดการกับพันธมิตรได้
นับแต่ พธม ประกาศหยุดการชุมนุม ผมรู้สึกโลกมันเปลี่ยน ผมมีความสุขมากขึ้น ผ่อนคลาย รู้สึกได้เลยว่า รอยยิ้มผมเปื้อนใบหน้ามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา แม้จะรู้ว่า พธม เพียงหยุดพักระยะ และ จะเกิดพายุขึ้นใหม่อีกครั้ง
การที่ พธม ประกาศหยุดชุมนุม อาจตีความด้วยเหตุผลได้หลายเหตุผล ทั้งในทางแจ้งและในทางลับ แต่สำหรับผมแล้ว ทำให้เห็นว่า พธม ก็ไม่ได้สุดโต่งแบบฆ่าตัวตาย เขายังมีสัญชาติญาณในการมีชีวิตรอด และสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่พวกเขาทำกับคนในประเทศนี้ แม้ปากจะบอกไม่ยอมรับผลของการกระทำ หรือ เบี่ยงไปว่า การกระทำดังกล่าวอย่างการปิดสนามบินนั้น เป็นการกระทำของการท่าอากาศยานไม่ใช่ของ พธม และ ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น เทียบไม่ได้กับการมีรัฐบาลสมชาย หรือ ปล่อยให้ทักษิณกลับมาประเทศอีกครั้ง
ชุดอธิบายของ พธม เด็กที่ไหนก็รู้ว่า มันไม่จริงอย่างที่เขาพูด แต่นี่คือกลไกในการปกป้องตนเองจากการถูกประนามของคนทั้งชาติ หรือแม้แต่ตนเอง ผมเชื่อว่า พวกเขารู้ว่า การกระทำของพวกเขา มันทารุณและทำร้ายประเทศชาติมากน้อยเพียงใด
นี่เป็นช่วงเวลาที่คนทั้งชาติ ร่วมกันผ่าพันสถานการณ์ที่กดดัน เจ็บปวดที่สุดอีกครั้งหนึ่ง บนความสูญเสียด้านเศรษฐกิจ ผมยังมองเห็นคุณค่าของความพยายามที่จะไม่ให้มีเลือดหยดลงสู่แผ่นดินนี้ จากคนหลาย ๆ ฝ่าย และแม้ว่า ความพยายามเหล่านั้น จะถูกตีความว่าเป็นการอ่อนข้อ การให้ท้าย หรือ ความอ่อนแอ ก็ตามที
ถึงวันนี้ ผมคิดว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่ดีกว่า จนเทียบไม่ได้ หากมีการเข้าสลายการชุมนุม พธม วันนี้รายงานข่าวได้แสดงให้ปรากฎแล้วว่า อาวุธต่าง ๆ ที่เตรียมใช้ในการต่อสู้ เอาเฉพาะที่ตกเหลืออยู่ในสถานที่ชุมนม ไม่รวมที่ขนกลับไป มันน่าตกใจขนาดไหน ระเบิดปิงปองหลายสิบลูก ระเบิดเพลิง ไม้ เหล็ก และที่ไม่เคยปรากฎเลย คือ น้ำกรดแบบเข้มข้นพร้อมกระบอกฉีดที่สามารถสลายหน่วยคอมมาโดที่จะเข้าไปปะทะได้เลย ผมจินตนาการถึงภาพของการตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุม ที่เต็มไปด้วย การตอบโต้อย่างเต็มพิกัด และ ความไม่พร้อมของตำรวจที่มีกำลังไม่เพียงพอในการปฏิบัติการ เพราะไม่มีกำลังทหารในการสนับสนุน รวมถึงความรู้สึกของตำรวจที่มีต่อผู้ชุมนุม พธม ที่เป็นคู่กรณีกันมาระยะหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ ทำให้คิดได้ว่า ความรุนแรงมันจะมากมายขนาดไหน
สองวันนี้ เหมือนคนในประเทศได้หยุดทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งความเสียหาย และ ความรู้สึกของวันก่อน ๆ รวมถึงที่มาที่ไป ของปัญหาทั้งหลาย บางคนเริ่มตั้งคำถามกับอนาคต ชีวิตของตนเอง ครอบครัว และ ประเทศชาติ ซึ่งกำลังรุมเร้าด้วยวิกฤติเศรษฐกิจและยังมีปัญหาการเมืองภายในคอยคลุกกรุ่น
ผมดูข่าวเรื่องชายเสื้อขาวที่ถูกการ์ด พธม ซ้อม แล้วจับแก้ผ้า มีดฟัน แล้วยิงที่ไหล่ ปางตาย เพียงเพราะเขาสติไม่ค่อยเต็ม หรือ ข่าวที่สำนักสันติอโศกที่เชียงรายถูกเผา บาดแผลเหล่านี้ จะใช้เวลาเท่าไหร่ในการเยียวยา และถ้าการฆ่ากันเกิดขึ้นกันทั้งแผ่นดินเป็นสงครามกลางเมือง เราจะยังคงอยู่ร่วมกันในชาติได้กันอยู่อีกหรือไม่ และต้องใช้เวลาเท่าไหร่สมานแผลที่แสนจะเจ็บปวดนั้น
ก่อนพระอาทิตย์ลาจากไปของวันนี้ ผมได้รับเมล์จากใครคนหนึ่ง ส่ง Clip เพลง Happy Xmas (War Is Over) - John Lennon อยากให้คนที่อ่านข้อความนี้ เปิดฟังด้วย http://www.youtube.com/watch?v=s8jw-ifqwkM&feature=related
Link ที่เกี่ยวข้อง
บันทึก บก.ลายจุด ตอน เสื้อขาว
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7283470/P7283470.html
บันทึก บก.ลายจุด ตอน ตำรวจเชิญไปคุย
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7279701/P7279701.html
บันทึก บก.ลายจุด ตอน พระจันทร์ยิ้ม
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7274948/P7274948.html
จากคุณ :
บก.ลายจุด
- [
4 ธ.ค. 51 18:52:44
A:58.8.87.207 X:
]