http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdOREl5TURFMU1nPT0=§ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB5TWc9PQ==
ให้ผ่าตัด"ปาก"กลับจับไป"ขริบจู๋ "-โวยหมอมั่ว
แม่พาลูก แจ้งความ ให้คลินิก รับผิดชอบ
ผ่าผิดที่- ผู้ปกครองพาด.ช.ภานุมาศ คู่โค อายุ 12 ปี เข้าร้องเรียนสถานีวิทยุสวพ.91 ระบุไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่งในอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เพื่อให้ผ่าตัดตุ่มเม็ดในปาก แต่หมอกลับขริบหนังหุ้มอวัยวะเพศแทน ตามข่าว
คลินิกในสังกัด 30 บาท รักษาผิดวัตถุประสงค์คนไข้ ให้ผ่าตัดเม็ดในปากกลับ"ขริบ"อวัยวะเพศเผยแม่พาลูกชายอายุ 12 แจ้งตร.พระประแดง ก่อนเข้าร้องเรียนสวพ.91 หมอคลินิกย่านพรประแดง รักษาผิด เด็กมีปุ่มขึ้นในปากกลับจัดการขริบอวัยวะเพศแทน ยันหมอเจ้าของไข้ทิ้งโน้ตให้หมออีกคนช่วยจัดการ โวยหาผู้รับผิดชอบ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.เอฟเอ็ม 91 ถ.พหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. มีนางรัตนาพร มนัสชื้น อายุ 45 ปี พร้อมด้วยนายเศรษฐศิริ คู่โค อายุ 19 ปี และ ด.ช.ภานุมาศ คู่โค อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อยู่บ้านเลขที่ 24/6 หมู่ 6 ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เดินทางเข้ามายังสถานี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีพาบุตรชายไปผ่าตุ่มเม็ดในปาก ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในอ.พระประแดง โดยใช้สิทธิตามหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค) แต่ทางแพทย์กลับ ไปขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศแทน
ด้านนางรัตนาพร กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน บุตรชายเกิดมีเม็ดแข็งๆ ขึ้นที่ริมฝีปากด้านใน บริเวณมุมซ้าย 1 เม็ด ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเม็ดดังกล่าวมีขนาดโตขึ้นเท่าเม็ดถั่วเขียว และบุตรชายมีอาการเจ็บ ทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหาร และเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ตนพร้อมด้วยนายเศรษฐศิริ ลูกชายคนโต จึงตัดสินใจ พาน้องไปพบแพทย์ที่คลินิกดังกล่าว ตั้งอยู่ถ.นครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปรา การ ซึ่งเป็นคลินิกหน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการรับส่งต่อ โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ในสังกัดหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ตนและครอบครัวมีสิทธิอยู่ เมื่อวันที่ 19 ม.ค. เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา โดยตนนั่งรออยู่ถึงเวลา 18.00 น. บุตรชายจึงได้ตรวจกับนายแพทย์เจ้าของคลินิก ภายหลังจากที่นายแพทย์ตรวจวินิจฉัย ได้นัดหมายให้ตนพาบุตรชาย มารับการผ่าตัดในเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน เนื่องจากตอนนั้นมีคนไข้แน่นมาก
เมื่อเดินทางมาพบแพทย์เจ้าของคลินิกตามนัดหมายก็ไม่พบ แต่มีคุณหมอ 1 คน และพยาบาล 2 คน ซึ่งเข้าเวรอยู่แทน โดยเมื่อมาถึงทางพยาบาลบอกว่าคนไข้มาแล้ว จากนั้นก็พาบุตรชายเข้าห้องผ่าตัด โดยห้ามตนและนายเศรษฐศิริ เข้าไปภายในห้องผ่าตัด ขณะที่หมอผ่าตัด ตนได้ยินเสียงบุตรชาย พูดบอกหมอว่าเจ็บที่ปากตลอดเวลา แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้อง กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนเห็นว่านานผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปแง้มผ้าม่านดู ก็ต้องตกใจเพราะเห็นแพทย์และพยาบาลกำลังช่วยกันเอาผ้าก๊อซซับเลือด บริเวณอวัยวะเพศของบุตรชายตน จึงรีบเดินออกมาบอกนายเศรษฐศิริให้รีบโทรศัพท์ไปตามพ่อมา
