Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    เงินทุนระหว่างประเทศ & เงินคงคลัง

    เห็นแถกันจังทั้งเสื้อเหลือง และเสื้อแดง


    .......................................................................

    เงินทุนสำรองระหว่างประเทศก็คือเงินตราต่างประเทศที่ตกสะสมอยู่ในมือ
    ธนาคารกลางกล่าวคือเมื่อมีเงินตราต่างประเทศไหลเข้าประเทศหนึ่ง ไม่ว่า
    มาจากการส่งออกจากการกู้ยืมเงินตราต่างประเทศ จากประเทศอื่น จากการ
    ท่องเที่ยว จากการลงทุน ฯลฯ เงินเหล่านี้ก็จะถูกขายให้ธนาคารกลางผ่าน
    ธนาคารพาณิชย์ เงินเหล่านี้ก็จะตกอยู่ในมือธนาคารกลาง และเมื่อคนใน
    ประเทศนั้น จะซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าเข้า เพื่อใช้หนี้ในรูปเงิน
    ตราต่างประเทศ เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อไปลงทุนต่างประเทศ ฯลฯ ก็
    จะไปซื้อจากธนาคารกลาง ดังนั้น เงินตราต่างประเทศจึงถูกขาย (เมื่อไหล
    เข้า) และถูกซื้อ (เมื่อไหลออก) ไปมา

    ถ้า ณ สิ้นปีเงินตราต่างประเทศเข้ามามากกว่าออกไป ก็จะมีเงินตราต่าง
    ประเทศสุทธิในมือธนาคารกลาง เพิ่มขึ้น ที่เรียกว่า (เกินดุลชำระเงิน)
    หลายๆ ปีเข้าก็จะสะสมพอกพูนขึ้นในมือธนาคารกลาง ดังเรียกเงินจำนวนนี้
    ว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ  (international reserve) การมีเงินทุน
    สำรองระหว่างประเทศมาก ก็เท่ากับมีสายป่านยาว ในการดูแลให้ราคาของ
    หนึ่งหน่วยเงินตราต่างประเทศไม่ผันผวน หรือพูดอีกอย่างว่า มีความสามารถ
    ทำให้อัตราแลกเปลี่ยน หรือค่าเงินของตนมีเสถียรภาพ เช่น กลไกตลาดทำ
    ให้หนึ่งเหรียญสหรัฐมีราคาเท่ากับ 35 บาท แต่ถ้าเกิดเงินตราต่างประเทศ
    เกิดขาดแคลนมากขึ้น เพราะมันไหลออกมาก ราคาของมันก็จะสูงขึ้น หาก
    ธนาคารกลางมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาก ก็สามารถแทรกแซงให้
    ราคาเป็นไปตามความต้องการได้มาก ในกรณีนี้ก็จะระบายเหรียญสหรัฐออก
    มาขาย เพื่อให้ราคาไม่ขยับสูงขึ้นหรืออยู่ในระดับเดิม (ไม่ให้ค่าเงินบาทอ่อน
    ตัวกว่าเดิม หรือค่าเงินบาทคงที่) เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเหล่านี้ เกือบ
    ทั้งหมดมิได้อยู่ในรูปเงินสด เพราะไม่มีผลตอบแทน ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ
    ตราสารเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยต่ำของประเทศอุตสาหกรรมใหญ่ เช่น US
    TREASURY SECURITIES (ตั๋วเงิน พันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน) เพราะมีความ
    เสี่ยงต่ำและเอาออกขาย เพื่อแลกเปลี่ยนสหรัฐได้โดยง่าย

    สรุปกันก็คือเงินทุนสำรองระหว่างประเทศนี้เกิดมาจากผลต่างของการค้า
    ขาย และเงินเข้าออกระหว่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่เงินของรัฐบาล แต่ประการใด
    แต่เป็นเงินของภาคธุรกิจนี่แหละครับ ที่ไม่ได้เก็บเป็นเงินดอลล่าห์ โดยไป
    เปลี่ยนกับธนาคารแห่งประเทศไทยแทน ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออก
    ธนบัตรเงินไทยมาแทนให้



    ส่วนเงินคงคลังก็คือเงินส่วนเกินของการเก็บภาษีลบด้วยงบประมาณรายจ่าย
    ประจำปี ดังนั้นถ้าปีไหนเศรษฐกิจดีเก็บภาษีได้มากกว่าเป้า ก็มีเงินคงคลัง
    เข้าในบัญชีเงินคงคลังที่ 1 ของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ถ้ามีน้อย ได้ต่ำ
    กว่าเป้า อันนี้ก็คงต้องเอาบุญเก่าเงินคงคลังเหลือปีก่อนๆมาใช้กันแล้วครับ
    แต่ถ้ายังไม่พออีกก็ต้องทำการกู้เงินจากต่างประเทศโดยเอาเงินเข้ามาเป็น
    เงินดอลล่าห์สหรัฐ แล้วไปแปลงเป็นเงินบาทเพื่อเอาออกมาใช้จ่ายตามงบ
    ประมาณ และถือเป็นหนี้สาธารณะไป แต่การที่เรามีเงินทุนสำรองระหว่าง
    ประเทศมากก็เป็นตัวการันตีได้ว่ายังไงก็มีเงินใช้หนี้แน่นอนครับ โดยรัฐบาล
    บ้าเลือดออกพันธบัตรในประเทศไปแลกเอาเงินเหรียญสหรัฐไปจ่ายหนี้

    .......................................................................

    เครดิต เอามาจากเศรษฐศาสตร์ใกล้ตัว กับ ดร. วรัญญู

    ........................................................................

    จากคุณ : MamaKungking - [ 5 ก.พ. 52 23:03:21 A:222.123.137.84 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com