ความคิดเห็นที่ 1 ต้องถาม พธม. ทำไมไม่รณรงค์เรื่อง รักษาป่า จากคุณ : อีคิวศูนย์ - [ 13 ธ.ค. 51 13:21:12 A:202.28.7.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 พธม มีผู้สนับสนุน เป็นพวกไม้ป่าเดียวกันอยู่แล้ว เลยมิจำเป็นต้องสนับสนุนรักป่าออกนอกหน้า.... จากคุณ : hooligan - [ 13 ธ.ค. 51 14:33:59 A:58.10.99.174 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 "ปลูกป่า = ส่งเสริมอาชญากรรมทำลายชาติ" ผม "ไม่เห็นด้วย" กับข้อความนี้ครับ การปลูกป่า....เป็นการ "เพิ่ม" พื้นที่ป่า การทำลายป่า...เป็นการ "ลด" พื้นที่ป่า การที่ "ผลรวม" ของพื้นที่ป่าลดลง ก็แสดงว่า "การลด" มีมากกว่า "การเพิ่ม" ดร. ควรจะหาวิธีการเพิ่มพื้นที่ป่าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มากกว่า ที่จะมาตำหนิว่า "แฟชั่นการส่งเสริมการปลูกป่ากลับกลายเป็นการปกปิดประชาชนไม่ให้รู้ความจริง" แล้วจึงเป็นเหตุให้สมควรยกเลิกการปลูกป่า โดยให้หันมา "เอาเงินที่ใช้ทั้งหลายไปจ้างอาสาสมัครตรวจสอบป่า ดูแลป่าให้ทั่วถึง" แทน แต่ ดร. ควรจะส่งเสริมทั้ง 2 ด้านพร้อม ๆ กัน การปลูกป่า...เพิ่มพื้นที่ป่าให้มีมากขึ้น (เร็วกว่าการปล่อยให้เป็นไปตามธรมชาติ) การปกป้องป่า...ไม่เพิ่มพื้นที่ป่า(หรือใช้เวลานานในการเพิ่มพื้นที่ป่า) ดังนั้นสิ่งที่ ดร. ควรนำเสนอ ก็คือ วิธีการที่เพิ่มประสิทธิภาพของทั้ง 2 วิธีให้มากที่สุด ประเด็นที่ ดร. อ้างมานั้น...ถึงจะมีเหตุผลรับฟังได้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปยกเลิกการปลูกป่าเพียงเพราะถูกบางกลุ่มใช้เป็นข้ออ้าง ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็หาทางแก้ให้มันถูกจุด การปลูกป่า...มีต้นไม้ที่อยู่รอดกี่%? มีวิธีการเพิ่ม%การรอดของต้นไม้ได้อย่างไร? ความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ "การปลูกป่าทดแทน" ที่ถูกใช้เป็นข้ออ้างในการทำลายป่า จะมีวิธีแก้อย่างไร? ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่คนมีความรู้ระดับ ดร. ควรนำเสนอ มิใช่จะใช้เหตุผลว่า "มีข้อด้อย" มาเป็นข้ออ้าง หาเหตุยกเลิก "การปลูกป่าทดแทน" "เพิ่มข้อดี ลดข้อด้อย...โดยไม่ต้องทำลายทิ้ง".... ดร. คิดได้ไหมครับ? จากคุณ : King Hades - [ 13 ธ.ค. 51 17:01:43 A:125.26.252.235 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 1. ปลูกป่าโดยภาครัฐและเอกชน โดยรัฐเสียเงินค่าเพาะกล้า และสารพัดปีละ 500 ล้านบาทนั้น ปลูกกันได้แค่ปีละ 10,000 ไร่ แล้วถ่ายรูปออกข่าวใหญ่โต คนทำดีได้ดีกันไป 2. แต่ประเทศชาติเสียป่าไม้เพราะการตัดไม้ทำลายป่าปีละนับแสน ๆ ไร่ แทบไม่มีใครเอามาพูดให้คนตระหนักถึงปัญหา มันอันตรายต่อชาติยิ่งนัก ไม่เห็นหรือครับ 3. หน่วยราชการก็ได้แต่อ้างว่ามีเงินและคนน้อย ถ้าทั้งราชการและเอกชนเห็นความสำคัญของป่าจริง ต้องเอาเงินมาปกป้องป่ามากกว่านี้ มีอาสาสมัครป้องกัน มีการตรวจจับเข้มงวด มีกิจกรรมป้องปราม มากกว่าการเน้นการปลูกป่าอย่างที่เป็นอยู่ 4. การปลูกป่าที่ผ่านมาอย่างนี้ เป็นการเบื่อเมาประชาชน ไม่ให้รู้ความจริง ผู้ทรงอิทธิพลจะได้ไม่มีอุปสรรคใตการทำลายชาติ 5. คนทำดีแบบคุณหญิง คุณนาย ช่วยเหลือ ทำไปทำมาคนได้ดีคือคนทำดี ได้หน้า ได้ตา แต่ป่ากลับหด ประชาชนไม่ได้อะไร 6. ในบอกความก็บอกชัดว่าเราต้องช่วยกันรักษาป่า ตีความได้อย่างไรว่า ไม่ต้องปลูกป่า ให้ปราบอย่างเดียวครับ จากคุณ : ชนกนันท์ - [ 13 ธ.