 |
กองทุนเศรษฐกิจพอเพียงของนายอภิสิทธิ์ ฟังดูดีนะครับ แต่ ..................
. กองทุนเศรษฐกิจพอเพียง น่าจะเป็นการประยุกติ์ โดยการนำเอากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและขบวนการ SML มารวมกัน เพื่อเปลี่ยนถ่ายฐานอำนาจจากภาคประชาชนกลับคืนสู่มือภาครัฐอีกครั้งหนึ่ง โดยอาศัยเงินส้มหล่นจาก SAL เท่านั้นเองครับ โดยที่ผู้คิดกองทุนนี้มุ่งประเด็นการเมืองเป็นตัวตั้ง โดยไม่เข้าถึงปรัชญาของกองทุนหมู่บ้านและขบวนการ SML ที่แท้จริง
รายละเอียดของกองทุนเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นลักษณะของการลงไปในชุมชน ซึ่ง 1. จะเป็นการสนับสนุนแบบให้เปล่าเฉพาะในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง = SML 2. ส่วนการให้กู้ยืมจะเป็นกรณีของวิสาหกิจชุมชนที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจพอเพียง = กองทุนหมู่บ้าน กระบวนการพัฒนา ซึ่งรัฐจะเข้ามามีส่วนร่วมและ เงินในกองทุนทุกบาทที่ใช้จะต้องสอดคล้องกับปรัชญาเศรษฐกิจ ................ อ้าปากเห็นลิ้นไก่เลยใช่ไหมครับ ว่า ภาครัฐจะกลับเข้าไปควบคุมบงการเงินทุน โดยอาศัยข้อคิดเห็นจากประชาชนแล้วเอาไปทำเป็นนโยบายแล้วส่งกลับมาให้ชาวบ้าน
ปรัชญาของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและขบวนการ SML กองทุนหมู่บ้าน >> สถาบันการเงินชุมชนต้นแบบตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ธนาคารหมู่บ้าน) ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนของชุมชนโดยไม่ต้องพึงสถาบันการเงิน เมื่อครบกำหนดตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ 2547 แล้ว ธนาคารหมู่บ้านนี้ จะรวมตัวกันเป็นโครงข่ายการเงินและสวัสดิการให้ชุมชนและพัฒนาขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชน โดยปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนทั้งสิ้น 1.32 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนประเดิมและเงินเพิ่มทุนจากรัฐบาล 8.12 หมื่นล้าน บาท เงินออมจากประชาชน 3.01 หมื่นล้านบาท และเงินกู้ต่อยอดของสถาบันการเงิน 2.16 หมื่นล้านบาท จำนวนสมาชิกที่กู้เงินสะสม 10.28 ล้านคน หรือ 87%ของสมาชิกทั้งหมด มีการกู้เงินหมุนเวียนสะสม 7 รอบต่อกองทุน SML (โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน) มีหมู่บ้าน/ชุมชนรวมดครงการ จำนวน 7.94 หมื่นหมู่บ้าน จุดประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารให้แก่ส่วนปกครองท้องถิ่นให้สามารถตัดสินใจใช้จ่ายได้ตามความต้องการของส่วนรวม เพื่ออุดรอยรั่วส่วนที่การพัฒนาของภาครัฐเข้าไปไม่ถึงอีกทั้งเป็นการประหยัดงบประมาณของรัฐในการเข้าไปจัดการเรื่องนี้ สัดส่วนโครงการ SML เมื่องบประมาณ 2551 แบ่งเป็น 25.97% เป็นโครงการด้านสาธารณูปโภค 44.83 % เป็นโครงการด้านการเกษตร 16.66% เป็นโครงการด้านการส่งเสริมอาชีพและการสร้างรายได้ 11.43% เป็นโครงการด้านสวัสดิการชุมชน และอื่นๆอีก 1.2%
ของเดิมของเขาดีอยู่แล้วครบถ้วน พัฒนาความเข็มแข็งของทั้งบุคคลากรและชุมชน ถ้าไม่มีการรัฐประหาร โครงงานส่วนนี้ก็จะสำเร็จสมบูรณ์ไปแล้ว ทำไมไม่ต่อยอดเติมเต็ม ใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี โครงการนี้ก็จะถูกเติมเต็ม
แล้วใช้องค์กรเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยถือโอกาสนี้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ถูกบิดเบือนให้ไปอยู่ในมือกลุ่มนายทุนกลับมาอยู่ในมือวิสาหกิจชุมชนที่อยู่บนมือผู้บริโภค .................... ไปนั่งนับหนึ่งใหม่ เพื่อกลับไปย้อนรอยเดิมทำไม
โอบามา Change ไปข้างหน้า แต่ โอบามาร์ค Change ไปข้างหลัง พศ.นี้ 2552 แล้วนะครับ ตาสี ตาสา ตามสายตาของท่านโอบามาร์ค สูญพันธ์ไปจากเมืองไทยตั้งแต่ปี 2544 แล้ว .................... ซิบอกให้
ตรูหล๊ะหน่ายแหนง ....................... โอบามาร์ค
จากคุณ :
บุรุษหน้าเหล็ก
- [
20 ม.ค. 52 12:54:22
A:117.47.5.40 X:
]
|
|
|
|
|