ความคิดเห็นที่ 1 นานๆครั้งจะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น วันนี้ผมขอถือโอกาส แสดงข้อคิดเห็นในหลายเรื่องที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆชาวราชดำเนิน   “การตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของนักการเมือง” จุดประสงค์ที่ให้นักการเมืองแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ก็เพื่อตรวจสอบว่านักการเมืองร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ โดยดูจากการเปลี่ยนแปลงในทรัพย์สินสุทธิ (ทรัพย์สินสุทธิ = ยอดรวมของทรัพย์สิน หัก ยอดรวมของหนี้สิน) ถ้าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นทุกๆปีแสดงว่ารวยขึ้น ถ้าลดลงแสดงว่าจนลง (การที่จะดูว่าฐานะทางการเงิน ร่ำรวยขึ้นหรือยากจนลง จะดูจากทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูที่หนี้สินด้วย) ถ้าทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้สุทธิ (รายได้ หัก ค่าใช้จ่าย) แสดงว่าร่ำรวยผิดปกติ เพื่อให้ทุกคนได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมขอยกตัวอย่างเป็นตัวเลขก็แล้วกัน และจะขออธิบายแบบ เยิ่นเย้อสักหน่อย เพื่อคนที่ไม่ชอบเรื่องของตัวเลขหรือการคำนวณ จะได้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น นาย ก.มีสินทรัพย์สุทธิเมื่อสิ้นปีที่หนึ่ง 100 ล้าน และ สิ้นปีทีสอง 120 ล้าน ในระหว่างปีที่สอง นาย ก.มีรายได้ (ไม่ใช่รายรับ) 30 ล้าน มีค่าใช้จ่าย (ไม่ใช่รายจ่าย) 10 ล้าน รายได้สุทธิของนาย ก.เท่ากับ 20 ล้าน (30 – 10) แสดงว่านาย ก.ร่ำรวยตามปกติ เพราะทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่มขึ้น 20 ล้าน (120 – 100) มาจากรายได้สุทธิ 20 ล้าน ถ้าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นมากว่า 20 ล้าน แสดงว่าส่วนที่เกินว่า 20 ล้านเป็นส่วนที่ ร่ำรวยผิดปกติ เช่น มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นจากปีที่ 1 เป็นเงิน 25 ล้าน แสดงว่า 5 ล้านเป็นจำนวนเงินที่ร่ำรวยผิดปกติ โดยความเป็นจริงแล้ว นักการเมืองที่ได้รับเงินหรือทรัพย์สิน ที่มิชอบตามกฎหมาย จะไม่นำเอาเงินหรือทรัพย์สินนั้น ไปแสดงไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของตน แต่จะนำเอาไปไว้กับคนใกล้ชิด ผู้สนใจเรื่องเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของส่วนบุคคล ดู PowerPoint Presentation บทที่ 1 ของ thailandaccount.com ได้ตาม link ด้านล่าง (ฐานะทางการเงินส่วนบุคคล อยู่ใน slide 30 – 35) เมื่อเปิดไฟล์ ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน ให้ Click ที่ “อ่านอย่างเดียว Read Only” http://www.thailandaccount.com/cms/html/base/5.html จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 19:16:37 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 การแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จของคุณทักษิณในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดว่าคุณทักษิณแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ กล่าวคือโอนหุ้นให้คนใกล้ชิดมีมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท หมายความว่าแสดงทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริงกว่า 600 ล้านบาท คนที่ไม่ชอบคุณทักษิณได้เรียกกรณีนี้ว่า “ซุกหุ้น” การใช้คำว่า ซุกหุ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ Discredit คุณทักษิณ ทำให้คนที่ไม่มีค่อยมีความรู้เรื่องของการเงินมองว่าเป็นการทุจริต ทั้งๆที่หุ้นจำนวน 600 กว่าล้านเป็นทรัพย์สินของคุณทักษิณ ที่มีอยู่ก่อนแล้วที่จะเข้าสู่วงการเมือง ไม่ได้มีเพิ่มขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพียงแต่ไม่ได้แสดงในบัญชีทรัพย์สิน ถ้าจะมองแบบชาวบ้านๆ ก็ทรัพย์สินของเขา เขาจะโอนให้ใครก็เป็นเรื่องของเขา คำถามก็คือ การแสดงทรัพย์สินในครั้งแรกต่ำกว่าความเป็นจริง หรือการแสดงทรัพย์สินสูงกว่าความเป็นจริง กรณีใดจะเป็นประโยชน์ในอนาคต ต่อการทุจริต เช่น รับเงินสินบน หรืออื่นๆ คำตอบก็คือ กรณีแสดงทรัพย์สินสูงกว่าความเป็นจริง เช่น มีทรัพย์สินสุทธิจริง 300 ล้านบาท แต่แสดง 350 ล้านบาท เพราะคาดว่าในอนาคตจะได้รับเงิน จากผู้ประมูลงานจำนวน 50 ล้านบาท ต่อมาได้รับเงิน 50 ล้านบาทจริง (อันนี้พูดตามหลักการ) ผมมองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่คุณทักษิณ จะมีเจตนาแสดงทรัพย์สินให้ต่ำกว่าความเป็นจริง (ในการเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองในครั้งแรก) แต่ถ้าเป็นการแสดงทรัพย์สินในครั้งถัดๆไป แสดงด้วยจำนวนต่ำกว่าความเป็นจริง อันนี้ตั้งเป็นข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่า น่าจะเป็นทรัพย์สิน (ส่วนที่มิได้แสดง) ที่ได้มาโดยมิชอบ อันนี้แหละที่ควรจะเรียกว่า “ซุกซ่อนทรัพย์สิน” การที่ไม่ได้แสดงทรัพย์สินที่ตนมีอยู่ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมือง แล้วกล่าวหาว่านักการเมืองผู้นั้นว่ามีเจตนาทุจริต คนที่กล่าวหานั้นคงมีสมองที่ไม่ใช่ของมนุษย์ กรณี ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดว่าคุณทักษิณแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ความจริง ป.ป.ช. น่าจะดูถึงเจตนารมณ์ของการให้ นักการเมืองแสดงทรัพย์สินและหนี้สินว่า มีเจตนารมณ์ เพื่อตรวจสอบหาความร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง การที่คุณทักษิณแสดงสินทรัพย์ต่ำกว่าความเป็นจริง แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ผิดต่อระเบียบหรือข้อบังคับ หรือกฎหมายของ ป.ป.ช. ก็ตาม แต่ความผิดตรงนี้ มันไม่ได้เป็นช่องทางหรือเป็นประโยชน์ต่อการทุจริตในอนาคตเลย (ผมได้กล่าวเหตุผลมาข้างต้นแล้ว) ศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 15 ท่าน มีความเห็นว่าคุณทักษิณผิด 7 ท่าน และ ไม่ผิด 8 ท่าน 7 ท่านที่เห็นว่าผิด คงจะพิจารณาในข้อกฎหมายเท่านั้น ส่วนอีก 8 ท่านที่เห็นว่าไม่ผิด ผมจำไม่ได้ว่า ท่านให้เหตุผลเช่นใด แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช่เหตุผล เดียวกันกับที่ผมได้แสดงเหตุผลไว้ ผมว่านักกฎหมาย มักจะมองแต่ข้อกฎหมายเพียงอย่างเดียว น่าจะมองอะไรให้มันกว้างขวางขึ้น ปัจจุบันประเทศไทยได้ถูกครอบงำโดยนักกฎหมาย (ผู้พิพากษา) ผมมีความเห็นว่านักกฎหมายของไทย มีความรู้ศาสตร์ด้านอื่นๆ (นอกเหนือจากกฎหมาย) ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับนักกฎหมายของอเมริกา ทำให้การตัดสินคดีความต่างๆที่มีความเกี่ยวข้อง กับศาสตร์ด้านอื่นๆมีความผิดเพี้ยน บกพร่องเกิดขึ้น อันนี้เขียนจากความรู้สึกของผมจริงๆ เป็นความรู้สึกของคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย และต้องขออภัยนักกฎหมายด้วย ถ้าความเห็นของผม ทำให้ท่านไม่สบายใจ จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 19:18:14 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อกล่าวหาหนึ่งที่คุณทักษิณได้รับในช่วงที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคือ “มูลค่าหุ้นของ Shin Corp. เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ” ผมไม่รู้เหมือนกันกว่าผู้กล่าวหานี้ใช้อะไรมาเป็นตัวชี้วัด ปี 2537 คุณทักษิณเข้ามารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในโควตาของพรรคพลังธรรม ในสมัยนั้นยังไม่มีข้อกฎหมาย ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องแสดงรายการทรัพย์สิน แต่พรรคพลังธรรมให้รัฐมนตรีทุกคนแสดงรายการทรัพย์สิน ถ้าจำไม่ผิดคุณทักษิณมีสินทรัพย์ในตอนนั้นมากกว่า 50,000 ล้านบาท เอาเป็นว่า เป็นมูลค่าหุ้นของ Shin Corp.  50,000 ล้านบาทก็แล้วกัน มูลค่าหุ้นของ Shin Corp. ในวันที่คุณทักษิณได้ขายไปเมื่อต้นปี 49 มีมูลค่ารวม 73,000 ล้านบาท “ปี 37 มีมูลค่า 50,000 ล้าน / ปี 49 มีมูลค่า 73,000 ล้าน” ถ้าเปรียบเทียบมูลค่าหุ้น ณ สองจุดเวลา เพื่อคำนวณหาอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR: Internal Rate of Return) ที่นักการเงินใช้ วัดผลตอบแทนจากการลงทุน มาเป็นตัวชีวัด จะได้ค่า IRR = 3.20% ซึ่งถือว่าต่ำมาก ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลเสียอีก (ถ้านำเอาเงินปันผลที่คุณทักษิณได้รับ ในแต่ละปีมาคำนวณด้วย จะได้ค่า IRR สูงกว่านี้ จะขอกล่าวในภายหลังก็แล้วกัน) เพื่อให้ผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องการเงิน ได้รับความรู้ ในเรื่องนี้ ผมขออธิบายความหมายของ IRR = 3.20% ว่ามันแปลความหมายได้อย่างไร ถ้านำเงิน 50,000 ล้านไปฝากธนาคารเมื่อต้นปี 37 สิ้นปี 37 จะได้รับดอกเบี้ย 1,600 ล้าน (50,000 ล้าน x 3.20%) ต้นปี 38 (สิ้นปี 37) จะมียอดเงินฝาก = 51,600 ล้าน สิ้นปี 38 จะได้รับดอกเบี้ย 1,651 ล้าน และ จะมียอดเงินฝาก = 53,251 ล้าน ไปจนกระทั่งถึงปี 2549 จะมียอดเงินฝากเท่ากับ 73,000 ล้าน ถ้านำเอาเงินปันผลที่คุณทักษิณได้รับในแต่ละปี มาคำนวณหาค่า IRR ด้วย ซึ่งต้องใช้วิธีประมาณการดังนี้   นโยบายการจ่ายเงินปันผลของ Shin Corp. ทีกำหนดไว้ จ่ายไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังภาษี ค่าเฉลี่ยกำไรสุทธิต่อหุ้นในช่วงปี 44 – 48 อยู่ที่ประมาณ 2 บาทกว่า (ข้อมูลกำไรสุทธิต่อหุ้นในแต่ละปี นำมาจากรายงานประจำปีของบริษัท ซึ่งอยู่ใน www.sec.or.th) เอาเป็นว่าตั้งแต่ปี 37 – 48 จ่ายเงินปันผล หุ้นละ 1 บาทก็แล้วกัน ตระกูลของคุณทักษิณ มีหุ้นอยู่ประมาณ 1,500 ล้านหุ้น ดังนั้นเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปีคือ 1,500 ล้านบาท เมื่อนำเงินปันผลที่ได้รับมาคำนวณหาค่า IRR ด้วย จะได้ค่าIRR เท่ากับ 5.61% ซึ่งก็ถือว่าไม่มาก จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 19:21:02 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องการเสียภาษีเงินได้ของคุณทักษิณ เมื่อมีการขายหุ้น Shin Corp. มีข้อกล่าวหาคุณทักษิณมากมาย บางคนว่า คนขายก๋วยเตี๋ยวยังต้องเสียภาษีทุกปี นายกขายหุ้น 73,000 ล้านควรต้องเสียภาษีด้วย บางคนยิ่งหนักไปใหญ่เลยบอกว่าทักษิณรับเงินปันผลก็ไม่เสียภาษี ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องของภาษีเงินได้ ผมขอปูพื้นความรู้ เกี่ยวกับเรื่องหุ้น เรื่องเครดิตภาษี ให้ผู้ที่ไม่ค่อย จะมีความรู้ในด้านนี้ได้เข้าใจก่อน โดยสมมติเป็นตัวเลขง่ายๆ ดังนี้ นายเอกซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่เพิ่งเริ่มเปิดดำเนินงาน จำนวน 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับ ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ในใบหุ้น (เรียกว่า Par Value หรือ Face Value) สิ้นปีบริษัทมีกำไรก่อนหักภาษี 100 บาทต่อหุ้น บริษัทต้องจ่ายภาษีเงินได้ในอัตรา 30% ดังนั้นภาษีเงินได้ต่อหุ้นจะเท่ากับ 30 บาท (เรียกว่าภาษีเงินได้นิติบุคคล) กำไรสุทธิหลังภาษีจะเท่ากับ 70 ต่อหุ้น ราคาหุ้นตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value per Share) จะเท่ากับ 170 บาท (ราคาตามมูลค่า 100 บาท + กำไร 70 บาท) ต่อมาบริษัทได้ประกาศและจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 70 บาท (ในความเป็นจริง ไม่สามารถจะจ่ายปันผลได้เต็ม 70 บาท จำเป็นต้องกันส่วนหนึ่งไว้เป็นสำรองต่างๆ แต่สมมติว่า จ่ายปันผล 70 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ) คำถามก็คือ เงินปันผลที่นายเอกได้รับจำนวน 70 บาท จะต้องเสียภาษีอย่างไร (ในความเป็นจริงบริษัทจะหักไว้ 10% คือ 7 บาท เป็นภาษีหัก ณ ที่จ่าย ซึ่งจะกล่าวในภายหลัง เอาเป็นว่าได้รับเต็ม 70 บาทก็แล้วกัน) คำตอบเป็นไปได้ 3 ทางคือ 1. ไม่ต้องจ่ายภาษี   2. ต้องจ่ายภาษี   3. ได้รับค่าภาษีคืนจากรัฐฯ เงินได้ที่จะนำมาใช้คำนวณหาภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเท่ากับ เงินปันผลที่ได้รับ 70 บาท บวก ภาษีเงินได้ที่บริษัทจ่าย 30 บาท รายได้จากเงินปันผลก่อนหักภาษีจะเท่ากับ 100 บาท (ภาษีเงินได้ 30 บาทที่บริษัทจ่ายให้รัฐฯนั้น ถือเป็นเครดิตภาษีของ บุคคลธรรมดา) ถ้าเงินได้สุทธิของนายเอกตกอยู่ในช่วงที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 20% (นายเอกมีเงินได้สุทธิมากกว่า 500,000 แต่ไม่เกิน 1,000,000) ภาษีที่นายเอกจะต้องจ่ายให้รัฐฯ = 100 บาท x 20% = 20 บาท แต่มีเครดิตภาษี 30 บาท (ถือว่าเป็นภาษีที่นายเอกได้จ่ายให้รัฐฯ ผ่านทางบริษัท) ดังนั้น นายเอกไม่ต้องจ่ายภาษี แถมยังได้รับเงินคืน จากรัฐฯอีก 10 บาท (30 บาท – 20 บาท) ถ้าเงินได้สุทธิของนายเอกตกอยู่ในช่วงที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 30% (นายเอกมีเงินได้สุทธิมากกว่า 1,000,000 แต่ไม่เกิน 4,000,000) ภาษีที่นายเอกจะต้องจ่ายให้รัฐฯ = 100 บาท x 30% = 30 บาท แต่มีเครดิตภาษี 30 บาท นายเอกจึงไม่มีภาระเกี่ยวกับภาษีเกิดขึ้นอีก ถ้าเงินได้สุทธิของนายเอกตกอยู่ในช่วงที่ต้องเสียภาษีในอัตรา 37% (นายเอกมีเงินได้สุทธิมากกว่า 4,000,000 บาทขึ้นไป) ภาษีที่นายเอกจะต้องจ่ายให้รัฐฯ = 100 บาท x 37% = 37 บาท แต่มีเครดิตภาษี 30 บาท นายเอกต้องเสียภาษีอีก 7 บาท (37 บาท – 30 บาท) ในการจ่ายเงินปันผล บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเงิน 10% ของเงินปันผลที่ประกาศจ่าย ตามตัวอย่างข้างต้น นายเอกจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 7 บาท (70 บาท x 10%) 7 บาทนี้เรียกว่า ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ดังนั้นนายเอกจะได้รับเงินปันผล เพียง 63 บาท (70 บาท – 7 บาท) พอจะกล่าวได้อย่างง่ายๆว่า “ถ้าได้รับเงินปันผล 63 บาท แสดงว่าได้มีการเสียภาษีเงินได้ไป 37 บาท” ถ้าถามว่าคุณทักษิณเสียภาษีเกี่ยวกับเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปีเท่าใด คุณทักษิณได้รับเงินปันผลจากหุ้น Ship Corp. ประมาณปีละ 1,500 ล้านบาท ดังนั้น ภาษีเงินได้ที่คุณทักษิณจ่ายให้รัฐฯประมาณปีละ 881 ล้านบาท (1,500 x 37/63) จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 19:23:00 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในช่วงที่ตระกูลของคุณทักษิณขายหุ้น Shin Corp. มูลค่า 73,000 ล้านบาท มีหลายคนได้ให้สัมภาษณ์ว่าจะต้องเสียภาษีประมาณ 27,000 ล้าน บางคนให้สัมภาษณ์ว่าหุ้นราคาตามมูลค่า (Par Value) 1 บาท ขายในราคาหุ้นละ 49 บาท มีกำไรเกิดขึ้นหุ้นละ 48 บาทจะต้องเสียภาษี Columnist ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับก็แสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน ทั้งๆที่กฎหมายได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า "เงินได้จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี" ข้อยกเว้นที่ไม่ต้องเสียภาษีนี้ นักศึกษาที่เรียนทางด้าน บริหารธุรกิจและได้เรียนวิชาการภาษีอากร รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ไม่น่าเชื่อ กลับมีนักวิชาการบางคนกลับไม่รู้เรื่องนี้ ให้สัมภาษณ์หน้าตาเฉยเลยว่าต้องเสียภาษี ผมไม่แน่ใจว่าคนที่ให้สัมภาษณ์ไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ หรือรู้แล้วแต่ต้องการ discredit คุณทักษิณ ผมว่ามันเป็นยุคแห่ง “ปัญญาวิปริต” ผมเชื่อว่าคงจะทุกประเทศที่กฎหมายกำหนดให้ เงินได้จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 19:27:28 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปูสื่อรอท่านนักวิชาการ ปชป เอ้ย ท่าน thyrocyte มา แก้ข้อกล่าวหา จากคุณ : สุขชัย - [ 10 ม.ค. 52 20:02:37 A:125.27.30.196 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อ ๆ พี่ ปูเสื่อแล้ว จากคุณ : ตะเข็บชายแดน - [ 10 ม.ค. 52 20:03:17 A:202.149.25.234 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตามให้กิฟเลยนะครับ เพราะหายากที่จะมีกระทู้ขยันอธิบาย ให้ข้อมูลโดยไม่แฝงเจตนาใส่ร้ายผู้อื่นเช่นในบางกระทู้ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 10 ม.ค. 52 20:07:02 A:124.120.108.201 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ประเทศของเราเจริญก้าวหน้าไปอย่างเชื่องช้าเพราะ คนขี้อิจฉามีจำนวนมาก อิจฉาคนนั้นเพราะ คนคนนั้นมีผู้คนรักมากตนเอง อีกไม่นานหลอก พวกขี้อิจฉาทั้งหลายจะต้องรับเวรกรรม เทวดาบางองค์เมื่อหมดบุญยังต้องไปลงนรกเลย สาธุ ขอให้พวกขี้อิจฉาทั้งลาย จงมีอันเป็นไปในเร็วไว จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 20:07:23 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : ธนูไฟ - [ 10 ม.ค. 52 20:09:39 A:114.128.36.92 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 นาย thyrocyte จอมข้อมูลจากนสพ.ครับ นอกจากที่สื่อลง ไม่มีใสสมองหร๊อก คิดไรเป็นเองครับ คนแบบนี้ จากคุณ : นั่นแน่ - [ 10 ม.ค. 52 20:09:42 A:124.121.192.243 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่แจกแจงแบบละเอียดและเป็นขั้นเป็นตอนครับ จากคุณ : กาแฟยามบ่าย - [ 10 ม.ค. 52 20:11:22 A:124.121.136.169 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องเงิน 7,000 ล้านที่คุณทักษิณนำไปซื้อแมนซิตี๊ อาจารย์ชูพงศ์ ถี่ถ้วนได้เคยพูดในรายการวิทยุชุมชนคนรู้ใจ (www.chupong.com) นานมากแล้ว โดยพูดไว้ดังนี้ “ ..โน่นจีนเขาให้ไปสามหมื่นล้าน นี่รู้ไว้ด้วยนะ คตส. ท่านผู้ฟังครับ จีนเนี่ยเขาสงสารเขาเห็นใจเขารักนายกทักษิณ ผมพูดแทนก็ได้เอา ข้อมูลผมไม่มีผิด จีนเขาให้นายกทักษิณสามหมื่นล้าน ...................................... ....... กษัตริย์ยูเออีบอกว่ามาเถอะคุณทักษิณ ผมให้คุณเป็นประธาน บริหารมีเงินกองทุนให้เป็นแสนล้าน และทั้งยูเออี ทั้งจีน ก็เชิญนายกทักษิณไปร่วมกัน บริหารธุรกิจ และธุรกิจอันนั้นก็คือธุรกิจน้ำมัน 4 บ่อ ...... และจีนเองวันนี้นะ ด้วยความเห็นใจและรักนายกทักษิณ เขาตกลงทำสัญญาซื้อน้ำมันล่วงหน้า 5 ปี ผ่านคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร และการซื้อน้ำมันล่วงหน้า 5 ปีผ่านนายกทักษิณ ชินวัตร ความหมายมันแปลว่าอะไรรู้ไหม หมายถึงว่าค่า Commission จีนเขาต้องการให้เงินช่วยเหลืออย่างถูกต้องตามกฎหมาย มันจะมีเงินค่า Commission อยู่ในนั้นประมาณ 3 หมื่นกว่าล้าน...... “ Clip เสียงของอาจารย์ชูพงศ์ (ต้นฉบับยาว 3 ชม. ตัดเอาส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องออก) http://www.tempf.com/getfile.php?filekey=1231593123.48727_man._city.mp3&mime=audio/mpeg ข้อมูลส่วนนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ผมไม่สามารถจะตอบได้ ผมเพียงแต่นำข้อมูลมาเสนอให้ชาวราชดำเนินได้รับทราบ การที่จะเชื่อสิ่งที่เรามิได้ประสบด้วยตัวเอง ต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง แล้วจึงตัดสินใจ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณทักษิณกับรัฐบาลจีนเป็นอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างคุณทักษิณกับกษัตริย์ยูเออีเป็นอย่างไร จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 20:22:45 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปูเสื่อ รออออออออออ จากคุณ : แฟนปังคุง - [ 10 ม.ค. 52 20:39:47 A:118.173.42.238 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 อยากรู้ทรัพย์สินเทพเทือกกับศรีสุบรรณฟาร์มด้วย  มันใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ จากคุณ : หนองยาง - [ 10 ม.ค. 52 20:53:10 A:58.10.128.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : สัพเพ ข้าพเจ้าอ่านแล้ว รู้สึกว่า "ไม่ธรรมดา" ข้าพเจ้าขอ Vote จากคุณ : Black Propaganda - [ 10 ม.ค. 52 20:57:41 A:124.121.127.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณทักษิณน่าจะมีเงินเพียงแค่ 614 ล้านบาทไม่ใช่หมื่นล้านบาท จริงเพราะคุณทักษิณแจ้งไว่เองครับต่อปปช. ส่วนจะมีมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้เพราะเหตุไร จขกท.ต้องไปถามคุณทักษิณเองนะครับ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่คุณทักษิณแถลงต่อปปช.เอง ไม่ใช่คนอื่นแถลงให้ บัญชี 19 กย.2550 หนึ่งปีหลังพ้นตำแหน่งครับ ตามนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:05:55 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 บัญชี 19 กันยายน 2549 เมื่อพ้นตำแหน่ง เพราะมีการปฏิวัติ ก็ได้แจ้งไว้ตามนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:06:55 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 บัญชี 14 มีนาคม 2548 เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกนเป็นวาระที่สอง ก็ตามนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:07:38 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาช่วยโหวตและดันค่ะ เรียนเชิญผู้เกี่ยวข้องตามหัวข้อกระทู้เข้ามาด่วนค่ะ อยากฟังความเห็นต่าง "ถก" กันในเชิงข้อมูล....ชอบ...ชอบ __________________________________ ปูเสื่อรอด้วยอีกคนค่ะ จากคุณ : พรายชมพู - [ 10 ม.ค. 52 21:07:41 A:124.120.85.233 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 คำถามแรก ช่วง 19 ก.ย. 49 ถึง 19 ก.ย. 50 ทักษิณไม่อยู่ในไทย ทำไมทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 57 ล้านบาท ( ใช้วิธีสันนิฐานคำตอบในลักษณะของภาพรวมคำตอบไม่ยากครับ เชื่อว่าคุณคงจะตอบได้ ) ตอบ-ผมจะไปทราบได้อย่างไรครับ คุณจขกท.ตั้งสติให้ดีๆก่อน บัญชีนี้คุณทักษิณให้ทนายทำขึ้นมาแจ้งต่อ ปปช.ตามที่กฏหมายกำหนด คุณจขกท.คงต้องไปถามทนายคุณทักษิณหรือคุณทักษิณเอง คนอื่นจะไปทราบ ได้อย่างไรกันครับ คำถามที่สอง ทำไมยอดเงินฝากธนาคารปี 2549 เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 400 กว่าล้านบาท ( ข้อนี้ง่ายครับ ) ตอล- เหมือนคำถามแรก คุณต้องไปถามคุณทักษิณและทนายของแกเอง และผมว่าเป็นสิ่งที่คุณทักษิณควร จะแถลงต่อสาธารณด้วยซ้ำไปว่าเพิ่มมาได้อย่างไร คำถามที่สาม คุณ thyrocyte ชอบอ้างหลักกฎหมายว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย จึงอยากจะถามว่า ตามหลักกฎหมายเงินจากการขายหุ้น Shin Corp. เป็นของใคร? อย่าคิดว่าเป็นการลองภูมิรู้กันเลย คิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันก็แล้วกัน ผมเชื่อมั่นว่าคนรอบรู้อย่างท่าน คงตอบคำถามได้อย่างแน่นอน ตอบ-การหายหุ้นชินคอร์ป ใครเป็นเจ้าของหุ้นที่ขายก็ต้องได้เงินจากการขายนะสิครับ ตรงไปตรงมาที่สุด ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้นะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:12:31 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ผมว่า จขกท.อาจจะสับสนและนึกว่าผมแต่งบัญชีนี้ขึ้นมาเอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นบัญชีที่ทางทนายคุณทักษิณ ทำขึ้นแลยื่นต่อปปช.ตามที่กฏหมายกำหนดไว้ ซึ่งตัวตัวทักษิณเองต้องรับผิดชอบต่อเอกสารที่ได้ยื่นไว้ ว่าเพิ่มหรือลด เพราะอะไร จขกท.มาถามผม ผมจะไปตอบได้อย่างไรกันครับ เป็นผมเองและประชาชนทั่วไปมากกว่าที่อยากถามว่า -ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นนะมาจากอะไร -ทำไมมีข่าวว่าคุณทักษิณมีเงินในต่างประเทศเป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้งไว้ - เงินที่ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีในพศ.2550 นะมาจากไหน และทำไมไม่ปรากฏในรายการแสดงบัญชี 19 กันยายน 2550 ส่วนลิงค์ไปยังเวบของปปช.ที่เก็บข้อมูลบัญชีนี้อยู่ที่ บัญชี 19 กันยายน 2550 อยู่ที่ http://www.nccc.go.th/asset/show/out1year19Sep50/01.pdf บัญชี 19 กันยายน 2549 อยู่ที่ http://www.nccc.go.th/asset/show/Out19Sep49/taksin.pdf บัญชี 14 มีนาคม 2548 อยู่ที่ http://www.nccc.go.th/asset/show/1In14March48/in_taksin.pdf ปล.บัญชีแต่ละอันยาวมากเป็นสิบๆหน้า ผมจำต้องย่อเอาสรุปยอดเงินมาให้ดู  แต่ตัวเลขเป็นไปตามต้นฉบับ ไม่ได้แก้ไขดัดแปลงเลย จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:22:22 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนเรื่องที่จขกท.ได้ลงไว้ในคห.1-5 ที่เน้นเรื่องทักษิณขายหุ้น Shin Corpอะไรนั้น อยู่นอกประเด็น ที่ผมตั้งกระทู้ว่า"คุณทักษิณน่าจะมีเงินเพียงแค่ 614 ล้านบาทไม่ใช่หมื่นล้านบาท" เพราะผมตั้งกระทู้ นี้หลังจากตรวจเช็คข้อมูลในเวบขปง ปปช.แล้วเห็นความแตกต่างระหว่างตัวเลขเงินที่แจ้ง กับตัวเลข ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลนั้น(ในเวลานั้นหรือแม้กระทั่งปัจจุบัน มีข่าวว่าคุณทักษิณมีเงินเป็นหมื่นล้านใน ต่สงประเทศ ซึ่งไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้ง) จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:30:33 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 21 คำถามแรก .............. ตอบ-ผมจะไปทราบได้อย่างไรครับ คุณจขกท.ตั้งสติให้ดีๆก่อน บัญชีนี้คุณทักษิณให้ทนายทำขึ้นมาแจ้งต่อ ปปช.ตามที่กฏหมายกำหนด คุณจขกท.คงต้องไปถามทนายคุณทักษิณหรือคุณทักษิณเอง คนอื่นจะไปทราบ ได้อย่างไรกันครับ คำถามที่สอง ................ ตอล- เหมือนคำถามแรก คุณต้องไปถามคุณทักษิณและทนายของแกเอง และผมว่าเป็นสิ่งที่คุณทักษิณควร จะแถลงต่อสาธารณด้วยซ้ำไปว่าเพิ่มมาได้อย่างไร จากคุณ : thyrocyte *************** ไม่ต้องไปถามทนายคุณทักษิณหรือคุณทักษิณหลอก คำตอบมันอยู่ในข้อมูลที่คุณนำมาแสดงนั่นแหละ ใช้ความพยายามหน่อยครับ เมื่อเป็นผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ ต้องมีความรอบรู้ในข้อมูลนั้นเป็นอย่างดี ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 21:31:45 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องนี้จะถูกหรือผิดอย่างไร ก็ให้ปปช.ว่าไป ส่วนกฏหมายที่เกี่ยวข้องขอยกมาเป็นบางมาตรา ดังนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:38:34 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 .... จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:39:16 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาให้กำลังใจ จขกท. ครับ,,,,,,,,,,,, จากคุณ : เลิฟเบิร์ด - [ 10 ม.ค. 52 21:42:20 A:125.25.130.217 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมว่า จขกท.คงจะต้องไปพบแพทย์กระมังครับ บัญชีของผู้ใด ก็ต้องเป็นผู้นั้นชี้แจง จะไปให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ ชี้แจงได้อย่างไรกัน เผอิญผมไม่ใช่คนที่ชอบดมเมเอาเองด้วย ข้อมูลที่เขาแจ้งมาดูมันแปลก เป็นหน้าที่เจ้าของทรัพย์ ต้องอธิบายครับ กรุณากลับไปศึกษากฏหมายปปช.เสียก่อน เขาไม่ได้ให้ผู้อื่นมาอธิบายแทน และผมไม่ขอทำหน้าที่โมเมอธิบายแน่นอน เพราะผมไม่ใช้เจ้าของทรัพย์นี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:43:44 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ...ขออนุญาต มีคนตามให้ไปทำงานบางอย่าง เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 00:04:46 จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 21:44:32 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 22   ผมว่า จขกท.อาจจะสับสนและนึกว่าผมแต่งบัญชีนี้ขึ้นมาเอง .................. ปล.บัญชีแต่ละอันยาวมากเป็นสิบๆหน้า ผมจำต้องย่อเอาสรุปยอดเงินมาให้ดู  แต่ตัวเลขเป็นไปตามต้นฉบับ ไม่ได้แก้ไขดัดแปลงเลย จากคุณ : thyrocyte   *************** ผมเชื่อว่าข้อมูลที่คุณนำมาแสดงเป็นของจริง และก็ไม่ได้คิดว่าคุณแต่งบัญชีขึ้นมาเอง และผมก็ไม่ได้สับสนอะไรด้วย แต่ผมติดใจว่าทำไมคุณแสดงข้อมูลมากเกินความจำเป็น มองเป็นที่รกตาจริงๆ การนำเสนอข้อมูลต้องให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย แสดงข้อมูลดังที่แสดงด้านล่างก็พอแล้ว “ ทรัพย์สินสุทธิของคุณทักษิณ ณ วันที่ 19 กันยายน 2550 ซึ่งได้ยื่น ป.ป.ช. ไว้เท่ากับ 614 ล้าน   " ดูแล้วไม่เป็นที่รกตาด้วย และให้ความหมายสมบูรณ์ด้วย จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 21:54:46 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ้าว ตกลงประเด็นสรุปว่าผมเอาข้อมูลนำเสนอในแบบที่คุณจขกท.ไม่ชอบว่ารกไป ก็แล้วแต่เถอะครับ มันเป็นข้อมูลจากของจริง ต้องการนำเสนออย่างนั้น ปกติถ้าผมค้นเจอฏีกาดีๆ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศราชการ กฏกระทรวง กราฟ ตารางของหน่วยราชการ องค์กรระหว่างประเทศ  ฯลฯ ผมก็นำเสนอออกมาตามนันแหละครับ เพราะมันทำให้คนอ่านเข้าใจได้ดีกว่า จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 22:01:49 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 28   ผมว่า จขกท.คงจะต้องไปพบแพทย์กระมังครับ บัญชีของผู้ใด ก็ต้องเป็นผู้นั้นชี้แจง จะไปให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ ชี้แจงได้อย่างไรกัน เผอิญผมไม่ใช่คนที่ชอบดมเมเอาเองด้วย ข้อมูลที่เขาแจ้งมาดูมันแปลก เป็นหน้าที่เจ้าของทรัพย์ ต้องอธิบายครับ กรุณากลับไปศึกษากฏหมายปปช.เสียก่อน เขาไม่ได้ให้ผู้อื่นมาอธิบายแทน และผมไม่ขอทำหน้าที่โมเมอธิบายแน่นอน เพราะผมไม่ใช้เจ้าของทรัพย์นี้ จากคุณ : thyrocyte ************************** ผมไม่มีความจำเป็นต้องไปพบแพทย์เพราะไม่ได้เจ็บป่วยเป็นอะไร สติปัญญาสมบูรณ์ดี นั่งสมาธิดูลมหายใจทุกวัน อย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง ผมบอกแล้วคำถามของผมข้อ 1 และ 2 มันมีคำตอบอยู่ข้อมูลที่คุณนำมาแสดง คุณน่าอธิบายให้เพื่อนๆชาวราชดำเนินได้รู้ เป็นวิทยาทานครับ คงไม่ผิดกฎหมายปปช.หลอกครับ อย่าคิดมากน่ะ จากคุณ : สัพเพ - [ 10 ม.ค. 52 22:09:34 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตกลง กลายเป็นชงกันเอง ร่วมกันสรุป ให้เข้าใจง่ายกว่า  ทักษิณชี้แจงเองว่า มีตังอยู่ 614 ล้านบาท จากคุณ : IRQ5 - [ 10 ม.ค. 52 22:15:02 A:192.168.0.17 X:58.64.103.178 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ จขกท ที่ให้ ความกระจ่าง thyrocyte ในเมื่อลงข้อมูลก็อธิบายให้เข้าใจหน่อยสิ อย่าสักแต่ลง แล้วไม่อธิบาย คงอ่านก็งง มีแต่ บัญชี แต่ไม่อธิบาย จากคุณ : Superredgolf - [ 10 ม.ค. 52 22:31:03 A:192.168.0.17 X:118.174.69.247 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณน่าอธิบายให้เพื่อนๆชาวราชดำเนินได้รู้ เป็นวิทยาทานครับ คงไม่ผิดกฎหมายปปช.หลอกครับ อย่าคิดมากน่ะ ********************************************** ไม่ผิดกฏหมายหรอกครับ แต่ถ้ไมใช่เจ้าทรัพย์ไปอธิบายแทนเจ้าทรัพย์ ก็เป็นโมเมทาน ไม่ใช่วิทยาทาน ส่วนคห.34 ก็เหมือนกัน ที่โพสต์ว่าเมื่อลงข้อมูลก็อธิบายให้เข้าใจหน่อยสิ อย่าสักแต่ลง แล้วไม่อธิบาย คงอ่านก็งง มีแต่ บัญชี แต่ไม่อธิบาย ตอบ-ลงข้อมูลเพื่อ -ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าเวลานักการเมืองเขาทำรายงานต่อปปช.นั้นเขาทำออกมาในรูปแบบแบบใด ในเมื่อเขาอุตสาห์ทำรายละเอียดขนาดนั้น เราประชาชนก็ดูกันสักหน่อย -ลงให้ดูแล้วสรุปให้ตั้งแต่กระทู้ก่อนแล้ว สั้นๆและง่ายๆครับ ว่าคุณทักษิณต้องอธิบายเงินที่เพิ่ม ให้สาธารณชนฟัง รวมทั้งเงินที่มีต่างประเทศด้วย ส่วนนาฬิกา รถยนตร์ ฯลณ ที่เป็นปลีกย่อย จะได้มาอย่างไร ไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับประชาชน สำคัญตรงยอดเงินรวม จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 22:50:04 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 วาว นี่ก็หยดติ๋ง มารอดูครับ ข้อมูลเพียบทั้งคู่เเลย จากคุณ : ระดับโลก - [ 10 ม.ค. 52 22:53:37 A:124.120.74.134 X: ]