ค. 51 20:38:09 A:58.8.222.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 #4 6. ในบอกความก็บอกชัดว่าเราต้องช่วยกันรักษาป่า ตีความได้อย่างไรว่า ไม่ต้องปลูกป่า ให้ปราบอย่างเดียวครับ ผมตีความจากตรงนี้ครับ เพราะเราปลูกป่าได้ปีละเพียง 10,000 ไร่ แต่ป่าถูกทำลายปีละนับแสนไร่ ป่าที่ปลูกเสียเงินราว 500 ล้าน ตายไปเสียเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เราปลูกป่าไปด้วยฝันว่าป่าไม้จะเพิ่มเพื่อลูกหลาน แต่พอลืมตาตื่นกลับพบว่าป่าไม้ถูกทำลายไปหมดแล้ว แฟชั่นการส่งเสริมการปลูกป่ากลับกลายเป็นการปกปิดประชาชนไม่ให้รู้ความจริง เอาเงินที่ใช้ทั้งหลายไปจ้างอาสาสมัครตรวจสอบป่า ดูแลป่าให้ทั่วถึงไม่ดีกว่าหรือ จากคุณ : King Hades - [ 14 ธ.ค. 51 10:34:53 A:125.26.251.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปลูกป่าที่รัฐ เอกชนและใครต่อใครช่วยกันปลูกนั้น ปีหนึ่งได้ 10,000 ไร่ รัฐอย่างเดียวเสียเงิน 500 ล้าน ค่ากล้าไม้ และอื่น ๆ ถ้าตายไปเสียครึ่งหนึ่ง เหลือ 5,000 ไร่ ปลูก 20 ปี ก็ได้ 100,000 ไร่ แต่ปีหนึ่งป่าไม้หายไป เช่น 200,000 ไร่ อีก 20 ปี ก็เป็นจำนวน 4,000,000 ไร่ ตกลงที่ปลูกได้ก็แค่ 2.5% ของที่ถูกทำลาย แน่นอนว่า 2.5% ยังดีกว่าไม่ทำอะไร แต่การที่เราหลงคิดว่าปลูกป่าแล้ว ป่าจะเพิ่มนั้น ล้วนเป็นเรื่องเท็จที่เราถูกมอมเมาให้เชื่อ ให้ทำกันโดยไม่คิด ข่าวคราวปลูกป่ามีมากกว่าข่าวคราวการจับ อย่างนี้อีกไม่นาน ประเทศชาติคงไม่เหลือแน่ จึงอยากให้มองต่างมุมบ้างครับ จากคุณ : ชนกนันท์ - [ 15 ธ.ค. 51 09:18:57 A:58.8.34.62 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีครับ ไปจ้างอาสามาเฝ้าป่า แล้วให้ป่ามันเกิดเอง อาสาตายกันไปซัก 3 ชั่วคน ป่าคงเกิดใหม่ได้ซัก 100 ไร่ แล้วมั่นใจได้อย่างไร ว่าอาสาที่มาทำจะไม่มีส่วนรู้เห็นหรืออุบอิบกินใต้โต๊ะกับพวกตัดไม้ หรือจะไม่มีกลุ่มไหนฮั้วกับทางการเพื่อที่จะได้จ้างบริษัทตัวเองในการทำงานนี้ แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 09:32:03 จากคุณ : dada23 - [ 15 ธ.ค. 51 09:29:27 A:192.168.1.175 X:119.42.77.76 ]

