”ทฤษฎีการสร้างภาพ”

ในต่างประเทศ ภาพพจน์ของผู้นำ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะมี ทีมที่ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ภาพพจน์และบุคลิกภาพโดยตรงงานไหนควรจะแต่งตัวอย่างไร ควรจะหยิบยกเรื่องอะไรมาพูดงานไหนควรไป งาน ไหนไม่ควรไป มีข้อกำหนดรายละเอียดปลีกย่อยเต็มไปหมด

เพื่อสร้างภาพนั่นเอง

ทฤษฎีของการสร้างภาพก็คือ ทำอย่างไรจะได้รับความศรัทธาหรือเป็นที่สนใจของมวลชน ถ้าผมจะ สรุปเป็นคำพูดแบบไทยๆ ก็คือ ต้องขยันออกมาตรการ นโยบายมาให้เยอะเอาไว้ก่อน ทำได้หรือไม่ได้ไม่รู้เพื่อให้ดูว่ามีกึ๋น อะไรที่เป็นข้อผิดพลาดก็ให้หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถาม แล้วสร้างเรื่องประเด็นใหม่ขึ้นมาเบี่ยงเบนความสนใจเอาดี ใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เป็นนักฉกฉวยโอกาส จัดฉากโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ รู้วิธีกำจัดจุดอ่อน

ที่สำคัญ ต้องใจกล้าหน้าด้าน

ในสถานการณ์อย่างนี้ผมว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องอาศัยทฤษฎีการสร้างภาพเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วย นับ ตั้งแต่ภาพพจน์ความเป็นนายกฯ ที่ถูกมองว่าเป็นนายกฯหุ่นเชิด เพราะฉะนั้นการที่นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขันอาสา มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หรือรีบตั้งกฎเหล็ก 9 ข้อ เพื่อให้เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติของ ครม.

ส่วนจะทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่อง

ข้อต่อมาคือภาพของรัฐบาลสีเขียว ที่มาของ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และยังไม่ทันจะตั้งรัฐบาลกันเรียบร้อย ก็เซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์ สุวรรณ น้องชาย รมว.กลาโหมกลับเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.ทันที แล้วทั้งสองคนก็สนิทกับกลุ่มเพื่อนเนวิน

หรือกรณีที่ คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ คนที่ยืนเคียงข้างพันธมิตรฯ มาตลอด ตอบคำถามสื่อต่างชาติว่า การเข้ายึดสนามบินของพันธมิตรฯ เป็นเรื่องสนุก อาหารอร่อย ในบรรยากาศที่สวย งาม พันธมิตรฯ ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งที่การเข้ายึดสนามบินที่ผ่านมาเข้าข่ายความผิดการบินสากลออกทนโท่

ไม่พ้นข้อครหาว่าถูกสีเหลืองครอบงำ

หรือแม้แต่คำตอบของนายกฯ อภิสิทธิ์ต่อกรณีที่จะต้องดำเนินคดีทางกฎหมายกับ ผู้ชุมนุมที่ทำผิด กฎหมาย ก็เป็นคำตอบที่รู้กันอยู่ ในใจแล้ว คือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ผมจะแถมท้ายเป็นการดัก คอด้วยว่า เมื่อถูกถามนานๆเข้า ก็จะตอบว่า รัฐบาลจะไม่ไปก้าวก่ายล้วงลูก
ถ้าต่อจิ๊กซอว์ตั้งแต่เริ่มวิกฤติมีการชุมนุมประท้วง ประชาธิปัตย์ อารยะขัดขืนไม่ส่งผู้สมัครลงเลือก ตั้งหลังการยึดอำนาจ คนของประชาธิปัตย์ได้รับเลือกมาเป็น รมต. และมีตำแหน่งระดับสากล เลือกตั้งอีกที ก็ไม่ชนะ แต่ รัฐบาลที่ชนะการเลือกตั้งเข้ามาไม่สามารถบริหารงานได้อย่างราบรื่น ทั้ง ส.ว.ลากตั้งและพันธมิตรฯ นักวิชาการสาย ทหารถล่มกันยับ ส.ส.ประชาธิปัตย์และสมาชิกไปเป็นแกนนำพันธมิตรฯหลายคน ยึดทำเนียบรอ ในขณะเดียวกันประชา ธิปัตย์รอดจากการตรวจสอบของรัฐธรรมนูญได้อย่างปาฏิหาริย์ พรรคอื่นตายหมด พอได้เป็นรัฐบาล สถานการณ์ดูราบ รื่นไปหมดทุกเรื่อง เป็นกระบวนปล้นประชาธิปไตยที่ไม่สง่างาม.


                                                       หมัดเหล็ก

[ที่มา ไทยรัฐ, 26 ธ.ค. 51 ]

จากคุณ : จำปีเขียว - [ 21 ม.ค. 52 19:40:33 A:118.172.191.13 X: ]