Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    แก้กฎหมายโทรคมนาคมเพื่อใคร ?

    ลองอ่านต่อดู ฟังพวกเกลียดทักษิณเขาพูดกัน แล้วมาดูข้อเท็จจริง หรือฟังจากต้นตอดู
    .แก้กฎหมายโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ชินคอร์ปจริงหรือไม่?

    มีการกล่าวหาว่าผมใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ไปสั่งการให้มีการแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม ให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากกว่า 25% เพื่อเอื้อประโยชน์แก่การขายหุ้นชินคอร์ป ให้แก่เทมาเส็ก เนื่องจากกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2549 ในขณะที่ครอบครัวผมขายหุ้นชินคอร์ป วันที่ 23 มกราคม 2549 ซึ่งหากดูตามเวลาที่ปรากฏเช่นนี้ก็ชวนให้สงสัยว่ามีการแก้กฎหมายเพื่อการนี้จริงหรือไม่

    กระบวนการแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคม เริ่มต้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2544 โดยบริษัทโทเท็ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ TAC ในเครือบริษัทยูคอม บริษัทซีพีออเรนจ์ และบริษัทไทยเทเลโฟน แอนด์ เทเลคอมมิวนิเคชั่น หรือทีทีแอนด์ที ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเลยกับธุรกิจของครอบครัวผม ร้องขอให้บริษัทต่างชาติถือหุ้นในบริษัทประกอบกิจการโทรคมนาคมได้มากกว่า 25% เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างอค์การ ก่อนเข้าสู่การแข่งขันเมื่อเปิดเสรีโทรคมนาคม ซึ่งกระทรวงคมนาคมรับเข้าสู่กระบวนการพิจารณา และดำเนินการกันมาตามขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จนเลือกตั้งใหม่ก็ยังรับช่วงพิจารณาต่อจนเสร็จ โดยใช้เวลานานถึง 4 ปี จึงประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ได้

    ในการพิจารณาแก้ไขกฎหมายครั้งนั้น บริษัทชินคอร์ป หรือบริษัทในเครือไม่ได้เป็นผู้ร้องขอ และถ้าไปตรวจสอบรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ จะพบว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อภิปรายคัดค้าน และไม่ได้ลงมติคัดค้านการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ แต่ข้อมูลนี้ไม่เคยมีการนำมาเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ

    การกล่าวหาว่าผมเป็นผู้ผลักดันแก้ไขกฎหมายประกอบกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์แก่การขายหุ้นชินคอร์ป จึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มคนที่ไม่ต้องการให้ผมอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    บริติชเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ คืออะไร?

    แอมเพิล ริช เป็นของใคร

    บริษัทบริติชเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ เป็นเกาะในทะเลแคริบเบียน เป็นเขตปกครองใต้อาณัติของอังกฤษพูดกันง่ายๆ ก็คิดคล้ายๆ กับอาณานิคมของอังกฤษ เป็นชุมนุมชนทางธุรกิจของบริษัทจำนวนมาก ที่มักจะไปจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อเจรจาทางการค้า การลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายของบริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ ไม่มีการจัดเก็บภาษีมรดก และภาษีกำไรจากการขาย (Capital Gain Tax) จึงทำให้ธุรกิจมีต้นทุนต่ำ และคล่องตัว
    บริษัทธุรกิจไทยหลายบริษัทไปเปิดบริษัทบ่อยที่ บริติเวอร์เจ้น ไอส์แลนด์ และเกาะเคย์แมน ที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีเหมือนกัน เช่นบริษัท ทีพีไอ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย บริษัท ปตท. ก็จัดตั้งบริษัทย่อย ของตัวเอง ที่บริษัทบริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุลก็จัดตั้งบริษัทเอเซียเทเลคอม โฮลดิ้งส์ จำกัดที่ บริติเวอร์จิ้น ไอส์แลนด์มาแล้ว นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ อย่างคุณกร จาติกวณิชย์ ก็เคยทำธุรกิจกับบริษัท ในบริติเวอร์จิ้นไอแลนด์