ความคิดเห็นที่ 8 การปลูกป่า ไม่ใช่อาชญากรรมชาติ แน่นอน เพราะทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วก็มีการปลูกป่าเพื่อใช้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่หมุนเวียนทดแทนได้ เพียงแต่การปลูกป่าต้องแยกออกจากกันว่า เป็นการปลูกป่าเพื่อใช้เป็นป่าเศรษฐกิจเป็นสวนป่าเพื่อนำทรัพยากรไม้มาใช้ แทนที่จะไปซื้อไม้จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นไม้จากป่าธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ซึ่งเป็นการทำลายป่าเหมือนกัน เป็นการปลูกป่าในพื้นที่ต้นน้ำลำธาร ที่มีสภาพเสื่อมโทรมจนไม่สามารถพื้นฟูได้ตามธรรมชาติ(เช่นถูกถางทำไร่มาหลายรอบจนดินเสื่อมไม่มีการแตกหน่อของไม้ป่าเดิมแล้ว หรือเกิดดินเสื่อมโทรมหน้าดินไหลหายไปหมด) เป็นการปลูกป่าโดยอาสาสมัครเพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ ดังนั้นมองในมุมไหนก็ไม่ได้เป็นอาชญากรรมชาติ ถึงแม้จะมีภาพมายาคติที่บอกว่า พวกป่าไม้ปลูกป่าซ้ำที่เดิม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ สวนป่าในแปลงที่ปลูกไปแล้วจะเป็นทรัพย์สินของประเทศ จัดเป็นปริมาณงานประเภทที่ดินสิ่งก่อสร้างที่จะต้องมีการส่งมอบเมื่อมีการมอบงานของหัวหน้าหน่วยงานทุกครั้ง มีการตรวจสอบจาก สตง ตลอดทุกๆระยะ ปัญหาพื้นที่ป่าลดลง ก็ต้องบอกว่าเป็นความผิดของคนไทยทั้งหมดที่ นิยมสะสมที่ดินเพื่อเป็นทรัพย์สิน คนมีเงินก็หาซื้อที่เก็บเป็นมรดก ที่ดินถูกๆ ก็เป็นที่บุกรุกป่ามา ชาวบ้านขายที่ดินแล้วก็ไปบุกที่ใหม่ใครเข้าไปจับก็เดินขบวนหรือเรียกร้องให้ฝ่ายNGO หรือ สส หรือเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ทำให้ข้าราชการที่ทำหน้าที่จับกุมผู้บุกรุกป่า ต้องยากลำบากในการทำหน้าที่ ทั้งเสี่ยงต่อความปลอดภัย ความเสี่ยงต่อการปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อโดนร้องเรียนก็จะถูกตั้งกรรมการสอบ ทำให้ไม่ก้าวหน้าในการทางราชการ เปรียบเทียบกับในกรุงเทพ มีประชาชนมากมายที่บุกรุกที่สาธารณะ ที่ของส่วนราชการ เช่นที่รถไฟ ที่ริมคลอง ที่ริมแม่น้ำ แม้แต่กลางกรุงติดกับศูนย์กลางประเทศเช่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแถบท่ามหาราชการมีการบุกรุก แต่ก็ไม่มีข้าราชการใดเอามือเข้าไปซุกหีบ หรือจับกุม ยิ่งในพื้นที่ป่าของประเทศที่คนในชุมชนไม่ช่วยรักษาดูแลปกป้อง ป่าก็ถูกทำลายลงไป ประกอบกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนก็ไม่ช่วยเหลือปกป้องทรัพยากรของชาติ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็หมดแรงที่จะต่อสู้ นั้นคือบทเรียนที่เกิดขึ้นและยังเกิดต่อเนื่องทุกเวลาในขณะนี้ ต้องแยกให้ออกว่าอะไรคือสาเหตุ การจะเปลี่ยนแปลงง่ายที่สุดก็คือทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ตรวจสอบที่ดินในเขตป่าทุกแปลงโดยให้ประชาคมร่วมตรวจสอบว่าที่ดินแต่ละแปลงที่อยู่ในเขตป่ามีใครได้มาผิดกฎหมายหรือไม่ แต่อย่าลืมว่า ที่ดินป่า เป็นที่นิยมของหลายท่าน กรณีที่ดินเขายายเที่ยง ก็ป่าอนุรักษ์ป่าตันน้ำชั้นหนึ่ง หรือป่าแถวแม่สาใหม่ ที่เป็นต้นน้ำชั้นหนึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติยังต้องเผิกถอนเขตอุทยานและเขตป่าไม้ทุกแบบเป็นหมื่นไร่เพื่ออะไร แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 51 10:35:31 จากคุณ : คนแดนไท - [ 15 ธ.ค. 51 10:33:56 A:124.121.96.157 X: ]