นางรัตนาพร กล่าวต่อว่า ต่อมาบุตรชายเดินหน้าซีดออกมาจากห้องผ่าตัด ตนถามว่าหมอผ่าที่ปากหรือยัง บุตรชายเปิดปากให้ดู พบว่ายังมีเม็ดอยู่เช่นเดิม โดยบุตรชายบอกว่าหมอผ่าตัดที่อวัยวะเพศแทน ทางด้านนายเศรษฐศิริ บุตรชายอีกคน เข้าไปสอบถามคุณหมอ ว่าทำไมไม่ผ่าตัดที่ปาก ซึ่งเป็นจุดที่คนไข้เจ็บ และนายแพทย์เจ้าของคลินิกวินิจฉัยให้ทำการผ่าตัดออก พร้อมกับขอดูใบสั่งงานของแพทย์ว่าเขียนว่าอะไร แต่ทางพยาบาลไม่ยอมให้ดู และเข้าไปพูดคุยกับหมอที่ผ่าตัดในห้อง ต่อมาหมอคนดังกล่าวได้ออกมาบอกว่า ที่ต้องผ่าตัดที่อวัยวะเพศ เพราะมีความผิดปกติ ปลายไม่เปิด อวัยวะเพศคดงอและตรงโคนเป็นหนอง ทำให้ตนงงว่าเป็นไปได้อย่างไร สอบถามบุตรชายก็บอกว่าไม่ได้เจ็บปวดอะไร ทางตนและบุตรชายจึงต่อว่าหมอ มารักษาด้วยอาการที่ปากแต่กลับไปขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้แทน และยืนยันให้หมอผ่าเม็ดที่ในปากบุตรชายตนให้ด้วย ตอนแรกหมอคนดังกล่าวไม่ยอม แต่ในที่สุดก็ยอมตามที่ตนต้องการ จากนั้นพวกตนจึงกลับมาที่บ้าน แต่ปรากฏว่าบุตรชายมีไข้ขึ้น ตนจึงกลัวว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง และได้ปรึกษากันในที่สุดจึงไปแจ้งความลงประจำวันเอาไว้กับร.ต.ต.สายันต์ ภูพรรนา พนักงานสอบ สวน สถานีตำรวจภูธรพระประแดง กรณีที่แพทย์ทำการรักษาพยาบาลผิดจุดประสงค์ของคนไข้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
นางรัตนาพรกล่าวอีกว่า ตำรวจแนะนำว่าต้องไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอาเอง จากนั้นตนจึงเดินทางไปพบนายแพทย์เจ้าของคลินิกดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงสาเหตุความผิดพลาด และการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่กลับได้รับคำตอบจากนายแพทย์เจ้าของคลินิกว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด และแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ส่วนเรื่องความรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายเอาไว้ให้แผลหายก่อนแล้วค่อยมาคุยกันภายหลัง แต่เมื่อสอบถามถึงนายแพทย์ที่ทำการผ่าตัดลูกชายตน กลับได้รับการปฏิเสธ ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ-สกุล แม้กระทั่งพยาบาล 2 คน ที่เข้าเวรผู้ช่วย ของคืนที่ผ่านมาก็ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ สกุล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดที่แพทย์ผู้รักษา หรือแม้แต่เจ้าของคลินิก ต้องรับผิดชอบ ความรู้สึกของเด็กวัย 12 ปี ที่เกิดอาการเจ็บป่วย เดินเข้ามาขอรับการรักษาจากสถานพยาบาล ที่อยู่ในสังกัดหลักประกันสุขภาพโครงการ 30 บาท แต่กลับรักษาผิดจุด ผิดวัตถุประสงค์ของคนไข้ อย่างกรณีของน้อง เจ็บที่ปาก แต่ไปผ่าตัดที่อวัยวะเพศ ความรู้สึกของเด็กจะเป็นอย่างไร แม้จะไม่เกิดผลข้างเคียง แต่อยากให้มองความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่ว่า "ผิดพลาดไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้" เท่ากับหมอ ไม่ยอมรับความผิดที่เกิดขึ้นเลย
ทางด้านด.ช.ภานุมาศ กล่าวว่าหลังจากที่คุณหมอ ให้ตนเข้าห้องผ่าตัด ถามว่าเจ็บตรงไหน ตนบอกว่าที่ปากพร้อมกับชี้ที่ปาก แต่ทางหมอกลับบอกให้ตนขึ้นไปนอนบนเตียงและถอดกางเกงออก ซึ่งขณะนั้นทักท้วงคุณหมอ และพยาบาลว่า เจ็บที่ปาก ไม่ใช่อวัยวะเพศหลายครั้ง แต่คุณหมอ และพยาบาลไม่สนใจฟัง พร้อมกับลงมือฉีดยาชาที่อวัยวะเพศของตน แล้วทำการผ่าตัด รู้สึกตกใจและกลัว จึงไม่กล้าขัดคำสั่งหมอ ได้แต่พยายามบอกหมอให้หยุดแต่ไม่เป็นผล
แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 52 13:50:09
จากคุณ :
บูม..
- [
22 ม.ค. 52 09:31:09
A:61.19.52.6 X:
]