ความคิดเห็นที่ 1 รัฐบาลสมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้กู้เงิน IMF ส่วนคนทำลายค่าเงินบาท ไม่ทราบครับ แต่มีข่าวลือต่างๆนาๆ มากมาย อยากเชื่อใครก็เลือกเชื่อเอาเอง ส่วนมากข่าวลือจะเกี่ยวกับคนใกล้ชิดรัฐบาลพลเอกชวลิต จากคุณ : นายสันทัด - [ 28 ม.ค. 52 21:14:47 A:61.90.105.156 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 แกล้งโง่หรือเปล่า จากคุณ : เฒ่าวัย 56 - [ 28 ม.ค. 52 21:17:03 A:124.120.198.43 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 บริษัทนายกทักษิณซื้อดอลล่าร์ร่วม ๕๐๐ ล้านเหรียญก่อนลอยค่าเงินแค่ ๒ วัน ท่านคิดว่า http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2007/06/P5536944/P5536944.html กรณีความลับเกี่ยวกับการลดค่าเงินบาท http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6478317/P6478317.html เปิดหลักฐาน'ทักษิณ'ยอมรับรู้เรื่องประชุมลดค่าเงินบาท-มือมืดโทรแจ้งข่าวตอน 4 ทุ่ม ?????{แตกประเด็นจาก P6513411} http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6514737/P6514737.html เปิดคำพิพากษาไขความลับ'โภคิน-ทักษิณ' ลดค่าเงินบาทใครได้ประโยชน์ ??????? http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6513411/P6513411.html เปิดหลักฐาน ... 'ทักษิณ'ยอมรับรู้เรื่องประชุมลดค่าเงินบาท-มือมืดโทรแจ้งข่าวตอน 4 ทุ่ม http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/04/P6488167/P6488167.html --------------- จากคุณ : mcu51 - [ 28 ม.ค. 52 21:27:07 A:124.121.247.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 บิ๊กจิ๋วเป็นคนกู้ IMF สถานะการณ์ตอนนั้นเป็นเรื่องจำเป็น เพราะฟองสบู่แตก  โดนโจมตีค่าเงิน เศรษฐกิจที่แท้จริงอ่อนแอ คนไทยกู้เงินจากต่างประเทศมากเพราะนโยบายเปิดเสรีทางการเงิน โดยไม่มีมาตราการรองรับ เช่นการปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ของพรรคประชาธิปปัตย์นั่นแหละยังจะมาโทษคนอื่นอีก บิ๊กจิ๋วกู้ IMF ได้ไม่นานก็ลาออก  สถาบันการเงิน 50 กว่าสถาบันที่ถูกปิดชั่วคราว ก็ถูกปิดถาวร โดยรัฐบาลถัดมาคือพรรค ปชป ตามด้วยนโยบาย ยาแรงที่โง่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น  นโยบายสุดโต่งทางการเงิน ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 30 เปอร์เซนต์ เพิ่มวงเงินกันสำรองหนี้เสีย จนมีแบงค์ สถาบันการเงินล้มระเนระนาด ลดสวัสดิการราชการ ให้ประชาชนประหยัด ขวัญเสียจนไม่ใช้จ่าย เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรง มีแต่คนเปิดท้ายขายของ  คนขายมากกว่าคนซื้อ บอกครงๆ เรื่องนี้ความห่วย ต้องโทษ  ปชป ที่นำพาประเทศชาติดำดิ่ง ออกนโยบายแต่ละอันเหมือนฆ่าคนอ่อนแอให้ตายๆไปเสีย ให้เหลือแต่คนที่แข็งแรง ดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปตามวงจรธรรมชาติ  แล้วแบบนี้จะมีรัฐบาลไปทำไม จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 21:50:38 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 รัฐบาลท่านชวลิต เป็นคนตัดสินใจ(จริงๆไม่ต้องตัดสินใจก็ได้มันไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่แล้ว)เข้าIMF แต่ข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆนั้น จะเจรจาสมัยรัฐบาลชวนครับ แต่หลังจากนายชวนเข้ามาเงินบาทก็ยังตกดิ่งลงเหวอยู่ ตกลงไปเกือบถึง หกสิบบาท แล้วก็มาคาๆอยู่ที่ประมาณ เกือบๆห้าสิบบาท อยู่นาน เงินบาทมาพุ่งพรวดสมัยทักษิณ ซึ่งตอนแรกๆโดนตำหนิมาก ว่าทักษิณทำบาทแข็งเกินไปเศษฐกิจไทยจะไม่โต จากคุณ : PKT - [ 28 ม.ค. 52 22:30:42 A:192.168.0.17 X:58.8.142.114 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่มจากความเห็นที่ 4 ครับ แก้กฏหมายให้ต่างชาติถือหุ้นในธนาคาร บริษัทเงินทุน และบริษัทประกันเกิน50% ได้ บังคับให้ธุรกิจการเงินต่างเพิ่มทุน ออกกฏหมายทุนรัฐวิสาหกิจ แก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นในธุรกิจโทรคมนาคมได้ มีการแก้ให้อั้นไว้ที่ 25% จากร่างแรกที่ไม่มีจำกัด แต่มาจบในสมัยทักสินกลายเป็นจำกัดไว้ที่ไม่เกิน 50% เริ่มเจรจาชวนบริษัทต่างชาติ มาร่วมหุ้นเพื่อเพิ่มทุนในรัฐวิสหกิจต่างเหมื่อนที่ทำกับธนาคารต่างๆ แต่โชคดีที่รัฐบาลชวนไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ ไม่งั้นไฟฟ้า ประปา ปตท การท่า บดท ทีโอที ได้เป็นของต่างชาติแน่ ทักสินเอาหุ้นมากระจายในตลาดหลักทรัพย์ แทนการร่วมทุนกับต่างชาติ แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 22:47:56 จากคุณ : ป้อมบ้านโป่ง - [ 28 ม.ค. 52 22:39:59 A:192.168.0.17 X:125.27.174.6 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นี้แหละสุภาษิตที่ว่า "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" เป็นนิสัยคนเสื้อแดงในห้องนี้มากจริงๆ เพราะหากใช้สติพิจารณาสักนิด ก่อนที่จะโยนบาปไปที่รัฐบาลชวน 1 เคยคิดถึงความจริงบ้าง หรือเปล่าว่า มีรัฐบาลบรรหารตามหลังมาจากรัฐบาลชวน และรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ตามมาหลัง จากรัฐบาลบรรหาร (ทั้งสองรัฐบาลนี้ มีทักษิณ เป็นรองนายกฯในคณะรัฐมนตรี) มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร (ทั้งๆที่พระเอกขี้ม้าขาวของคนเสื้อแดง ที่ชื่อทักษิณ เป็นรองนายกฯในสองรัฐบาลก่อนเกิดวิกฤติการณ์ ก็ไม่ยอม ใช้ความเป็นอัจฉริยะของตนเอง ที่จะเตือนนายกฯหรือรมต.คลังสมัยนั้น ให้แก้ไขก่อนภัยมา) ช่างน่าชื่นชมพระเอกขี่ม้าขาวที่อยู่ในรัฐบาล 2 ปีกว่าก่อนเกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ และมีข่าว อีกว่าพระเอกคนนี้ได้ประโยชน์จากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ เพราะทราบข่าวการลดค่าเงินบาทล่วงหน้า เป็นอย่างนั้นไปเสียอีก จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 22:57:50 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 #7 ตกลงคนขี้ทิ้งไว้  ไม่ผิด คนตามหลังมาไม่เก็บขี้  เป็นคนผิด แรกๆก็ดูดีนะคุณ  หลังๆลายแมลงสาปออกชัดเชียว จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:06:08 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 นี่แหละตัวอย่างของสุภาษิต "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" 55555 จากคุณ : daisyduck - [ 28 ม.