    แอมเพิลริช เป็นบริษัทที่ผมตั้งขึ้นบนเกาะ บริติเวอร์จิ้น ไอสแลนด์ ตามคำแนะนำของที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งขณะนั้นผมไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและไม่มีตำแหน่งใดๆ ทางราชการเมื่อครั้งที่ผมมีความตั้งใจ ที่จะนำบริษัทชินคอร์ปฯ ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยถือหุ้น บริษัทแอมเพิลริช 100% และโอนหุ้นของผมเอง จำนวน 72.93 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 10 บาท ไปอยู่ในบริษัทแอมเพิลริชเพื่อเตรียมจะไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น แนสแดกของสหรัฐฯ และต่อมามีปรับเปลี่ยนราคาหุ้นจาก 10 บาทเป็น 1 บาท ส่งผลให้หุ้นบริษัทแอมเพิลริชที่เคยมี 32.92 ล้านหุ้น กลายเป็น 329.2 ล้านหุ้น เมื่อคิดเป็นจำนวนเงิน และเท่ากับ 329.2 ล้านบาท เท่าเดิม ไม่ได้มีการเพิ่มหุ้นแต่อย่างใด

    แต่ต่อมา สภาวะการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลง การตัดสินใจที่จะนำบริษัทชินคอร์ปฯไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแดก ก็ไม่ได้เดินหน้าต่อ ประกอบกับการที่ผมตัดสินใจ เข้าสู่การเมือง ด้วยการตั้งพรรคไทยรักไทย จึงยุติการทำธุรกิจทั้งหมด และโอนหุ้นที่ถืออยู่ให้กับลูกๆ ที่บรรลุนิติภาวะ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คือห้ามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีถือหุ้นบริษัทเกิน 5%

    เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2543 ผมได้โอนหุ้นทั้งหมด ให้แก่ลูกชาย ซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าผมไม่มีหุ้น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ อีกกับบริษัทชินคอร์ปทั้งทางตรงและทางอ้อม ก่อนที่ผมจะชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจึงไม่เข้าข่ายซุกหุ้นภาค 2 และไม่เข้าข่ายการเข้าไปมีส่วนในการบริหารจัดการบริษัท ตามที่สมาชิกวุฒิสภา พยายามยื่นเรื่องให้ ตามรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ไม่ตรงตามที่ต้องการก็โกรธเคืองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปด้วย

    การโอนหุ้นให้ลูกชายเป็นการโอนจริง เพราะลูกชายก็บรรลุนิติภาวะแล้ว อยู่ในวิสัยจะรับผิดชอบธุรกิจได้ ผมโอนแบบ"พ่อให้ลูก" ซึ่งกฎหมายให้ทำได้โดยธรรมจรรยา กฎหมายยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการโอน เช่นเดียวกับที่บิดาคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยกเงินได้จากการขายที่ที่หัวหิน ให้คุณอภิสิทธิ์ และเหมือนกับบิดาคุณกร จาติกวณิชย์ รองเลขาพรรคประชาธิปัตย์ โอนหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เจเอฟ ธนาคม จำกัด ให้แก่คุณกรณ์ ทั้งคุณอภิสิทธิ์และคุณกร ก็ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนกับลูกชายผมไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเป็นหลักความเสมอภาคตามกฎหมายที่ประชาชนทุกคนพึงได้รับ ความคุ้มครองไม่สามารถเลือกปฏิบัติได้

    การกล่าวหาว่าลูกชายผมไม่ยอมเสียภาษี จึงเป็นการบิดเบือนข้อมูล เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ และเข้าใจผิดต่อผมและครอบครัว ทั้งๆที่คุณอภิสิทธิ์และคุณกรก็ทราบกฎหมายดีและเคยใช้สิทธิตามกฎหมายยกเว้นภาษีในกรณีรับโอนทรัพย์สินจากบิดามาแล้ว การกล่าวหาผมและครอบครัวในประเด็นนี้ จึงเป็นการกล่าวหาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเกลียดชังผมและครอบครัวเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น