ความคิดเห็นที่ 37 โหวตให้แล้วครับ จะได้คุยกันยาวๆ หน่อย แล้วจะกลับมาตามอีกที ผบ.ทบ.ยกป้ายแล้ว ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : ตะเข็บชายแดน - [ 10 ม.ค. 52 23:06:36 A:192.168.0.17 X:202.149.25.234 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ thyrocyte ดร.ทักษิณ + คญ.พจมาน ก็เกือบ 9 พันล้านแล้ว ยังไงต่อครับ รออออ..... จากคุณ : Black Propaganda - [ 10 ม.ค. 52 23:11:22 A:124.121.127.73 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 เห็น จขกท.ยังย้ำอยู่อีกรอบ ว่าสนใจจะให้ผมตอบข้อ 1และ 2 ตามนี้ ผมก็ขอตอบตามเดิม คำถามแรก (คือข้อ1) ช่วง 19 ก.ย. 49 ถึง 19 ก.ย. 50 ทักษิณไม่อยู่ในไทย ทำไมทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 57 ล้านบาท ( ใช้วิธีสันนิฐานคำตอบในลักษณะของภาพรวมคำตอบไม่ยากครับ เชื่อว่าคุณคงจะตอบได้ ) ตอบ-ผมว่าเราอย่ามาเดากันเลยครับ เราไม่ใช่เจ้าของทรัพย์จะไปเดากัน ก็เป็นการทำไปด้วยความมันส์มากเกินไป สู้เรารอเขามาชี้แจงจะเหมาะกว่า จะมานั่งเดากันอย่างขาดหลักฐาน คำถามที่สอง(ข้อ2) ทำไมยอดเงินฝากธนาคารปี 2549 เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 400 กว่าล้านบาท ( ข้อนี้ง่ายครับ ) ตอบ- เหมือนคำตอบแรก เรื่องนี้เป็นรายละเอียดที่เจ้าของทรัพย์ต้องตอบเอง คนอื่นตอบ ก็เท่ากับไปเดาแทน เจ้าทรัพย์ ถึงจะพูดออกมาแล้วจะไปเชื่อกันได้อย่างไร ผมย้ำแล้วว่า ข้อมูลที่เอามาให้ดูนั้น จขกท.บอกว่าเอามาแค่ยอดรวมก็พอ แต่ผมเห็นต่างนะ ผมต้องการนำเสนอ ให้สมาชิกในนี้ทราบว่า รูปแบบและวิธีที่นักการเมืองต้องทำรายงานต่อปปช.ให้ประชาชนทราบนั้นมีรูปแบบอย่างไร เพิ่มเติมจากสาระสำคัญที่อยู่ตรงยอดเงิน ที่เป็นจุดสำคัญว่าทำไมแจ้งไว้แค่ 614 ล้านบาท ที่ต่างจากข่าวที่ลงมาก คำถามที่คาใจอันนั้นแหละ จึงเป็นที่มาของกระทู้เก่าว่า สรุปแล้วคุณทักษิณน่าจะมีเงินเพียง 614 ล้านตามที่แจ้ง แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 52 23:34:44 จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:27:11 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 ที่จริงถ้าจขกท.สนใจ ลองไปหาค้นอ่านดูในเวบทางราชการ เขาจะมีลิงค์ให้ประชาชนเข้าไปดูรายละเอียดทรัพย์สินที่ นักการเมืองแจ้งไว้ อย่างของคุณทักษิณตอนสมัยที่ 1ที่ออกจากตำแหน่งก็มีแจ้งไว้ หากสนใจไปค้นหาดูได้ หรือจะ หลังไมค์มาขอก้ได้นะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:29:57 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 สิ่งที่ thyrocyte สงสัย คือ เงินมาซื้อแมนซิ มาจากไหน เงินสดที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที ของทักษิณ+พจมาน ก็คงไม่น่าจะถึง 7 พันล้าน ตามความคิดเห็นส่วนตัว เงินส่วนต่าง อาจจะมาจากลูกๆ ซึ่งอาจจะมีบัญชีทั้งในและต่างประเทศ หรืออาจจะเป็นเงินของทักษิณเอง ที่ฝากไว้ต่างประเทศ แต่ใช้ในชื่ออื่น (ไม่แน่ใจว่าสามารถทำได้รึเปล่า) จึงไม่จำเป็นต้องแสดงต่อ ปปช ซึ่งจะเรียกว่าซุกไว้ก็ได้ แต่ก็..หากมีการซุกจริง ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินนั้นเค้าได้มาโดยทุจริต หรือมีเจตนาทำทุจริต  เพียงแต่อาจมองได้แค่ไม่ซื่อสัตย์ และผิดจริยธรรมแค่นั้น สำหรับคนที่มีทรัพย์สินขนาดนี้ต้องมีการยักย้ายถ่ายเทเป็นธรรมดา เพื่อลดความเสี่ยงหากมีอะไรไม่แน่นอนเกิดขึ้น จากคุณ : KhongLen` - [ 10 ม.ค. 52 23:44:13 A:58.9.175.117 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณ : Black Propaganda  โพสต์ว่า "ดร.ทักษิณ + คญ.พจมาน ก็เกือบ 9 พันล้านแล้ว ยังไงต่อครับ" ตอบ-ก็ถ้ามีเท่านั้นก็โอเคนะสิครับ แต่ตามข่าวนะทักษิณมีเงินและทรัพย์สินในอังกฤษ 140 พันล้านบาท (Bt 140 billion) หรือ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ($ 4 billion) ซึ่งเป็นจำนวนทรัพย์สินที่แตกต่างกันมาก กับที่ได้เคยแจ้งไว้ ข่าวนี้แพร่หลายมากเพราะต้อนเหตมาจากสำนักข่าวอาราเบียนแจ้งว่าทรัพย์จำนวนนี้ถูกยึดอังกฤษยึดไว้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:45:51 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอลงลูกศรกำกับเพื่อไม่ให้สับสน จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:48:39 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 แต่ต่อมา สำนักข่าวอาราเบียน แจ้งว่าที่ลงไว้อังกฤษว่ามีการยึดเงิน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ(4 bn หรือที่ลงไว้เป็น $ 4bn ในคห.ข้างบนนั้นแหละ ) นั้น ปรากฏว่าสำนักข่าวขอปฏิเสธว่าไม่ได้มีการอายัดเงิน ตามจดหมายนี้ จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:50:41 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 ดังนั้น คุณทักษิณจะมีเงินมากถึง 140 พันล้านบาทไทย เกนกว่าที่แจ้งไว้ร่วมกับคญ.พจมานที่ว่ามี 8 พันล้านบาทไทย หรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่รอความกระจ่าง และตั้งแต่กระทู้ที่แล้วที่ผมตั้ง ผมก็ตั้งว่าคุณทักษิณไม่น่าจะมีเงินมากถึงอย่างนี้ เพราะที่แจ้งไว้นะ ไม่มากขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ได้สรุปว่า จริงๆแล้วตกลงคุณทักษิณมีเท่าไรกันแน่ เพราะผมก็ไม่รู้ รู้อยู่สองอย่าง คือ - ที่แจ้งไว้กับปปช.นะ  914 ล้านบาท หากรวมคญ.ก็ราว 8 พันล้านบาท - ข่าวที่ออกมากันโจงครึมนะขัดแย้งกับที่แจ้งไว้ เพราะอ้างกันว่ามีถึง 140 พันล้านบาท และในเวลานั้น หากมีสมาชิกคนใด โพสต์ว่าคุณทักษิณถูกอังกฤษอายัดทรัพย์จำนวน 140 พันล้านบาทไว้ ก็จะมีองครักษ์พิทักษ์คุณทักษิณออกมาแก้ข้อมูลให้ว่า ไม่จริง ทรัพย์จำนวน 140 พันล้านบาทไม่ไดถูกอายัด ผมเลยสงสัยว่าสรุปแล้วจะเอากันว่าคุณทักษิณมีเงินเท่าไรกันแน่ อย่าอ้างว่าเป้นเรื่องส่วนตัวเลย เพราะท่านเพิ่งพ้น จากตำแหน่งนายกฯ หากมีทรัพย์มากว่าที่แจ้ง ก็สมควรชี้แจ้งให้ประชาชนเข้าใจ ผมเองก็รอฟังข่าวด้วยความสงบ และไม่ได้ตั้งกระทู้จี้ถามเรื่องนี้อีกเลยให้เป็นการเกะกะบอร์ดราชดำเนิน จนมากระทู้นี้แหละพาดพิงเข้ามาเอง แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 00:01:01 จากคุณ : thyrocyte - [ 10 ม.ค. 52 23:58:22 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 เจตนารมณ์ของกฎหมาย ปปช.ในเรื่องแสดงบัญชีทรัพย์สินเพื่อป้องกันการทุจริตของนัการเมืองและข้าราชการระดับสูงนั้นไม่ค่อยได้ผล จะเห็นได้ว่าการทุจริตไม่ลดลงเลยตั้งแต่มีกฎหมายนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นภาระทำให้คนหาเรื่องหาราวกันโดยไม่เป็นอันทำการงาน การแสดงบัญชีแบบนี้ใช้ตรวจสอบได้ผลเฉพาะ คนที่มีรายได้ประจำหรือมีหลักฐานที่ไปที่มาไม่ซับซ้อน แต่มีความยุ่งยากและไม่ได้ผลสำหรับคนที่มีรายได้ซับซ้อน ดังนั้นในทางปฎิบัติการแสดงบัญชี ที่กฎหมายบังคับทั้งหลายจึงเปรียบเสมือนตัดเท้าให้พอดีกับรองเท้า เหมือนรายงานค่าใช้จ่ายผู้สมัคร สส.ทีั่อาจทำบัญชียื่นได้ตั้งแต่ยังไม่รับสมัคร เพราะจำ กัดค่าใช้จ่ายไว้1.5ล้านบาท สามารถยื่นบัญชีได้ทันทีพอดีเป๊ะตามใบเสร็จ หลอกกันทั้งนั้น จากคุณ : NiyomC - [ 11 ม.ค. 52 00:08:17 A:61.19.66.9 X: ]