ค. 52 23:06:11 A:125.25.224.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7457477/P7457477.html ทักษิณ เป็นรองนายกให้ จิ๋ว หลังจากเราเซ็น LOI ไปเรียบร้อยแล้วครับ... จากคุณ : SaVor - [ 28 ม.ค. 52 23:14:48 A:192.168.0.17 X:210.86.209.30 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ช่างน่าชื่นชมพระเอกขี่ม้าขาวที่อยู่ในรัฐบาล 2 ปีกว่าก่อนเกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ และมีข่าว อีกว่าพระเอกคนนี้ได้ประโยชน์จากวิกฤติการณ์ครั้งนี้ เพราะทราบข่าวการลดค่าเงินบาทล่วงหน้า เป็นอย่างนั้นไปเสียอีก จากคุณ : thyrocyte ^ ^ ^ นี้แหละสุภาษิตที่ว่า "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" หมดมุกช่วยรัฐบาลต้นเหตุเสรีการเงิน ก็โยนให้บรรหารและรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ไม่มีโทษปชป.ซักแอะ แถมเดี๋ยวนี้มือตกขนาดเล่นข่าวไร้ราคาอย่างรู้เรื่องค่าเงินล่วงหน้าแล้วรึ จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน - [ 28 ม.ค. 52 23:15:52 A:124.121.173.74 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ เช่นกัน โดยลักษณะการโพสต์แบบคห.9 นี่แหละเข้ากับสุภาษิต "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" จริงๆ จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:16:09 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ต่ออีกนิด#7 ว่างๆก็เข้าไปอ่านลิงค์ของคุณ mcu51 ความคิดเห็นที่ 3 จะได้เลิกใส่ร้ายคนอื่นลอยๆเสียที แบงค์ชาติสู้ค่าเงินจนป้อแป้มากี่วัน  ใครจะไม่รู้ว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น งานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็น insider หรอก เขาเรียกว่ารู้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ค่ะ จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:16:29 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 คห.10 เองละครับ ก่อนจะโยนบาปไปให้รับบาลชวน 1 นะลองตอบคำถามดูหน่อยที่โพสต์ไว้ให้ข้างบน "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร" ตอบหน่อยน่า ก่อนไปเที่ยวว่าผู้อื่นเค้า จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:18:23 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 งานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็น insider หรอก เขาเรียกว่ารู้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ค่ะ ************************************************ โอโฮ แสดงว่าเมืองทั้งทั้งประเทศนี้มีทักษิณเป็นนักวิทยาศาตร์อยู่คนเดียวเลยนะครับ จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:20:23 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ : thyrocyte วันนี้เหตุผลอ่อนจัง นักธุระกิจส่วนใหญ่คงรู้กัน ไม่งั้นแบงค์ชาติ คงไม่สู้ค่าเงินจนเสียสติขนาดนั้น แต่กลับตัวไม่ทัน เพราะภาคธุระกิจอ่อนแอ ฟุ้งเฟ้อ กู้เงินนอก มามาก จนไม่มีสภาพคล่องเพียงพอ คนรอดไม่ได้มีคนทักษิณคนเดียวหรอกคุณ จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:26:13 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 และยังมีข้อข้องใจ ที่อยากจะสอบถามดังที่โพสต์ไว้ (ไม่ใช่โยบาปให้ผู้ใด เป็นข้อสงสัย) ว่าทำไม ในเมื่อท่านทักษิณเก่งและฉลาดปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ เมื่อเวลาอยู่ร่วมในสองรัฐบาล แม้ว่าจะอยู่ ในฐานะรองนายกฯก็ตาม ได้เคยแสดงให้ปรากฏหรือไม่ว่า ท่านทักษิณผู้ปราดเปรื่อง ได้เล็งเห็น แล้วซึ่งภัยพิบัติ อันเกิดจากนโยบายเปิดเสรีทางการเงิน และประเทศไทยจะเข้าสู่วิกฤติเศรษฐกิจ ที่รุนแรง ได้เคยมีการทักท้วงรัฐบาลที่ตนเองร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ หรือได้เคยแสดงความเห็นต่อ เรื่องนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ ผมว่าด้วยความเป็นอัจฉริยะของท่านนี้ น่าจะต้องเห็นนะ จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:28:32 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 คห.16 ไม่รู้จริงแล้ว พูดปนเปกันแล้วครับที่ว่า นักธุระกิจส่วนใหญ่คงรู้กัน ไม่งั้นแบงค์ชาติ คงไม่สู้ค่าเงินจนเสียสติขนาดนั้น ************************************************ นักธุระกิจส่วนใหญ่คงรู้กัน ค้าน-เรื่องการลดค่าเงินบาท(ปล่อยค่าเงินบาทลอยตัวแบบ managed floated แทนตะกร้าเงิน) ไม่มีนักธุรกิจผู้ใดรู้เลย เราะถ้ารู้ ทุกคนจะพากันไปเก็งกำไรหรือซื้อประกันการเงินล่วงหน้า เรื่องนี้มีคนรู้ไม่กี่คน และที่เห็นชัดๆก้คือเครือบริษัทนั้นแหละ ********************************************** ไม่งั้นแบงค์ชาติ คงไม่สู้ค่าเงินจนเสียสติขนาดนั้น ค้าน- อยู่ในประโยคบรรทัดเดียวกัน แต่เป็นคนละเรื่องกันเลย แบงค์ชาติสู้เพราะไม่ต้องการจะเปลี่ยน การแลกเปลี่ยนเงินบาทแบบตะกร้าเงินที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเปรม มาเป็นmanaged floated ซึ่งค่าเงินบาท จะลดลงรุนแรงในช่วงแรก นักธุรกิจไม่มีใครรู้ข้อมูลวงในว่าแบงค์ชาตินะเอาเงินทุนสำรอง ไปสวอปซื้อเงิน บาทล่วงหน้า จนเงินทุนสำรองหมด เรื่องนี้เป็นความลับที่รู้เฉพาะผู้ที่อยู่ในรัฐบาล จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:34:46 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นที่ 14   คห.10 เองละครับ ก่อนจะโยนบาปไปให้รับบาลชวน 1 นะลองตอบคำถามดูหน่อยที่โพสต์ไว้ให้ข้างบน "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร" ตอบหน่อยน่า