ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ ท่านผู้หญิงวิริยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการ มูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์
** ในเว็บไซต์มีข้อความลงว่าท่านผู้หญิงเอาผ้าห่มไปแจกม็อบ แล้วโทร.ไปที่ บช.น. ว่าไม่ให้ตำรวจเข้าไปปราบเพราะว่าท่านอยู่ในม็อบด้วย เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
พี่จะรู้สึกโก้มากเลยนะถ้าทำอย่างนั้นได้ พี่เป็นผู้หญิงคนเดียวตัวเล็กๆ ตำแหน่งอะไรที่สำคัญไม่มี ตัวพี่ทำงานอยู่กับการกุศล แล้วอยู่ๆ คนเอามาบอกว่าพี่เข้าไปอยู่ตรงนั้นแล้วสามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ขนาดนายกฯ ยังสั่งอธิบดีกรมตำรวจไม่ได้ สั่ง ผบ.ทบ. ไม่ได้ แล้วพี่จะไปสั่งตำรวจไม่ให้สลายม็อบ ถ้าพี่ทำได้จริงๆ พี่ทำยิ่งกว่านั้นอีก แต่...ไม่จริงเลย เพราะว่าพี่ไม่ได้ทำ และจะไม่ทำด้วย แล้วตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นพี่ก็ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น
พี่เป็นประชาชนอาวุโสคนหนึ่ง อายุ 74 ปีแล้ว การที่จะไปเชียร์ข้างใดข้างหนึ่งให้ประชาชนทะเลาะกันไม่ได้อยู่ในความคิด ในสิ่งที่พี่อยากให้เป็นคือเราต้องช่วยกันให้ชาติบ้านเมืองมีความเจริญยิ่งขึ้น เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ
การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม หากมีจุดประสงค์ที่ใช้เศรษฐกิจของบ้านเมืองเป็นตัวต่อรองทำลายบ้านเมือง พี่คงไม่สนับสนุน...ทำไม่ได้ และคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่คงไม่สนับสนุน
** ไม่เคยเข้าไปร่วมม็อบทั้งในทำเนียบหรือที่สนามบิน
ไม่เคย ไม่ไป ไปทำอะไรล่ะ ไม่เคย ทั้งเขียว ทั้งเหลือง ทั้งแดง สำหรับพี่ยึดหลักความถูกต้อง เวลาพี่จะทำอะไรจะยึดหลักความถูกต้อง แล้วการที่จะไปทำอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นระดับชาติ จะโทรศัพท์ไปสั่งคนนั้นคนนี้ได้อย่างไร แล้วสมมติว่าพี่อยู่ตรงนี้ พี่ไม่ทำ พี่ยิ่งใหญ่แค่ไหนที่จะไปสั่งตำรวจสั่งทหารว่าฉันอยู่ตรงนี้นะ อย่างเข้ามาทำนั่นทำนี่ มันไม่ใช่ และไม่ใช่นิสัยของพี่ด้วย พี่ไม่ทำ แล้วเรื่องผ้าห่มอะไรต่างๆ พี่ไม่ทราบเรื่องเลย ไม่รู้เรื่องเลย
** มีข่าวว่ามีการเอาของที่บริจาคให้คนในชนบทของสภากาชาดไทย มาแจกให้พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่ ตรงนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ได้ยินนะ แต่ว่าพี่ไม่เคยให้ แล้วข้อสำคัญพี่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อย่างเวลานี้พี่เป็นห่วงคนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้รับผลกระทบที่ปิดสนามบิน กลับบ้านไม่ได้ เป็นห่วงพวกที่จะไปประกอบพิธีฮัจญ์ เพื่อนๆ พี่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เขาเสียใจกันมากเลยที่ไม่สามารถไปได้ คนพวกนี้ต่างหากที่เราต้องเห็นใจ
** มีการโจมตีว่าท่านผู้หญิงมีความใกล้ชิดกับครอบครัวคุณทักษิณในเรื่องของเงินบริจาค
พี่เป็นเพื่อนเขา คุณหญิงพจมาน (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) และคุณทักษิณ (พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) พี่รู้จักเขามาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกฯ และเขาเป็นเพื่อนพี่ แล้วการที่เขาเป็นนายกฯ เขาไม่ได้ทำอะไรให้พี่ แต่เขายังเป็นเพื่อนพี่ และตอนนี้เขาไม่ได้เป็นนายกฯ เขาก็ยังเป็นเพื่อนพี่ คำว่าเพื่อนสำหรับพี่นั้นพี่ให้ความหมายมากนะ เพื่อนพี่ถ้าเกิดจะไปอยู่ตรงไหนก็เป็นเพื่อนพี่ พี่เป็นคนไม่ทิ้งเพื่อน แต่ถ้าเพื่อมาชักจูงให้พี่ไปทำในสิ่งที่ผิดพี่ไม่ทำ แต่ความเป็นเพื่อนยังเป็นเพื่อน ไม่ใช่ว่าพอเขาเป็นนายกฯ บอกว่าเป็นเพื่อนเขา แต่พอไม่ได้เป็นนายกฯ บอกว่าไม่รู้จักเขา...ไม่ใช่
** ท่านผู้หญิงภูมิใจไหมที่เป็นเพื่อนกับอดีตนายกฯ ทักษิณ
พี่ภูมิใจนะ เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีคนไหนทำอะไรให้ประเทศชาติเท่ากับนายกฯ ทักษิณเลยนะ และเรื่องช่วยงานการกุศลเขาไม่เคยปฏิเสธพี่สักครั้งเดียว เขาให้ความร่วมมือตลอด แล้วจะไปให้พี่คิดไม่ดีกับเขาได้อย่างไร พ่อแม่พี่สอนให้กตัญญูกับคนนะ งานการกุศลของพี่แต่ละงานสำเร็จได้มีเขาให้การสนับสนุนมาตลอด ครั้งที่แล้วที่พี่ทำการกุศลช่วยคนในภาคใต้ เขาให้มา 10 ล้านบาท
***มีคนกล่าวหาว่าเป็นเงินไม่บริสุทธิ์บ้างไหม
เงินไม่บริสุทธิ์หรือ แล้วคนที่มีเงินบริสุทธิ์ไม่เห็นให้พี่เลย พวกมีเงินบริสุทธิ์เอาเงินมาช่วยการกุศลกับพี่บ้างสิ อย่างที่พี่เคยให้สัมภาษณ์ไปเมื่อตอนนั้นว่า ถ้าคนติดคุกเอาเงินมาทำบุญกับพี่ แม้จะ 10 บาท 20 บาท พี่จะชื่นชมเขามากเลย เพราะอย่างน้อยเขามีจิตใจที่จะทำบุญ ทำไมเราจะต้องไปรังเกียจเขาด้วยล่ะ แต่ถ้าเราเอาเงินเขามาแล้วเราไปทำในสิ่งที่ไม่ดี ตรงนี้สิน่าจะรังเกียจมากกว่า แต่นี่เอามาเพื่อไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พี่ภูมิใจที่ได้ช่วยคนไทยด้วยกัน
จากคุณ :
TSC
- [
7 ธ.ค. 51 16:19:10
A:67.15.34.208 X:
]