ความคิดเห็นที่ 47 อ่านแล้ว เข้าใจได้ทันที   ว่ามีคนดูบัญชีไม่เป็นอยู่แล้ว คนนึง  ..... น่าสนุกแฮะ .... โหว๊ต จากคุณ : Night_Angel - [ 11 ม.ค. 52 00:09:08 A:192.168.0.17 X:124.121.86.115 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณ thyrocyte ครับ จากคุณ : PJW - [ 11 ม.ค. 52 00:13:37 A:58.9.196.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 46 เจตนารมณ์ของกฎหมาย ปปช.ในเรื่องแสดงบัญชีทรัพย์สินเพื่อป้องกันการทุจริตของนัการเมืองและข้า ราชการระดับสูงนั้นไม่ค่อยได้ผล จะเห็นได้ว่าการทุจริตไม่ลดลงเลยตั้งแต่มีกฎหมายนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นภาระทำให้คนหาเรื่องหาราวกันโดยไม่เป็นอันทำการงาน การแสดงบัญชีแบบนี้ใช้ตรวจสอบได้ผลเฉพาะ คนที่มีรายได้ประจำหรือมีหลักฐานที่ไปที่มาไม่ซับซ้อน แต่มีความยุ่งยากและไม่ได้ผลสำหรับคนที่มีรายได้ซับซ้อน ดังนั้นในทางปฎิบัติการแสดงบัญชี ที่กฎหมายบังคับทั้งหลายจึงเปรียบ เสมือนตัดเท้าให้พอดีกับรองเท้า เหมือนรายงานค่าใช้จ่ายผู้สมัคร สส.ทีั่อาจทำบัญชียื่นได้ตั้งแต่ยังไม่รับสมัคร เพราะจำ กัดค่าใช้จ่ายไว้1.5ล้านบาท สามารถยื่นบัญชีได้ทันทีพอดีเป๊ะตามใบเสร็จ หลอกกันทั้งนั้น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ผมว่าไม่จริงครับ ถ้าผมมีทรัพย์สินสัก 1,000 ล้าน ก่อนมาเล่นการเมือง ผมก็จะแสดงทรัพย์สินทั้งหมด ถ้าผมมีความรู้ความสามารถ และคิดจะลงเล่นการเมืองครับ โดยไม่ต้องซุกหรือโอนถ้ายทรัพย์สินต่าง ๆไปให้คนโน้นคนนี้ครับ หรือถ้าเป็นหุ้นในบ.ต่าง ๆที่ผมไม่สามารถถือได้เพราะผิดกฏหมาย ผมก็จะขายให้หมดถือเป็นเงินสดฝากแบ็งค์กินดอกเบี้ยก็พอครับ เพราะผมอยากช่วยประเทศชาติด้วยใจจริง ไม่อิงผลประโยชน์แอบแฝงครับ จากคุณ : Ethan_Ko - [ 11 ม.ค. 52 00:30:14 A:114.128.96.211 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ผมต้องออฟไลน์แล้วเพราะต้องพักเนื่องจากมีงานต้องทำพรุ่งนี้ ทราบดีว่ามีสมาชิกยังออนไลน์อยู่มากหลายท่าน และบางท่านอาจมีคำถาม แต่ผมต้องทำงานพรุ่งนี้คาดว่า น่าจะมีเวลาตอบคำถามที่มีเข้ามาได้ราว ช่วงเที่ยงหรือบ่าย ของพรุ่งนี้ แต่หากท่านสมาชิกอื่นท่านใดมีข้อมูลพอจะตอบคำถามหรือแลกเปลี่ยนกันได้ ก็รบกวนช่วยตอบให้ด้วยจะเป็น พระคุณนะครับ ขอกู๊ดไนท์ละครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 11 ม.ค. 52 00:36:04 A:124.121.36.222 X: ]

ความคิดเห็นที่ 51 โทษทีครับ พยายามอ่านแล้ว มันงงตรงคห.ที่2ที่บอกว่า "ผมมองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่คุณทักษิณ จะมีเจตนาแสดงทรัพย์สินให้ต่ำกว่าความเป็นจริง (ในการเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองในครั้งแรก)" เอ่อ ลองดูกรณีดังต่อไปนี้นะครับ 1.นักธุรกิจคนหนึ่งนำทรัพย์สินตนเองไปดำเนินธุรกิจในทางที่ไม่สุจริต และทรัพย์สินหรือสิ่งตอบแทนที่ลงทุนรวมถึงที่ได้มาจึงผิดกฎหมาย หากนักธุรกิจผู้นั้นจะเข้าสู่การเมืองก็เลยปกปิด ไม่แจ้งให้ผู้อื่นรู้ว่ามีทรัพย์สินตรงนี้อยู่ โดยมีประโยชน์ในการปกปิด เช่น ถ้ามีคนรู้ว่ามีทรัพย์สินตรงนี้ก็อาจตรวจสอบจนไปทราบถึงที่มาของเงินนี้ได้ และอาจทราบว่าตนเองกระทำผิดกฎหมายอยู่ เป็นต้น 2.นักธุรกิจคนนั้น กั๊กเงินหรือทรัพย์สินของตนเองส่วนหนึ่งไว้ก่อนโดยไม่แจ้ง โดยมีจุดมุ่งหมายจะอาศัยเงินนี้ไปกระทำความผิดหลังจากเข้าสู่การดำรงตำแหน่ง ซึ่งหากเงินที่ไม่แจ้งนี้ ได้ไปกระทำความผิด เช่น เอาไปให้สินบนใคร หรือเอาไปลงทุนในธุรกิจผิดกฎหมายเข้าและได้เงินเพิ่มพูนขึ้นมา นักธุรกิจก็จะถือโอกาสนี้ปกปิด ไม่ยอมบอกที่มาของเงินจำนวนนี้และเงินที่เพิ่มพูน ในกรณีที่ต้องแจ้งในตอนที่ออกจากตำแหน่ง หรือหลังจากออกตำแหน่ง100วันด้วย ซึ่งจะยิ่งทำให้ปปช.ตรวจสอบได้ยากขึ้น เพราะไม่รู้ตั้งแต่ครั้งที่เข้าดำรงตำแหน่งแล้วว่านักธุรกิจที่เข้าสู่การเมืองนี้มีเงินจำนวนนี้อยู่ ทำให้โอกาสที่ปปช./สังคมจะตรวจสอบหรือทราบถึงเส้นทางของเงินที่ถูกปกปิดนี้ว่ามีเส้นทางไปไหนต่อ ยิ่งมีโอกาสทราบยากขึ้น 3.กรณีนักธุรกิจทำธุรกิจไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือไม่ถูกกฎหมาย และมีความตั้งใจที่จะหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี การที่นักธุรกิจนั้นต้องแสดงถึงเงินและทรัพย์สินของตนเองก่อนดำรงตำแหน่งย่อมทำให้ยากที่ตนเองจะหลีกเลี่ยงภาษีขึ้นได้ เพราะทางสรรพากรจะทราบทันทีว่านายคนนี้มีทรัพย์สินดังกล่าว ดังนั้นถ้าแจ้งเงินว่ามีน้อยกว่าปกติ ก็น่าจะช่วยให้หลีกเลี่ยงภาษีได้ง่ายขึ้นหรือช่วยทำให้จ่ายภาษีได้น้อยลง โดยผมขอตัดเอาคุณทักษิณออกไปไม่พูดถึงละกันว่าเขาทำไปโดยมีเจตนาอะไร เพราะผมก็ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไรและอดีตนายกอาจไม่ได้กระทำความผิดในเรื่องนี้ก็ได้ แต่เราจะพูดถึงนักการเมืองทั่วไปละกันและมองลงไปในเจตนารมณ์ของกฎหมายเรื่องการปกปิดบัญชีทรัพย์สินนี้ โดยขอมองว่า ทั้ง 3 กรณีนี้ หากกฎหมายต้องการจะลงโทษนักการเมืองกรณีปกปิดทรัพย์สิน เนื่องจากแจ้งต่ำกว่าความเป็นจริง โดยอาศัยเหตุผลดังกล่าวมาเป็นพื้นฐานในการร่างกฎหมายข้อนี้  พอเป็นไปได้ไหม ผมก็ไม่มีความรู้ทางกฎหมายเท่าไรนัก ตัวคุณเจ้าของกระทู้ก็คงไม่ค่อยมีเช่นกันจากที่เขียนไว้ในกระทู้ว่าไม่ค่อยมีความรู้ ดังนั้นเรามาถกเถียงกันในประเด็นที่ว่า "กรณีทั้ง3ข้อที่ผมยกมานี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริงได้ไหม" ดูแค่ว่าเป็นประโยชน์ได้ไหมก็พอครับ จากคุณ : Mox (Mukkuk) - [ 11 ม.ค. 52 01:04:05 A:58.64.113.93 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ความคิดเห็นที่ 51  ลองไล่ บช ดีนะนะครับ แล้วท่านพบเองครับ จากคุณ : Night_Angel - [ 11 ม.ค. 52 01:25:44 A:124.121.86.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณ : Mox (Mukkuk) 1.ถ้าคนทำมาหากินผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น ถึงไม่เล่นการเมือง หรือเล่นการเมือง แจ้งไม่แจ้ง มันก็ผิดอยู่แล้วครับ....ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้..เช่น คนขายหวยใต้ดิน ปล่อยกู้นอกระบบ ฯลฯ 2. ทรัพย์สิน ถึงแจ้งครบ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปทำอะไรผิดๆไม่ได้นี่ครับ...การแจ้งต่อ ปปช. ไม่ใช่เอาทรัพย์สินไปอายัดฝากไว้ที่ ปปช. นะครับ... 3. เรื่องแจ้งน้อย แล้วทำให้เสียภาษีน้อยลง...คิดได้ยังไง คนละเรื่องเลย ไม่เกี่ยวเลยครับ..ในทางกลับกันทรัพย์สินที่ตกหล่นไม่ได้แจ้ง ก็อาจจะเป็นทรัพย์ที่เสียภาษีแล้วก็ได้...สรรพากรเขาไม่จำเป็นต้องมารอดูผลการแจ้งหรอกครับ...หากเป็นอาชีพ กิจการที่สุจริต แล้วเป็นกินการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มันมีข้อมูลตรวจสอบได้ทั้งหมด...ยกเว้นพวกที่ทำธุรกิจใต้ดินเป็นเงินใต้ดิน เงินหวย ยังไงก็ไม่มีใครแจ้งว่าตนมีรายได้จากการขายหวยหวย ทำบ่อนใต้ดินหรอกครับ... สิ่งที่ตั้งสมมุติฐานมานั้นไม่สมเหตุสมผล... จากคุณ : minimalist - [ 11 ม.ค. 52 01:53:43 A:58.8.120.151 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 ฟอร์บส์ลดอันดับความรวย “ทักษิณ” สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นิตยสาร “ฟอร์บส์” ของสหรัฐอเมริกาได้ลดอันดับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ยิ่งใหญ่และเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์-สหรัฐฯอีกต่อไป ตั้งแต่ คมช. หรือคณะผู้ก่อรัฐประหารสั่งอายัดทรัพย์ของเขา โดยฟอร์บส์ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณซึ่งล่าสุดเคยเป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยอันดับ 4 ของไทยจากการจัดอันดับของฟอร์บส์เมื่อปีที่แล้ว โดยมีทรัพย์สินถึง 2,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 77,000 ล้านบาท) แต่ปัจจุบันเชื่อว่าเขามีทรัพย์สินเหลือแค่ราว 300 ล้านดอลลาร์ (ราว 10,000 ล้านบาท) เท่านั้น ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณผู้ร่ำรวยจากธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมจึงตกจากอันดับอภิมหาเศรษฐีพันล้าน หลังจากถูกยึดทรัพย์ ถูกปรับอีกหลายล้านดอลลาร์ และถูกศาลตัดสินในคดีอื่นๆต่อครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตาม ฟอร์บส์ระบุว่า แม้จะตกจากอันดับอภิมหาเศรษฐีพันล้าน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยังครองตำแหน่ง บุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 14 ของประเทศไทยอยู่ ส่วนนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดของไทยยังเป็นนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง “กระทิงแดง” มีทรัพย์สินสุทธิราว 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 122,500 ล้านบาท) เอเอฟพีรายงานด้วยว่า คณะทหารหรือ คมช. ซึ่งยึดอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ปีที่แล้ว สั่งอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวแล้วอย่างน้อย 1,520 ล้านดอลลาร์ (ราว 53,200 ล้านบาท) ตั้งแต่เกิดรัฐประหาร http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=53911 ------------------------------------------------------------ ผมว่าข่าวที่คุณ thyrocyte นำมานั้นมันมีต้นตอจากเนชั่น ซึ่งมันขัดแย้งกับข้อมูลการจัดอันดับทรัพย์สินของนิตยสารฟอร์บ  ซึ่งทักษิณไม่ได้มีทรัพย์สินขนาดนั้นจริง  และการปฎิเสธจากสำนักข่าว ก็ไม่ได้แปลว่าเค้าทราบว่าทักษิณมีทรัพย์สิน 4 พันล้านเหรียญจริง เพียงแต่เค้า qoute ต่อมาจากเนื้อหาที่อีเมล์ส่งไปถามหาเค้าเรื่องข่าวนั้นมากกว่า ถ้ามีเงินขนาดนั้นจริงๆ หากจัดอันดับใหม่ในปีนี้ อันดับทักษิณก็น่าจะแซงคุณเฉลียวไปได้ หรืออาจจะคู่คี่กัน และถ้าดูสินทรัพย์จากการจัดอันดับนิตยสารฟอร์บ ก็จะใกล้เคียงกับที่แสดงไว้ของปี 2550   หรือถ้ามีการซุกจริง จะซุกยังไงกับเงินจำนวนขนาดนี้ จากคุณ : KhongLen` - [ 11 ม.ค. 52 02:10:48 A:58.9.175.220 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 บางครั้ง คนเราก็บริโภคข้อมูลข่าวสารจากแหล่งเดียวกัน   ..... แต่ตีความไม่เหมือนกันครับ  ขึ้นอยู่กับ " อคติ " ในใจของเรา ว่าเราจะตีความข้อมูลนี้ไปทางไหนดี  จริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่ตัวเลขในบัญชีของคนๆนึง  เราจะดูให้มันมากเกินความจริงก็ได้ หรือดูแล้วคิดว่ามันน้อยเกินไปก็ได้ สามารถคาดเดากันไปต่างๆ นานา ครับ.... ดีใจที่มีการใช้ข้อมูลมาโต้แย้ง มากกว่าการใช้อารมณ์ครับ  และขอเป็นกำลังใจให้ จขกท โดยส่วนตัว เห็นคุณ thyrocyte เป็นเจ้าพ่อข้อมูลประจำห้องนี้อยู่แล้ว  มักจะออกมาโชว์ข้อมูลเพียบทุกครั้ง บางครั้งมากเกินไปจนจับประเด็นไม่ค่อยได้ครับ จากคุณ : bananaku - [ 11 ม.ค. 52 02:32:31 A:192.168.0.17 X:117.47.206.193 ]

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านมาหลายความเห็นแล้ว สรุปว่า เจตนาซุกซ่อนหรือไม่ครับ จากคุณ : Magina (Magina) - [ 11 ม.ค. 52 03:48:36 A:222.123.203.174 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 อยากให้เจ้าของกระทู้เฉลยปัญหาสามข้อด้วยนะคะ ถ้าเผื่อคุณ thyrocyte  ตอบผิด เพื่อเป็นวิทยาทานกับสมาชิกในพันทิพย์ ดิฉันไม่เก่งทางบัญชีเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เชอรี่ (Yishun) - [ 11 ม.ค. 52 07:33:31 A:97.81.86.140 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณ คุณสัพเพ และ คุณthyrocyte ที่นำข้อมูลดๆ มาให้ทราบ... จากคุณ : คนอยากเรียน - [ 11 ม.ค. 52 08:57:58 A:58.8.161.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 คำถามแรก ช่วง 19 ก.ย. 49 ถึง 19 ก.ย. 50 ทักษิณไม่อยู่ในไทย ทำไมทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 57 ล้านบาท ( ใช้วิธีสันนิฐานคำตอบในลักษณะของภาพรวมคำตอบไม่ยากครับ เชื่อว่าคุณคงจะตอบได้ ) คำถามที่สอง ทำไมยอดเงินฝากธนาคารปี 2549 เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 400 กว่าล้านบาท ( ข้อนี้ง่ายครับ ) ...เมื่อคำถามทั้ง 2 ข้อ คุณ thyrocyte ตอบไม่ได้ ...เพราะไม่ทราบ และไม่มีข้อมูลมากพอที่จะตอบ ตามที่เจ้าตัวชี้แจง ...จขกท ไม่คิดที่จะเฉลย บ้างเหรอครับ ...จะได้เป็น วิทยาทาน แก่คนอื่นที่ยังไม่รู้ จากคุณ : sungod - [ 11 ม.ค. 52 09:53:37 A:125.24.193.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณเพื่อนๆที่โหวตให้ผม หลังจากร้านอินเตอร์ปิด ได้ไปเขียนความเห็นเพิ่มเติมที่บ้านญาคิ แล้วนำมาแสดงความเห็นในตอนนี้  จึงไม่มีเวลาอ่านความเห็น ตั้งแต่ความเห็นที่ 34 ลงมา แต่เข้ามาตอนนี้เพื่อมา เฉลยคำตอบกับคุณ thyrocyte ได้รับทราบ เฉลยคำตอบครับ คุณ thyrocyte ขอเฉลยคำถามข้อที่ง่ายก่อนนะครับ คำถามที่สอง ทำไมยอดเงินฝากธนาคารปี 2549 เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 400 กว่าล้านบาท ( ข้อนี้ง่ายครับ ) “คุณจขกท.คงต้องไปถามทนายคุณทักษิณหรือคุณทักษิณเอง คนอื่นจะไปทราบได้อย่างไรกันครับ” นั่นเป็นคำตอบของคุณ thyrocyte ผมไม่มีความจำเป็นต้องไปถามคุณทักษิณและทนายของคุณทักษิณ เพราะผมไม่รู้จักท่าน คำตอบ นายพานทองแท้ ชินวัตร ชำระหนี้ให้ คุณทักษิณ 409 ล้าน อธิบายเพิ่มเติม จากข้อมูลบัญชี ปี 2548 และ 2549 ที่คุณนำมาแสดงในกระทู้ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของทรัพย์สินดังนี้ ปี 2548 คุณทักษิณมีเงินให้กู้ยืมอยู่ 1 ราย (ทรัพย์สินหมวดที่ 4) คือ นายพานทองแท้ จำนวนเงิน 409 ล้านบาท ปี 2549 เงินให้กู้ยืมไม่มียอดแสดงไว้ แต่ในหมวดเงินฝาก (ทรัพย์สินหมวดที่ 2) มีบัญชีเงินฝาก 2.1.6 ธนาคารไทยพาณิชย์เพิ่มขึ้นมาใหม่มียอด 450 ล้านบาท คำถามแรก ช่วง 19 ก.ย. 49 ถึง 19 ก.ย. 50 ทักษิณไม่อยู่ในไทย ทำไมทักษิณจึงมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นประมาณ 57 ล้านบาท ( ใช้วิธีสันนิฐานคำตอบในลักษณะของภาพรวมคำตอบไม่ยากครับ เชื่อว่าคุณคงจะตอบได้ ) คำตอบ ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเงินปันผลจากเงินลงทุน (ทรัพย์สินหมวดที่ 3) อีกส่วนหนึ่งน่าจะมาจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร (ดอกเบี้ยน่าจะน้อยกว่าเงินปันผล เพราะถ้าคิดดอกเบี้ยที่ 4% จะได้ดอกเบี้ยประมาณ 20 ล้าน  ไม่ทราบว่าในช่วงนั้นอัตราดอกเบี้ยเท่าใด) แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 11:29:02 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 11:22:34 จากคุณ : สัพเพ - [ 11 ม.ค. 52 11:10:14 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงราย และได้มีโอกาส พูดคุยกับชาวไร่ชาวนา มีลุงคนหนึ่งถามผมว่า “รัฐเขาจะยึดเงินทักษิณเป็นหมื่นล้านเพราะทักษิณทุจริต โกงกินเงินของชาติใช่มั๊ย” ผมก็เลยตั้งคำถามกลับไปว่า “ถ้าเมื่อสิบปีที่แล้วลุงมีทองคำ 1 เส้นหนัก 10 บาท ตอนนั้นราคา ทองคำบาทละ 4,000 บาท พอมาถึงปีนี้ทองคำราคาบาทละ 15,000 บาท ลุงก็เลยขายทองคำทั้ง 10 บาทออกไปได้เงิน 150,000 บาท แล้วมีคนกล่าวหาลุงว่า ลุงร่ำรวยผิดปกติ ไปโกงเขามา ไปลักขโมยเขามา ลุงว่ามันถูกต้องไหมล่ะ “ ลุงแกตอบผมว่า “อ้าว ก็เมื่อสิบปีที่แล้วลุงมีทองคำหนัก 10 บาท และตอนขายลุงก็มีทองคำหนัก 10 บาทเหมือนเดิม แล้วจะกล่าวหาว่าลุงไปขโมยของคนอื่นมาได้อย่างไร” ผมก็เลยบอกลุงไปว่า “ก่อนจะเล่นการเมืองคุณทักษิณเขามีหุ้นอยู่ 1,500 ล้านหุ้น พอมาถึงปี 2549 คุณทักษิณจึงขายหุ้น  1,500 ล้านหุ้นออกไปได้เงิน 73,000 ล้านบาท รัฐเขาจะยึดเงิน 73,000 ล้านบาทนี่แหละ ผมก็จึงถามว่า ลุงรู้ไหมว่าหุ้นคืออะไร” ลุงแกตอบผมว่า “ลุงไม่รู้จักหลอก ไอ้หุ้นเหิ่นเนี่ย “ ผมก็จึงบอกว่า “หุ้นมันก็ไม่ต่างจากทองคำหลอกลุง” ลุงแกก็พูดต่อ “อ้อ เรื่องมันอย่างนี้ นี่เอง” ผมก็เลยถามต่อ “แล้วลุงคิดว่าทักษิณโกงกินหรือไม่” ลุงแกตอบว่า “เมื่อก่อนลุงก็เชื่อตามที่ฟังข่าว ว่าทักษิณโกงกินจริง แต่พอเอ็งยกตัวอย่างเรื่องทองคำ ลุงจึงเข้าใจ” แล้วแกก็พูดต่อว่า “มันใส่ร้ายกันนี่หว่า น่าสงสารนายกทักษิณจัง” จากคุณ : สัพเพ - [ 11 ม.ค. 52 11:20:55 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 ผมจะหาโอกาสเข้ามาแสดงความเห็นอีก วันนี้จะไปลงคะแนนเลือกตั้งที่จังหวัดอ่างทอง และเลยไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดสุพรรณสักหนึ่งเดือน อาชีพของผมตอนนี้คือนักปฏิบัติธรรม จากคุณ : สัพเพ - [ 11 ม.ค. 52 11:24:31 A:117.47.60.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 แหมพอดีได้เข้ามาทันเห็นคห.จขกท.พอดี แต่เสียดายดูเหมือนจขก.จะออฟไลน์ไปปฏิบัติรรมเสียก่อนแล้ว ผมว่าคำอธิบายเรื่องทรัพย์สินที่เพิ่มตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ที่จขกท.ได้พยายามอธิบายไว้นั้น ก็น่าจะพอรับฟัง ได้ แต่จะถูกต้องเพียงใด ก็คงต้องรอให้ผู้ที่เขารับผิดชอบเกี่ยวข้อง มารับรองอีกที แต่ผมว่า จขกท.กับผมเอง มีความต่างกันเวลามองรายการบัญชีที่คุณทักษิณแถลงต่อปปช. ที่ผมสังเกตุดู จขทก. ติดใจและพาลคิดว่าผมเองก็ติดใจ ในเรื่องที่บัญชีทรัพย์สินมีเพิ่มขึ้น และจขกท.ได้พยายามหาทางอธิบายใน ส่วนนี้ว่าเพิ่มขึ้นมาอย่างไร แตกต่างจากผม เพราะเมื่อผมได้เห็นบัญชีรายการทรัพย์สินทั้ง 3 ข้างต้น ทรัพย์ส่วนที่เพิ่มขึ้น ผมไม่รู้สึกติดใจ หรือสงสัยอะไรมากเลย เพราะผมเองคิดว่าธรรมดาเงินมันงอกเองโดยถูกกฏหมายได้อยู่แล้ว เช่นเงินที่ฝากใน ธนาคารหรือลงทุนในหลักทรัพย์ ผมจึงไม่ได้ติดใจในประเด็นที่ 1 และ 2 ที่จขกท.ติดใจเลย ที่ผมเอะใจ และติดใจคือยอดรวมของบัญชี ปี 2549 และปี 2550 นั้น หากรวมคุณทักษิณและคญ. ก็ได้ราว 8 พัน ล้านบาทไทย ซึ่งอย่างที่ได้แจ้งไว้ในคห.42, 43, และ 44 แล้ว ว่าเป็นตัวเลขที่แตกต่างไปจากข่าวจากสำนักข่าวตปท. มาก เพราะข่าวทางนั้นแจ้งว่ามีทรัพย์สินถึง 140 พันล้านบาทไทย ผมจึงได้ตั้งกระทู้เก่าที่คุณจขกท.ไปอ่านมาขึ้นมา และอย่างที่ว่า หลังจากได้แสดงความเห็นถึงข้อผิดปกติอันนี้แล้ว ผมก้ไม่ได้ตั้งกระทู้จี้อีกเลย รอฟังข่าวด้วยความสงบ เพราะเชื่อว่าสักวัน คณทักษิณคงชี้แจงเอง หรือ คงมีข่าวออก มาเองว่ามันเป็นอย่างไร สรุป ผมกับจขกท.มองต่างกัน แต่คงไม่ได้ขัดแย้งกัน - จขกท.สนใจว่าตัวเลขในบัญชีเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร และได้พยายามอธิบาย - ผมสนใจตรงยอดรวมที่ ต่างไปจากข่าวที่ลงมาก + สนใจว่าในบัญชี 19 กย.2550 ทำไมไม่มีรายการเกี่ยวกับสโมสร ฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ในรายการด้วย เพราะทักษิณเป็นประธานและมีหุ้นใหญ่ ตั้งแต่ กรกฏาคม 2550 แล้ว ก็คงเป็นตามนี้แหละครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 11 ม.ค. 52 13:25:28 A:192.168.0.17 X:203.147.40.3 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่เห็นจะยากเลย ลูกๆที่บรรลุนิติภาวะรวยกว่าพ่อแมอีก แล้วจะมาบอกกันทำไมว่าทักษิณมีแค่ 600 กว่าล้าน แล้วเอามาจากไหน เป็นหมื่นๆล้าน จากคุณ : MamaKungking - [ 11 ม.ค. 52 13:31:48 A:222.123.44.44 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 เรียนคุณ minimalist เรากำลังมองและค้นหาถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายไงครับ ว่ากฎหมายเรื่องการปกปิดนี้ ต้องการที่จะลงโทษบุคคลที่ปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งรวมถึงกรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งทางคุณเจ้าของกระทู้ ได้แจ้งไว้ในคห.2 ว่า ไม่เห็นประโยชน์ในการที่จะแจ้งให้ต่ำกว่าความเป็นจริง กฎหมายจึงไม่น่าจะมีเจตนาในการลงโทษในเรื่องนี้ ดังนั้นประเด็นจึงควรที่จะต้องพิจารณาในเบื้องต้นว่า "เกิดประโยชน์หรือไม่หากนักการเมืองนั้นแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริง" นักการเมืองจะสามารถหาประโยชน์อะไรได้จากในเรื่องนี้ ซึ่งถ้าหากเกิดประโยชน์ต่อนักการเมืองในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริง ดังนั้นหากกฎหมายจะมาคุ้มครองและลงโทษนักการเมืองที่ปกปิดทรัพย์สินโดยแจ้งต่ำกว่าความเป็นจริง ก็น่าจะเป็นไปได้และเป็นที่ยอมรับกันได้ ลองมาดูเหตุผลที่คุณโต้แย้งผมในแต่ละข้อนะครับ ข้อ1."ถ้าคนทำมาหากินผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น ถึงไม่เล่นการเมือง หรือเล่นการเมือง แจ้งไม่แจ้ง มันก็ผิดอยู่แล้วครับ....ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเนื้อหาในกระทู้..เช่น คนขายหวยใต้ดิน ปล่อยกู้นอกระบบ ฯลฯ" ผมว่าอุตส่าห์บอกประเด็นแล้วตั้งแต่กระทู้ของผมอันแรกแล้วไม่ใช่เหรอ คุณไม่ได้อ่านในกระทู้ที่ผมเขียนก่อนมาตอบหรือครับ ว่าเรากำลังดูในเจตนารมณ์ของกฎหมายว่ากฎหมายต้องการที่จะลงโทษนักการเมืองกรณีปกปิดโดยแจ้งต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ โดยผมบอกว่าการปกปิดดังกล่าวมันจะทำให้เกิดประโยชน์กรณีทำธุรกิจผิดกฎหมายมาก่อน และหากนักการเมืองผู้นั้นจะปกปิดเพราะกังวลว่าหากบอกไปและมีคนไปตรวจสอบจะทราบถึงที่มาอันเป็นการผิดกฎหมาย แน่นอนครับ ธุรกิจผิดกฎหมาย จะแจ้งหรือไม่แจ้งมันก็เป็นธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ผมยังหาประโยคไหนในกฎหมายที่บอกว่า "ถ้าคุณครอบครองธุรกิจผิดกฎหมาย แล้วไม่ต้องแจ้ง" ไม่เจอเลยครับ เจอแต่ว่า "ครอบครองเงินหรือทรัพย์สิน ให้แจ้ง" แสดงว่าไม่ว่าธุรกิจจะถูกหรือผิดกฎหมาย คุณก็ต้องแจ้งครับ หรือคุณจะใช้การตีความของคุณว่า ธุรกิจที่ไม่ถูกกฎหมายนี่ไม่ต้องแจ้งครับ และถามต่อไปว่า นักการเมืองจะได้ประโยชน์ไหม หากแจ้งทรัพย์สินต่ำกว่าความเป็นจริง โดยปกปิดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายไว้ ซึ่งคุณอาจมองว่าเป็นเรื่องเฉยๆ แต่สำหรับรัฐ ปปง. หรือสังคม หากสามารถรับรู้ถึงเงินและทรัพย์สินของนักการเมืองทั้งหมดที่ถูกต้องจริงๆไม่มากไปหรือน้อยไปกว่าความเป็นจริง ย่อมสามารถไปตรวจสอบถึงที่มา รวมถึงอาจทราบถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาโดยมิชอบได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้นักการเมืองเสียประโยชน์หากต้องแจ้งอย่างถูกต้องจริงๆ แต่ประชาชนและสังคมได้ประโยชน์ ในกรณีนี้กฎหมายก็น่าจะเลือกคุ้มครองสังคมและลงโทษนักการเมืองไม่ใช่หรือ ข้อ 2. "ทรัพย์สิน ถึงแจ้งครบ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาไปทำอะไรผิดๆไม่ได้นี่ครับ...การแจ้งต่อ ปปช. ไม่ใช่เอาทรัพย์สินไปอายัดฝากไว้ที่ ปปช. นะครับ..." ใช่ครับ คุณพูดถูกต้องแล้ว เพียงแต่คุณจะยอมรับหรือเปล่าว่า กระบวนการยุติธรรมจะสามารถตามหาถึงที่มาของเงินหรือทรัพย์สินได้ง่ายขึ้น หากมีการกระทำผิดขึ้นมากรณีแจ้งทรัพย์สินตรงตามความเป็นจริง ยกตัวอย่าง นาย ก มีทรัพย์สิน 3 อย่าง หนึ่งในนั้นคือสร้อยพระนางพญา หากก่อนนาย ก จะดำรงตำแหน่ง นาย ก แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 3 อย่าง และระหว่างนั้นนาย ก นำสร้อยพระนั้นไปติดสินบนผู้อื่นเพื่อกระทำความผิด เมื่อออกจากตำแหน่งนาย ก จึงแจ้งว่าเหลือทรัพย์สินอยู่ 2 อย่าง(เพราะให้พระกับผู้อื่นไปแล้ว) ดังนั้นในกรณีนี้สังคามหรือปปช.อาจจะแปลกใจว่าเอ๊ะ สร้อยพระ หายไปไหน ทำให้ลองไปตรวจสอบดูและอาจจะพบถึงเบาะแสในการกระทำความผิดได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเปรียบเทียบในกรณี นาย ก แจ้งว่ามีทรัพย์สินแค่ 2 อย่างตั้งแต่ก่อนดำรงตำแหน่ง และเอาสร้อยพระไปติดสินบนคนอื่น แล้วพอออกจากตำแหน่งก็แจ้งว่ามีทรัพย์สินเพียง 2 อย่างเหมือนก่อนเข้ารับตำแหน่ง ในสายตาของคนทั่วไป ถามว่ากรณีไหน น่าจะเกิดประโยชน์แก่สังคมที่จะตรวจสอบถึงการกระทำผิดและเส้นทางของทรัพย์สินได้ง่ายขึ้นครับ หวังว่าคุณ minimalist คงไม่มาตอบว่า ยังไงกระบวนการยุติธรรมก็ต้องทำงานหาคนผิดมาลงโทษอยู่แล้ว ดังนั้นต้องช่วยตีความให้นักการเมืองสามารถปกปิดที่มาของทรัพย์สินได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยในการกระทำความผิดนะครับ ข้อ 3. เรื่องแจ้งน้อย แล้วทำให้เสียภาษีน้อยลง...คิดได้ยังไง คนละเรื่องเลย ไม่เกี่ยวเลยครับ..ในทางกลับกันทรัพย์สินที่ตกหล่นไม่ได้แจ้ง ก็อาจจะเป็นทรัพย์ที่เสียภาษีแล้วก็ได้...สรรพากรเขาไม่จำเป็นต้องมารอดูผลการแจ้งหรอกครับ...หากเป็นอาชีพ กิจการที่สุจริต แล้วเป็นกินการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มันมีข้อมูลตรวจสอบได้ทั้งหมด...ยกเว้นพวกที่ทำธุรกิจใต้ดินเป็นเงินใต้ดิน เงินหวย ยังไงก็ไม่มีใครแจ้งว่าตนมีรายได้จากการขายหวยหวย ทำบ่อนใต้ดินหรอกครับ... ขอบอกว่า ธุรกิจที่แม้ถูกกฎหมาย ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกตรวจสอบได้อย่างถูกต้องทั้งหมดหรอกครับ มันมีหลายวิธีการ เช่น การแก้และตกแต่งบัญชี การโอนย้ายทรัพย์สินในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้นหากเกิดกรณี เช่น นักการเมืองผู้นั้นหลีกเลี่ยงภาษีอยู่แล้วโดยแจ้งต่อสรรพากรว่าตนเองมีเงินได้แค่ 10 ล้านบาทจากปีนี้ ทั้งที่ได้จริง 12 ล้าน ทำให้เสียภาษีน้อยลง และสรรพากรก็ไม่รู้ หากนักการเมืองผู้นั้นจะดำรงตำแหน่งและต้องแจ้งบัญชี ต่อปปช. คิดว่านักการเมืองคนนั้นจะบอกหรือเปล่าครับว่าเขาได้เงินมาในปีนี้10ล้านหรือ12ล้าน หากเขาบอก12ล้านตามจริง สรรพากรก็อาจจะแปลกใจและมาตรวจสอบถึงที่มาและพบว่านักการเมืองผู้นี้แจ้งเงินเพื่อเสียภาษีต่อสรรพากรต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งทำให้นักการเมืองผู้นั้นเสี่ยงที่จะถูกลงโทษข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี แต่หากเขาบอกว่ามีแค่ 10 ล้าน น้อยกว่าความเป็นจริงคือ 12 ล้าน อย่างน้อยก็ตบตาสรรพากรไปได้ต่อ ทำให้ยากที่สรรพากรจะมาตรวจพบในภายหลังว่าแท้จริงแล้วเขามีเงินที่ได้มาในปีนั้นจริงๆคือ 12 ล้าน ส่วนเรื่องธุรกิจใต้ดินที่คุณอ้างว่า ยังไงก็คงไม่แจ้งอยู่แล้ว คุณจะยกเหตุผลนี้ขึ้นมาเพื่อให้การแจ้งน้อยกว่าปกตินี่ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายเรื่องการแจ้งเหรอครับ คุณจะมองว่า "ไงๆก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อไม่แจ้งต่อสรรพากรแล้ว จะไม่แจ้งเพิ่มต่อปปช.ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย" เหรอครับ ผมว่ากระทู้ของคุณนี่ ไม่สมเหตุสมผล นะครับ จากคุณ : Mox (Mukkuk) - [ 11 ม.ค. 52 15:32:08 A:58.64.114.249 X: ]

