ความคิดเห็นที่ 1 ลองดูกัน นะครับ ว่า เป็นอย่างไร เริ่มแรก นี่เหรอ คือ การบริหาร แบบมืออาชีพ   ทำไมต้องทำแบบนี้   ....แต่ปรากฏว่า ปรส.กลับนำสินทรัพย์ทั้งหมดมากองรวมกัน โดยไม่ได้แยกหนี้ดีและหนี้เสียออกจากกัน และทำการประมูลแบบ ?ยกเข่ง?       ...สร้างความสูญเสียแก่ประเทศอย่างใหญ่หลวง ถือเป็นความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย    .... เนื่องจากสินทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 8 แสนล้านบาท .......ปรส.เปิดประมูลได้กว่า 2 แสนล้านบาทเท่านั้น มูลค่าสินทรัพย์ของประเทศสูญหายไปถึง 6 แสนล้านบาท แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 22:25:04 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 22:20:34 จากคุณ : ที่ระลึก - [ 5 ม.ค. 52 22:11:39 A:192.168.200.10 X:124.120.163.41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 - ผลเป็นอย่างไร - ใครต้องถูก ดำเนิน คดี จากคุณ : ที่ระลึก - [ 5 ม.ค. 52 22:13:08 A:192.168.0.17 X:192.168.200.10, 124.120.163.41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พฤติการณ์ที่น่าสงสัยของผู้บริหาร ปรส. เริ่มตั้งแต่การว่าจ้าง บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นที่ปรึกษาวาณิชธนกิจ โดยมีหน้าที่ให้คำปรึกษาในการจัดการสินทรัพย์ของ ปรส.ทั้งหมด โดยบริษัทดังกล่าวได้ทำเกินหน้าที่ด้วยการให้ข้อเสนอในการตั้งเงื่อนไขต่างๆ ให้ข้อมูลในด้านตัวเลขและราคาแก่ผู้เข้าร่วมประมูล และเมื่อ ปรส.เปิดการประมูลสินทรัพย์ก็ปรากฏว่าเงื่อนไขต่างๆ เป็นที่น่าเคลือบแคลงอย่างยิ่ง เช่น 1. การไม่ยอมให้ลูกหนี้ร่วมประมูลหนี้ของตนเอง อันเป็นการตัดสิทธิผู้รู้ข้อมูลของสินทรัพย์ที่แท้จริง 2. ตั้งสินทรัพย์เป็นกองใหญ่ๆ ตามคำแนะนำของที่ปรึกษาที่รู้ว่าหากตั้งเป็นกองใหญ่ๆ ในขณะนั้นคนไทยย่อมขาดเงินทุนหรือไม่มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะเข้าร่วมแข่งขันในการประมูล จากคุณ : ที่ระลึก - [ 5 ม.ค. 52 22:15:55 A:192.168.200.10 X:124.120.163.41 ]

ความคิดเห็นที่ 4 หากแต่ในความเป็นจริงไม่มีประเทศใดในโลกที่ จะยอมให้บริษัทปรึกษาวาณิชธนกิจซึ่งเป็น ?บริษัทลูก? เป็นผู้วางกรอบและกำหนดเกณฑ์ในการประมูล จนกระทั่ง ?บริษัทแม่? เป็นผู้ชนะการประมูลในที่สุด นี่เป็นเพียงปฐมบทของ ? อภิมหายุทธการปล้นชาติ 6 แสนล้าน? *************************** ที่ควรจะต้องมีผู้รับผิดชอบ ***************************** ต่อพรุ่งนี้ ตอนที่ 2 จากคุณ : ที่ระลึก - [ 5 ม.ค. 52 22:18:46 A:192.168.0.17 X:192.168.200.10, 124.120.163.41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ IMF จากคุณ : นายสันทัด - [ 5 ม.ค. 52 22:39:06 A:58.9.30.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 เศร้าใจกับ ปชป.จริงๆ มาร์กี้คงซ้ำรอยเดิม จากคุณ : มะขามกับน้ำปลาหวาน - [ 5 ม.