ก่อนไปเที่ยวว่าผู้อื่นเค้า -------------------------------- ผิดก็ยอมรับผิดมั่งเถอะคุณ  ต้องยอมรับซิใครเปลี่ยนแปลงนโยบาย ต้องรับผิดชอบคิดถึงผลดีผลเสียให้รอบด้านก่อน คนมาทีหลังก็ไม่ได้มานั่งดูเรื่องนี้ทันที  บางทีมันก็มีเรื่องอื่นให้แก้ไขก่อน ถ้าไม่โยนปาบให้คนทำ  หรือคุณคิดว่าควรโยนให้ใคร ที่แย่ที่สุดคือวิธีบริหารวิกฤติปี 40 ของ  ปชป  มันแย่จริงๆ แย่ขนาดฝังคนที่ชื่อธารินทร์ ไปจากวงการนักเศรษฐศาสตร์การเงินการคลังของเมืองไทย จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:35:38 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 คห.19 ช่วยตอบให้ตรงประเด็นหน่อย "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร" ตอบหน่อยน่า ให้เวลาคิดหนึ่งคืน พรุ่งนี้จะมาน้อมรับฟังคำแนะนำในเรื่องนี้ แต่ตอบให้ตรงคำถามนะ จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:38:11 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 แย้งยังไง แบงค์ชาติเองก็รู้ว่าถ้าแพ้  จะเกิดความสูญเสียอะไรกับนักธุระกิจไทย ถึงได้สู้ รึคุณคิดว่าแบงค์ชาติไม่มี connection กับนักธุระกิจไทย จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:38:37 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าไม่เข้าใจคำถามจะถามให้ง่ายๆว่า ทำไมถึงไม่มีใครแก้ไขนโยบายเสรีทางการเงินเสียก่อน ในเมื่อมีเวลาตั้ง 2 ปี ตอบ แค่นี้แหละ พรุ่งนี้จะมาน้อมรับฟัง จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:39:39 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อนออฟไลน์จะบอกว่า ถ้าคุณไม่ NGO คุณจะรู้ว่าแบงค์ชาตินะมีคอนเนกชั่นกับนักธุรกิจใหญ่บางคน นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ที่มีนับหมื่นๆคน แบงค์ชาติไม่มีคอนเนกชั่นด้วย อย่าทำเป็น NGOเลยนะครับ พรุ่งนี้คงได้เห็นคำตอบจากคำถามที่ฝากไว้ จากคุณ : thyrocyte - [ 28 ม.ค. 52 23:41:47 A:124.121.32.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 #20 งั้นคุณตอบให้ได้ก่อน  ทำไม ปชป  ถึงไม่คำนึงถึงผลดีผลเสียก่อนให้รอบคอบ   และปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่เหมาะสมมารองรับนโยบายของตน คนทำย่อมต้องศึกษาได้ถ้วนถี่กว่า  และต้องเป็นคนรับผิดชอบก่อนใคร ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:43:18 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่าน่ะ....ตอนนั้น ทั่นๆ นักวิชาเกิน ทั้งหลายเรียงหน้ากันออกมาพูดว่าหนี้ IMF อีกกี่สิบปีถึงจะใช้หมด ลูกหลานเกิดออกมาพอลืมตาดูโลกปุ๊ปจะมีหนี้สินติดตัวกันทันที จำกันได้ป่าว วันๆ ได้ยินแต่เรื่องนี้จนผมอดคิดไม่ได้ว่ารัฐบาลยุคนั้น และยุคต่อมา ทำกันได้แค่นี้หรือ...กู้เป็นอย่างเดียวจริงๆ หาไม่เป็น ได้แต่โทษนั่นโทษนี่ ...คนรวยหลายคน กลายเป็นคนเคยรวย ข่าวฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ อ่านกันจนชินชา ตอนนั้นเล่นนัวเลย น่าเบื่อมากๆ มีแต่คนออกมาพูดนั่นโน่นนี่ แต่ไม่เห็นมีใครออกมากู้เศรษฐกิจของชาติได้ซักคน เท่าที่เห็นมีแต่ซ้ำเติมให้หนักกว่าเก่า แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 52 23:46:38 จากคุณ : ง่ายยิ่งกว่านับ 123 - [ 28 ม.ค. 52 23:43:59 A:192.168.0.17 X:202.176.84.143 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กลายเป็นประเด็น -ใหญ่-ไำปเสียแล้ว ช่วยข้อมูล เพิ่ม ------------------------------------------------------- การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยภายใต้การขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินและวิชาการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กองนโยบายและวางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง http://www.mof.go.th/fpobul/FFU001.htm ------------------------------------------------------ จากคุณ : mcu51 - [ 28 ม.ค. 52 23:44:04 A:124.121.247.26 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 เออ  ยุคเบื้องลอยฟูจริงๆ วุ้ย คนเรามันจะเห็นผิดเป็นชอบได้ขนาดนี้   คนคิดนโยบายให้เกิดปัญหา ไม่ผิด คนผิดที่สุด คือคนที่ไม่ได้ทำ  แต่ไม่แก้ให้ ไม่ว่ากัน ถ้าขนาดนี้แล้ว ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ คำว่าเหตุผลและความรับผืดชอบ จะยังมีในสังคมไทยอีกไหมเนี่ย ปลงดีว่า... จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 28 ม.ค. 52 23:49:23 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ......ใครจะหลับหูหลับตาเชื่อ ลิ้ม........โดยไม่ค้นหาความจริงก็เชื่อไปเถอะครับ.........การค้นหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ต้องเข้าห้องสมุด ครับ......ไม่งั้นก็ท้าพิสูจน์กันร่ำไป..........ฟองสบู่เกิดเพราะ นาย ธารินทร์ เสนอ กม. ให้การกู้เงินจากต่างประเทศไม่ต้องมีการรับรองจากกระทรวงการคลัง.........กู้เงินเอามาเก็งกำไรกัน.......พอถึงเวลาคืนก็ไม่มีปัญญาคืน.....ฟองสบู่แตก.........ปชป. แก้ปัญหาโดยการไปยืมเงิน IMF เอาประเทศชาติค้ำประกัน..........แล้วรู้ใหมครับใครสามารถปลดหนี้ได้........ จากคุณ : เด็กส่งโอเลี้ยง - [ 29 ม.ค. 52 00:01:55 A:124.120.153.145 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 29 ม.ค. 52 00:04:16 A:58.9.140.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 .          