ความคิดเห็นที่ 66 มาช่วยดันกระทู้อีกแรงคะจะได้ดูนานๆหน่อย จากคุณ : พิงค์นคร49 - [ 11 ม.ค. 52 17:16:37 A:192.168.0.17 X:118.172.30.143 ]

ความคิดเห็นที่ 67 อิอิ กลายเป็นมวยล้มต้มคนดู จากคุณ : Happy Wanderer - [ 11 ม.ค. 52 18:06:11 A:58.8.238.29 X: ]

ความคิดเห็นที่ 68 ยังคงไร้คำตอบ ทั้งๆที่มันก็อยุ่ในนั้นน่ะแหละ  เอิกๆ จากคุณ : Night_Angel - [ 11 ม.ค. 52 19:38:26 A:124.122.197.19 X: ]

ความคิดเห็นที่ 69 มาผมถกต่อเอง คุณไซท์ที่นับถือ พ๊อนท์ของท่านคือ "ที่ผมเอะใจ และติดใจคือยอดรวมของบัญชี ปี 2549 และปี 2550 นั้น หากรวมคุณทักษิณและคญ. ก็ได้ราว 8 พัน ล้านบาทไทย ซึ่งอย่างที่ได้แจ้งไว้ในคห.42, 43, และ 44 แล้ว ว่าเป็นตัวเลขที่แตกต่างไปจากข่าวจากสำนักข่าวตปท. มาก เพราะข่าวทางนั้นแจ้งว่ามีทรัพย์สินถึง 140 พันล้านบาทไทย" ผมขอตอบสั้นๆนะ 1. ท่านไม่ควรนำบัญชีทักษิณ+คุณหญิง มาให้ดูอย่างเดียว ควรนำเงินที่อยู่ในบัญชีลูกๆที่บรรลุนิติภาวะมาด้วย ถ้ารวมบช.ลูกๆแล้ว ยังมีแค่ 8 พันล้านหรือเปล่า 2. เงินแสนสี่หมื่นล้าน ขนาดคนเขียนข่าวเอง ยังรีบแจ้นออกมาขอโทษเรื่องข่าวมั่ว แต่กลับเป็นคุณ ที่เชื่อเป็นตุเป็นตะไปแล้ว ฟอร์ปจัดให้ คุณไม่ดู แต่สเตรทไทม์ลอกมาจากเนชั่น คุณกลับเชื่อ ขอลอกอะไรที่เคยเขียนไปแล้วให้อ่าน ถึงหลักฐานที่ "ชัดเจนที่สุด" ว่า แสนสี่หมื่นล้าน มัน "มั่ว" เบิร์ดธงชัยมีสามแสนล้านหนะรู้บ้างไหม อิอิ หลักฐานง่ายที่สุด ง่ายจริงๆ ก็คือ ถ้ามันเป็นความจริง ปชป ต้องรีบออกมากระทืบตามจิกข่าวตรงนี้ทันที แค่โทรกริ๊งเดียว ไปหากระทรวงหรือหน่วยงานในอังกฤษก็รู้แล้ว เพราะแค่เป็นความจริง ผมคนหนึ่งหละ ลาขาดทักษิณแน่นอน ปชป ก็รู้ และถ้าเป็นความจริง ถูกยึดแสนล้าน รับรองว่าทักษิณในใจคนไทยหายไปหมด แต่นี่ 7 วันตามที่ผมเคยให้เวลาปชป แล้ว ปชป ก็ยังเงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะอ้างข่าวนี้ขึ้นมา (มันก็แน่อยู่หรอก เพราะขนาดสนพ.เขียนข่าวยังอีเมล์มาขอโทษ ว่าเขียนผิด ไม่ทราบท่านได้อ่านหรือไม่) แต่ข่าวมั่วอื่นๆอย่างล็อบบี้ยิสต์ กลับเอาขึ้นมาเฉย ทั้งๆที่ข่าวถูกยึดทรัพย์แสนล้าน มีผลรุนแรงกับทักษิณมากกว่าเยอะ คำตอบมีหนึ่งเดียวครับ ปชป ไม่พูดถึงข่าวนี้ แต่ไปโจมตีตรงอื่นแทน เพราะ เขาก็รู้แล้ว (โทรไปแล้ว)สรุปว่า อังกฤษบอก "เฮ้ๆ ยู ไปได้ข่าววมาจากไหน เราอยากยึดเหมือนกันนะตั้ง USD4 billion เผื่อจะรวย อิอิ" ปชป:.. แบ๊ะๆ ไปลุยเรื่องล็อบบี้ยิสต์ดีกว่า สรุปก็คือ มันมั่วครับ เขียนมั่วๆ พอโดนจี้มารีบออกมาขอโทษ ว่า "เขียนผิด เอ่อ เข้าไม่ได้ยึดทรัพย์ครับ เขารีโหวกวีซ่า" โคดฮา (คุณไซท์ก็เอาข้อมูลมาลงเองแท้ๆ) แค่ลอจิกอย่างนี้ ท่านไซท์มองข้ามไปได้หรือ แหม อุตส่าห์นับถือในความมีตรรกกะเหตุผลของท่าน ปล. คำที่ท่านว่า "ข่าวทางนั้น" นั้น ท่านพูดก่อนหรือหลังจากทราบว่า ข่าวทั้งหมดนี้ถูกกุจากเนชั่นในไทยเอง?  ถ้าท่านทราบอยู่แล้ว การใช้คำว่า "ข่าวทางนั้น" ผมว่าอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นจริงนะครับ ควรแก้ไข อีกเรื่อง การที่เงินในบัญชีลูกๆเขา มีมากมายกว่าของพ่อแม่เยอะ การที่ท่านละเลยตรงนี้ ก็อาจจะทำให้คนเข้าใจผิดได้อีกเหมือนกันครับ ฟังดูแล้ว เออออห่อหมกตามไปด้วย ควรแก้ไขเช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 52 20:01:29 จากคุณ : Mountain Boy - [ 11 ม.ค. 52 19:57:16 A:125.24.57.51 X: ]

ความคิดเห็นที่ 70 คุณ Mountain Boy กลับไปดูดีๆ ผมไม่ได้แจ้งว่าผมเชื่อ ผมเพียงแค่ชี้ว่ามีความแตกต่างระหว่างจำนวนเงิน ที่สำนักข่าวต่างประเทศตีพิมพ์ กับจำนวนเงินที่ทักณิณแจ้งไว้กับปปช. และก็อย่างที่บอก ผมไม่ได้เดือดร้อน อะไรกับเรื่องนี้ และไม่ได้สนใจจะโพสต์เข้ามาอีก เพราะคิดอยุ่ว่าสักวันเรื่องนี้ก็จะเคลียร์เอง อาจเป็นไปได้ว่า คุณทักษิณไม่ได้มีเงินมากขนาด 140 พันล้านบาทอะไรที่ลงข่าวกันไว้ก็ได้ อนึ่ง กระทู้นี้นะผมไม่ได้ตั้งขึ้นมานะครับคุณ Mountain Boy คุณ สัพเพ เข้าเป็นคนตั้งขึ้นมา พาดพิงผม ผมก็ ต้องเข้ามาตอบ ผมเองนะเฉยๆในเรื่องนี้ไม่รีบร้อนให้คุณทักษิณมาเคลียร์หรอก และไม่ได้เชื่อสำนักข่าวด้วย แต่อยากให้คุณทักษิณ หรือทีมทนายช่วยอธิบายต่อประชาชนเพื่อความสบายใจของประชาชน ก็เท่านั้น จากคุณ : thyrocyte - [ 11 ม.ค. 52 20:39:33 A:124.121.34.169 X: ]

ความคิดเห็นที่ 71 เล่นเอาสาวกเงียบไปหลายคน เล่นเอาหลักฐานมาโชว์กันจะๆเห็นๆแบบนี้จะแถกันต่อยังไงดีล่ะครับพี่น้อง ก่อนนั้นคนขับรถกับแม่บ้านก็ได้ไปหลายอยู่ คราวนี้ไม่ไปไกลตัว ก็ลูกๆของท่านพ่อนั่นแหละ แต่สาวกยังเชื่อไม่ลืมหูลืมตา แปลกจริงๆ คิดว่าเค้าจะแบ่งหุ้นมาให้มั่งเรอะไง ฝันไปเหอะ จากคุณ : ห่วยแมน - [ 11 ม.ค. 52 21:41:51 A:58.136.48.86 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 กระทู้นี้สนุกมากค่ะ จากคุณ : asterisk - [ 11 ม.ค. 52 22:28:04 A:124.120.182.52 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 มั่ว!..... สรุปก็แค่ไปอ่านมาจริงไม่จริงไม่รู้ก็เลยเอามาถามให้เป็นประเด็น สงสัยกันไป   ใช่ไหม! ถ้าไปอ่านแล้วเอามาสงสัยกันแบบดิบๆและตั้งกระทู้แบบนี้ระวังเครียดตายนะครับ หรือว่ามันเป็นสิ่งที่คุณต้องการจะทำอยู่แล้ว ถ้าผมจะสงสัยนะ อันดับแรกผมจะสงสัยว่าข่าวนี้เชื่อถือได้ขนาดไหนถ้ามันเชื่อถือได้ในระดับที่เป็นข้อเท็จจริงแน่ๆ ถึงตอนนั้นค่อยเอามาถกกันอีกที่ในกระทู้ก็ไม่สายไปหรอกครับ จากคุณ : sodapa - [ 11 ม.ค. 52 22:35:25 A:124.122.148.179 X: ]

ความคิดเห็นที่ 74 อย่ามัวแต่จับผิดแต่ คุณทักษิณอยู่เลย ไหนๆแกก็แทบไม่หลงเหลือความเป็นคนไทยอยู่แล้ว สงสารแกบ้างเถอะ ช่วยไปจับผิดพวกปล้นอำนาจเค้ามา แล้วมาลอยหน้าลอยตาอยู่ ทุกวันนี้ดีกว่า มาได้อย่างไร...ช่วยดูที่มาที่ไป จากคุณ : Dirt (Dusty) - [ 11 ม.ค. 52 23:06:46 A:117.47.25.48 X: ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขออภัยคุณไซท์ คุณไม่ได้เข้ามาตอบอะไรจขกท.มากนักหรอก เพราะผมเห็นไปคนละทางเลย เขาถามมา123 คุณบอกไม่รู้ไม่สนใจ พ๊อยท์คุณคือที่คุณอยากรู้เท่านั้น ผมเลยช่วยตอบให้ ว่าที่คุณสงสัยหนะคำตอบคือง่ายมาก สรุปคือ ยื่นรายการถูกต้องแล้ว สองคนมีเงินรวมกันเท่านั้นแหละ สอง ไม่เคยมีเงิน USD 4 billion ที่เนชั่นปั้นข่าวมา ไม่อยากจะเชื่อว่า "คนพิมพ์" ยังยอมรับไปแล้วว่าข่าวมั่ว แต่คนอ่านทางนี้กลับบอกว่ามีมูล (ทั้งๆที่มานก็อ่านมาจากคนพิมพ์นั่นแหละ ไม่ใช่ไปรู้เองมาจากไหน) และ proof beyond reasonable doubts ก็คือการที่ปชปไม่ตีข่าวนี้ ก็ปิดคดีครับ พีเรียด ระดับท่านน่าจะปิดคดีในใจได้แล้วเหมือนกันนะ ผมว่า แต่ก็ยังรู้สึกดีที่ท่านบอกว่า หลังจากท่านตั้งกระทู้นั้นแล้วไม่เคยตั้งอีก ในทำนองเดียวกัน ด้วยความเคารพครับ ขอตอบคุณห่วยแมน ผมว่าคุณกลับไปอ่านกระทู้ใหม่ดีกว่า แล้วพิมพ์ใหม่ ผมไม่เห็นหลักฐานขำขันอะไรซักอย่าง กลับไปอ่านอีกทีดีไหม เป็นอะไรที่ขำมากที่คุณคิดว่าเราจะรอแบ่งหุ้น ตรงกันข้ามเลย สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ คือการ "ไม่เอา" ของคนอื่นเขาตะหาก นอกจากเราไม่เอาแล้ว ก็ยังย้ำให้ประเทศเรา "ไม่เอา" เหมือนกันด้วย  บังเอิญบ้านนี้เมืองนี้ มันมี "คนจะเอา" ไง เราเลยต้องส่งเสียงหน่อย "ของๆเขา เราไม่เอา ใครเอาของคนอื่นไป [^_^]ทั้งตระกูล จำไว้" จากคุณ : Mountain Boy - [ 12 ม.ค. 52 00:10:26 A:125.24.40.86 X: ]

