ผมไม่เคยรู้จักอาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ เป็นการส่วนตัว นอกจากรู้จักผลงานและแนวคิดเชิงเสรีชนของเขาตามสมควร และรู้จักมากขึ้นเมื่อท่านผู้นี้มีบทบาทโดดเด่นในสังคมและการเมืองของไทยยุคหลังเผด็จการทหารยึดอำนาจของประชาชนจากรัฐบาลท่านทักษิณ แล้วดำเนินการสืบเนื่องมาจนสามารถประเคนให้พรรคประชาธิปปัตย์เสวยอำนาจแทน ดังที่เราท่านทั้งหลายทราบกันแล้วอย่างถ้วนหน้า
อันส่งผลให้อาจารย์ใจเคลื่อนไหวและต่อต้านหนักหน่วงขึ้น....โดยแสวงหาแนวร่วมที่พอไปกันได้ นั่นคือ...ก้าวมาร่วมอุดมการณ์กับงคนเสื้อแดง ซึ่งบัดนี้ กลายเป็นสถาบันที่เขย่าขวัญใครต่อใครในแผ่นดินไทยให้นอนตาไม่หลับ หรือหลับฝันร้ายทุกๆรัติกาล
จึงไม่แปลก เมื่อเขาเป็นแกนนำคนหนึ่งที่พยายามนำเสนอให้ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยการกระทำผิดต่อสถาบันกษัตริย์ไทย โดยมีนักวิชาการและบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งร่วมลงชื่อแสดงเจตจำนงเห็นสมควรอย่างเปิดเผย
หนึ่งในนั้นคือท่านนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักคิดนักเขียนระดับปราชญ์ที่เคยเสนอบทความแนะให้เปิดกว้างต่อเรื่องวิจารณ์ฯสถาบัน เป็นเชิงว่าสถาบันฯจะคงอยู่หรือล่มสลายไม่ใช่จากการกระทำของคนวิจารณ์ แต่ด้วยแก่นเนื้อหาของสถาบันฯโดยแท้ว่าจะดำรงความดีให้เป็นที่ยอมรับได้เพียงใด
สำหรับอาจารย์ใจ....ก้นบึ้งของแนวคิด หรือทัศนคติทางสังคมและการเมืองเป็นอย่างไร หลายท่านคงพินิจ วิเคราะห์ และสังเคราะห์เพื่อนำเป็นบทสรุปของบุคคลท่านนี้ได้ไม่ยาก....จากข้อเขียนของเขา (ตัดมาจากไทยโพสต์)ที่ว่า....
"ตราบใดที่เรายังหมอบคลาน เราทำตัวเป็นแค่สัตว์ เราต้องยืนขึ้นเป็นคน เราต้องเป็นพลเมืองในโลกสมัยใหม่ ....พวกไดโนเสาร์ล้าหลัง พวกเสื้อเหลือง จะบ้าคลั่งน้ำลายฟูมปากเมื่ออ่านแถลงการณ์นี้ แต่มันเป็นเพียงอาการของพวกตกยุค หลุดโลก งมงาย ที่ควรจะลงถังขยะแห่งประวัติศาสตร์ เราชาวประชาธิปไตยเสื้อแดง จะเดินหน้าสร้างสังคมอารยะ สังคมใหม่ พวกอภิสิทธิ์ชน ไม่มีสิทธิ์ปล้นชีวิต ศักดิ์ศรี ความเป็นคนของประชาชน ไปเพื่อหวังเพิ่มความเป็นคนของเขาเอง หยุดเอาคนจนมาบูชายัญได้แล้ว
แถลงการณ์นี้เป็นเพียงข้อเสนอที่เราอาจนำมาเป็นจุดร่วมได้ในหมู่คนเสื้อแดง แดงที่รักประชาธิปไตย ส่วนตัวแล้วในฐานะนักสังคมนิยม ผมอยากเห็นประเทศเราเดินหน้าต่อไป เพื่อสร้างสังคมที่มีประชาธิปไตยเต็มใบและไม่มีชนชั้น ปราศจากการกดขี่ขูดรีด ระบบสังคมนิยมนั่นเอง แต่เป็นเป้าหมายระยะยาว"
นี่คือเสี้ยวหนึ่งในแถลงการณ์ที่นำอาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นฯ.....กระทั่งไม่อาจดำรงตนอยู่ในแผ่นดินไทยได้ในขณะนี้
แสงเทียนริบหรี่ที่อาจารย์ใจจุดประกายขึ้น....จะดับมอด หรือโชติช่วงต่อไป กาลเวลาย่อมพิสูจน์ทราบไม่นานวัน
อาจารย์ใจ อึ้งภากรณ์ ถึงท่านจะเป็นผู้ร้ายในสายตาใครก็ตาม แต่ท่านคือวีรบุรุษในดวงใจผม....ในฐานะนักสู้เพื่อเสรีชนอย่างแท้จริง !
จากคุณ :
สาละวิน
- [
11 ก.พ. 52 08:49:46
A:10.5.14.97 X:202.44.70.51
]