ค. 52 23:05:30 A:192.168.0.17 X:10.87.19.156, 202.12.97.114 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมขออนุญาตคุณที่ระลึก ที่จะเอาข้อเขียนเก่า ๆ ของผมมาให้พวกเราได้อ่านกันอีกครั้งนึง อาจจะยาวมากไปหน่อย  ซึ่งต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าหากสร้างความรำคาญครับ เรื่องลอยค่าเงินบาท   ผมพอยอมรับได้และเห็นใจว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ที่ผมยอมรับไม่ได้ มีอยู่ 3 เรื่อง 1. (สมัยคุณชวลิต)ธปท. เปิดเอาเงินทุนสำรอง ฯ ไปพยุงค่าเงินบาทโดยทำแบบบ้าบิ่น ทำแบบไม่รู้เขาไม่รู้เรา เสียแรงที่เป็นศูนย์รวมผู้ชำนาญการ แต่ผู้นำองค์กรเป็นสีเทา ไม่ยอมรับความจริง ไม่ฟังลูกน้อง นี่ผมยังไม่กล้ากล่าวหาหรอกนะว่ามีใครได้ประโยชน์จากการสู้ค่าเงินมั่ง ทั้ง ๆ ที่มีคนจำนวนมากออกมาขนานนามว่าเป็น 11 วันปริศนาก่อนลอยตัวค่าเงิน หากตั้งคำถามว่า  ถ้าปล่อยค่าเงินลอยตัวในขณะนั้น ใครจะเสียหายมากที่สุด ตอบแบบเด็กเศรษฐศาสตร์ปี 1 เลยนะครับ “สถาบันการเงิน” ครับ เพราะในยุคนั้นหนี้นอกเกือบทั้งหมด ถูกนำเข้ามาโดยสถาบันการเงินในประเทศโดยตรง นำเข้ามาเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของดอกเบี้ย  ถ้าเงินบาทลอยตัวลดค่าลงกว่า 100% เมื่อไหร่ ธนาคารกับสถาบันการเงิน ... ตาย!!! ดังนั้นการที่ คุณเริงชัยก็ดี ธปท. ก็ดี พยายามสู้ค่าเงินนั้น ผมไม่แน่ใจว่าทำไปด้วยเจตนาดี หรือทำไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ตาม  คุณเริงชัยก็ได้ตกเป็นเหยื่อของผลงาน การเปิด BIBF ของ ปชป. ไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้ 2. เป็นความต่อเนื่องจากข้อ 1. (สมัยคุณชวลิตอีกเหมือนกัน) ธปท. พยายามต่อสู้กับเฮชฟันด์เพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงิน โดยการนำเอาเงินทุนสำรองชองชาติ ของประชาชน ไปสู้กับมัน แทนที่จะปล่อยให้แบ๊งค์หรือไฟแนนซ์ต่าง ๆ สู้ด้วยตัวเค้าเอง รายไหนอยู่ไม่ได้  ก็ปล่อยให้เค้าเจ๊งด้วยตัวเอง เพราะเวลามีกำไร สถาบันการเงินพวกนี้มันเคยแบ่งใครมันอิ่มคนเดียว คนไฟแนนซ์ในยุคนั้นคงจำได้  บางไฟแนนซ์แจกโบนัสพนักงาน 18 เดือน!! 3. สั่งปิดถาวร 56 ไฟแนนซ์หลังจากเข้าโปรแกรม IMF (อันนี้แหละครับ ผลงานยุค ปชป.) ผมเข้าใจนะ เรื่องเงื่อนไขต่างที่เราจำเป็นต้องทำ แต่ไอ้วิธีการนี่สิครับ ขออภัย ... โง่สิ้นดี !!! แทนที่จะสั่งรวมไฟแนนซ์  กลับดันสั่งปิดโครมเดียวทั้ง 56 ไฟแนนซ์ การควบกิจการอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนเพื่อชำระบัญชี สามารถประวิงเวลาให้พวกเราได้มีหนทางแก้ไขเหตุการณ์กันบ้าง รายไหนไม่ไหวจริง ๆ ค่อยคัดทิ้ง แล้วเรียกลูกหนี้ของไฟแนนซ์นั้น ๆ มาเจรจา กำหนดวิธีการใช้หนี้คืน แล้วเอาเงินมาเข้ากองทุน ฯ คืนให้เจ้าหนี้ของไฟแนนซ์พวกนั้นอีกที นี่อะไร ... เร่งรัดสั่งปิดไฟแนนซ์ปุ๊บ ตั้ง ปรส.ปั๊บ เลหลังขายเลย ลูกหนี้จะขอใช้หนี้คืนให้ ตามเงื่อนไขที่เคยตกลงไว้กับไฟแนนซ์ ด้วยมูลค่าเต็ม 100% ปรส.