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 69,75 "...เงินแสนสี่หมื่นล้าน ขนาดคนเขียนข่าวเอง ยังรีบแจ้นออกมาขอโทษเรื่องข่าวมั่ว แต่กลับเป็นคุณ ที่เชื่อเป็นตุเป็นตะไปแล้ว..." "...ไม่เคยมีเงิน USD 4 billion ที่เนชั่นปั้นข่าวมา ไม่อยากจะเชื่อว่า "คนพิมพ์" ยังยอมรับไปแล้วว่าข่าวมั่ว แต่คนอ่านทางนี้กลับบอกว่ามีมูล..." ...เรื่อง E-mail ที่คุณเอามาอ้างนั้น ปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เลยครับ ...ว่ามันเป็นของจริง หรือ ของปลอม ...หรือว่าเป็นของจริง ที่ให้ข้อมูลปลอม ...บทความที่ลงในหนังสือพิมพ์ Arabian Business ถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน และในบทความนั้นก็มีบทสัมภาษณ์ของ ทักษิณ ...และบทความนี้ โดยเฉพาะท่อนที่ ทักษิณถูก อังกฤษ ยึดทรัพย์แสนกว่าล้านบาท ก็เป็นข่าวดังในเมืองไทย "...The UK froze his reputed $4bn of assets, forcing him to sell Manchester City to Abu Dhabi's Sheikh Mansour." http://www.arabianbusiness.com/539714-catch-me-if-you-can ...ซึ่งข้อมูลนี้ ได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงกับ ทักษิณ มากมาย ดังนี้ 1. ทักษิณ มีเงินนอกประเทศจำนวนมหาศาล ที่ไม่ได้แจ้งต่อ ปปช. 2. เงินมหาศาลขนาดนี้ ทักษิณได้มาจากไหน 3. ทำไม ทักษิณ โดนอังกฤษ อายัดทรัพย์ (ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ) ...ซึ่งผมเชื่อว่า ใครที่อ่าน วารสารเล่มนั้น ก็ย่อมจะเชื่อว่าเป็นข้อมูลจริง กันทั้งนั้น ไม่ว่าต่างชาติหรือคนไทย เพราะมีบทสัมภาษณ์ยาวเหยียดของตัวทักษิณประกอบอยู่ด้วย (ถ้าเป็นข่าว หรือบทความเฉยๆก็ว่าไปอย่าง) ...เมื่อเป็นสื่อยักษ์ใหญ่ และเป็นข่าวดัง ตีพิมพ์ในวารสารการเงินชั้นนำ ไปทั่วโลกอย่างนี้ ...โดยเฉพาะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่สร้างความเสียหายต่อบุคคลอย่างรุนแรงมาก (สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นร้อยๆล้านได้เลยนะครับ) ...ถ้าผมเป็นทักษิณ หรือทีมงาน ผมต้องรีบติดต่อไปเพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องกับทางหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่วันแรกที่วางแผงแล้ว ....แต่ปรากฎว่า ผ่านมาจนวันนี้  ใน web ของ หนังสือพิมพ์ Arabian Business ...ข้อมูลการถูกอังกฤษยึดทรัพย์แสนกว่าล้าน ก็ยังปรากฎหราเหมือนเดิม โดยไม่มีการแก้ไข ใดๆทั้งนั้น ...เทียบกับเว็บข่าวเล็กๆอย่าง Manager ที่เมื่อลงข้อมูลผิดและโดนทักท้วง ก็รีบแก้ไขข้อมูลทันทีในเวลาไม่กี่ชั่วโมง (คงกลัวโดนฟ้อง) ...แต่นี่ นอกจากไม่แก้ไขแล้ว ไม่มีแม้แต่การ ลงขอโทษต่อท้ายบทความ ว่าเป็นการเข้าใจผิด หรือข้อมูลตรงนั้นผิดพลาด ...มิหนำซ้ำ บก.คนเดียวกันนี้ ก็ยังเอาบทสัมภาษณ์เดิม มาวิเคราะห์ตีพิมพ์ลงในนิตยสารธุรกิจระดับโลกอีกเล่มนึง (CEO Middle East) ...โดยไม่ได้แก้ไขข้อมูล เรื่อง ทักษิณถูกอังกฤษยึดทรัพย์ 4,000 ล้านเหรียญ เลยแม้แต่น้อย ...คนที่เป็นระดับ บก. ของวารสารการเงินระดับโลกหลายฉบับ ...เค้า ชุ่ย ขนาดนั้นเลยเหรอครับ ? ...มีคนท้วงติงแล้ว เจ้าตัวก็ชี้แจงแล้ว  ก็ยังไม่แก้ให้ แถมยังเอามาลงเพิ่มที่อื่นอีก ?? ...ทั้งที่เป็นข่าวสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงกับบุคคลสำคัญระดับโลกที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ขนาดนั้น ...และตัวทักษิณก็กำลังมีประเด็นทางการเมือง การทุจริต เรื่องนี้อยู่ ...แต่ทำไมกลับมา สื่ออาหรับกลับมา ทำลาย ซ้ำเติมกันแบบนี้ ...น่าแปลก ที่เรื่องนี้ แม้แต่ตัวทักษิณเอง ...ก็ไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธ ข่าวนี้ แต่อย่างใด ...ไม่ว่าจะเป็นการให้สัมภาษณ์ หรือ โฟนอิน ...ไม่มีเลย ...มีแค่โฆษกส่วนตัว นายพงษ์เทพ ออกมาปฏิเสธ ...แต่เมื่อตามเข้าไปดูในรายละเอียดข่าวการปฏิเสธ ...นายพงษ์เทพ ใช้คำว่า "ผม(พงษ์เทพ)ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น" กับ "ผม(พงษ์เทพ)คิดว่าไม่เป็นความจริง" ...ซึ่งเป็น วลีเดียว กับที่เคยใช้ตอนปฏิเสธ ข่าวอังกฤษถอน visa ทักษิณและพจมาน ...พูดแบบ save มากๆ ...ขณะที่คนทั่วโลก ได้อ่านข่าวนี้จาก วารสารการเงินระดับโลกถึง 2 ฉบับ และ website ของหนังสือพิมพ์ ...ซึ่งปัจจุบันก็ยังเล่นบทความ exclusive สัมภาษณ์ทักษิณ เป็นพาดหัวที่อยู่บนสุดหน้าแรก ...และคนที่อ่านและรู้ข้อมูลนี้ จากทั่วโลก ก็ทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ...แต่คนที่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลเท็จ...กลับมีแค่คนเดียวในโลก คือ ชาวบ้านที่ E-mail ไปถามตัว บก. !!!!!! ...ที่ คุณ ไปเอามาลง ...มีแค่คนเดียวในโลก !!! ...คุณว่าแปลกมั้ย ?? ...และ E-mail เจ้าปัญหานั้น ก็ถูกอ้างมาจาก web noname เล็กๆ web นึง ซึ่งเป็นเว็บที่มีเนื้อหาเอียงข้างทักษิณอย่างเห็นได้ชัด ...ต้นทุน ความน่าเชื่อถือแทบไม่มี ...ส่วนคนอื่นๆที่เหลือทั่วโลก ก็ปล่อยให้เข้าใจผิดกันต่อไป ?? ...เหรอครับ ?? จากคุณ : sungod - [ 12 ม.ค. 52 09:02:27 A:192.168.0.17 X:125.24.217.114 ]

ความคิดเห็นที่ 77 คุณ Mountain Boy ดีใจนะที่คุณเข้าใจที่ผมโพสต์และผมขอย้ำอีกทีว่า ที่จขกท.(ซึ่งขณะนี้ก้ไม่อยู่เสียแล้ว เพราะแจ้งว่าไปปฏิบัติธรรม) ตั้งกระทู้ขึ้นมาสอบถามผมนั้น เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะตั้งได้ แต่ก้เป็นสิทธิอันชอบธรรมของผมเช่นกัน ที่ผมจะมีความนึกคิด ความชอบแตกต่างไปจากจขกท. ท่านจขกท. สนใจนประเน 1,2และ 3 ซึ่งอย่างที่ผมแจ้งให้ทราบ ผมไม่ได้สนใจในประเด็นทั้งสามเลย แต่เห็นตั้งกระทู้ขึ้นมา ถามผม ผมก็มาตอบให้ตามที่ถาม แต่ผมยืนยันว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ผมจะมีความรู้สึกไม่สนใจในเรื่องทั้ง 3 ที่จขกท.สนใจและตั้งขึ้นมา เพราะอย่างที่ว่า ผมสนใจในประเด็นเรื่องความแตกต่างระหว่างข่าวที่มีว่าคุณทักษิณ มีเงินมากมากเกินกว่าและแตกต่างไปจากที่แจ้งต่อ ปปช. ผมยืนยันว่าผมสนใตประเด็นนี้ และกระทู้เดิมที่จขกท. นี้ไปอ่านมา ก็มีสาระเช่นนั้น ไม่ได้มีเรื่อง 3 ข้อที่จขกท.นี้ตั้ง ส่วนเรื่องเงินคุณทักษิณมีเกินจากที่แจ้งต่อปปช.หรือไม่ ก็เป็นอย่างที่แจ้งไว้ คือ ผมก็รอฟังความคืบหน้า ไม่ได้รีบ ร้อนให้ต้องรีบมาชี้แจ้ง และยินดีและเต็มใจที่จะค่อยๆฟังข่าว และอย่างที่ว่า ผมเองก็ไม่ได้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ อีก แต่ในเวลาที่ผมตั้งกระทู้นั้น ข่าวเรื่องที่คุณทักษิณมีเงิน 140 พันล้านบาทนั้น เป็นที่ถกเถียงในห้องนี้มาก ลองไป ค้นกระทู้ดู คุณจะพบว่ามีแต่คนโพสต์ว่าคุณทักษิณมีเงิน140 พันล้านบาท และก็มีการถกเถียงกันว่าทางอังกฤษยึด ไว้หรือไม่ นั้นแหละจึงจุดประกายความสนใจให้ผมไปเช็คดูว่า แล้วที่คุณทักษิณแจ้งไว้กับปปช.นะ เป็นเท่าไร และเมื่อได้คำตอบ ผมก็มาแจ้งข่าวในห้องนี้ ผมถือว่าจบหน้าที่ผม จากนั้นก็รอดูว่าใครจะชี้แจงอะไรหรือไม่ กระทู้เก่าเกี่ยวกับข่าวเงิน 140 พันล้านบาทในห้องนี้ มีร่วมสิบหรือยี่สิบกว่ากระทู้ หากสนใจจะค้นลิงค์มาให้ดู จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 09:04:39 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 78 เรื่องเงิน 7,000 ล้านที่คุณทักษิณนำไปซื้อแมนซิตี๊ เรื่องเงิน 7,000 ล้านที่คุณทักษิณนำไปซื้อแมนซิตี๊ อาจารย์ชูพงศ์ ถี่ถ้วนได้เคยพูดในรายการวิทยุชุมชนคนรู้ใจ (www.chupong.com) นานมากแล้ว โดยพูดไว้ดังนี้ “ ..โน่นจีนเขาให้ไปสามหมื่นล้าน นี่รู้ไว้ด้วยนะ คตส. ท่านผู้ฟังครับ จีนเนี่ยเขาสงสารเขาเห็นใจเขารักนายกทักษิณ ผมพูดแทนก็ได้เอา ข้อมูลผมไม่มีผิด จีนเขาให้นายกทักษิณสามหมื่นล้าน ...................................... ....... แต่เหลี่ยมเคยพูดให้เราได้ยินเองนี่นาว่า เงินของผมถูกอายัตฺแต่เพื่อนๆชาวอาหรับเขาให้ยืม.. ใครจำได้มั่งค้า เราควรเชื่อที่เจ้าตัวพูดใช่มะ งั้นที่ ชูผง พูดก็มั่ว แต่จะว่าไปเหลี่ยมเอง ก็พูดจริงมั่งมั่วมั่งทุกเรื่อง เชื่อไม่ได้ซักกะคน สมแล้วที่ จขกท ต้องไปปฎิบัติธรรมเป็นอาชีพ เพราะเลือกรักเลือกฟังคนไม่ดี ถึงต้องหาที่ยึดเหนียวทางใจตลอดเวลา แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 10:18:28 จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 12 ม.ค. 52 10:12:25 A:125.25.97.112 X: ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอเรียนถามคุณ sungod ครับ คือผมจะเข้าไปอ่านข้อมูลตามที่คุณได้โชว์ไว้ แต่เข้าแล้วมันไม่มีอะครับ(เข้าหลายครั้งแล้วครับ) ไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่ หรือถ้าคุณ sungod จะเข้าไป save บทความและส่งให้ผมด้วยก็จะดีมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : UnicornG (UnicornGundam) - [ 12 ม.ค. 52 11:48:27 A:58.8.35.144 X: ]

ความคิดเห็นที่ 80 ผมไม่สน หรอกที่คุณเถียงกันเรื่อง พรบ. ปปช. ...แต่ ปปช. มาดำรงตำแหน่ง 9 ปี โดย มิชอบด้วยกฎ หมาย ...ในรัฐธรรมนูญ ก็ เขียน ไว้ ชัดเจน ถึงวิธีการคัดสรรค์ ..... เพราะฉนั้น .... ปปช. ไม่มีอำนาจ ตรวจ สอบ ใครก็แล้ว แต่  ใดๆ ทั้งสิ้น .....จะอธิบาย ให้ นักเรียน นักศึกษา ฟังว่า ยัง ไง ถึงที่มาของ ปปช. และ คำตัดสินของ ปปช.....ขอเจ้าของกระทู้  และ คุณ  thyrocyt  ช่วยอธิบายให้กระจ่าง หน่อย ...ยกมาตรา มาเลยก็ดีน๊ะ ...วิธีการ สรรค์หา ตาม รธน.   เอาให้ ระเอียด  เหมือน บัญชี ทรัพย์ สินเลย จากคุณ : kowmolt - [ 12 ม.ค. 52 12:38:18 A:125.24.231.159 X: ]

ความคิดเห็นที่ 81 ผมอ่านมาถึงกระทู้ที่80 ล้วนแล้วมีระดับกันที้งนั้น แต่ไม่มีใครเลยสักคนชี้ชัดไปว่าท่านนายกทักษินผิด แล้วคนที่แถอย่างเดียวไม่มาอ่านบำรุงสมองบ้างหรือ จากคุณ : แรงงานusa - [ 12 ม.ค. 52 13:45:28 A:75.94.178.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 82 บางทีก็สงสารทักษิณจัง ดวงบริวารเป็นพิษ บางทีทักษิณดับเพราะบริวาร เข้าใจว่าคนที่รักทำเสียคะแนนเสียง จากคุณ : BMWTurboman - [ 12 ม.ค. 52 13:51:29 A:58.136.28.106 X: ]

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อวานผมเข้ามาเฉลยคำตอบสำหรับคำถามที่ต้องการให้คุณ thyrocyte เป็นผู้ตอบ และคิดว่าคงจะไม่เข้ามาแสดงความเห็นอีก แต่หลังจากที่ผมได้ไปลงคะแนนเลือกตั้งที่จังหวัดอ่างทองและได้ค้างคืนที่บ้านญาติ เพื่อนรุ่นน้องได้โทรมาหาผม บอกว่ากระทู้ของพี่ได้ถูกเลือกให้เป็นกระทู้แนะนำ (ผมก็เพิ่งรู้ จากรุ่นน้อง) พี่น่าจะเข้ามาแสดงความเห็นต่อ ผมก็ตอบไปว่า ที่บ้านญาติไม่ต้องพูดถึงอินเตอร์เน็ตเลย แม้แต่คอมพิวเตอร์ก็ยังไม่มี เอาเป็นว่าก่อนเข้าวัดพรุ่งนี้ผมจะหาโอกาสเข้าไปแสดงความเห็นอีก จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 14:27:43 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณคุณสัพเพที่มาเฉลย และคุณ thyrocyte ที่มาตอบด้วยเหมือนกัน ได้ความรู้จากคนสองคน ในมุมที่แตกต่างกัน ตอนนี้เข้าใจเรื่องระบบบัญชีขึ้น สินทรัพย์กับหนี้สินนี่เอง จากคุณ : เชอรี่ (Yishun) - [ 12 ม.ค. 52 14:33:42 A:12.184.86.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 86 #81 ตามนั้น จากคุณ : Noo_Lek@TheKop - [ 12 ม.ค. 52 14:37:51 A:118.173.238.41 X: ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ thyrocyte ครับ เหตุที่ผมตั้งคำถามให้คุณตอบนั้น ผมต้องการจะสื่อให้คุณได้รู้ว่า การที่จะนำเอาข้อมูลใดๆมาแสดงนั้น ควรจะมีความรู้อย่างถ่องแท้ในข้อมูลที่เรามีอยู่ การนำเสนอข้อมูลต้องให้อยู่ในลักษณะที่สั้นและมีความกระชับ และทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด อันนี้ถือเป็นหัวใจของการนำเสนอข้อมูล จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 14:40:46 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 90 นักวิชาการในเมืองไทยในปัจจุบันมีจำนวนมากครับที่สร้างผลงานด้วยการ ใช้วรรณกรรมการตัดแปะ กล่าวคือนำเอาผลงานของหลายคนมาตัดต่อเพื่อ ให้เกิดผลงานชิ้นใหม่ขึ้นมา แล้วก็บอกกับสังคมว่าเป็นผู้สร้างผลงานทางวิชาการ ทำไมผมพูดเช่นนี้ เพราะผมมีเพื่อนเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมาย เขาเขียนหนังสือ โดยใช้วิธีการดังที่ผมกล่าว ผมก็เลยถามว่าไม่กลัวถูกฟ้องหรือ เพื่อนก็ตอบว่า ไม่หลอก เพราะระดับอาจารย์กฎหมายดังๆของเมืองไทย ยังใช้วิธีนี้เลย แล้วเพื่อนผมก็หยิบหนังสือกฎหมายธุรกิจมาสองเล่ม แล้วเปิดให้ผมดู ผมก็เลยแสดงความเห็นไปว่า ถ้าเป็นเรื่องของข้อกฎหมายหรือมาตราต่างๆสามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นข้อคิดเห็นหรือคำอธิบายหรือการยกตัวอย่าง เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะกระทำ การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เฉพาะนักวิชาการทางด้านกฎหมายอย่างเดียว นักวิชาการด้านอื่นๆจำนวนมากก็มีพฤติกรรมเช่นนี้ “วรรณกรรมการตัดแปะ” มันทำให้การเรียนรู้ของคนในประเทศไทย เป็นไปอย่างเชื่องช้า รู้น้อย ไม่ค่อยมีการพัฒนา ยากที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็น Learning Organization ได้ จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 14:57:41 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 91 ความคิดเห็นที่ 63 ..................... ผมว่าคำอธิบายเรื่องทรัพย์สินที่เพิ่มตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ที่จขกท.ได้พยายามอธิบายไว้นั้น ก็น่าจะพอรับฟัง ได้ แต่จะถูกต้องเพียงใด ก็คงต้องรอให้ผู้ที่เขารับผิดชอบเกี่ยวข้อง มารับรองอีกที แต่ผมว่า จขกท.กับผมเอง มีความต่างกันเวลามองรายการบัญชีที่คุณทักษิณแถลงต่อปปช. ที่ผมสังเกตุดู จขทก. ติดใจและพาลคิดว่าผมเองก็ติดใจ ในเรื่องที่บัญชีทรัพย์สินมีเพิ่มขึ้น และจขกท.ได้พยายามหาทางอธิบายใน ส่วนนี้ว่าเพิ่มขึ้นมาอย่างไร . จากคุณ : thyrocyte ********************************************* ผมมั่นใจว่า ถ้าเอาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคุณทักษิณทั้งสามปี ไปให้ใครก็ได้ที่มีความรู้ทางด้านการเงินหรือบัญชี แล้วตั้งคำถามตามที่ผมตั้ง เชื่อว่าทุกคนคงจะให้คำตอบ เช่นเดียวกับที่ผมตอบ เพราะเรื่องของตัวเลขหรือคณิตศาสตร์หรือบัญชีมันบิดพลิ้วเป็นอย่างอื่นไม่ได้ มันไม่เหมือนเรื่องของข้อกฎหมาย บางครั้งสามารถตีความกันไปได้คนละทิศทาง คุณ thyrocyte ลองเอาไปให้เพื่อนของคุณที่เป็นนักการเงินหรือนักบัญชีตอบคำถามนี้ก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าเป็นคำตอบเดียวกับผม ความจริงประเด็นของต้องการสื่อถึง 1.วิธีการนำเสนอข้อมูล ควรนำเสนออย่างกระชับและเหมาะสม 2.ต้องการให้ตอบคำถามที่ผมตั้งไว้เท่านั้น โดยที่ผมไม่ได้ไปสนใจเรื่องที่ว่าคุณทักษิณแสดงบัญชีถูกต้องหรือไม่ และผมก็ไม่ได้ไปสนใจเรื่องข่าวเกี่ยวกับทรัพย์สินของคุณทักษิณในต่างๆประเทศ พูดง่ายๆโฟกัสไปที่บัญชีที่คุณนำมาแสดงเท่านั้น ไม่ได้ไปสนใจในข้อมูลส่วนอื่นๆ สำหรับความเห็นที่1-5 ของผมนั้น ที่มีคนบอกว่าอยู่นอกประเด็นนั้น ผมได้บอกกล่าวไว้เบื้องต้นแล้วว่า ขอถือโอกาสแสดงข้อคิดเห็นในหลายเรื่องที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆชาวราชดำเนิน เพราะว่านานๆจะเข้ามาสักครั้ง จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 15:03:29 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 92 ความเห็นของคุณ minimalist ในความคิดเห็นที่ 53 เรื่องแจ้งน้อย แล้วทำให้เสียภาษีน้อยลง...คิดได้ยังไง คนละเรื่องเลย ไม่เกี่ยวเลยครับ..ในทางกลับกันทรัพย์สินที่ตกหล่นไม่ได้แจ้ง ก็อาจจะเป็นทรัพย์ที่เสียภาษีแล้วก็ได้...สรรพากรเขาไม่จำเป็นต้องมารอดูผลการแจ้งหรอกครับ...หากเป็นอาชีพ กิจการที่สุจริต แล้วเป็นกินการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มันมีข้อมูลตรวจสอบได้ทั้งหมด...ยกเว้นพวกที่ทำธุรกิจใต้ดินเป็นเงินใต้ดิน เงินหวย ยังไงก็ไม่มีใครแจ้งว่าตนมีรายได้จากการขายหวยหวย ทำบ่อนใต้ดินหรอกครับ... สิ่งที่ตั้งสมมุติฐานมานั้นไม่สมเหตุสมผล ************************************************************* ผมเห็นด้วยกับคุณ minimalist ครับ แต่ที่อยากจะแสดงความเห็นเสริมก็คือ ถ้าจะกล่าวว่าการที่ผู้ประกอบอาชีพสุจริตพยายามหลีกเลี่ยงภาษีเป็นพวกใช้วิชามาร ผมจะจัดอันดับให้เป็นแค่มารระดับอนุบาล แต่มารระดับมหาวิทยาลัยนั้น เขาจะพยายามเสียภาษีให้มากๆ เป็นพวกประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย ต้องการฟอกเงินนั่นเอง เช่น มีรายได้จากค้ายาบ้าหรือขายหวยเถื่อนเดือนละ 300,000 แสนบาท ฟอกเงินที่ได้มาด้วยการเปิดธุรกิจโรงแรมขนาด 30 - 50 ห้องขึ้นมาบังหน้า บางวันมีคนมาพัก 2-3 ห้อง บางวันไม่มีคนมาพักเลย แสดงว่าถ้าวัดผลประกอบการจริงๆจะต้องขาดทุนทุกเดือน แต่ได้บันทึกข้อมูลไว้ว่ามีผู้มาเปิดใช้ห้องเกือบเต็มทุกเดือน พูดง่ายๆบันทึกรายได้จากค้ายาบ้าหรือขายหวยเถื่อนเป็นรายได้ค่าห้องพักของโรงแรม นำเงินเข้าฝากธนาคาร กลายเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ฟอกได้สะอาดแล้ว) นี่แหละคือพวก “มารระดับมหาวิทยาลัย” จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 15:08:47 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 93 คงเพียงเท่านี้นะครับ สามโมงกว่า ต้องไปเข้าวัดแล้ว โชคดีปีใหม่ทุกๆคนครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 15:19:30 แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 15:18:15 จากคุณ : สัพเพ - [ 12 ม.ค. 52 15:17:47 A:125.26.52.246 X: ]

ความคิดเห็นที่ 94 รออ่านต่อ ได้ความรู้ดีครับ แต่รู้สึกทุเรศทุรังกับยายฉ่ำน้ะครับ ไม่บอกก็รู้เลยว่าโดนไอ้แป๊ะกับไอ้เกรียนลองมันทะลวงไปแค่ไหน จากคุณ : L RULES - [ 12 ม.ค. 52 16:01:21 A:125.25.101.221 X: ]

