ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (30 ม.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่มีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเข้าชี้แจง
นายศุภรัตน์ กล่าวว่า มีความจำเป็นที่ต้องอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ทันในเดือน ก.พ. และ มี.ค. เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ มิเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจติดลบถึงร้อยละ 3 ได้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 พบว่ารัฐจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณร้อยละ 16 กระทรวงการคลัง คาดการณ์รายได้ตลอดปี 2552 อยู่ที่ 132,000 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนเพียงร้อยละ 7.9 มีการตั้งรายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลังสำหรับงบกลางปีไว้จำนวน 12,900 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวต่อถึงสาเหตุของการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าว่า มีเม็ดเงินไหลออกมากกว่าเม็ดเงินไหลเข้า สิ้นเดือน ธ.ค.ปี 2551 มีเงินคงคลังเหลืออยู่ 52,000 ล้านบาท ทำให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล กรรมาธิการฯ กล่าวว่าเหตุใดเงินคงคลังจึงมีมากกว่ารายจ่ายประจำไม่ถึง 2 เดือน ตัวเลขนี้คือปัญหาที่ว่าทำไมประเทศจึงไม่มีเงินในการจ่ายงบลงทุน
นาย ศุภรัตน์ กล่าวด้วยว่า ยังมีเงินพอที่จะจ่ายเป็นเงินเดือนประจำประมาณ 1 เดือนครึ่ง เนื่องจากต้องจ่ายเงินเดือนประจำเดือนละ 32,000 ล้านบาท เหตุที่เงินคงคลังเหลืออยู่ไม่มาก เนื่องจากที่ผ่านมาได้ลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ เพื่อเป็นการลดภาระการจ่ายดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขต่าง ๆ ไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถกู้เงินจากต่างประเทศได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (30 ม.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่มีนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมคณะเข้าชี้แจง
นายศุภรัตน์ กล่าวว่า มีความจำเป็นที่ต้องอัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้ทันในเดือน ก.พ. และ มี.ค. เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ มิเช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจติดลบถึงร้อยละ 3 ได้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 พบว่ารัฐจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณร้อยละ 16 กระทรวงการคลัง คาดการณ์รายได้ตลอดปี 2552 อยู่ที่ 132,000 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนเพียงร้อยละ 7.9 มีการตั้งรายจ่ายเพื่อชดเชยเงินคงคลังสำหรับงบกลางปีไว้จำนวน 12,900 ล้านบาท มาจากรายได้ที่จะได้จากการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และรายได้จากผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวต่อถึงสาเหตุของการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าว่า มีเม็ดเงินไหลออกมากกว่าเม็ดเงินไหลเข้า สิ้นเดือน ธ.ค.ปี 2551 มีเงินคงคลังเหลืออยู่ 52,000 ล้านบาท ทำให้นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล กรรมาธิการฯ กล่าวว่าเหตุใดเงินคงคลังจึงมีมากกว่ารายจ่ายประจำไม่ถึง 2 เดือน ตัวเลขนี้คือปัญหาที่ว่าทำไมประเทศจึงไม่มีเงินในการจ่ายงบลงทุน
นาย ศุภรัตน์ กล่าวด้วยว่า ยังมีเงินพอที่จะจ่ายเป็นเงินเดือนประจำประมาณ 1 เดือนครึ่ง เนื่องจากต้องจ่ายเงินเดือนประจำเดือนละ 32,000 ล้านบาท เหตุที่เงินคงคลังเหลืออยู่ไม่มาก เนื่องจากที่ผ่านมาได้ลดการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ เพื่อเป็นการลดภาระการจ่ายดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขต่าง ๆ ไม่เพียงพอ ก็ยังสามารถกู้เงินจากต่างประเทศได้อีก
ที่มา: http://www.thairath.co.th/onlineheadnews.html?id=121458
จากคุณ :
sao..เหลือ..noi 
- [
30 ม.ค. 52 20:00:19
A:58.8.167.210 X:
]
เบิกจ่ายงบล่าช้า-ส่อถังแตก เผยเงินคงคลังเหลือ5.2หมื่นล. [30 ม.ค. 52 - 19:30]