มันก็ไม่ยอม กรูจะเอาคืน 100% เดี๋ยวนั้น ถ้าไม่ได้ ... กรูขายเลหลัง!! อย่าลืมสิครับ ลูกหนี้เค้ากู้มาทำธุรกิจโดยสุจริต ก่อนกู้เงิน เค้าก็ทำการวิเคราะห์มาแล้วว่า จะกู้เท่าไหร่ มีกำหนดเวลาใช้คืนภายในกี่ปีกี่เดือน ถ้าเป็นโครงการใหญ่ ๆ เค้าก็ทำ Feasibility Study กัน จนทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารหรือไฟแนนซ์ก็ตาม เห็นชอบแล้ว จึงปล่อยเงินออกมาให้กู้ จู่ ๆ จะไปเรียกคืนเค้า 100% จะเอาเดี๋ยวนั้น ใครจะมาหาให้ได้  บางเจ้าก็เอาไปสร้างโรงงานซึ่งยังไม่ได้มุงหลังคาด้วยซ้ำ บางรายกู้เอาไปสร้างตึกก็เพิ่งจะทำเสาเข็มเสร็จ  จะมีปัญญาเอาเงินจากไหนมาคืน เรื่องนี้ ปรส.รู้ดี รู้ดีที่สุด  แต่ก็ยังเดินหน้ายึด ยึด และยึดต่อไป เป็นจุดเริ่มต้นนำมาซึ่งการปล้นชาติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยความเอื้อเฟื้อของคนไทยด้วยกันเองนี่แหละ ... “ปรส.” ปรส.จ้าง บริษัท เลห์แมนบราเดอร์ส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นที่ปรึกษาวาณิชธนกิจ รวมทรัพย์สินเป็นกองใหญ่ๆ ตามที่ ที่ปรึกษาแนะนำ แล้วเรียกต่างชาติซึ่งมีเงินเยอะ ๆ เข้ามาประมูลเหมาคละไปทั้งหนี้ดีและหนี้เสีย โดยให้เหตุผลในการคละหนี้ว่าเป็นผลดีในการระบายหนี้เสียที่ไม่มีใครต้องการนั้น ให้ขายออกไปในคราวเดียวกัน แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้น  เจ้าที่ปรึกษาวาณิชธนกิจตัวดีนั่นแหละเป็นคนจัดคละกองหนี้ และสร้างราคาให้หนี้แต่ละกองสูง มากจนไม่มีกลุ่มทุนไทยกล้าซื้อ สุดท้าย ... คนที่ชนะการประมูลก็คือพวกกลุ่มทุนฝรั่ง และรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท เลห์แมนบราเดร์สโฮลอิ้ง อิงค์ ผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ปรึกษาของ ปรส. (เลห์แมนบราเดอร์สฯ) 99.99% !!!     มันแปลว่าอะไร !!! จากคุณ : มหาชำร่วย (ยุคที่2..มหาReload) - [ 6 ม.ค. 52 00:52:06 A:124.120.141.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ทรัพย์สินที่พวกเรา (รวมทั้งผม) ที่ได้มาโดยสุจริต แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและกำลังกายกำลังสมองตลอดชีวิต ต้องถูกไอ้คนพวกนี้มันปล้นไปต่อหน้าต่อตา โดยเกลือเป็นหนอน ลูกสาวคนเดียวของผม ต้องออกจากโรงเรียนมีชื่อ เพราะผมไม่มีเงินจะให้แกเรียนต่อได้ แต่ก็ยังพอทำเนา เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ที่สะเทือนใจก็คือ การที่ภรรยาผมต้องขายสมบัติส่วนตัว งัดเอาสินสอดทองหมั้น เอาออกมาขายเพื่อต่อชีวิตให้ครอบครัว ไอ้ฝรั่งน่ะผมไม่ว่าหรอก เพราะมันเป็นอย่างนี้ของมันมานานแล้ว แต่ไอ้พวกเราเองที่ทำทองไม่รู้ร้อน  เหมือนจะไปช่วยมันปล้นนี่สิครับ  มันน่านัก ตอนนั้น นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ชื่อ นายชวน หลีกภัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชื่อว่า นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ทั้งสองคนนี้มาจาก ปชป. และเป็นสองคนที่ร่ำลือกันว่ายอดเยี่ยมนัก แต่กลับวางเฉยละเลยความทุกข์ยากของประชาชนอย่างตำตา ขาดความพยายามในการระงับความสูญเสียและความเสียหายของประชาชน โดยอ้างแต่หลักการบ้า ๆ บอ ๆ ที่เพ้อเจ้อจนเหมือนจะลามไปทั่วสมองแล้ว ใครอยากอ่านรายละเอียด  ลองไปหาหนังสือเล่มนี้อ่านครับ ” วิบากกรรมเศรษฐกิจ 2540 บทเรียนจาก ศปร. 1” โดย ศปร. กระทรวงการคลัง หาได้ตามชั้นในห้องสมุดแทบทุกมหาวิทยาลัย หลายคนด่าว่า พล.