ความคิดเห็นที่ 95 อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ  ยกเว้นบางความคิดเห็นที่เข้ามาแถเอามันส์นะครับ เรื่องอายัดเงิน 73,000 ล้าน ผมอยากให้ท่านผู้รู้ช่วยเข้ามาตอบหน่อยว่า มันสมควรหรือไม่ ที่อายัดเงิน 73,000 ล้านของทักษิณ .... จากคุณ : เทพจิ้งจอก - [ 12 ม.ค. 52 17:41:27 A:58.181.133.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 96 อยากรู้อีกนิดจากคุณ thyrocyte ที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายว่า เงินที่ครอบครัวชินวัตรได้จากการขายชินคอร์ปต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ โดยเป็นไปตามพรบ.ใด และ มาตราใด ครับ และการที่ ธ.ไทยพาณิชย์ ปล่อยเงินกู้ 15,000 ล้านบาทให้แก่ Cedar Holding เพื่อซื้อชินคอร์ปและต่อมาภายหลัง ธ.ไทยพาณิชย์ กลายเป็นผู้ถือหุ้น 9.9% ในชินคอร์ป (ในช่วงสั้นๆหลังปิดดีล) ถือเป็นการกระทำการผิดธรรมาภิบาล และผิดกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงิน หรือไม่ มาตราใดครับ เพราะกลายเป็นว่าถ้า ธ.ไทยพาณิชย์ ไม่ถือหุ้นดังกล่าว ดีลชินคอร์ปจะปิดไม่ได้ (ซึ่งอาจเป็นวิธีการของ Goldman Sach ที่มีธ.ไทยพาณิชย์เป็นตัวแทนทำธุรกรรมในประเทศไทย) แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 17:53:46 จากคุณ : Winnie The PeeH - [ 12 ม.ค. 52 17:51:52 A:202.28.27.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 97 ผมไม่เห็นด้วยกับจขกท. คุณสัพเพ นะ ผมว่าคนเรามีสิทธิจะเลือกวิธีการแสดงข้อมูลได้ตามแต่ที่ตนเห็นสมควร แต่หากคุณสัพเพ ไม่ชอบวิธีการที่ผมเอารูปข้อมูลจริงๆมาลง ก็เป็นสิทธิของคุณสัพเพ แต่ถึงกับต้องมาตั้งเป็น กระทู้อย่างนั้นเชียวหรือครับ ผมยังยืนยันว่า ผมคงนำเสนอข้อมูลด้วยวิธีเช่นนี้ต่อไปครับ เพราะ  หากผมทำอย่างที่คุณว่า คงจะมีปัญหาแน่ การอ้างว่าคุณทักษิณมีเงินตามบัญชีปปช. 600 กว่าล้านหรือ รวมกับคญ. เป็น8พันล้านบาท โดยไม่เอาข้อมูลตัว จริงมาลงให้ดู ย่อมยากที่จะน่าเชือ แล่วมันจะเสียหายหรือครับที่เอาข้อมูลตัวจริงมาลง คุณสัพเพ เองเข้าวัดบ่อย น่าจะเตือนสมาชิกในนี้ในเรื่องอื่นมากกว่า เพราะสมาชิกในนี้จำนวนมาก เอารูปภาพ ที่ตัดต่อ เพื่อใส่ความบุคคลอื่นให้กิดความเกลียดชัง เป็นรูปที่ทำด้วยอารมณ์เกลียดชัง หรือที่คุณสัพเพเองน่าจะ เรียกว่า ด้วยโทสะ โมหะ กันมากมาย รูปพวกนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่มาจากความเป็นจริงเลย ต่างจากข้อมูลที่ ผมนำมาลง ทำไมคุณสัพเพ ไม่รณรงค์ต่อต้านการนำรูปร้ายๆเหล่านั้นเข้ามาในการโพสต์ด้วยครับ อยากถามคุณสัพเพว่าช่องนี้ คุณสัพเพ พอใจจะให้ใส่รูปล้อเลียน ตัดต่อ ฯลฯ มากกว่าการนำรูปข้อมูลดิบ ของจริงมาเพื่อให้สมาชิกพิจารณาอย่างนั้นหรือครับ ทางวัดเขาสอนให้ทำกันอย่างนั้นหรือครับ ฝากให้คิดด้วย แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 18:42:23 จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 18:41:08 A:192.168.0.17 X:203.147.40.3 ]

ความคิดเห็นที่ 98 คำถามของสมาชิกข้างบน ขอเวลาสักนิดผมต้องออกไปธุระแล้ว หากมีความรู้พอจะกลับมาตอบครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 18:44:03 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 99 เรื่องการอายัด 7 หมื่นล้าน ผมไม่เรียกว่าอายัดครับ เรียกว่ากรรโชกทรัพย์มากกว่า คืออยากได้แต่ ไม่มี ปญ. เพราะถ้าทักษิณทำผิดก็ควรยึดเงินโดยเริ่มจาก ณ วันที่กระทำ ไม่ใช่ พวกค้ายาบ้า,ขายหวยใต้ดินซะหน่อย จากคุณ : น้ำเค็ม - [ 12 ม.ค. 52 19:18:14 A:192.168.16.52 X:124.157.244.237 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คุณสัพเพโพสต์ว่า "ผมมั่นใจว่า ถ้าเอาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของคุณทักษิณทั้งสามปี ไปให้ใครก็ได้ที่มีความรู้ทางด้านการ เงินหรือบัญชี แล้วตั้งคำถามตามที่ผมตั้งเชื่อว่าทุกคนคงจะให้คำตอบ เช่นเดียวกับที่ผมตอบ " ก็ใช่กระมังครับ คุณสัพเพกลับไปอ่านความเห็นของผมที่มีต่อคำอธิบายชองคุณดูอีกที ผมไม่ได้แย้งเลยว่า คุณอธิบายผิด ผมเพียงแต่ชี้ว่าคุณและผมมองบัญชีน้กันคนละประเด็น ผมมองว่า 1.บัญชีนี้เป็นบัญชีทรัพย์สินที่นักการเมืองต้องนำเสนอต่อปปช.และปปช.ต้องนำเผยแพร่ต่อสาธารณะตาม กฏหมาย แต่มีประชาชนน้อยคน หรือสมาชิกในนี้จำนวนไม่มากที่ได้เคยเห็นบัญชีนี้ว่าเขาทำกันอย่างไร นั้นจึง เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมนำมาลงไว้ให้ทราบว่าบัญชีนั้น มีหน้าตาเป็นเช่นนี้แล 2.ประเด็นยังคงเดิม ผมไม่ได้ติดใจในรายละเอียดที่มีการเพิ่มลดอะไรในนั้นมากไปกว่า   2.1ไม่มีการแสดงรายการการครอบครองสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ในรายการบัญชี 19 กย.2550 ทั้งๆที่ คุณทักษิณเป็นเจ้าของสโมสรนี้ตั้งแต่ กรกฏาคม 2550  2.2 ยอดตัวเลขทั้งของคุณทักษิณหรือรวมของคุณหญิงที่มีการคุยกันในห้องราชดำเนินในเวลาที่ผมตั้งกระทู้ เดิมนั้น มันมากแตกต่างจากยอดที่แจงไว้กับปปช.มาก คือที่แจ้งกับปปช.มีรวมกันราว 8 พันล้านบาท แต่ตาม ข่าวมีเป็นหมืนล้านบาทหรือ 140 พันล้านบาท ผมว่าคุณสัพเพน่าจะถามเพื่อนนักบัญชีของคุณในประเด็นที่ 2.1 และ 2.2 มากกว่าที่จะไปถามเรื่องเงินในบัญชีที่แจ้งต่อปปช. มันเพิ่มมาได้อย่างไร เพราะประเด็นนั้น ผมว่าไม่ค่อยมีใครติดใจเท่าไร เพราะอย่างที่ว่า เงินจำนวนมากฝากไว้ในธนาคาร ในกองทุนหรือลงทุนถูกกฏหมายมันก็เพิ่มได้ตามที่แจ้งในบัญชีอยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าสนใจเท่าไร คุณสัพเพอาจไม่ได้เข้ามาในห้องนี้บ่อยจริงดังว่า(แต่ดีจังนะครับ ที่มีคนโทรไปบอกด้วยว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้โหวต ผมเล่นเน็ตคนเดียวครับ ไม่ได้เล่นเป็นกลุ่ม เวลามีอะไรไม่มีเพื่อหรือใครโทรไปบอกอย่างที่คุณสัพเพมี) เพราะถ้า ได้เข้ามาจริงคุณจะพบว่าทั้งก่อนและหลังที่ผมตั้งกระทู้แจ้งข่าวเรื่องยอดเงินที่คุณทักษิณแจ้งต่อปปช.นั้น มีเพื่อน สมาชิกถกเรื่องยอดเงินหมืนล้านหรือ 140 พันล้านกันไว้มาก รบกวนคุณสัพเพ ลองย้อนไปดูสักนิด ดังนี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7361579/P7361579.html ทักษิณเหลือเงินแค่ 500 ล้านด.ลงทุนเจ๊ง-ถูกอังกฤษ-สวิสยึดทรัพย์ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7362164/P7362164.html สื่อนอกแฉ “ทักษิณ” หมดตูด! เจ๊งหุ้น-เก็งกำไรน้ำมันพลาด http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7362500/P7362500.html “ทักษิณ” กำลังย่ำแย่ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7362826/P7362826.html อังกฤษมีอำนาจอะไรมายึดเงินทักกี้? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7363184/P7363184.html สื่อนอกแฉทักษิณ แย่แล้วครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7363288/P7363288.html ไปเห็นกระทู้นี้ในเฉลิมไทย ทีมข่าวNATIONปั้นข่าวลงstraitstimesสิงค์โปร แล้วให้กรุงเทพธุรกิจและอื่นๆ ลงข่าว ว่าสื่อเทศตีข่าว นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระทู้ที่มีคห.มากมายเข้ามาถกกันเรื่องเงินจำนวนมากของคุณทักษิณ ซึ่งในความจริงอาจมีกระทู้ มากกว่านี้แต่ผมค้นไม่เจอ ยอดเงินที่มีการพาดพิงนั้นในกระทู้และคห.นั้นๆ เป็นตัวเลขหลักหมื่นล้านหรือแสนล้านบาท ไม่ใช่แค่ 8 พันล้านบาท นั้นแหละจึงทำให้ผมอยากรู้ว่าตัวเลขที่มีการถกเถียงในห้องราชดำเนินในเวลานั้น ต่างจากตัวเลขที่คุณทักษิณและ คญ.แจ้งไว้กับปปช.หรือไม่ จึงได้ลองสืบค้นดูและนำมาให้สมาชิกพิจารณาในกระทู้ที่ตั้งไว้นั้นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 20:29:29 จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 20:22:59 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 101 หลังจากนั้นก็ยังมีสมาชิกสนใจเรื่องเงินจำนวนมากของคุณทักษิณและตั้งเป็นกระทู้อีกหลายกระทู้ ดังตัวอย่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7375444/P7375444.html ไหน ไหน คนไหนที่เคยว่ากล่าว ข่าว อังกฤษอายัดเงินทักษิณเป็นข่าวเต้า http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7375740/P7375740.html 140000 + 76000 =216000 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7376341/P7376341.html ตกลงทักกี้โดนองกฤษอายัดทรัพย์จริงหรือเปล่าครับ? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7376936/P7376936.html คิดกันยังไงที่คุณทักษินถูกอังกฤษ ยึดทรััพย์ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7378341/P7378341.html คนที่ตั้งกระทู้เรื่องทักษิณโดนอังกฤษอายัดทรัพย์ เอาแต่ฟัง "เขาว่า" อย่างเดียว ไม่เคยอ่านเองเลยใช่ไหม ? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7365317/P7365317.html *ทักษิณ ไม่เก่งจริง ค้าขายเดี่ยวๆ ไม่อิงอำนาจเจ๊งลูกเดียว * จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 20:24:18 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 102 คุณ Winnie The PeeH กรุณาสอบถามมาเรื่อง 1.เงินที่ครอบครัวชินวัตรได้จากการขายชินคอร์ปต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่โดยเป็นไปตามพรบ. ใด และ มาตราใด ครับ 2.การที่ ธ.ไทยพาณิชย์ ปล่อยเงินกู้ 15,000 ล้านบาทให้แก่ Cedar Holding  เพื่อซื้อชินคอร์ปและต่อมา ภายหลัง ธ.ไทยพาณิชย์ กลายเป็นผู้ถือหุ้น 9.9% ในชินคอร์ป (ในช่วงสั้นๆหลังปิดดีล) ถือเป็นการกระทำการผิดธรรมาภิบาล และผิดกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงิน หรือไม่ มาตราใดครับ เพราะกลายเป็นว่าถ้า ธ.ไทยพาณิชย์ ไม่ถือหุ้นดังกล่าว ดีลชินคอร์ปจะปิดไม่ได้ (ซึ่งอาจเป็นวิธีการของ Goldman Sach ที่มีธ.ไทยพาณิชย์เป็นตัวแทนทำธุรกรรมในประเทศไทย) ****************************************************************** ตอบ-ประเด็นที่คุณ Winnie The PeeH สอบถามมานั้น ผมมีข้อมูล ณ เวลานี้อยู่น้อยนิดเกินกว่าจะปะติดปะต่อแล้ว ตอบให้ได้ชัดๆ และผมก็ยังไม่มีเวลาวิเคราะห์ข้อมูลตรงนี้ บอกตรงๆครับว่าแนะนำให้ลองสอบถามในห้องสินธรดู น่าจะได้คำตอบจากสมาชิกผู้เชี่ยวชาญในนั้น แต่หากผมได้ข้อมูลในเรื่องนี้มากพอและทำความเข้าใจจนพอจะตั้งกระทู้ได้ ก็จะแจ้งไปให้ทราบ ต้องขออภัยที่ไม่ สามารถตอบได้ในเรื่องนี้(หากมีสมาชิกท่านอื่น มีข้อมูลเรื่องนี้ก็รบกวน ช่วยชี้แจงด้วย) จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 20:35:58 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 103 คุณ เทพจิ้งจอก และคุณ น้ำเค็ม ถามเรื่องอายัดเงิน 73,000 ล้าน และอยากให้ว่า มันสมควรหรือไม่ ที่อายัดเงิน 73,000 ล้าน ของคุณทักษิณ ตอบ 1-เงินที่อายัดนั้นย่อมสร้างความลำบากให้แก้ผู้ถูกอายัด และดูเป็นการไม่สมควร แต่คตส.อ้างว่ามีความจำเป็น และเกรงว่าจะมีการเคลื่อนย้ายเงินออกไปจนพ้นอำนาจที่ประเทศไทยจะดึงกลับมา หากมีการพิสูจน์ว่าเงินนั้นเป็นเงิน ที่ได้มาโดยมิชอบ ดังนั้นมองในแง่มุมหนึงจึงเป็นการไม่สมควรเพราะไปสร้างความลำบากให้กับผู้คน   ตอบ 2-เงินที่อายัดนั้น ไม่ใช่เฉพาะของคุณทักษิณและคญ.พจมานเท่านั้นหรอกครับ เพราะของทั้งสองคนมีรวมกัน คงประมาณ 8 พันล้านบาทดังกล่าว แต่ที่ยอดเป็นหมื่นล้านบาทนั้นเพราะคคตส.อายัดเงินในบัญชีญาติผู้เกี่ยวข้อง ไว้ด้วยคือ คุณบรรณพจน์-ยิ่งลักษณ์-และโอ๊ค-เอม รายละเอียดที่ผมพอจะมีมีดังนี้ คำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบที่ คตส. 017/2550 อาศัยอำนาจตามความในประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 ข้อ 5 และข้อ 8 คณะ กรรมการตรวจสอบ จึงออกคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และสถาบันการเงิน ของพ.ต.ท.ทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ทุกบัญชี ทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน ไว้ก่อน และให้ทุกธนาคาร คำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบที่ คตส. 016/2550 ให้อายัดบัญชีเงินฝากที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ป ให้แก่กลุ่มทุน เทมาเส็กดังนี้ 1.บัญชีเลขที่ 111-1-11604-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 2. บัญชีเลขที่ 111-2-27722-2 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 3.บัญชีเลขที่ 208-1-00022-9 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยเซ็นจูรี่ 4.บัญชีเลขที่ 111-2-31008-8 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 5.บัญชีเลขที่ 111-1-13092-2 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 6.บัญชีเลขที่ 001-1-55232-5 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาชิดลม 7.บัญชีเลขที่ 111-2-41524-4 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 8. บัญชีเลขที่ 111-1-12631-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 9. บัญชีเลขที่ 111-1-12222-0 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 10. บัญชีเลขที่ 001-1-55188-2 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาชิดลม 11.บัญชีเลขที่ 014-1-11300-9 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพหลโยธิน 12.บัญชีเลขที่ 111-2-78188-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 13.บัญชีเลขที่ 111-1-11188-9 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 14.บัญชีเลขที่ 111-1-13095-6 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน 15. บัญชีเลขที่ 014-2-41335-5 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาพหลโยธิน 16. กองทุนธนบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในนามนายพานทองแท้ ชินวัตร 17.กองทุนธนบดี ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในนามนางสาวพิณทองทา ชินวัตร 18. บัญชีเลขที่ 127-2-37342-2 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ 19.บัญชีเลขที่ 127-2-37343-0 ธนาคารกรุง เทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ 20. บัญชีเลขที่ 127-2-37287-9 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีย์ฯ และ 21. บัญชีเลขที่ 146-2-31081-2 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาราชวัตร ************************************************************ จะเห็นว่าผมนำรายละเอียดมาลงให้มากเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าถามว่าผมอธิบายได้ทุกรายละเอียดหรือไม่ ก็ตอบ เลยว่าไม่ คุณสัพเพจะถามอีกว่า ตอบไม่ได้แล้วเอามาลงทำไม ผมก็ขอตอบว่า เพราะมันเป็นข้อมูลของจริง เอามาลง ให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันดู ผมอาจตอบบางอย่างไม่ได้ หรือมองไม่เห็นอะไรบางอย่าง แต่สมาชิกในนี้มีมาก ย่อมมีมุม มองต่างกัน จะต้องมีแต่ละท่านดูข้อมูลนี้แล้วเกิดข้อคิดกันไปตามแต่แต่ละคน และอาจมีบางท่านสังเกตุเห็นอะไรบาง อย่างที่มีความสำคัญแต่ผมมองข้ามไป เหมือนกับเรื่องบัญชีทรัพย์สินที่ผมนำมาลง ก็เช่นกัน การนำของจริงที่พอจะนำมาลงได้ ย่อมจะดีกว่ายกแค่ประโยคเดียว มาลง เพราะของจริงย่อมเที่ยงแท้แน่นอนกว่า และเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พิจารณาดูว่า มีอะไรเป็นที่น่าสนใจหรือผิด สังเกตุหรือไม่ เอาของจริงมาให้ดูหรือของที่ใกล้ความจริงมาให้ดูย่อมดีกว่า ดังสุภาษิตที่ว่า "สิบปากว่า ย่อมไม่เท่าตาเห็น" เช่นกันหากผมเอามาโพสต์เฉพาะยอดเงินก็เท่ากับผมเอาปากมาบอกแค่ปากเดียว สู้ยกข้อมูลของจริงมาให้สมาชิกเห็น ย่อมจะดีกว่า เพราะสมาชิกอาจได้เห็นอะไรที่ผมไม่เห็น และยังจะได้เก็บเป็นข้อมูลไว้ หากต้องการวิเคราะห์ต่อใน ภายหลัง แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 52 21:16:58 จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 21:06:17 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 อยากจะฝากคุณสัพเพไว้อีกสักนิด เพราะผมเกรงว่าผมอาจไม่ทราบว่าคุณสัพเพจะเข้ามาตอบเมื่อใด เพราะผมเล่นเน็ตอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนที่จะโทรตามบอกข่าวว่ากระทู้ไปถึงไหนแล้วว่า การนำเสนอข้อ มูลของผมนั้น มันเป็นการนำเสนอข้อมูลตามสิทธิที่WM ที่นี้ให้ไว้ คุณเห็นไหมครับว่าWMมีช่องให้สมาชิก ใส่ภาพหรือข้อมูลที่น่าสนใจลงมาได้ และผมขอออกตัวเช่นเดิมว่า เวลาเราเอาภาพหรือข้อมูลมาลงให้เพื่อน สมาชิกดูนั้น คงไม่ต้องถึงกับว่าเราอธิบายทุกอย่างในภาพหรือข้อมูลได้หมดหรอกครับ เพื่อนๆสมาชิกเขาจะ สามารถพิจารณาได้เอง เราเห็นอย่างไรเราก็ว่าไป เพื่ออาจเห็นต่าง แต่การได้เห็นนะเป็นสิ่งสำคัญ ดังที่ว่า "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น" ขออนุญาตยกเอาภาพข่าวจากบีบีซีมาให้ดู เป็นภาพการรุกรานของทหารอิสราเอลเข้าไปในฉนวนกาซา ในภาพเห็นมีรถสายพานลำเลียงของอิสราเอลวิ่งมาหลายคัน เป็นการนำเสนอข่าวสารโดยใช้ภาพ เช่นกันขอสอบถามคุณสัพเพว่า 1.นักข่าวที่เขาเอาภาพข่าวนี้มาลง เขาต้องตอบได้ทุกรายละเอียดในภาพไหมว่า มีทหารกี่คนในภาพ ถนนชื่ออะไร รถวิ่งด้วยความเร็วเท่าไร เป็นเวลากี่โมงแล้ว ฯลฯ 2.สมาชิกดูแล้วมีสิทธิคิดวิเคราะห์ไปแตกต่างกันได้หรือไม่ 3.ถ้าบีบีซีไม่เอาภาพนี้มาลง แต่พิมพ์ข่าวว่า"มีรถสายพานลำเลียงทหารอิสราเอลบุกเข้าไปในฉนวนกาซา" ผู้อ่านข่าวจะได้ข้อมูลและความรู้สึก ความสมจริงเท่ากับได้เห็นภาพหรือไม่ จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 21:39:08 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 105 ภาพอยู่นี้ครับ ภาพข่าวบีบีซีที่ยกมาเป็นตัวอย่างให้คุณสัพเพพิจารณา จากคุณ : thyrocyte - [ 12 ม.ค. 52 21:40:08 A:124.121.34.164 X: ]

ความคิดเห็นที่ 106 อยากให้คุณ thyrocyte ช่วยหาข้อมูลนายชวน หลีกภัยให้ด้วย ว่าจริงหรือไม่ที่แสดงทรัพย์สินไม่ถึงสิบล้าน...แต่มีข่าวว่ามีทรัพย์สิน ของเมียอยู่ต่างประเทศเป็นพันล้าน....    ขอความกรุณาด้วยครับเพื่อเป็นการแสดงว่าเราเป็นกลางไม่เลือก โจมตีผู้ใดผู้หนึ่งด้วยความเกลียดชัง จากคุณ : munaja - [ 12 ม.ค. 52 23:37:17 A:118.174.138.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 107 ผมเห็นว่าการเลี่ยงภาษีเนี่ยมันไม่ดีก็จริง.... แต่ในความจริงแล้วไม่มีใครจ่ายภาษีเต็มหรอกครับ เลี่ยงทุกคนแหละครับ....     แล้วยิ่งเรื่องส่วนตัวบางอย่าง...เราก็ต้องสงวนไว้ บ้างก็ดีครับ...คือการแสดงทรัพย์สินเนี่ยถ้ามันไม่ได้ ผิดปกติมาก คือแบบคุณสัพเพพูดไว้ ว่าทักษิณเค้าก็ มีทรัพย์สินมากอยู่แล้วแค่กินดอกอย่างเดียวมันน่าจะ มากกว่าที่แสดงไว้อีก....แต่ถ้าเค้าเป็นแค่นักวิชาการ จะน่าคิดกว่ามากครับ..... ......และที่ผมกล้าเอาหัวเป็นประกัน....นักการเมือง แจ้งทรัพย์สินเท็จทุกคนครับ....ยิ่งกว่านั้นทั้งคุณและ ผม...ถ้าได้แจ้ง  มั่นใจได้ว่าไม่มีทางแจ้งได้ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ครับ  มันต้องมีบางสาเหตุที่มันก็ไม่ ใช่ไม่ดี แต่แจ้งไม่ได้ ส่วนตัวน่ะครับ จากคุณ : munaja - [ 12 ม.ค. 52 23:46:03 A:118.174.138.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 108 อย่างตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำผิดอะไรหรือทำการทุจริต อะไร  แต่ผมก็แจ้งทรัพย์สินกับภรรยาผมไม่ครบ แต่ก็ไม่ให้มันดูน่าเกลียดเกินไป....เข้าใจป่ะครับ เช่น  วันนี้โบนัสออก 5000 แต่บอกภรรยาว่า 3000 ประมาณนี้...อีก 2000 ก็ไม่ได้เอาไปทำเลว อาไร...เก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน...เพราะถ้าบอกหมดอาจ โดนเก็บหมด  และภรรยาผมก็อาจพลั้งเผลอใช้จนหมด จากคุณ : munaja - [ 12 ม.ค. 52 23:51:56 A:118.174.138.65 X: ]

ความคิดเห็นที่ 109 1. มาให้กำลังใจคุณ thyrocyte ครับข้อมูลแน่นไม่จินตนาการ 2. มาสงสัยคุณสัพเพด้วยครับว่าทำไมหลายโพสมันเลอะเทอะได้ขนาดนั้น ( คห. 1,2,3,4 ที่ได้ Give เยอะแยะผมไม่เห็นประเด็นเลย  บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็เสียภาษีเงินได้ทั้งนั้นแหละครับแต่ไม่ใช่คุณทักษิณจ่าย  และคุณทักษิณเป็นนายกฯเป็นเจ้าของบริษัทไม่ได้ ) ส่วนคำตอบว่าทำไมเงินฝากปี 2549 เพิ่มขึ้นเพราะคุณพานทองแท้ ชำระหนี้ให้ 409 ล้านตลกดีครับ เพราะปีก่อนหน้าทำไมไม่แสดงเอกสารกู้ยืมด้วยล่ะ อย่างนี้ผมเป็นนักการเมืองผมจะโกงเท่าไหร่ก็ได้ เงินเพิ่มขึ้นมาบอกใครก็ได้ใช้หนี้ให้เป็นอันจบ จะเอาง่ายๆกันอย่างนี้เลยหรือ ? 3. มาฮาสุดๆที่จีนให้เงินคุณทักษิณ 30,000 ล้านครับ หัวเราะจนน้ำตาไหลเรื่องแบบนี้ก็มีคนเชื่อด้วย เป็น คห. ที่ประเทืองปัญญาจริงๆครับ จากคุณ : ตอสระอือ - [ 13 ม.ค. 52 00:10:59 A:58.9.236.108 X: ]