อย่าไปโทษบิ๊กจิ๋วหรือนายกทักษิณเลยครับ .............. แผนธารินทร์ 35-43 ที่เราไปอิง IMF เริ่มต้นมาจากชวน 1 (วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2535 ถึง 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538) แล้วครับ เพียงแต่ไม่ต่อเนื่อง เพราะมี 2 นายกมาขัดดอก คือ                    นายกบรรหาร ศิลปอาชา (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538-25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539)                    นายกพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539-9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)          พอนายชวน หลีกภัย กลับมาครั้งที่ 2 ( 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540-17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544) ก็ดำเนินการกู้เงินตามแผนธารินทร์ 35-43 ต่อไป           วันที่ 18 เมษายน 2541 นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการถาวรกองทุนการเงินระหว่างประเทศIMF โดยได้รับเงินเดือนประจำ และทำงานให้กับ IMF           วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2541 ธนาคารโลก และ IMF แต่งตั้งนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นรับตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาธนาคารโลกและกองทุนระหว่าง ประเทศ(IMF) อย่างเป็นทางการ  เพื่อรองรับปฏิบัติการตาม แผนธารินทร์ 35-43 ให้แล้วเสร็จตามคำสั่งของ IMF จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก - [ 29 ม.ค. 52 00:13:38 A:222.123.236.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 มีพวกสาวกชวนด้วยวุ้ย  แก้ตัวให้ใหญ่เลย  โห....แถ เก่งมาก แก้ปัญหาไม่เคยได้ แต่แถ เก่งมากกกกก โหห เทพๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : หึหึ (รักสาวเกาหลี) - [ 29 ม.ค. 52 00:16:23 A:125.25.74.0 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 23   ก่อนออฟไลน์จะบอกว่า ถ้าคุณไม่ NGO คุณจะรู้ว่าแบงค์ชาตินะมีคอนเนกชั่นกับนักธุรกิจใหญ่บางคน นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ที่มีนับหมื่นๆคน แบงค์ชาติไม่มีคอนเนกชั่นด้วย อย่าทำเป็น NGOเลยนะครับ พรุ่งนี้คงได้เห็นคำตอบจากคำถามที่ฝากไว้ จากคุณ : thyrocyte --------------------------------- แบงค์ชาติทำเพราะหวังจะปกป้องนักธุระกิจส่วนใหญ่และระบบเศษฐกิจของประเทศอยู่แล้ว เพราะรู้หากปล่อยให้ค่าเงินลอยตัวจะเกิดหายนะอย่างไร แต่ในที่สุดสู้จนหมดตัวก็แพ้  และจำเป็นต้องปล่อยให้ค่าเงินลอยตัวอยู่ดี ขั้นตอนนี้ดิฉันเชื่อว่านักธุระกิจใหญ่ๆรู้หมดไม่ใช่คุณทักษิณคนเดียว รายเล็กอาจจะไม่รู้  หลายคนที่มีสภาพคล่องในมือก็ซื้อดอลลาร์เก็บไม่มีใครโง่หรอก แต่คนที่ลงทุนจนไม่มีสภาพคล่อง และกู้เงินต่างประเทศมา ก็จำต้องนั่งดูหายนะของตนเอง แบบทำอะไรไม่ได้ ตอบคำถาม ส่วนคุณทักษิณจะโง่หรือฉลาด จะเล็งเห็นหรือไม่ก็ตามก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะคนที่ต้องรับผิดก่อนใครดิฉันขอยืนยัน  คือรัฐบาลชวน1 ค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 00:27:28 จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 29 ม.ค. 52 00:21:37 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 คห 31 พวกนี้เค้าแถเป็นกิจวรรจ จากคุณ : antirule - [ 29 ม.ค. 52 00:26:44 A:124.120.89.240 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 คห.32 คุณต้องการให้รัฐบาลชวน 1 รับผิดชอบยังไงครับ .. ยุบสภาดีไหมครับหรือว่ายัง .. จากคุณ : ทองมา (pom_np) - [ 29 ม.ค. 52 00:31:33 A:192.168.0.17 X:124.120.84.25 ]

ความคิดเห็นที่ 35 #34 อูย...แค่ไม่โบ้ยอุจจาระให้คนอื่นก็พอแล้ว ไม่เห็นเรอะ คุณ : thyrocyteจะโบ้ยความผิดให้ใคร แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 00:38:27 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 00:37:48 จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 29 ม.ค. 52 00:36:03 A:222.123.27.118 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชวน 1 เปิดเสรีทางการเงิน แต่ไม่มีวิธีการจัดการเงินทุนไหลเข้า เชาวลิต กู้ imf มาถึงตอนที่ไม่เหลือเงินสำรองแล้ว จึงต้องปล่อยค่าเงินลอยตัว ชวน 2 ทำตามนโยบาย imf ตอนครึ่งสมัยแรก รัดเข็มขัด แต่ครึ่งหลัง เริ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการฉีดเงิน ผ่านมิยาซาว่า จากคุณ : สงสัยจัง - [ 29 ม.ค. 52 01:00:05 A:1.1.1.244 X:114.128.57.85 ]

ความคิดเห็นที่ 37 12-13 ปีแล้ว นึกว่ารู้กันหมดแล้ว ใครร่ำรวยจากการลดค่าเงินบาท แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 01:15:51 จากคุณ : เทพินทร์ - [ 29 ม.ค. 52 01:14:02 A:192.168.0.17 X:202.5.87.153 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขี้ทิ้งเอาไว้ แล้วหนี จากคุณ : film2u - [ 29 ม.ค. 52 01:54:55 A:58.8.172.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 39 thyrocyte "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน ==== เป็นรองนายกนี่มีอำนาจสั่ง ครมหรือเปล่าล่ะครับ แล้วก็เข้ามาหลังเกิดวิกฤติแล้วด้วย เงินที่ว่าน่ะมีหลักฐานไหม มีแต่ข่าวลือ สมัยนั้นการย้ายเงิน 2000 ล้าน ไม่ได้ย้ายกันวันสองวันนะ ถ้าจำทำต้องรู้เป็นเดือนๆ ==== เออ...เคยกู้เงินหรือเปล่าครับ ถ้าเคยคุณจะรู้ว่า การกู้เงินต่างประเทศนั้นน่าจะมีระยะเวลาผ่อนชำระ 3-5 ปี เท่านั้น พอเปิดเสรีสมัยนั้น เขาก็ไปกู้เป็นหนี้กันไปตั้งแต่ปีแรกๆ ที่เปิดเสรีแล้วเงินกู้จำนวนมากซะด้วย จากนั้นก็ไม่มีใครที่คิดถึงว่าจะเกิด เพราะผลจาก บักจ้อด เพื่อนจวน มาตีค่าเงิน จนพังไปทั้งภูมิภาค เรื่องก็เลยมาจบที่การขายทรัพย์ด้วย ปรส นับแสนล้าน จากจวน ให้ บ.เลห์แมน  เพื่อนบักจ้อด อีกทีนั่นแล จบรายงานการกินประเทศของพรรคพรรณนี้ จากคุณ : Ken - [ 29 ม.ค. 52 05:13:14 A:58.8.87.53 X: ]