อ.ชวลิตว่าเป็นต้นเหตุ แต่ผมไม่เคยโทษคุณชวลิต ผมทราบดีว่าคุณชวลิตทำคุณูปการให้ประเทศชาติ ทั้งในทางลับและทางแจ้งมามากมายนับไม่ถ้วน  ผมขอชมเชยท่านว่า ท่านเป็นลูกผู้ชายคนนึง   ท่านกล้ำกลืนหลายสิ่งไว้ในใจแต่เพียงผู้เดียว ในขณะที่กลุ่มผู้บริหารประเทศจาก ปชป. กลับทำตัวเป็น Good Boy ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและสลัดความผิดให้พ้นตัว ทั้ง ๆ ที่ตัวเองนั่นแหละเป็นคนเปิด BIBF ตามที่ฝรั่งมันสั่ง   โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไม่ต่างจากการเปิดประตูเมืองให้ข้าศึกมันเข้ามาโจมตีจนกรุงแตกเป็นเสี่ยง ๆ หนำซ้ำยังนั่งนิ่งปล่อยให้ ปรส.ที่ตัวเองแต่งตั้งเข้ามากับมือ  สุมหัวสมคบต่างชาติปล้นคนไทยต่อหน้าต่อตา ซึ่งผมไม่เข้าใจว่าในสมองและจิตสำนึกของคนเหล่านี้เค้าคิดอะไรกัน  และยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร นั่นแหละครับ  ที่ทำให้ผมรู้จักกับคำว่า"ทรยศ"และ"เลือดเย็น" 6-7 ปีของ ทรท. ผมยอมรับว่ามีคนในรัฐบาลและพวกพ้องได้ประโยชน์ทับซ้อน. แต่ ทรท. ไม่เคยปล้นชาติ ไม่เคยทำให้ใครต้องชิบxxx ขายตัว ทรท. กู้เศรษฐกิจกลับมาได้จริง และเป็นครั้งแรกที่รากหญ้าได้ลืมตาอ้าปาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีใครแอบก๊อปปี้เอาวิธีการไปใช้อย่างหน้าไม่อาย โธ่ .. กะอีแค่เอาไปเปลี่ยนปก  แล้วบอกเป็นอัลบั้มใหม่  เทปผีอย่างนี้มันจะขายไปได้ซักกี่น้ำ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 07:54:29 จากคุณ : มหาชำร่วย (ยุคที่2..มหาReload) - [ 6 ม.ค. 52 00:54:49 A:124.120.141.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อ คห 7 และ 8 พูดได้ถูกใจผมนัก เอาGIVE ไปเลย ***** นั่นแหละ ครับ การจัดการบริหาร งาน ต่าง ๆ ของ คนที่ เรียกตัวเอง ว่ามืออาชีพ ไม่มี ข้อที่จะหาคำบรรยาย อะไรได้เลย เดี๋ยวมาดูกันต่อนะครับ ว่า เส้นทาง มัน ต่อเนื่อง อย่างไร แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 08:09:39 จากคุณ : ที่ระลึก - [ 6 ม.ค. 52 07:15:48 A:192.168.0.17 X:192.168.0.90, 58.8.24.111 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มาดู ตอนที่ 2 กัน ครับ จากคุณ : ที่ระลึก - [ 6 ม.