ความคิดเห็นที่ 110 ขออนุญาตเจ้าของกระทู้แสดงความเห็นเพียวๆนิดนึงนะ ความจริงประเด็นที่คุณจขกทสื่อถึงคุณthyrocyที่คุณอ้างถึงก็คือ.. 1.วิธีการนำเสนอข้อมูล ควรนำเสนออย่างกระชับและเหมาะสม 2.ต้องการให้ตอบคำถามที่ผมตั้งไว้เท่านั้น โดยที่ผมไม่ได้ไปสนใจเรื่องที่ว่าคุณทักษิณแสดงบัญชีถูกต้องหรือไม่ และผมก็ไม่ได้ไปสนใจเรื่องข่าวเกี่ยวกับทรัพย์สินของคุณทักษิณในต่างๆประเทศ พูดง่ายๆโฟกัสไปที่บัญชีที่คุณนำมาแสดงเท่านั้น ไม่ได้ไปสนใจในข้อมูลส่วนอื่นๆ จากคุณ : สัพเพ - [ ========================================================== ก็เป็นสิทธิองจขกทที่จะ"รู้สึก"ไม่ชอบวิธีการนำเสนอข้อมูลของคุณthyrocyte แต่คุณทราบหรือไม่ว่าก็มีหลายๆคนที่ชอบ อย่างน้อยก็เราคนนึงละวิธีการนำเสนอแบบนี้  เราว่าเราเข้าใจเจตนาการนำเสนอเชิงข้อมูลเพียวๆแบบนี้ และชอบมากกว่าที่ิธีการตัดทอน แล้วแปะเอาตามที่อยากให้คนอ่านรู้สึกเอียงมาทางที่ตัวเองต้องการนะ มันเหมือนการนำเสนอขอมูลเชิงวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง ที่จะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็น FACTและต้องให้ละเอียดเท่าที่เวลาและเนื้อที่จะอำนวย ทั้งนี้เพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะเราต้องการเปิดกว้างให้คนอ่านได้เกิดความคิดเห็นที่แตกแขนงหลากหลายออกไปเอง เพราะข้อมูลเดียวกัน แต่คนอ่านต่างหัวกัน ข้อสรุปก็ต่างกัน ถึงคุณเจ้าของกระทู้จะรู้สึกว่าไม่กระชับ และประเด็นที่ยกมาตามนี้.. ความคิดเห็นที่ 87 คุณ thyrocyte ครับ เหตุที่ผมตั้งคำถามให้คุณตอบนั้น ผมต้องการจะสื่อให้คุณได้รู้ว่า การที่จะนำเอาข้อมูลใดๆมาแสดงนั้น ควรจะมีความรู้อย่างถ่องแท้ในข้อมูลที่เรามีอยู่====>ข้อหนึ่งนะ ตรงนี้มันเป็นจุดประสงค์หลักของการให้ความเห็นในราชดำเนินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  หากคุณเห็นว่าข้อมูลไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง คุณยกข้อมทูลที่ดีกว่ามานำเสนอได้เลย ไม่ต้องอ้อม "การนำเสนอข้อมูลต้องให้อยู่ในลักษณะที่สั้นและมีความกระชับ และทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด อันนี้ถือเป็นหัวใจของการนำเสนอข้อมูล========>-ข้อนี้เป็นคนละประเด็นกับข้อหนึ่งนะ  และเราก็ไม่เห็นด้วยว่าการนำเสนอข้อมูลที่รดน.นี้ต้องเป็นอย่างที่คุณว่ามา เพราะผู้กำลังนำเสนอข้อมูลไม่ได้กำลังสอนนักเรียน หรือต้องแข่งกับเวลาที่ไหน  จะนำเสนอลักษณะไหนขึ้นอยู่กับผู้นำเสนอเองว่าถนัดอย่างไร และคิดว่าอย่างไรให้ประโยชน์ตรงจุดกว่า สร้างสรรค์กว่า ทีนี่เป็นบอร์ดเสรี ตรงนี้ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว เราขอแสดงความห็นเพิ่มเติมว่า จากที่อ่านความเห็นของคุณเจ้าของกระทู้มา ทำให้รู้สึกว่า คุณจขกทแจ้งประเด็นของตัวเอง หรือจุดประสงคืหลักมาไม่ตรง(ความคิดห็นที่เกิดขึ้นจากการประมวลข้างบนนะ)ประเด็นหรือวัตถุประสงคืหลักของคุณไม่ใช่ข้อ1และ 2ที่บอกมา แท้จริงมันแสดงอยู่ในย่อหน้าสุดท้ายในความเห็นแรกของคุณจขกทมากกว่านะ อีกอย่างถ้าจะให้เราลองแสดงความเห็นต่อการนำเสนอของคุณจขกทบ้าง  เราก็อยากบอกตรงๆว่า ไม่ชอบวิธีการนำเสนอแบบคุณจขกทเช่นกัน มันดูเหมือนเอาภาพว่าหวังดีอยากแนะนำวิธีนำเสนอแต่แท้จริงแล้วก็คือไม่พอใจความเห็นของเค้าแค่นั้น  มันไม่ใช่วิถีของผู้รู้และผู้อยากรู้ที่แท้จริง  ยกตัวอย่างเช่น การใช้วิธี"แกล้งถาม" ไม่ใช่ถามเพราะอยากได้ข้อมูลจริง  แบบนี้แหละที่ไม่นิยมเพราะในบอร์ดเสรีแบบนี้ มันตรงกว่านี้ได้ ไม่ต้องอ้อมค้อมเลย   หากการแสดงความรู้สึกความเห็นต่อกรทู้ของคุณจขกทผิดไปและทำให้ขัดเคืองก็ขออภัย  แต่นี่่เป็นFACTที่เกิดหลังจากได้อ่านมาทั้งหมด เราไม่อยากบิดเบือนความรู้สึกของตัวเอง จากคุณ : stand with a fist - [ 13 ม.ค. 52 00:29:36 A:58.9.176.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 111 ตอบคุณ sungod บทความเดียวที่คุณพูดถึงก็คือ catchmeifucan ตัวหนังสือเป็นพันๆตัวอักษร หาอ่านแทบตายกว่าจะเจอคำว่า $4billion มีอยู่บรรทัดเดียว ตัวเดียว ไม่มีในบทความอื่นใดของเวปข่าวบนโลกนี้อีก (ยกเว้นเนชั่น ต้นทาง และปลายทางในตัวเดียวกัน ฮา) เอาหละไม่เป็นไร จากนั้นมีคนเขียนถามไป ถามจริงๆเถอะ ทักษิณฟ้องแล้วชนะได้ตังค์ไหม คุณรู้ไหมกี่คนในเมืองนอกที่โดนบอกว่า รวยเท่านั้น รวยเท่านี้ ฟ้องได้ฟ้องไป กรูได้เงินมาให้เขียน ก็เขียน(สิวะ) เอา.. มาดูชื่อนาย Anil Bhoyrul หน่อย ผมค้นมาจากในเวปเขา เขาเป็น editorial director จริงๆ ... will be published as part of the Arabian Business Rich List 2008, which will also be published on Sunday. Arabian Business editorial director Anil Bhoyrul said: “For the past 20 years everyone has only been able to guess at the wealth of His Royal Highness Prince Alwaleed, using ... มีคนอีเมล์ถามไป เพราะบอกว่า มันสำคัญนะ นายนี่ฟัง(แล้วนึกว่า เออ แต่มานไม่สำคัญสำหรับกรูเลยหวะ ได้ข่าวว่าในประเทศแก ซ้อเจ็ดยังเขียนหนักกว่านี้ ไม่เห็นเป็นไร ทีนี้มาทำดีดดิ้น) แต่ก็อีเมล์ตอบกลับมาตามภาพข้างล่าง อย่างนี้ยังจะให้แถไปต่ออีกหรือครับ ทำไมคุณทักษิณต้องโวย ทำไมไม่เป็น ปชป ที่จะทำการตรงนี้ หลักการมันง่ายเหลือแสน พิสูจน์ usd4billion ที่ถูกยึดได้ ทักษิณจบ จบอนาคตการเมืองทุกอย่าง ทำไมไม่โทรหาอังกฤษ ไม่ต้องเสียเวลาไปงานศพยายเนียม พยายามชนะใจคนอีสาน ซึ่งเป็นงานหนักที่ใช้เวลา โทรไปกริ้งเดียว จบ.. ทำไม สาทิตย์ วงศ์หนองเตยไม่ทำ (เห็นหน้าตาถนัดงานลักษณะนี้) แค่ข่าวนี้จริง งานนี้มีวีรบุรุษแน่ เอ๊ะ .. หรือว่าโทรไปแล้ว หรือว่ารู้มาตราฐานของก๊อซซิพเมืองนอกอยู่แล้ว ว่าไม่แพ้ซ้อเจ็ด ถามจริงๆเถอะท่าน มีดารากี่คนที่ "ไม่" ออกมาตอบโต้ซ้อเจ็ด และทำไมทักษิณต้องออกมาตอบโต้หนึ่งในบทความ 40 อัน ที่หาให้ตายเจอตรงนั้นหนึ่งบรรทัด (แถม editorial director เอง ตอบปฏิเสธข่าวมาเรียบร้อยแล้ว) ในใจผม เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดครับที่ปชป จะไม่ดิ๊กดีปกว่านี้ ถ้ามีแม้แต่ "กลิ่น" มูล จากคุณ : Mountain Boy - [ 13 ม.ค. 52 00:34:13 A:125.24.84.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 112 รูปไม่ขึ้น ลองอีกทีครับ จากคุณ : Mountain Boy - [ 13 ม.ค. 52 00:35:37 A:125.24.84.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 113 อ่านอีกที "the U.K. didn't freeze 4bn of his assets.." Anil Bhoyrul Editorial Director แค่นี้ก็เหลือจะพอ ทำไมฉันจะต้องตามไปแก้ในบทความ รำคานงะ จากคุณ : Mountain Boy - [ 13 ม.ค. 52 00:42:21 A:125.24.84.37 X: ]

ความคิดเห็นที่ 114 มีเวปอื่น เค้าได้รวบรวมไว้ เกี่ยวกับเรื่องข้อง หุ้นชิน ที่เป็นปัญหา อภิมหาดีล Shin Corp ...รวมข่าว บทวิเคราะห์ บทความเกี่ยวเนื่อง.. http://www.taladhoon.com/taladhoon/smfboard/index.php?topic=7794.0 เรื่องของทักษิณคือ อยากเล่นการเมือง ตอนแรกก็โอนหุ้นให้คนใกล้ชิด เพราะไม่ ต้องการถูกโจมตีว่า ได้รับเลือกตั้งเพราะความรวย ตอนหลัง โดนโจมตีเรื่อง สัมปทานของรัฐ ก็เลยคิดจะขาย แล้วมันก็ได้สร้างปัญหาขึ้นมาจนได้ แต่ทั้งหมดคือเรื่องของคนที่อยากเล่นการเมือง อยากทำงานการเมือง และไม่ ต้องการให้ครอบครัวถูก การเมืองเล่นงาน เพราะอีกฝ่าย ก็รู้อยู่ว่า ปากสกปรกได้ประมาณไหน แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 01:26:17 จากคุณ : คำหนาน - [ 13 ม.ค. 52 01:22:16 A:222.123.132.160 X: ]

ความคิดเห็นที่ 115 กระทู้นี้ ขอวิจารณ์อะนะอย่างที่คุณ stand with a fist ว่าไว้ คือคุณสัพเพผู้ตั้งกระทู้ไม่พอใจที่คุณไทโรไซท์โพสต์ให้ทักษิณ(ซึ่งคุณสัพเพหลงชอบเกิดความเสียหาย) เลยออกแนวพาล หาเรื่องว่าคุณไทโรไซต์เค้า ประมาณว่ามีแนวอิจฉาในใจนั้นแหละ หรือว่าคุณสัพเพ อาจจะไม่ได้เข้าอ่านในห้องนี้ประจำก็ได้ ก็เลยไม่รู้จักการโพสต์ในห้องนี้ว่าเค้าโพสต์กันร้ายๆยังไง เพราะถ้าอ่านประจำจะรู้ว่าเนื้อหาสาระต่างๆนั้น ที่สมาชิกในนี้เข้ากันโพสต์เข้ามา (ไม่ใช่เฉพาะคุณไทโรไซต์อะนะ) คุณคนอื่นๆเขาก็ใช้วิธีโพสต์รูปและอะไรต่อมิอะไร เข้ามาประกอบกันทั้งน้าน คุณไทโรไซต์อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำในด้านที่ข้อมูลที่แกโพสต์เข้ามานะ มีสาระ ประโยชน์สมาชิกเก็บเอาไว้ใช้งานต่อได้มากมาย ถ้าคุณสัพเพปฏิบัติธรรมจริง ก็อย่าทำตัวให้เหมือนว่ายังมีอวิชชาหรือกิเลสครอบงำอยู่เยอะในใจเลย ปฏิบัติธรรมก็ขอให้มีใจเป็นธรรมด้วยนะ ลองสละเวลามานั่งอ่านกระทู้ในนี้ดูบ้าง แล้วจะรู้ว่า ที่โพสต์เข้ามารกๆนะ ไม่ใช่คุณไทโรไซต์แน่นอนอะนะ เป็นสมาชิกท่านอื่นบางท่านมากกว่า อย่าทำตัวเป็นคนแก่วัด แต่อ่อนในห้องราชดำเนินอยู่มากเลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ขอเตือนผู้ปฏิบัติธรรมนะ ด้วยความหวังดีว่าจะได้เห็นแสงสว่างในความจริงของห้องนี้เค้า ไม่มัวเมา หลงผิดอะนะ จากคุณ : PhuketBoy - [ 13 ม.ค. 52 05:39:59 A:124.121.31.158 X: ]

ความคิดเห็นที่ 116 มันเหมือนคุณ thyrocyte  แสดงข้อมูลและโต้แย้งด้วยข้อมูล จริงๆ ขณะที่คุณสัพเพนำเสนอด้วยข้อมูลส่วนนึงและคิดเอาเอง(แบบเอียงข้าง)อยู่พอสมควร ... อย่างเรื่องซุกหุ้น  ที่บอกว่าคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกันก็จะบอกว่าอีกฝ่ายดิสเครดิต    จริงๆ เรื่องนี้ต้องบอกว่า ไม่แสดงทรัพย์สินก็คือเจตนาปกปิดหรือเปล่า(ก็เป็นการตั้งข้อหาไว้ก่อนเพราะจะเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง)    คุณทักษิณก็ออกมายอมรับว่าไม่ได้แสดงทรัพย์สินจริง  แต่ไม่ได้เจตนา(บกพร่องโดยสุจริตนั่นแหละ) อันนี้ว่ากันตามจริงมันผิด แต่ศาลให้ความเห็นใจ  เพราะคุณทักษิณแสดงให้เห็นว่าไม่ได้แสดงทรัพย์สินจริง  แต่ไม่ได้มีเจตนาที่ปกปิด  ซึ่งก็ฟังขึ้น   "ผมมองไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่คุณทักษิณ จะมีเจตนาแสดงทรัพย์สินให้ต่ำกว่าความเป็นจริง (ในการเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองในครั้งแรก) " แล้วมันแสดงเจตนาอะไรหล่ะครับ เรื่องการแสดงทรัพย์สิน  ที่พยายามชี้ว่า การแบ่งให้คนอื่นๆ ถือเป็นเรื่องปกติ    หากว่ากันตามการอาสาเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมืองก็ต้องมีความจริงใจว่าตัวเองมีเจตนาบริสุทธิก็ต้องโชว์ว่าตัวเองบริสุทธิ  แล้วทำอย่างนั้นมันส่อเจตนาอะไรหรือครับ หรืออย่างที่ประมาณเอาเองว่าทรัพย์สินก่อนเข้ารับตำแหน่งมี 50,000 ล้านบาทในความเห็นที่ 3 แสดงอย่างชัดเจนว่า มีข้อมูลอยู่ส่วนนึง แต่คิดเอาเองแบบเข้าข้างอยู่พอสมควร   ถ้านำเสนอแบบนี้มันก็ไม่จบหรอกครับ  ทะเลาะกันไม่เลิกแบบที่บ้านเมืองเราเป็นอยู่นี่แหละ   เรื่องแบบนี้ต้องว่ากันด้วยข้อเท็จจริงและด้วยเหตุและผล  ซึ่งก็คือให้ทนายไปแก้ต่างกับศาล   แต่ก็นั่นแหละเพราะคิดกันแบบนี้ก็เลยพาลไม่ยอมรับศาลและคำตัดสินกันเสียอีก จากคุณ : Control.A - [ 13 ม.ค. 52 08:35:54 A:192.168.0.17 X:124.121.17.185 ]

ความคิดเห็นที่ 117 รู้สึกเหมือนกับว่า thyrocyte ไม่รู้จริงและไม่เข้าใจลึกซึ้งแต่ก็สรุปแบบเข้าข้างตัวเอง  และก็พยายาม หา link ที่คิดว่าเกี่ยวข้อง มาเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือ แต่พอขอให้อธิบาย ก็ไม่สามารถอธิบายได้ ก็ใช้วิธีแถไปเรื่อยแบบเด็กโดนจับโกหก แล้วก็พยายามหา Link ข้อมูลมา กลบ ส่วน สัพเพ  ดูเป็นผู้มีความรู้ด้านภาษีและการเงินมาก เหมือน ดร.สุวรรณ มาเอง  ไม่รู้เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 09:06:59 จากคุณ : DIST - [ 13 ม.ค. 52 09:05:41 A:202.183.185.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 118 จากคุณ : L RULES ..คห 94 เป็นแกะดำของพวกเสื้อแดง ใช้ภาษาได้ต่ำทราม แบบซ้อเจ็ด เป็นตัวอย่างในทางไม่ดีแบบเดียวกับ พวกบกพร่องโดยสุจริตโดยแท้ ว่าแบบนี้จะรู้สึกอายเป็นไหมนี่ แล้วก็ใช้มุขเดิมๆ พอจนด้วยถ้อยคำเพราะตัวเอง ก็รู้ก็เห็นอยู่แก่ใจว่าที่เราพูดมาเป็นเรื่องจริง ก็จัดแจงโยนบาปให้แป๊ะกับมหา ทำราวกับว่า คนอื่นเขาไม่มีหูไม่มีตาพอจะรู้เห็นคิดอะไรเองเป็น แบบตัวเองที่หลงคารม 3 หัวไม่ถึงบาทก็คิดแต่ว่า คนอื่นจะเป็นเหมือนตัว แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 11:31:49 จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ม.ค. 52 09:10:06 A:125.25.107.197 X: ]

ความคิดเห็นที่ 119 คุณ DIST ผมไม่รู้จริงและไม่เข้าใจลึกซึ้งหรอกครับ และไม่เคยโพสต์ว่าตัวเองเป็นคนเช่นนั้นด้วย หากคุณจับประเด็นได้ถูกต้อง คุณจะรู้ว่าผมไม่ได้มีความรู้อะไรมาก ผมมีแต่ข้อสงสัยในฐานะประชาชน ว่าทำไม ข่างตามที่คห.ข้างบนถกกันไว้ก็ดี หรือในลิงค์ที่ผมให้ไว้ก็ดี ที่พูดถึงเงิน 140 พันล้านบาทนั้น มันจึงเป็นยอดเงินที่แตกต่างไป จากยอดที่ได้แจ้งไว้ในบัญชีต่อปปช. ผมใช้สิทธิในฐานะประชาชนที่จะตั้งขอสงสัยและรอฟังคำชี้แจงโดยสงบ มิได้โอ้อวดตัวเองว่ารู้หรือเก่ง ในเรื่องใดๆ ไม่ทราบว่าคุณ DIST อ่านกระทู้แล้ว มีที่ตรงไหนหรือครับ ที่แจ้งว่าผมเป็นผู้เช่ยวชาญในเรื่องนี้ ผมว่า ผมแจ้งไว้ตลอดนะว่า ผมขอตั้งข้อสังเกตุและข้อสงสัย ส่วนคุณสัพเพจะเป็นดร.หรือไม่ก็ไม่ทราบ ก็ขอรอฟังคำชี้แจ้งด้วยคนครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 09:30:31 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 120 ต่างคนต่างก็ยกเอาเหตุผล ของฝั่งตนมาโต้แย้งกัน ดีครับ ใช้เหตุผลคุยกันแบบนี้ผมสนับสนุน มาถูกทางกันแล้ว... ขออนุญาตแนะนิดนึง ถ้าอยากจะเข้าใจให้แจ่มแจ้งต้องลงมือทำครับ ทำธุรกิจให้ร่ำรวยเหมือนทักษิณแล้วลงเล่นการเมืองดูนะครับ ทำได้ตามนั้นรับรองคุณจะเข้าใจกระจ่างทุกๆข้อเลย ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ตรงนั้นมายังไง ตรงนี้มายังไง คิดอย่างไรถึงทำแบบนี้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าสงสัยเรื่องพวกนี้เลยครับ ไปห่วงปัญหาพลังงาน กับภาวะโลกร้อนเถอะครับ ฉลาดขนาดนี้มานั่งเถียงกับเรื่องเงินคนอื่น มันน่าเสียดายทรัพยากรทางสมองนะครับ จากคุณ : mermanoid - [ 13 ม.ค. 52 12:00:13 A:124.120.122.42 X: ]

ความคิดเห็นที่ 121 เฮ๊อทนอ่านตั้งนาน สรุปเป็นเรื่องของคนดื้อตาใสที่ไม่ยอมรับคำทักท้วงนี่เอง คุณสัพเพก็ไปปฏิบัติธรรมก็ดีแล้วครับ อย่าให้สิ่งไม่ดีมาทำร้ายปัญญาเราเลยครับ ส่วนใครที่มี 10 พูด 5 ก็ช่างเขาเถอะ กรรมแท้ ๆ ๆ ๆ ปล. "อย่าทำตัวเป็นคนแก่วัด แต่อ่อนในห้องราชดำเนินอยู่มากเลยไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ขอเตือนผู้ปฏิบัติธรรมนะ ด้วยความหวังดีว่าจะได้เห็นแสงสว่างในความจริงของห้องนี้เค้า ไม่มัวเมา หลงผิดอะนะ " จากคุณ : PhuketBoy  - [ 13 ม.ค. 52 05:39:59 A:124.121.31.158 X: ]   ผมว่าคุณภู คิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ อิอิอิ ถ้าใช่ ผมว่าคุณนั่นแหละอ่อนต่อราชดำเนิน จากคุณ : น้องรถถัง - [ 13 ม.ค. 52 12:03:56 A:58.97.62.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 122 ด้วยความเคารพ  เกือบทุกท่านที่ตอบในกระทู้ทั้ง2นี้มีความรู้ทุกท่านซึ่งข้าพเจ้าก็พยามเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด เพียงแต่ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่า     สำหรับท่าน thyrocyte           ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านสงสัยอย่างที่ท่านบอกจริง จึงตั้งกระทู้เพื่อหาคำตอบ แต่ข้าพเจ้าเห็นว่า ท่านลองมองว่าคนส่วนใหญ่ที่ดูกระทู้ของท่านจะคิดแบบไหนหากไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้จะมองเป็นอย่างไร หากท่านไม่อธิบายสิ่งที่ท่านต้องการสื่อ (ผิดถูกก็อีกเรื่อง) แต่ไม่ผิดที่ท่านจะคิดต่าง และหากท่านสงสัยจริงท้ายกระทู้น่าจะแสดงลักษณะของคำถามด้วย     ส่วนเรื่องการนำเสนอข้อมูล ของท่าน thyrocyte            ผมเห็นว่าเป็นสิทธิของท่านจริงๆไม่ขอแย้งครับ ซึ่งบางท่านยังชอบการนำเสนอด้วยวิธีนี้ และท่านก็ทำได้ดีครับ        สุดท้ายผมเห็นว่า เห็นต่างได้ แต่ต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นได้และ ยอมรับในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าเราจะคิดผิดในตอนแรก ไม่มีใครว่าท่านไม่ดีหรอกครับ ไม่มีใครรู้จริงไปหมดทุกเรื่องหรอกครับ หากแต่อยู่ที่การยอมรับของตัวเรา         ผมเคยเห็นกรณีแบบนี้มาก็เยอะ เวลาถกปัญหาวิชาการกับเพื่อนๆ หากคนๆนั้นไม่ยอมรับก็อาจกลายเป็นการเถียงประเด็นให้เสียเวลา แต่ถ้ายอมรับในสิ่งที่ถูกคนที่ได้ความรู้เพิ่มก็คือ เรา ท่าน ทั้งนั้น ไม่มีใครดูถูกหรอก          สุดท้าย ต้องขอบคุณทั้งสองท่านที่ให้ความรู้แก่ข้าพเจ้าจริงๆ ฝากท่านๆชี้แนะด้วย      ด้วยความเคารพ จากคุณ : Hemolytic - [ 13 ม.ค. 52 13:39:04 A:125.27.113.31 X: ]