ความคิดเห็นที่ 40 กู้ตอนจิ๋วเป็นนายก และ พณ ท่าน ดร ทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในรองนายกฝ่ายเศรษฐกิจ ครับ จากคุณ : AiB - [ 29 ม.ค. 52 06:16:43 A:74.195.243.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 41 ผมเคยดูสารคดีเรื่องฟองสบู่ตามสื่อฝรั่งวิเคราะห์ไว้ เรื่องฟองสบู่มันเป็นเรื่องที่ยังไงก็ต้องเกิดอยู่แล้ว คนไทยทำกันไว้เองโดยไม่รู้สึกตัว แล้วก็มาแจ็คพอตตอนท่านชวลิตก็เท่านั้นเองครับ สื่อยังบอกว่า "แต่คนไทย ต้องการแพะรับบาป" ก๊ากกกกกก ผมได้ยินคำนี้ ฮาเลยครับ จริงครับ ไม่ว่าเรื่องอะไร คนไทยอยากจะระบายแค้น หาแพะตลอดครับ อายฝรั่งจริง ๆ เล้ย เฮ้อ คำถามว่าใครเป็นคนกู้จึงไม่สำคัญคนที่มาซ้ำเติมอย่าง ปชป ครับ ที่นโยบาย ซ้ำเติมประเทศเต็ม ๆ คล้าย ๆ ปัจจุบันลอกนโบายแบบคิดไม่เป็น แล้วก็ทุ่มเงินมากเกิน ผมว่าเริ่มมั่วแล้วครับ รอวันยุบสภาได้เลย ทำงานไม่เป็นก็ต้องกลับไปเป็นฝ่ายค้านนะครับ อิ ๆ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) - [ 29 ม.ค. 52 06:46:53 A:125.25.111.48 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณที่เอาเรื่องเก่ามาถาม แต่คราวหลัง หัดค้นคว้าใน Google น่าจะดีกว่าน่ะ จากคุณ : เพชรกลับ - [ 29 ม.ค. 52 08:49:09 A:58.9.191.101 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 สรุป ให้เวลาคนเสื้อแดงช่วยกันตอบคำถามไว้ง่ายๆแค่หนึ่งข้อ ยังไม่มีใครตอบได้เลย ได้แต่แถไปทางโน้น เรื่องหนึ่ง แถมาทางนี้เรื่องหนึ่ง พอตอบไม่ได้ ก็ดาน ไปตั้งคำถามาแก้ขวยอีก เช่นคห.24 ซึ่งเดี๋ยวจะตอบให้ เฮอ   เห็นแล้วก็เลยรู้ว่า มิน่าละถูกหลอกกันได้ง่ายๆเช่นนี้เอง ผมจะทวนคำถามที่ตั้งไว้ และยังไม่เห็นมีใครตอบมาตรงๆเลย คำถามนั้นคือ "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร" จากคุณ : thyrocyte - [ 29 ม.ค. 52 08:58:15 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 44 คนเสื้อแดงไม่ยอมตอบคำถาม แต่ผมตอบคำถามให้ ................................................................................................. ความคิดเห็นที่ 24 "งั้นคุณตอบให้ได้ก่อน  ทำไม ปชป  ถึงไม่คำนึงถึงผลดีผลเสียก่อนให้รอบคอบ"   จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน ตอบ- ปชป.ในเวลานั้น เล็งเห็นผลในทางที่ดีนะสิครับ เพราะเขาต้องการเปิดให้ไทยมีเสรีทางการเงิน เพื่อนำเงินเข้ามาพัฒนาปรับปรุงประเทศ ซึ่งเป็นการมองในแง่ดีด้านเดียว แต่อยากที่ผมถาม หากปชป. พลาดในเรื่องการมองแง่เสียของการเปิดเสรีทางการเงิน ก็ทำไมรัฐบรรหารและชวลิต จึงไม่รีบแก้ไข ช่วยตอบหน่อย ********************************************************* "และปรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่เหมาะสมมารองรับนโยบายของตน" ตอบ -จดหมายเตือนจากไอเอมเอฟ ให้ไทยเปลี่ยนระบบการแลกเปลี่ยนเงินจากตะกร้าเงินเป็น managed floated มีเข้ามาในสมัยรัฐบาลบรรหารและชวลิตด้วย แต่ก็เพิกเฉยกัน *********************************************************** "คนทำย่อมต้องศึกษาได้ถ้วนถี่กว่า  และต้องเป็นคนรับผิดชอบก่อนใคร ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น" ตอบ-นโยบายนี้ก็ยังได้รับการปฏิบัติ ไม่ยุติในรัฐบาลบรรหารและชวลิต และนำไปสู่ความล้มเหลว ทำไม รัฐบาลทั้งสองนี้ จึงไม่เลิกเสรีหรือเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อถ่วงการนำเข้าเสรีของเงิน ทั้งๆที่ ไอเอมเอฟส่งจดหมายเตือนเข้ามาหลายฉบับในช่วงรัฐบาลบรรหารและชวลิต ก่อนเกิดวิกฤติการณ์ การเงินครั้งนั้น คุณ ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน ช่วยตอบหน่อย แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 09:17:46 จากคุณ : thyrocyte - [ 29 ม.ค. 52 09:17:23 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 45 "คนทำย่อมต้องศึกษาได้ถ้วนถี่กว่า  และต้องเป็นคนรับผิดชอบก่อนใคร ไม่ใช่เอาแต่โทษคนอื่น" คุณ ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน ช่วยตอบด้วยว่า ในเมื่อนโยบายเปิดเสรีการเงินยังมีการปฏิบัติ ในรัฐบาลชุดต่อๆมา รัฐบาลชุดนั้นๆมีสิทธิยกเลิกหรือแก้ไขปรับปรุงระบบการแลกเปลี่ยนเงิน แต่ไม่ทำ ก็ต้องมีส่วนร่วมในฐานะ "คนทำย่อมต้องศึกษาได้ถี่ถ้วนกว่า" ที่ร้ายไปกว่านั้น รัฐบาลชุดนี้มาทีหลัง มีโอกาสรับฟังความเห็นฝ่ายที่ค้านการเปิดระบบเสรีการเงิน แต่ก็ไม่ฟังยังคงเดินหน้าต่อ จากคุณ : thyrocyte - [ 29 ม.ค. 52 09:28:28 A:203.147.40.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 ยังแผ่นเสียงตกร่องไม่เลิก ######################### "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ ไม่มีใครทำอะไร" ####################### ยังจะมีหน้ามาถาม ในเมื่อคุณยังตอบไม่ได้ทำไมรัฐบาลชวน ไม่หามาตราการที่เหมาะสมมารองรับนโนบายเปิดเสรีทางเงินของตน เมื่อถามก็จะตอบให้ ออกตัวก่อนไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ ความคิดเห็นส่วนเมื่อเปิดเสรีทางการเงิน ควรเปลียนระบบอัตราแลกเปลี่ยนจากระบบตะกร้าเงินเป็นลอยตัวด้วย และทำในตอนเศรษฐกิจไทยมีความพร้อม การสวิงของค่าเงินเมื่อเปลี่ยนระบบจะได้มีไม่มาก ไม่ใช่มาปล่อยลอยตัวเมื่อมีการกู้เงินจากต่างประเทศมามากๆแล้ว  ในช่วงเศรษฐกิจเป็นขาลง ฟองสบู่เริ่มจะแตก ใครปล่อยลอยตัวค่าเงินบาท แน่นอนก็ต้องเป็นแพะแทนรัฐบาลชวน โดนนักธุระกิจด่าตรึมแน่   เพราะค่าเงินจะสวิงจากเดิมมากเรียกว่าปล่อยวันไหน วิกฤติก็คงจะเกิดวันนั้น ใครจะไปเอา จากเดิม ดอลลาร์ละ 27 บาท ถ้าปล่อยลอยตัวในภาวะ ณ รัฐบาลบรรหารเกิดเป็น 40 บาท   ก็หายนะแล้ว คงเป็นตราบาปให้คุณด่ามาจนถึงวันนี้แหละคุณ thyrocyte วิธีแก้จึงต้องยื้อไปก่อน จนกว่าภาวะเศรษฐกิจจะเหมาะสมเพียงพอที่จะปล่อยลอยตัวโดยที่ค่าเงินสวิงไม่มาก แต่บังเอิญเราไม่มีโอกาสแบบนั้น  เราถูกโจมตีค่าเงินก่อน จะยังไงก็ตามคนเราต้องมองที่ตัวเองก่อน ทำแล้วต้องยอมรับ ไม่ใช่โทษคนนั้นคนนี้ว่าทำไมไม่ทำ   หรือปล่อยให้ใครบางคนเช่นไอ้แป๊ะหัวหมูเอาอุจจาระป้ายคนอื่นเป็นการกลบเกลื่อน จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 29 ม.