ค. 52 07:49:37 A:192.168.0.17 X:192.168.0.90, 58.8.24.111 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอนนั้น นายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ชื่อ นายชวน หลีกภัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชื่อว่า นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ ทั้งสองคนนี้มาจาก ปชป. และเป็นสองคนที่ร่ำลือกันว่ายอดเยี่ยมนัก แต่กลับวางเฉยละเลยความทุกข์ยากของประชาชนอย่างตำตา ขาดความพยายามในการระงับความสูญเสียและความเสียหายของประชาชน โดยอ้างแต่หลักการบ้า ๆ บอ ๆ ที่เพ้อเจ้อจนเหมือนจะลามไปทั่วสมองแล้ว *********** จากคำพูดนี้   นี่ล่ะ  ปชป จากคุณ : ที่ระลึก - [ 6 ม.ค. 52 08:08:10 A:192.168.0.90 X:58.8.24.111 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อนาถกับลูกหาดเหลี่ยม ไม่มีอะไรจะเล่น ก็ขุดเอาเรื่องเก่าๆ มา น่าสงสารแท้ๆ... จากคุณ : หนอนข้าวโพดอ่อน - [ 6 ม.ค. 52 09:27:16 A:58.97.35.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 คห12 อย่าดิ้น และร้อนตัวอย่างนั้นสิ อิอิอ  55555555555555555 เอาเป็นว่า มันเรื่องเก่า ๆ กันทั้งนั้นละครบ ตอนที่คุณ ทักษิณ ถูกตัดสินว่า ผิด ตอนนี้ มันก็เป็นเรื่องเก่าเหมือนกัน พวกคุณ ก็เล่นกันว่า โกงชาติ อยู่นั่นแหละ วันนี้ ก็ย้อนไปอีกนิด พวก ... ก็ โกง ชาติเหมือนกัน 555555555555555555555555555555555555 เอาข้อมูล มาสู้กันดีกว่า แบบสุภาพชน 555555555555555 จากคุณ : ที่ระลึก - [ 6 ม.ค. 52 09:44:03 A:192.168.0.90 X:58.8.24.111 ]

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ : หนอนข้าวโพดอ่อน #12 ครับ จะเก่าจะใหม่ไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ  แถมอายุความก็ยังไม่หมดด้วยซ้ำ และบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างนายชวน, นายธารินทร์, นายอมเรศ ก็ยังไม่ถึงแก่กรรม อานิสงค์จากความผิดพลาดก็ยังคงสร้างความเสียหายให้กับผู้คนจนกระทั่งทุกวันนี้ ถ้าจะพูดกันถึงความดีหรือความเลว  ต่อให้เอาส้นเท้าไปขัดถูหรือเอาคันไถมากลบซักสองสามร้อยปี มันก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง  ความดีก็ยังคงได้ชื่อว่าดี  และความเลวก็ยังคงได้ชื่อว่าเลว เว้นแต่จะแกล้งลืมหรือเฉไฉทำเป็นไม่พูดถึงซะงั้น   ซึ่งนั่นเป็นเทคนิคเฉพาะตัวของ ปชป.ที่ใคร ๆ ก็ยากจะเลียนแบบได้ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 52 12:25:08 จากคุณ : มหาชำร่วย (ยุคที่2..มหาReload) - [ 6 ม.ค. 52 12:22:34 A:124.120.141.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรียน เจ้าของกระทู้ ในความเห็นที่ 1 มีข้อบกพร่องบางอย่าง นายชวนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยนั้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2540 ถ้าวันที่ 2 ก.ค.40 เป็นวันที่กู้เงินไอเอ็มเอฟจริงก็ต้องเป็นลุงจิ๋วเป็นคนเซ็นสิคะ ส่วนเงื่อนไขที่เซ็นให้ไอเอ็มเอฟเข้ามาก็ต้องขึ้นอยู่กับฉบับแรกว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ยังไงขอแก้ข้อมูลนิดนึงนะคะ จะได้เข้าใจตรงกันว่าเซ็นกันเมื่อไหร่ แล้วใครเป็นคนเซ็น จากคุณ : ไข่เจียวมิชิลิน - [ 18 ม.ค. 52 08:13:02 A:117.47.58.107 X: ]