ความคิดเห็นที่ 123 ถึงคุณ thyrocyte ครับ เรื่องภาษีคงไม่ต้องถามที่ห้องสินธรหรอกครับ เพราะหากพิจารณากันตามพฤติกรรมที่ปฏิบัติโดยทั่วไปของนักค้าหุ้นหรือนักการเงินแล้ว เรื่องเสียภาษีเงินได้จากการขายหุ้นนั้น มันมีแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เสียน้อยที่สุดจนถึงไม่เสียเลยอยู่แล้ว ไม่งั้นพวกสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหลาย หรือพวกวาณิชธนกิจ คงไม่มีงานทำกัน แต่ที่ผมอยากทราบจากคุณคือส่วนที่เป็นกฏหมายเพียวๆ เลยมากกว่าว่ากฎหมายระบุไว้อย่างไร เพราะเรื่องนี้มีการดำเนินการไปแล้วอย่างชัดเจน ผู้รับผลกระทบนั้นคือ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร อีกทั้งทักษิณเองก็มีชนักเรื่องนี้ติดหลังอยู่ทั้งที่เป็นเพียง assumption ของคนบางกลุ่มเท่านั้น สิ่งที่จำเป็นคือต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ในทางกฎหมายว่ามีความผิดฐานหลบเลี่ยงภาษีตามกฎหมายจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องความพยายามจะขายหุ้นจาก Ample Rich ที่ประชาธิปัตย์นำมาโจมตีนั้น ผมเห็นว่าเป็นเพียงเล่ห์ของพวกวาณิชธนากร ที่ใช้สำหรับจัดโครงสร้างหุ้นของเจ้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ซึ่งมิใช่เฉพาะตระกูลชินวัตร แม้แต่ตระกูลอื่นๆ ก็ต่างมีการถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนโดยผ่านบริษัทนอกตลาดที่ครอบครัวของตนมีหุ้นอยู่ 100% ทั้งนั้น ผมคิดว่าประเด็นนี้อุ่อนไหวต่อพฤติกรรมการลงทุนของเหล่าตระกูลใหญ่ๆ ในประเทศไทยทั้งหมด หากจะเปิดโปงกัน คงไม่มีใครทำตรงไปตรงมา แต่เหตุใดจึงมีการยกประเด็นดังกล่าวมาฆ่าทักษิณเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือจากตระกูลอื่นๆ ด้วย ตระกูลชินวัตรมีอะไรที่ตระกูลอื่นๆ ไม่ชอบนักชอบหนาหรือกระไร จากคุณ : Winnie The PeeH - [ 13 ม.ค. 52 14:21:46 A:202.28.27.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมมีความรู้ในเรื่องไม่มากจริงๆ แต่ถ้าคุณWinnie The PeeH โพสต์มาเช่นนั้นก็ขอให้ข้อคิดที่แตกต่างไปคือ โพสต์ว่า"..ถึงคุณ thyrocyte ครับ เรื่องภาษีคงไม่ต้องถามที่ห้องสินธรหรอกครับ เพราะหากพิจารณากันตาม พฤติกรรมที่ปฏิบัติโดยทั่วไปของนักค้าหุ้นหรือนักการเงินแล้ว เรื่องเสียภาษีเงินได้จากการขายหุ้นนั้น มันมี แนวทางการปฏิบัติเพื่อให้เสียน้อยที่สุดจนถึงไม่เสียเลยอยู่แล้ว..." ******************************************************************* ตอบ-ผมขอให้ข้อคิดว่า ปกติการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดนั้นไม่ต้องเสียภาษีเป็นที่ทราบกันดีอยู่ แต่กรณี คุณหญิง คุณบรรณพจน์ และเลขาคุณหญิง ความผิดที่เกิดไม่ใช่ไม่เสียภาษี แต่เป็นการกระทำผิดตามประมวล รัษฏากร มาตรา 37 ที่กำหนดไว้ว่า ผู้ใด (1) โดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือ ตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ (2) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีก เลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้     ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองแสนบาท อันนี้ต่างหากที่เป็นข้อที่ศาลพิพากษาลงมา ส่วนที่จะว่า "เขาก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น" คงไม่สามารถเอามาหักล้าง ให้การกระทำผิดกลายเป็นการกระทำที่ถูกได้หรอกครับ เพียงแต่ว่าจะมีการบังคับใช้ประมวลรษฏากรข้อนี้กับทุก ผู้คนหรือไม่ หรือจะใช้กับบางคนเท่านั้น จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 16:15:15 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 125 คห 119 ครับ ตรงไหนครับที่ผมบอกว่าคุณเชี่ยวชาญ ผมว่าคุณสรุปมันไปแล้วว่าที่คุณคิดนั้นถูกต้อง คนอื่นควรจะคิดอย่างคุณได้เสียที จาก ประโยค “ ส่วนสมาชิกท่านใดที่พอใจจะอยู่ในความมืด ไม่กล้าเผชิญกับความจริงหรือแสงสว่าง ก็เป็นสิทธิของท่านนะครับ   แต่คนจำพวกที่ชอบอยู่แต่ในความมืด ไม่กล้าเผชิญแสงสว่าง เกรงว่าจะไม่ใช่คนที่ดีเท่าไรนัก ” หมายความว่าอย่างไร คุณได้สรุปไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าความคิดคุณถูกต้อง เป็นการว่าคนที่ไม่เข้าใจตามที่คุณเข้าใจ เป็นคนที่ไม่รู้ความจริง(ของคุณ) ไม่เปิดโลกเปิดใจให้รับรู้ความจริง(ของคุณที่คุณสรุปแล้วว่าเป็นความจริง) จากคุณ : DIST - [ 13 ม.ค. 52 16:15:41 A:202.183.185.18 X: ]

ความคิดเห็นที่ 126 เรื่องที่ศาลตัดสินว่าเข้าข่ายความผิดตามประมวลรัษฏากร มาตรา 37(1)(2) นั้น มีรายละเอียดให้ถกเถียงกันมา เพราะมีรายการโอนหุ้นกันไปมาจากคณหญิงไปยังเลขาฯ ต่อไปยังคุณบรรณพจน์ และมีการให้การของคุณบรรณ พจน์เองที่ขัดแย้งกัน ตลอดจนเงินที่ใช้ในการชำระค่าหุ้นก็มาจากเจ้าของเดิม และสุดท้ายก็จะต้องถกเถียงกันว่า เข้าข่ายให้โดยธรรมจรรยาหรือไม่กันอีก ซึ่งจะเป็นประเด็นที่เคยมีการถกเถียงกันมามากแล้วเมื่อคดีมีการประกาศ แต่หากคุณ Winnie The PeeH ยังข้องใจ ผมแนะนำว่า ตั้งเป็นกระทู้ใหม่เพื่อสอบถามความเห็นสมาชิกก็ได้ แต่ สุดท้ายก็จะวนอยู่ที่จุดเดิมคือ ฝ่ายหนึ่งถือว่าให้โดยธรรมจรรยา ไม่เข้าข่ายเลี่ยงภาษี แต่อีกฝ่ายจะเห็นตาม ศาลว่า ไม่ใช่เป็นการให้โดยธรรมจรรยา เพราะไม่ได้ให้กันในวาระที่ปกติประเพณีเขาให้กันในลักษณะนั้น เถียงกันไปเถียงกันมาไม่สิ้นสุด แต่ที่สิ้นสุดไปแล้วคือคำพิพากษาศาลอาญาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1149/2550 ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น และคุณหญิงกำลังอุทธรณ์ หากตั้งกระทู้เรื่องนี้ขึ้นมาก็เป็นสิทธิของคุณ Winnie The PeeH แต่ผมเชื่อได้เลยว่า การถกเถียงจะวนกันอยู่ ตรงประเด็นเดิมๆนั้นแหละครับ สู้รอการพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ดีกว่า แต่ที่แน่ๆ อันนี้ไม่ใช่ผิดเพราะไม่จ่าย ภาษีครับ ผิดเพราะศาลพิพากษาว่า"...ร่วมกันโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนอง เดียวกัน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และ โดยรู้อยู่แล้ว หรือโดยจงใจ ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำ เท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษี อากรหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) .." ก็เป็นไปตามนั้นแหละครับ ส่วนรายละเอียดคดีค้นได้ในเน็ต จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 16:27:45 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127 คุณ DIST คุณได้กลับไปดูกระทูเดิมหรือยังครับ ประโยคที่คุณยกขึ้นมานั้นผมได้โพสต์จริง แต่เป็นการโพสต์ หลังจากมีการโต้เถียงกันในกระทู้ได้สักพักแล้ว คืออยู่ในคห.21 ผมโพสต์ไปเพื่อแจ้งให้สมาชิกที่ปฏิเสธไม่ยอมเชื่อบัญชีที่นำมาจากปปช.นี้ว่า เขามีสิทธที่จะไม่เชื่อ แต่ในเมื่อ มันเป็นข้อมูลจริง การไม่เชื่อความจริงก็เท่ากับเลี้ยงตัวเองให้อยู่ในความมืด ผมยังยืนยันความเห็นนั้น และยืนยันว่าไม่ได้โพสต์เพื่อว่าใครเสียแต่แรก แต่เป็นการโพสต์เพื่อเตือนสติสมาชิก ด้วยกัน ซึ่งเป็นสิทธิที่ผมเชื่อว่าผมทำได้ และไม่ได้ใช้คำส่อเสียดหรือหาบคาย แต่เตือนให้เขานึกถึงการยอม รับความจริง จริงๆ จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 16:35:24 A:192.168.0.17 X:203.147.40.3 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ที่ผมเตือนว่าเขาจะไม่เชื่อนั้น ผมเตือนว่าเขาจะไม่เชื่อบัญชีนี้ก็ได้ครับ ผมไม่เคยบังคับให้ใครเชือ่ความเห็นผม แต่ผมจะประหลาดใจมาก ที่ใครจะไม่ยอมเชื่อข้อมูล(ซึ่งมันไม่ใช่ความคิดของผม แต่เป็นข้อมูลจริง) ผมหมายถึงหากเขาจะไม่เชื่อบัญชีนี้ก็ได้ แต่จะกลายเป็นว่าเขาไม่กล้าเผชิญความจริง ไม่ได้หมายถึงให้เชื่อผม จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 16:40:34 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 129 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่เรื่องที่คุณหญิงถูกศาลพิพากษาไปแล้วนั้นเป็นกรณีเดียวกับที่อดีตอธิบดีกรมสรรพากรถูกเด้งสมัยคมช.หรือครับ ถ้าผมจำไม่ผิดรู้สึกว่าอดีตอธิบดีกรมสรรพากรคนนั้นจะโดนเรื่องไม่เก็บภาษีจากพานทองแท้กรณีขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็กไม่ใช่หรือครับ ถ้าผมจำผิดก็ขออภัย ปล.แต่ประโยคท้ายของคุณ Thyrocyte ในความเห็น 124 ที่ว่า "...เพียงแต่ว่าจะมีการบังคับใช้ประมวลรษฏากรข้อนี้กับทุก ผู้คนหรือไม่ หรือจะใช้กับบางคนเท่านั้น" กลายเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าการบังคับใช้กฎหมายมีการ "เลือกปฏิบัติ" ได้ปรากฏอยู่เสมอ และแสดงให้เห็นชัดอีกว่า ทักษิณ ชินวัตร มิได้เป็นผู้มีอำนาจมากมายจริงๆ อย่างที่หลายคนพยายามเบี่ยงเบนให้เป็นเช่นนั้น เพราะแม้แต่เขาและครอบครัวก็ยังถูกเล่นงานด้วยกฎหมายที่เลือกปฏิบัติได้เช่นกัน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ตกลงใครเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริงในการบังคับใช้กฎหมายกันแน่ และในแผ่นดินไทยใึครใหญ่พอที่จะทำเรื่องเหล่านี้ได้ แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 17:48:15 จากคุณ : Winnie The PeeH - [ 13 ม.ค. 52 17:39:55 A:202.28.27.5 X: ]

ความคิดเห็นที่ 130 แค่สงสัย ครับ ว่า มีแค่ 2 คน หรือครับ บัญชี ทรัพย์สิน นะครับ แล้ว ลูก หลาน เหลน คนใช้ คนที่ เขาไว้ใจได้ หละครับ  ไม่มี หรือครับ ถ้าไม่มีมา บอกด้วย นั้น ก็ไม่น่า จะเป็นเงิน จริงๆ ที่เขามี หรือเปล่าครับ จากคุณ : a235 - [ 13 ม.ค. 52 18:24:02 A:118.174.143.56 X: ]

ความคิดเห็นที่ 131 คุณไธรอยต์ก็น่าจะทราบดีนะครับว่า คุณทักษิณไม่ได้เป็นบอกว่ามีเงินแสนกว่าล้าน เรื่องนี้เกิดจากสื่อมาลงว่าคุณทักษิณถังแตกเหลือเงินแค่"หมื่นกว่าล้าน" คุณไธรอยต์ก็เอาบัญชีปี 49 ที่แสดงต่อ ปปช.ไว้มาแสดง แต่ตอนนี้ปี 51-52 คนอย่างคุณทักษิณเขาคงไม่ได้งอมืองอเท้า เขาวิธีการลงทุนและทำมาหากิน ในช่วงที่ไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนนี้เขาจะมีทรัพย์สินเท่าไร คุณไธรอยต์หาข้อมูลเก่ง ก็ลองหามาสิครับ ระดับคุณคิดว่าคงหาไม่ยาก ขนาดไม่ได้เป็นรัฐบาลยังหาได้ ตอนนี้เป็นรัฐบาลแล้วยิ่งหาได้ง่ายขึ้นเยอะ จากคุณ : เสรีชนคนเดินดิน - [ 13 ม.ค. 52 19:09:15 A:222.123.240.117 X: ]

ความคิดเห็นที่ 132 คุณ เสรีชนคนเดินดิน ตัวเลขล่าสุดที่คุณทักษิณแถลงไว้กับปปช.คือ 19 กย.2550 ครับ ไม่ใช่ 2549 อย่างที่ ลงไว้ให้ในคห.128 ข้างบนนี้เอง ^ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณทักษิณเข้าเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแล้วด้วย ผมไม่อยากจะพูดซ้ำๆหรือย้ำเรื่องนี้มากนัก เดี๋ยวจะหาว่า ผมพยายามจี้เรื่องนี้ หรือไปเชื่อข่าวลือนั้น  โดยไม่มี หลักฐาน แต่เมื่อคุณเสรีชนคนเดินดิน พูดมาก็ขอให้ความเห็นกลับดังนี้แหละครับ และถ้าคุณทักษิณไม่มีเงินตาม ที่ข่าวว่ามีตั้ง 140 พันล้านบาทก็ดีไป เพราะถ้ามีขนาดนั้น มันอธิบายยากว่าจาก 19 กันยายน 2550 มา 1 ปีเงิน เพิ่มจาก 8 พันล้านบาทไทยเป็น 140 พันล้านบาทไทยภายในปีกว่านี้ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์เกินไปหรือเปล่า แต่อย่างว่าแหละครับ พูดมากไปจะกลายเป็นเล่นเรื่องข่าวลือ จึงไม่ขอพูดอีก เว้นแต่มีสมาชิกมาถามเป็นประเด็น จากคุณ : thyrocyte - [ 13 ม.ค. 52 21:41:19 A:192.168.0.17 X:124.121.32.109 ]

ความคิดเห็นที่ 133 หลังจากที่อ่าน 1-99 กระทู้แรก คนนึงถามถึงตัวเลข เพื่อคำตอบ เรื่องจรรยาบรรณ คนนึงอธิบายการบวก-ลบตัวเลข เพื่อบอกที่มาที่ไป ผมเข้าถูกไหมครับ จากคุณ : นายเก่ง แต่นายขาดจรรยาบรรณ (Jantarang) - [ 13 ม.ค. 52 21:46:34 A:192.168.0.17 X:125.24.206.136 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ทางออกคือ ให้ทักษิณ กลับมาชี้แจง... แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 52 22:27:06 จากคุณ : Muyan - [ 13 ม.ค. 52 22:23:54 A:58.9.154.252 X: ]

ความคิดเห็นที่ 135 ผมว่า คุณสัพเพ และคุณ thyrocyte  คุยกันคนละเรื่อง จากคุณ : REFRIG - [ 14 ม.ค. 52 01:43:52 A:125.26.45.198 X: ]

ความคิดเห็นที่ 136 คุณ thyrocyte ตอบเคลียร์แล้วครับ และขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คุณ สัพเพ ประเด็นไม่เคลียร์ครับ จะโจมตีเรื่องรูปแบบการนำเสนอข้อมูลไปเพื่ออะไร ในเมื่อข้อมูลมันจริงน่ะครับ ค่อนข้างงงนะครับ Fact ควรเป็น Fact และ Opinion ควรเป็น Opinion ในเมื่อคุณยกประเด็นข้อเท็จจริงมาถกทำไมถึงต้องโจมตีวิธีการนำเสนอล่ะครับ ถ้าไม่งั้นคุยยังไงก็ไม่จบหรอกครับ การโจมตีผู้ให้ข้อมูลมันเป็นวิธีเด็กๆใช้กันนะครับ แต่ก็น่าแปลกที่คนไม่น้อยยังติดกับดักอย่างง่ายอันนี้ พาลเชื่อไปว่าอะไรที่มาจากคนนี้เชื่อไม่ได้ไปซะหมด หรือเพราะนักการเมืองนี่แหละตัวดี เอามาใช้บ่อยก็ไม่รู้สิครับ จากคุณ : sleeper_j - [ 14 ม.ค. 52 02:01:47 A:124.121.210.174 X: ]

ความคิดเห็นที่ 137 สงสัยต้องใช้เวลาเป็นวันในการนั่งอ่านแล้วเข้าใจกับเนื้อหา เยอะจริงๆ จากคุณ : spytime - [ 14 ม.ค. 52 04:54:35 A:198.28.128.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 138 เรื่องนี้ผมเห็นว่าคุณไทโรไซท์พยายามจะให้คนเห็นว่าคุณทักษิณมีเงินเพิ่มขึ้นมาจำนวนมากถึงแสนกว่าล้าน(ผิดปกติมาก) ซึ่งถ้าตั้งกระทู้แบบนี้ไปเลยจะดูแมนมากกว่า แต่ก็จะทำให้ดูไม่ฉลาดมากๆเพราะข้อมูลที่มีข่าวแสนกว่าล้านดูมั่วๆพิกล ก็เลยออกแนวที่จขกท.ขัดใจนั่นแหละครับ สำหรับผมก็ขัดใจที่คุณไทโรไซท์เสนอข้อมูลแน่นปึก(บัญชีทรัพย์สิน) แต่ข้อมูลหลวมโพรกจากข่าวที่ยังไม่ยืนยันทำเป็นมองไม่เห็น กรุณาอย่าเอาตัวไปเทียบกับพวกตัดต่อรูปภาพเลยนะครับ คนเราคาดหวังจากเพื่อนที่คุยสนุกกับเพื่อนที่เป็นนักวิชาการไม่เหมือนกัน ถ้าคุณทำตัวอย่างนั้นไปเลยก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเวลาผมคุยกับเพื่อน ผมก็หวังอะไรจากเพื่อนคุยสนุก เพื่อนที่มีอคติให้ข้อมูลด้านเดียว เพื่อนที่ให้ข้อมูลตรงๆสองด้าน(แม้ตัวเองจะชอบใคร)ไม่เท่ากันอยู่แล้ว น่าแปลกที่หลายคนพยายามจะเชื่อข่าวอังกฤษอายัดเงินนี้มากๆ ทำนองถ้าไม่จริงคุณทักษิณต้องออกมาปฎิเสธข่าวไปแล้ว แต่ไม่ถามหาความน่าเชื่อถือจากข่าวนี้เลย ----------------------------------------------------------------------------- ส่วนคุณยายฉ่ำ คุณเห็นว่าคนปฎิธรรมเป็นไปตาม ความคิดเห็นที่ 78   ของคุณจริงๆหรือครับ ------------------------------------------------------ สมแล้วที่ จขกท ต้องไปปฎิบัติธรรมเป็นอาชีพ เพราะเลือกรักเลือกฟังคนไม่ดี ถึงต้องหาที่ยึดเหนียวทางใจตลอดเวลา ยายฉ่ำ ------------------------------------------------------- คุณเป็นมารศาสนาจำพวกหนึ่งนะครับ คนปฎิธรรมนะเป็นคนใฝ่ดี อยากให้คุณคิดใหม่ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 14 ม.ค. 52 08:42:31 A:124.120.112.250 X: ]

ความคิดเห็นที่ 139 คนรวยเล่นเลี่ยงภาษีได้งั้นเหรอ เห็นที่ต้องเปลี่ยนระบบการจ่ายเงินเข้าบัญชีผมใหม่เสียแล้วซิ ดันให้ดิสทริบิวหักภาษี ณ ที่จ่ายไปเลย *********เพราะคิดว่าทำถูกต้องตามกฎหมาย************ พึ่งรู้ว่าคนส่วนมากเขาพยายามหลีกเลี่ยงกันทั้งนั้น ปีนี้ผมขอตามยอดจ่ายเต็มๆ แล้วเสียภาษีย้อนหลังเองดีกว่า จะได้เลี่ยงได้เยอะๆ บ้าง จากคุณ : un17_mustang - [ 14 ม.ค. 52 10:08:18 A:124.121.147.242 X: ]

ความคิดเห็นที่ 140 คุณ thyrocyte สุดยอดครับ ยังงี้ซิเรียกว่ารู้จริง ไม่มีแถ จากคุณ : pojta - [ 14 ม.ค. 52 14:44:03 A:58.137.211.99 X: ]

ความคิดเห็นที่ 141 ไม่มีใครตอบคุณ Thyrocyte เลยเหรอครับว่าทำไม ในบัญชีทรัพย์สินไม่มีทีมแมนซิตี้รวมอยู่ด้วย รอข้อเท็จจริงประเด็นนี้อยู่นะครับ ^_^ จากคุณ : sleeper_j - [ 14 ม.ค. 52 14:47:49 A:192.168.0.17 X:124.121.210.174 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ยาวจัด เกรียนทนอ่านไม่ไหว.... จากคุณ : MiNiJung - [ 14 ม.ค. 52 17:01:32 A:58.9.155.195 X: ]

ความคิดเห็นที่ 143 คุณ thyrocyte ครับ ยอมรับในเรื่องข้อมูลจริง ๆ ขอข้อมูลคุณชวน หลีกภัย สมัยดำรงตำแหน่งได้มั้ย ครับ  ว่ามีแสดงไว้เท่าไหร่ และ มีแอบไว้เท่าไหร่ แค่นี้ .....คงหาได้ไม่ยากใช่มั้ยครับ จากคุณ : munaja - [ 14 ม.ค. 52 22:34:08 A:118.174.34.129 X: ]

ความคิดเห็นที่ 144 ของคุณชวน หากสนใจก็มีแต่แถลงต่อปปช.ไว้ล่าสุดที่นี้ http://www.nccc.go.th/asset/gov080320/98/9801.pdf ไม่เคยปรากฏข่าวว่าชวนไปซื้อสโมสรฟุตบอลตามต่างจังหวัดหรือต่างประเทศนะครับ ว่าแต่คุณ munaja ช่วยค้นให้ด้วยครับว่า คุณทักษิณแอบซ่อนเงินไว้เท่าไร แค่นี้ .....คงหาได้ไม่ยากใช่มั้ยครับ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 52 10:01:59 จากคุณ : thyrocyte - [ 15 ม.ค. 52 09:56:20 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 145 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 15 ม.ค. 52 11:01:48 A:58.9.151.47 X: ]

ความคิดเห็นที่ 146 สัพเพไปไหน กลับมาตอบหน่อย ทำไมบัญชีทรัพย์สินของวันที่ 19 กันยายน 2550 ไม่มีแสดงหุ้นหรือกรรมสิทธิ์ในสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ไว้ด้วยละ ตอบหน่อยน่า เห็นอธิบายเรื่องบัญชีได้เป็นฉากๆเลยในคห.ข้างบนโน้น ^ลองตอบคำถามเนี่ยง่ายๆ เลย สัพเพ ถามชาวบ้านชาวช่องเขาไว้เยอะตอบแค่นี้สัพเพคงทำได้นา จากคุณ : PhuketBoy - [ 15 ม.ค. 52 13:13:08 A:58.10.198.224 X: ]

ความคิดเห็นที่ 147 ผมจับประเด็นได้ว่า จขกท พยายามจะชี้ให้เห็นว่า คุณ thyrocyte นำเสนอข้อมูล(ดิบ)ได้ดี แต่ขาดความรู้ความเข้าใจในข้อมูลที่ตัวเองเอามานำเสนอ ที่สำคัญ วิเคราะห์ไม่เป็น ซึ่งจุดนี้ตรงกับความเห็นของสมาชิกอีกหลายท่าน การตั้งคำถามของ จขกท เป็นไปเพื่อให้ คุณ thyrocyte ลองวิเคราะห์ข้อมูลที่ตัวเองนำเสนอดูบ้าง แต่ก็เป็นอย่างที่เห็น จากคุณ : ดาวเหิน - [ 15 ม.ค. 52 17:21:13 A:192.168.0.17 X:203.149.29.9 ]