ค. 52 09:55:36 A:192.168.0.17 X:65.49.2.12 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 43 "มีเวลามากกว่า 2 ปี ที่รัฐบาลชวน 1พ้นจากอำนาจไป ก่อนที่จะเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงิน หากนโยบายเปิดเสรีทางการเงินมีความผิดพลาดต้องแก้ไข ก็มีเวลาตั้งแต่รัฐบาลชวนพ้นไป เหลือเฟือที่จะแก้ไขข้อผิดพลาด มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะแก้ไข แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร" ******************** เมื่อเปิดเสรีทางการเงิน  เปรียบเหมือนเปิดประตูเขื่อนให้น้ำไหลบ่าเข้ามา   ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของไทยขณะนั้นต่างกู้เงินจากต่างประเทศทั้งธุรกิจขนาด ใหญ่  กลาง  และเล็ก  แม้ธนาคารชาติอาจระแวงว่าจะเกิดผลเสีย  แต่ใคร จะกล้าเอาเรือไปขวางน้ำที่กำลังเชี่ยว  ถ้าตอนนั้นสั่งระงับการเปิดเสรีทาง การเงินทันที  ผลเสียจะมีมากกว่า  ทั้งด้านความเชื่อมั่นในนโยบายรัฐ  และ พวกที่กู้ไปแล้วจะถูกเรียกเงินคืนทันที  ความวุ่นวายจะเกิดอาจล้มเร็วขึ้นด้วย ซ้ำไป         ดังนั้นช่วงปีแรกธนาคารชาติจึงได้แต่จับตามอง  ในช่วงปีต่อมาเริ่ม เฉลียวใจ  คิดจะค่อยๆปิดประตูเขื่อน  แต่ถูกกองทุนต่างชาติโจมตีค่าเงิน ก่อน  เริ่มจากค่อยๆสะสมเงินสกุลบาท  มีสัญญาณให้เห็น  เปรียบเหมือนมี ต้นไม้ขนาดเล็กลอยตามน้ำเข้ามาประปราย  ธนาคารชาติจึงจำเป็นต้อง ต่อสู้  โดยเข้าสกัดดึงต้นไม้ขนาดเล็กนั้นขึ้น  ไม่ให้ไปพุ่งชนใส่ธุรกิจต่างๆ ของประเทศซึ่งเปรียบเหมือนสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในสายน้ำ  แต่สุดท้ายก็หลงกล เพราะการโจมตีอย่างแรงที่สุด เสมือนซุงกองทุนต่างชาติขนาดใหญ่ที่ลอย มาตามกระแสน้ำ  ธนาคารชาติรับไม่ไหว   พล.อชวลิตจึงขอความช่วยเหลือ จากจีน  ขอเงินก้อนใหญ่เปรียบเหมือนซุงใหญ่ตั้งใจจะขวางลำน้ำสกัดซุง กองทุนต่างชาติที่ลอยมาตามน้ำ  แต่ถูกบางคนดัดหลัง  จึงไม่ได้เงินจาก จีน  ผลก็คือ  ธุรกิจต่างๆของประเทศซึ่งเปรียบเหมือนสิ่งก่อสร้างที่อยู่ใน สายน้ำถูกซุงกองทุนต่างชาติพุ่งชนทำลายเสียหายจำนวนมาก          ดังนั้นที่คุณว่า....มีเวลาของรัฐบาลบรรหารและรัฐบาลชวลิตที่จะ แก้ไข แต่ก็ไม่มีใครทำอะไร.......  จึงไม่จริงครับ  เพราะเวลาเพียง 2 ปี  กับ กระแสการเงินที่พุ๋งมาอย่างรวดเร็วรุนแรงนั้น  ไม่พอให้กระแสน้ำลดกำลัง และความเร็วลง   การเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ  ต้องใช้เวลาปรับตัว   คล้ายกับโครงการขนาดใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลา  ไม่ใช่ลงมือแล้วจะเห็นผลทันที จากคุณ : ขี้ลืมจัง (เติ้ง1234) - [ 29 ม.ค. 52 10:12:52 A:124.120.109.16 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 คำวินิจฉัยของ ศปร. "วิกฤติครั้งนี้เริ่มมาจากเอกชน แต่รัฐมีส่วนทำให้ปัญหาบานปลายอย่างไม่มีขีดจำกัด" บทสรุปผู้บริหารจากรายงาน "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤติทางเศรษฐกิจ" ที่จัดทำโดยคณะกรรมการการศึกษา และเสนอแนะมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการระบบการเงินของประเทศ (ศปร.) เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล 1.ข้อบกพร่องของโครงสร้างระบบการบริหารการเงินอันนำไปสู่วิกฤตการณ์และความไม่มีประสิทธิภาพในการตัดสินใจเชิงนโยบาย วิกฤตการณ์เศรษฐกิจไทยครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากการก่อหนี้ของภาคเอกชน แต่การดำเนินนโยบายการเงินของรัฐ ก็มีส่วนทำให้ปัญหาการก่อหนี้บานปลายอย่างแทบไม่มีขีดจำกัด ขั้นตอนของความเพลี่ยงพล้ำในการดำเนินนโยบายการเงิน ลำดับได้ดังนี้ 1. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจเลือกที่จะไม่ให้เปิดตลาดทุนเสรี ตั้งแต่พ.ศ. 2533 แต่ธปท.ก็เลือกที่จะให้เปิด การตัดสินใจให้เปิดครั้งนั้น นับว่าเป็นผลพวงของแนวนโยบายที่เป็นมาโดยต่อเนื่องเป็นระยะยาวนาน และสะท้อนความต้องการของฝ่ายการเมืองในขณะนั้นอย่างเต็มที่ เมื่อนายวิจิตรเข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้ว่าการ ก็สานต่อนโยบายนั้นอย่างขะมักเขม้นถึงขั้นเปิดวิเทศธนกิจ ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย 2.เมื่อธปท.เลือกที่จะเปิดตลาดเงินทุนให้เสรีแล้ว ธปท.ก็ควรเลือกที่จะให้อัตราแลกเปลี่ยนยืดหยุ่นมากกว่านี้ แต่ธปท.ก็เลือกที่จะรักษาช่วง (band) อัตราแลกเปลี่ยนที่แคบมากไว้ จะมาเริ่มพิจารณาก็ในเดือนเมษายน 2539 ซึ่งสายไปเสียแล้ว เพราะหลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือน ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก็รุนแรง จนทำให้ธปท. กลัวที่จะดำเนินการใดๆ อีกต่อไป เพราะเกรงว่าจะส่งสัญญาณผิดให้กับตลาด 3.เมื่อธปท.เลือกที่จะรักษาอัตราแลกเปลี่ยนที่แคบไว้เช่นนั้น ก็หมายความว่า แนวนโยบายทางด้านอุปสงค์รวม จะต้องมีความระมัดระวัง (CONSERVATIVE) เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในระยะตั้งแต่ พ.ศ. 2537 เป็นต้นมา นโยบายการคลังเป็นเรื่องของรัฐบาลและรัฐสภาก็จริงอยู่ แต่ธปท. ก็มิได้ผลักดันอย่างจริงจังในรัฐบาลมีนโยบายเกินดุล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงนั้น ส่วนนโยบายการเงินที่ดึงปริมาณเงินในประเทศก็ไร้ผล เพราะถูกลบล้างด้วยเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 4. เมื่อธปท.ไม่สามารถใช้นโยบายการคลัง หรือการเงินได้ ก็ควรจะใช้มาตรการไม่ให้เงินทุนไหลเข้าประเทศอย่างมากมายเสียตั้งแต่ต้น แต่มาตรการที่ประกาศเป็นมาตรการที่อ่อน และนำมาใช้เมื่อสายไปแล้ว คือหลังจากที่ไทยมีหนี้สินระยะสั้นในระดับสูงมากเกิ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 10:58:49 จากคุณ : Money Honey - [ 29 ม.ค. 52 10:54:35 A:58.8.90.