เป็นที่ทราบกันดีว่า ตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก เป็นตำแหน่งที่ทรงพลังมากที่สุดของราชการประจำทั้งหลายของประเทศนี้
การปฏิวัติ รัฐประหาร ทุกครั้งที่ผ่านมา หากเจ้าของตำแหน่งนี้ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีวันที่ประเทศนี้จักกระทำได้
ภายหลังเจ้าของผลงานวันที่ 19 กันยายน 2549 หลุดพ้นวงจรอำนาจดังกล่าว พลเอกอนุพงษ์ฯ ก็ได้ครอบครองแทน
ตลอดระยะเวลาที่ นายสมัครฯ เป็นนายกฯ เจอกับปัญหาไม่สะเด็ดน้ำของ คมช. กระบวนการทำลายชาติหวนกลับมาทำลายต่อ
นายสมัครฯ ได้มอบหมายให้ พลเอกอนุพงษ์ฯ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้ใช้ศักยภาพของกองทัพ ช่วยลดความขัดแย้ง แต่กลับเมินเฉยต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ในการนี้คำว่า "ศักยภาพของกองทัพ" ตำแหน่ง ผบ.ทบ. มีหน่วยงานในสังกัดในทุกรูปแบบสามารถดำเนินการได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม บนดิน ใต้ดิน ตามที่ฝึกกันมา
เช่น ใช้ตำแหน่งที่ใหญ่โตนี้ เชิญแกนนำมาปราม หรือ กระทำการใด ๆ เพื่อให้ปัญหาไม่รุกลามใหญ่โตจนยึดสนามบินได้
จนกระทั้งถึง นายสมชายฯ ก็ขอให้ ผบ.ทบ. คนนี้เข้าไปช่วยคลี่คลายด้วยเช่นกัน
แต่ว่ากันว่า แผนการเข้ายึดสนามบิน ทุกเหล่าทัพต้องระดมระดับ เสธ. หัวกระทิ มาช่วยกันวางแผน ทำให้การยึดสนามบินสุวรรณภูมิง่ายดายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปาก
จริงไม่จริงไม่ทราบ
ทราบแต่ว่า หาก ผบ.ทบ. คนปัจจุบันนี้ มีความจงรัก ภักดี ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จริง คงไม่อาจจะทนดูความเสียหายของประเทศไทยและความเสื่อมเสียทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมาตุภูมิของตนเองได้แน่นอน
ความเสื่อมเสีย ความเสียหาย ที่ไม่อาจประเมินค่าได้นี้
นอกจาก ผบ.ทบ. รวมทั้งเหล่าทัพจะพากันออกหน้าจอ ที วี ไล่รัฐบาลที่มาจากความชอบธรรมของประชาชนทั้งประเทศแล้ว ไม่พอ
กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ( รมต.กลาโหม) อีกด้วย
เพราะฉนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยทั้งหมด
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ตาม ม. 157
จากคุณ :
ตต
- [
14 ม.ค. 52 13:59:09
A:61.19.210.250 X:
]