Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    นโยบายช่วยนายทุนและกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของ ปชป เหมือนของบุชที่ทำให้สหรัฐฯ ดิ่งเหว

    เป็นความคิดที่ผิดมากในการใช้นโยบายการคลังในการช่วยคนรวย ซึ่งวันนี้สหรัฐฯ มีการช่วยคนรวยผ่านภาษีจนปัจจุบันหนี้ภาครัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80 ของ จีดีพี แต่ ปชป รัฐบาลคนรวย อำมาตย์ และนายทุนพันธมิตรกลับใช้นโยบายที่ผิด เพื่อก่อหนี้ภาครัฐเพิ่มจนให้คนไทยทั้งชาติรับกรรม
    การกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เพียงอ้างช่วยการจ้างงานเป็นแนวคิดที่ผิด เช่นเดียวกับบุชที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์อีก 15 ปียังไม่ฟื้น แต่กลับทำให้ภาคธนาคารล้มละลายทั้งหมด
    หน้าที่ภาครัฐไม่ใช่อ้างเศรษฐกิจชะลอก็เลยช่วยคนรวย ช่วยพยุงราคาอสังหาริมทรัพย์ พยุงราคาหุ้น รัฐบาล ปชป มาใช้เงินรัฐเพื่อคนรวย นายทุนพันธมิตรทั้งนั้น อย่างนี้น่ากลัว
    หน้าที่รัฐบาลต้องเน้นการจัดสรรทรัพยากรเหมาะสม ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาครัฐมักจะไร้ผลและไร้ประสิทธิภาพ ทำไม่ได้ผลเลย เพราะรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการก่อหนี้ ซึ่งจะต้องเก็บภาษีจากประชาชนคืในอนาคต เท่ากับว่าเป็นการเร่งเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่จะทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาหดตัวในระยะยาว
    รัฐบาลมักกระตุ้นเศรษฐกิจตามอำนาจของนายทุน เช่น เน้นลดภาษีในนายทุน ผู้ประกอบการ และภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงตลาดหุ้น แต่นี่คือการขาดวินัยการคลังอย่างร้ายแรง และนำมาซึ่งภาระหนี้ภาครัฐที่ประชาชนต้องรับกรรมจำนวนมหาศาล รวมถึงการล่มสลายของภาคธนาคาร
    ปชป ควรเน้นลดภาษีและช่วยคนจนให้มีงานทำ ไม่ใช่ผ่านการลดภาษีคนรวย แต่ควรเป็นการใช้จ่ายที่ให้ผลกำไรในระยะยาว เช่นภาคสุขภาพ การศึกษา และการวิจัยพัฒนาความสามารถการแข่งขัน รัฐบาลควรเลิกลดภาษีใช้คนรวย เพราะคนรวยมักไม่ยอมใช้เงินตนเองแก้ปัญหาให้ธุรกิจตนเอง แต่เวลามีกำไรทำไมคนรวยไม่คืนให้รัฐ เช่นการช่วยภาคธนาคาร ภาคอุตสาหกรรมรถในสหรัฐฯ จะส่งผลให้รัฐต้องขาดทุนเกือบหลายล้านล้านเหรียญในอนาคตอันใกล้
    รัฐต้องเลิกกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เพราะมันไม่ก่อให้เกิดการผลิตส่วนเพิ่มแต่อย่างใด แถมยังก่อหนึ่งคือ หนี้ภาครัฐที่สูง สองคือการจัดสรรทรัพยากรที่ไร้ประสิทธิภาพและต้นทุนการประกอบการที่สูงเกินจริง รวมถึงต้นทุนการดำรงชิวิตที่สูงเกินจริง สามคือการก่อหนี้ที่สูงจนนำมาซึ่งการล้มของระบบธนาคารเกือบทั้งหมด ซึ่งได้เกิดแล้วในสหรัฐฯ ยุโรปปี 07 ญี่ปุ่นปี 90 และเอเชียปี 97
    รัฐต้องมีกลยุทธ์และวิชั่นทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง อย่างที่ท่านทักษิณทำถูกเลยคือช่ยคนจนให้มีความเป็นอยู่ที่ดี การเน้นพึ่งพาตนเอง และลดการพึงพาการส่งออก แน่นอนการที่ผู้ส่งออกบอกให้ช่วยเหลือ ถ้ารัฐบาลกำหนดว่าเน้นการส่งออก ไทยจะล้มละลายในไม่ช้า เพราะปัญหาเศรษฐกิจโลกครั้งนี้หนักมากและจะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในชั่วอายุคน มันเป็นเรื่องของการก่อหนี้ที่สูงทั้งภาครัฐและเอกชน จนถึงช่วงที่คนวัยผู้ประกอบการลดลง ทำให้การออมของคนลดลงอย่างรวดเร็ว จนนำมาซึ่งการตกต่ำของราคาสินทรัพย์ทั่วโลก เพราะต้องถอนไปคืนหนี้ แน่นอนทุกประเทศที่พัฒนาแล้วการบริโภคจะลดลงทุกปีปีละอย่างน้อยร้อยละ 10-20 ไปอีก 5-10 ปี
    แน่นอนกระตุ้นส่งออกจะล้มเหลวและรัฐจะก่อหนี้แบบไร้จุดหมาย รัฐควรหาแนวทางปรับการส่งออกมาในเอเชียและประเทศยากจนจะเหมาะสมที่สุด
    สุดท้ายใน 4 ปีข้างหน้า คนไทยที่เป็นวัยประกอบการจะลดลงรวดเร็ว แน่นอนเราจะพบกับสิ่งที่เกิดกับสหรัฐฯ ตอนนี้ในไม่ช้า ราคาอสังหาริมทรัพย์คงลดลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และแน่นอนการออมคนไทยจะลดลงอย่างรวดเร็ว รัฐบาล ปชป ไม่ควรก่อหนี้ในปัจจุบันสูงเกินไป รวมถึงไม่ควรให้ประชาชนก่อหนี้มากเกินไป และควรส่งเสริมการออม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้มากกว่า เพื่อไม่ให้เราเหมือนสหรัฐฯ และยุโรปที่เราเห็นหนึ่งปีที่ผ่านมา และจะเห็นอะไรร้ายๆ กว่านี้มากอีก 5 ปีต่อจากนี้

    จากคุณ : Mark111 - [ 10 ม.ค. 52 15:39:41 A:61.19.59.3 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com