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 คคห ๓๐ ครับผม โยงเรื่องได้ดีครับ แต่ทำไมไม่โยงละครับว่า LOI ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๐                                 มีข้อผูกพันธ์อะไรบ้างที่เราต้องปฏิบัติตาม คนที่ว่าเก่งนักหนา ก็เข้ามาเต็มตัวทันทีในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๐ แต่ฝ่ายบริหารที่เซ็นต์ไว้ ก็ไม่อยู่ทำหน้าที่ต่อ พอ พฤศจิกายน ๒๕๔๐ เปลียนฝ่ายบริหาร มีการประเมินของ IMF เพื่อทำLOI ฉบับต่อไปตามกรอบที่ LOI ฉบับที่ ๑ กำหนดไว้ ก็เลยเกิด LOI ๒-๘ ถามว่า ไม่ว่าใครจะเข้ามาหลัง LOI ๑ ต้องเซ็นต์ตามกรอบที่วางไว้ไหมครับ          เข้ามาแล้ว ยกเลิก LOI ๑ ได้ไหมครับ          ก่อนจะมี ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๐ แล้วตามด้วย LOI ๑ ประมาณ๑ปี          IMF เข้ามาเตือนกี่ครั้งครับ จากคุณ : Sen. MD (Sen. MD) - [ 29 ม.ค. 52 11:00:59 A:202.71.38.97 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 46   คุณ ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน ทำไมรัฐบาลชวน ที่ถามมาว่า"ไม่หามาตราการที่เหมาะสมมารองรับนโนบายเปิด เสรีทางเงินของตน" ผมตอบไว้ให้แล้วคุณ กรุณากลับไปดูในคห.ข้างยนด้วย ส่วนที่คุณอธิบายมา ฟังแปร่งๆ ยังไม่ได้ข้อ สรุปต่อคำถามว่า หากนโยบายเปิดเสรีการเงินมันมีปัญหา ทำไมรัฐบาลต่อมาไม่เลิก การที่อ้างว่ากลัวนักธุรกิจจะว่าหาก ไปลอยตัวค่าเงินบาทนี้เป็นข้ออ้างที่แย่มาก เป็นรัฐบาลแล้วจะไปกลัวนั้นกลัวนี้อยู่อีกได้หรือ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 12:20:03 แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 52 12:08:29 จากคุณ : thyrocyte - [ 29 ม.ค. 52 11:57:37 A:192.168.0.17 X:203.147.40.3 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คิดเอาง่ายๆว่า ถ้าโดน เฮดจ์ ฟันด์ โจมตีในสมัยรัฐบาลชวนจะเป็นไงครับ ??? ผมว่าก็คงเน่าอยู่ดี ไม่ต่างจากจิ๋ว สิ่งที่ ชวน อยู่รอดปลอดภัยก็เพราะ ประเทศตอนนั้นยังไม่เป็นเป้าหมายให้จู่โจมนั่นแหละ... จากคุณ : SaVor - [ 29 ม.ค. 52 12:34:40 A:210.86.207.228 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ : thyrocyte  พูดซะยังกับดิฉันไม่ได้ตอบคำถามคุณเลย  จริงดิฉันตอบไปเกือบครบใน#46 แล้ว ส่วนที่คุณถามทำไมไม่ยกเลิกการเปิดเสรีทางการเงินอ่าน # 47 ของคุณคุณ : ขี้ลืมจัง (เติ้ง1234) ก็มีเหตุผลดีนะคะ นโยบายที่กระทบเศรษฐกิจมหภาค ต้องศึกษาให้ถ้วนถี่ จะเปลี่ยนไปมาไม่ได้ เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่น และที่สำคัญเปลี่ยนแล้วจะได้อะไร  ในเมื่อการกู้เงินนอกก็เกิดขึ้นมามากมายไปเสียแล้ว พอดีดิฉันตอบขณะยังไม่เห็น rep  44 ,45 ของคุณ ทำงานไปพิมพ์ไป ไม่ได้รีเฟลชดู และพอได้เห็นก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคำตอบ หรือไม่ ตกลงยอมรับแล้วใช่ไหมคะ ว่าเป็นความผิดผลาดของรัฐบาล ปชป พูดอย่างนี้แต่แรกก็ไม่ต้องเถียงกัน ส่วนที่รัฐบาลอื่นไม่กล้าลอยตัว อันนี้โทษเขาไม่ได้ เป็นใครๆก็ต้องยื้อ คิดดูปล่อยก็คือพังทันที  ไม่ปล่อยยื้อไป ถ้าไม่มีการโจมตีค่าเงินบาท หรือโจมตีไม่มากแล้วสู้ได้ก็อาจจะรอด ตอนนั้นใครจะรู้ก้นเหวสุดๆคืออะไร ทุกคนต่างพยายามรักษาสถานะ และประคับประคองเต็มกำลังก็เท่านั้น จากคุณ : ไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน - [ 29 ม.ค. 52 12:38:56 A:65.49.14.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผิดทั้งหมดแหละครับ โยนกันไปมา พวกนักการเมืองในรัฐบาลไหนๆในยุคนั้น มันก็พวกหน้าเก่าๆ ไม่ต้องทักษิณหรือชวนหรอก จะด่าก็ด่าทั้งหมดดีกว่า แต่ที่แน่ๆ ไอ้คนที่มันเผาบ้านเอาเงินประกันน่ะ มันเรื่องจริงหรือเปล่า จากคุณ : Magina (Magina) - [ 29 ม.ค. 52 14:34:28 A:117.47.175.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 หมดตัวกันหมดทั้งประเทศ   แต่มี"คนรวย"เพียงคนเดียว  ( ที่คุณไม่อยากให้โลกไร้ซึ่งความหวาน บอกว่า งานนี้ไม่จำเป็นต้องเป็น insider หรอก เขาเรียกว่ารู้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ค่ะ )               คำถามคห. 53 ยังไม่เห็นมีใครเข้ามาตอบ                    และ พรบ.ที่ ทรท. เรียกขานว่าเป็น   พรบ. ขายชาติ  11 ฉบับ ของคุณธารินทร์  ได้รับการยกเลิก โดยรัฐบาลทักษิณ ปีไหนครับผม              อยากได้ศึกษาความเห็นเพิ่มเติมครับ จากคุณ : วอน (วอน) - [ 29 ม.ค. 52 15:39:03 A:125.27.244.10 X: ]

ความคิดเห็นที่ 55 ธนินทร์ เจ๊งมั้ยครับ ? อนันต์ อัศวโภคิน ตอนนั้นเจ๊งมั้ยครับ ? คำตอบก็คือ มีเจ๊ง แต่รวมๆแล้วตอนนี้ก็ยังรวยอยู่... คนที่มาบอกว่ามี insider มาโจมตีค่าเงิน ก็อยากให้คิดหน่อยว่า " ทรัพย์สินของคนที่ถูกกล่าวว่าเป็น insider มันเท่าไหร่ครับ ? และทุนของ เฮดจ์ ฟันด์ น่ะมันเท่าไหร่ ? " ทรัพย์สินของ insider มีไม่เกินหลักพันล้านยูเอสด้วยซ้ำ จะไปเทียบอะไรกับ เฮดจ์ ฟันด์ ที่มีเงินอยู่ในระดับแสนล้านยูเอสครับ... จากคุณ : SaVor - [ 29 ม.ค. 52 16:13:10 A:210.86.207.214 X: ]

ความคิดเห็นที่ 56 ธนินทร์ เจ๊งมั้ยครับ ? อนันต์ อัศวโภคิน ตอนนั้นเจ๊งมั้ยครับ ? คำตอบก็คือ มีเจ๊ง แต่รวมๆแล้วตอนนี้ก็ยังรวยอยู่... คนที่มาบอกว่ามี insider มาโจมตีค่าเงิน ก็อยากให้คิดหน่อยว่า " ทรัพย์สินของคนที่ถูกกล่าวว่าเป็น insider มันเท่าไหร่ครับ ? และทุนของ เฮดจ์ ฟันด์ น่ะมันเท่าไหร่ ? " ทรัพย์สินของ insider มีไม่เกินหลักพันล้านยูเอสด้วยซ้ำ จะไปเทียบอะไรกับ เฮดจ์ ฟันด์ ที่มีเงินอยู่ในระดับแสนล้านยูเอสครับ... จากคุณ : SaVor เอ แปลกจังน่ะ เพื่อนผมที่เป็นเลขาฯ คุณธานินทร์เล่าให้ฟังว่า เขาซื้อดอลล่าตุนไว้ก่อนประกาศค่าเงินบาทลอยตัว แสดงว่าเพื่อนผมก็พูดเท็จสิ จากคุณ : เพชรกลับ - [ 29 ม.ค. 52 18:47:54 A:192.168.0.17 X:58.9.218.6 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอเข้ามาตอบเพราะตามอ่าน...จนถึงความเห็นคุณเพชรกลับ(#56)...คิดว่ามีคนรู้ทางการเงินล่วงหน้าหลายคน...ตอนนั้นเขาอ่านออกว่าเงินบาทไม่น่ายืนในเรตนั้นๆได้...(ถ้าหวลไปดูข่าวนสพมติชนรายสัปดาห์ช่วงต้นปี)ก่อนเกิดวิกฤตค่าเงินบาท ตอนต้นปี2539 สื่อต่างชาติยอยกก้นให้ไทยว่ามีเศรษฐกิจก้าวไกลในย่านเอเซียน...จนลือกันว่าคือเสือตัวที่5แห่งเอเชีย ...แต่แล้วตอนสิ้นปีก็กลับกลายเปนแมวป่วยลำบากที่แพร่โรคต้มยำกุ้งทำลายความเชื่อมั่นความเข้มแข็งฐานะการเงินเศรษฐกิจลามไปทั่วอาเซี่ยน... มาบัดนี้...