    ลูกชายและลูกสาวของผม นำหุ้นจำนวนดังกล่าวไปขายในตลาดหลักทรัพย์ ตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ก็ย่อมได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายกำหนดไว้ แต่กลับมาการกล่าวหาลูกชายและลูกสาว ผมหนีภาษี ซึ่งบิดเบือนข้อเท็จจริงทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ถ้าลูกชายและลูกสาวผมต้องการหนีภาษีก็สามารถขายหุ้นในต่างประเทศและฝากเงิน ไว้ในต่างประเทศ ก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่การนำหุ้นกลับมาขายในประเทศไทย เงินที่ได้ทั้งหมดเมื่อนำมาฝากในสถาบันการเงินไทย ก็ต้องเสียภาษีเงินได้จากดอกเบี้ย ปีละไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท

    ผมขอยืนยันว่า การขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปครั้งนี้ครอบครัวผมปฏิบัติตามข้อกฎหนดของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาทุกขั้นตอนและไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ ไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย แตกต่างจากบุคคลทั่วไป ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ คุณกรณ์ จากติวณิชย์ รองเลขาฯปชป.เคยเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์มาก่อน เคยแนะนำ และจัดการซื้อขายหุ้นในลักษณะนี้มาแล้วจำนวนมาก็ใช้วิธีการไม่แตกต่างจากครอบครัวผมทำ บางกรณี อาจจะมีความซับซ้อนมากกว่าเสียอีก

    ทุกขั้นตอนการขายหุ้นชินคอร์ป ครอบครัวผม ได้แต่งตั้งตัวแทน ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและประชาชนแล้ว แต่ก็ยังมีความพยายาม ที่จะขุดคุ้ย หาความผิดปกติ เมื่อไม่พบ ก็ใช้วิธีการบิดเบือนความจริงให้เป็นความเท็จเพื่อกล่าวหาใส่ร้ายผมและครอบครัวตลอดมา

    การดำเนินการของกลุ่มคนนี้ ไม่ต้องการให้ผม เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ เป็นการจงใจบิดเบือนความจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงหลักการ แห่งกฎหมายที่ตัวเองก็เคยได้รับความคุ้มครองมาก่อน จึงขอความกรุณาประชาชน ได้พิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม ต่อครอบครัวผมด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแม้จะไม่เคยโอ้อวดว่าเป็นผู้มีจริยธรรม มีคุณธรรมแต่ผมและครอบครัวได้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

    นโยบายต่างที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน 30บาทรักษาทุกโรค พักชำระหนี้เกษตรกร ธนาคารประชาชน OTOP การแก้ปัญหายาเสพติด การแก้ปัญหาความยากจน ผมและคณะรัฐมนตรี ได้พยายามทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อทำให้นโยบายเหล่านี้ปรากฎเป็นรูปธรรม เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และยังยึดมั่นที่จะต้องทำนโยบายเหล่านี้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ ของพี่น้องประชาชนทั่วทั้งประเทศ ไม่ว่าจะต้องยากลำบากเพียงใดก็ตาม หรือมีผู้ที่ไม่พอใจการทำงานของผม ที่ไปขัดผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาก็ตาม ขอแต่เพียงพี่น้องประชาชนได้เข้าใจข้อเท็จจริงและให้การสนับสนุนผมและพรรคไทยรักไทยต่อไป

    ผมขอถือโอกาสนี้ชี้แจง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริง ตามที่ถูกกล่าวหา และขอเรียนว่า ทุกเรื่อง ทุกบรรทัดมีพยานหลักฐาน ที่พร้อมจะแสดงในโอกาสอันควรทุกเมื่อ และขอให้เชื่อมั่น ว่าเจตนารมณ์ในการทำงานของผม และพรรคไทยรักไทย คือ " ไทยรักไทย หัวใจ คือประชาชน" ขอได้โปรดมั่นใจว่า ผมขอยอมตาย ดีกว่าที่จะทำชั่ว และผมจะไม่ยอมทำลาย ความไว้วางใจ ที่ประชาชนมอบให้ผม

    จากคุณ : alisco20 - [ 15 ม.ค. 52 11:38:27 A:58.8.108.221 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com