ก็เปนที่ทราบกันทั่วแล้วว่า โรคต้มยำกุ้งไทยแท้ก็คือปัญหาเศรษฐกิจลักษณะฟองสบู่เกิดแตก....มาจากความอ่อนแอเองของฐานเศรษฐกิจไทยที่ด้อยทั้งทุนรอนทั้งความรู้ที่มีในสังคม.. โดยเฉพาะมีความเสียเปรียบเชิงการค้ายุคใหม่ที่ก้าวไปสู่โลกาภิวัฒนที่สังคมโลกเชื่อมถึงกันหมด ...ที่อยากกล่าวเน้นให้เห็นคือ..จากสังคมส่วนใหญ่เกษตรเดิม-เติมเงินทุนเงินกู้ทุนอนาคตและแรงงานต้องส่งออกสินค้าทั้งหมด...แทบไม่พอกับการนำเข้าน้ำมันรถยนต์เครื่องจักร รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์และสินค้าฟุ้งเฟ้อมาฟุ่มเฟือยกัน...อัตราดอกเบี้ยและภาระอัตราภาษีเมืองเราก็คงต้องสูงตลอดตั้งแต่อดีต...และต่อไปในอนาคต ...ทั้งอัตราเงินบาทคงต้องตามเงินดอลล่าและเงินเยนเฉกเช่นเดียวกับคนไทยที่ต้องตามองค์ความรุ้ที่ถ่ายทอดมาจากอเมริกันและญี่ปุ่นไม่ว่าแม่ทัพไทยหรือเทคโนแคตไทย...ด้วยฐานเศรษฐไทยก็เติบใหญ่จากเงินทุนจากที่เขาออกมาลงทุนนอกประเทศ... จากคุณ : แพะโง่ (แพะโง่) - [ 30 ม.ค. 52 01:16:33 A:118.173.32.189 X: ]

ความคิดเห็นที่ 58 เรื่อง LOI เอามาโพสไว้ให้ที่นี่นะครับ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7467862/P7467862.html#78 ว่าฉบับไหนเมื่อไรจะได้เลิกเถียง สาระสำคัญของ LOI ฉบับที่ 1 - 8 LOI ฉบับที่ 1 (14 สิงหาคม 2540) - พันธกรณีในการดำเนินนโยบาย เน้นในการจัดการพื้นฐานทางเศรษฐกิจและวางระเบียบใหม่ในการดูแลสถาบันการเงิน-การคลังของประเทศให้เข้มงวด แต่ไม่มีพันธะที่จะต้องออกกฎหมายมาใช้บังคับ เริ่มรัฐบาลชวน (20 พฤศจิกายน 2540) LOI ฉบับที่ 2 (25 พฤศจิกายน 2540) - ได้มีการทบทวนมาตรการหลายอย่างที่ทำมาในช่วง LOI 1 โดยเฉพาะการปรับเพดานการ กู้เงินต่างประเทศเพิ่มขึ้น และยกเลิกตลาดเงินตราต่างประเทศ 2 ตลาด (Two-tier system) - ขณะเดียวกันเริ่มใช้มาตรการบีบบังคับสถาบันการเงินด้วย กฎเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อให้เป็นไปตามาตรฐานสากล - ปรับปรุง พ.ร.บ.ล้มละลาย ให้เจ้าหนี้สามารถบังคับหลักประกันได้ในเวลาเร็วขึ้น - ประกาศให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นข้างมากในสถาบันการเงินได้เป็นเวลา 10 ปี - กำหนดเป้าหมายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเสนอให้รัฐสภาพิจารณากฏหมายที่จำเป็น LOI ฉบับที่ 3 (24 กุมภาพันธ์ 2541) - กำหนดกรอบในการแก้ไข พ.ร.บ.ล้มละลาย โดยพิจารณาถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย อาทิ การทำธุรกิจของคนต่างด้าว LOI ฉบับที่ 4 (26 พฤษภาคม 2541) - นำแนวทางในการประเมินมูลค่าหลักประกันมาใช้ โดยทบทวนกฎหมายธนาคารพาณิชย์ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การบันทึกบัญชี ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกในการปรับปรุงมาตรฐานบัญชีใหม่ให้เป็นสากล และการร่างกฎหมายการบัญชีใหม่ - เน้นการเปิดเสรีมากขึ้น เสนอให้แก่ไขกฎหมาย ปว.281 และกฎหมายต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทุนทั้งหลักทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ LOI ฉบับที่ 5 (25 สิงหาคม 2541) - เพื่อสนองนโยบายเปิดประเทศ รัฐบาลได้เสนอแก้ ปว.281 ให้เป็นพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว - แก้กฎหมายล้มละลาย ในประเด็นกระบวนการบังคับหลักประกันและข้อกฏหมายเกี่ยวกับการให้กู้ยืม เพื่อเป็นเงื่อนไขจูงใจให้ทั้งเจ้าหนี้ - แก้ไขกฎหมายประมวลกฎหมายที่ดินและ พระราชบัญญัติอาคารชุด - อนุมัติร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ว่าด้วยการประกอบธุรกิจบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และเครดิตฟองซิเอร์ - เพิ่มความเข้มงวดระบบบัญชี - ออก พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน - ปรับปรุงกฎหมายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดยการออก พ.ร.บ.ทุนให้อำนาจในการแปลงทุนเป็นหุ้นและแปลงรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทจำกัด แก้ไข พ.ร.บ.การเดินทางอากาศให้ขายหุ้นส่วนใหญ่ของการบินไทยให้ต่างชาติ LOI ฉบับที่ 6 (1 ธันวาคม 2541) - ดำเนินการต่อเนื่องในรายละเอียดของกฎหมายล้มละลาย และ ปว.281 - ขณะที่กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลสถาบันการเงินมีการออกกฏหมายมาหลายฉบับ คือ กฎหมายจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) พ.ร.ก.ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ให้ควบรวมการกันได้ - พ.ร.ก.จัดตั้ง เอเอ็มซี แก้ไข พ.ร.บ.เงินตรา LOI ฉบับที่ 7 (23 มีนาคม 2541) - เน้นนโยบายการจัดการข้อพิพาทระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้คนไทย โดยแก้ไข พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายฉบับใหม่ และผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการบังคับหลักประกัน 2 ฉบับ พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ร.บ.อาคารชุด และเร่ง ออกกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกส่วนหนึ่ง LOI ฉบับที่ 8 (21 กันยายน 2542) - ดำเนินการต่อเนื่อง เสนอให้แก้ไขกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทยฉบับใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ ธปท. (รวมบัญชี ล้างขาดทุนของกองทุนฟื้นฟู) กฎหมายเงินตรา ซึ่งจะทำให้การบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีความยืดหยุ่นสูง - ร่างกฎหมายรับประกันเงินฝาก แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 52 02:40:43 จากคุณ : ขยะสังคม - [ 30 ม.ค. 52 02:38:17 A:114.128.24.104 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ : แพะโง่ (แพะโง่)  มองโลกในแง่ดีครับ ก็ขอให้มองในแง่ดีสำหรับทุกฝ่าย ไม่ใช่ลำเอียงว่าฝ่ายนี้ดี ฝ่ายโน่นทำเหมือนกัน แต่กลับบอกว่าไม่ดี จากคุณ : เพชรกลับ - [ 30 ม.ค. 52 20:28:27 A:58.9.220.157 X: ]