ยงยุทธขอพื้นที่
นายยงยุทธ ติยะไพรัช เปิดเผยว่า ภาพที่ประชาชนได้เห็นและได้รับรู้จากการเปิดเผยแก่สื่อมวลชนที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระผมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีหลักฐานและภาพที่ชัดเจน ระยะเวลากว่าสองปีที่ผมอดทนตั้งรับต่อภาวะที่เกิดขึ้น และปรารถนาว่าสักวันหนึ่งกระบวนการดังกล่าวคงจะได้จบสิ้น หากมาจนถึงวันนี้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะจบได้เลย และยังดูเหมือนว่ากระบวนการดังกล่าวคงจะมีต่อเนื่องมาอย่างไม่สิ้นสุด
" นับจากวันที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้น ผมถูกคุกคามมาโดยตลอด นับแต่วันที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ประกาศให้ผมไปมอบตัว ผมถูกทหารกลุ่มหนึ่งปิดผ้าคาดตา จับขึ้นรถตู้ แล้วนำไปกักขังบริเวณอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยไม่ให้ผมพูดคุยกับใครเป็นเวลา 14 วัน แม้กระทั่งโทรบอกครอบครัวที่มีความเป็นห่วงเป็นใยผมอยู่ หรือแม้กระทั่งบอกกับทหารเวรที่ควบคุมตัวผมว่าผมเป็นโรคความดันโลหิตสูง และผมไม่มียารักษาโรคเพื่อรักษาอาการ ห้องที่กักขังผมนั้น เป็นห้องแคบ เก่า ที่นอนขึ้นรา ห้องน้ำก็เก่าโสโครก น่าจะเป็นห้องที่ไม่มีคนอยู่มาเป็นเวลานาน ไม่ใช่คฤหาสน์หรูหลังใหญ่อย่างที่ผมเพิ่งทราบในภายหลังว่าทาง คมช. ได้ให้ข้อมูลเช่นนั้น
ในความเป็นจริงแล้ว โดยสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชนนั้น รัฐต้องมีหมายจับ ก่อนที่จะมาจับกุมคุมขังผม รัฐต้องมีหมายค้น ก่อนจะทำการค้นที่พักอาศัยของผม รัฐต้องให้สิทธิผมในการพบทนาย และรัฐต้องให้สิทธิผมในการพบแพทย์ แต่เขาไม่ให้สิ่งใดกับผมเลย
เมื่อ ผ่านไป 14 วัน เขาก็จับผมคาดตา นำขึ้นรถตู้ แล้วนำผมมาปล่อยที่หน้าบ้านของผม ซึ่งผมก็ได้ทราบจากคนของผมที่เฝ้าบ้านอยู่ และกล้องวงจรปิดที่ผมติดตั้งไว้ที่บ้านว่า เขาล่วงละเมิดสิทธิของผมด้วยการค้น รื้อ และทำลายทรัพย์สินของผม ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่ผมมีหลักฐานเป็นวิดีโอเทปจากกล้องวงจรปิดที่ผม ติดตั้งไว้" นายยงยุทธกล่าว
นายยงยุทธเปิดเผยต่อว่า ภายหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว ก็อยากให้สังคมเกิดความสุขโดยเร็ว โดยตนเองไม่ต้องการเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งจึงได้ไปทำงานวิจัยด้านสิ่งแวด ล้อมที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น เมื่อได้รับการทาบทามให้เป็นรองหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชาชน ผมจึงเดินทางกลับมาด้วยความหวังที่จะเห็นความยุติธรรมกระบวนการประชาธิปไตย เกิดขึ้นในสังคมไทย แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะตนถูกลั่นแกล้งด้วยคดีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นับจนถึงเวลาปัจจุบันได้ 8 คดีแล้ว ซึ่งในบางคดีนั้น ฝ่ายผู้มีอิทธิพลได้สร้างหลักฐานเท็จ และในบางคดีมีการกล่าวอ้างด้วยเหตุที่ไม่เป็นจริง แต่ผลกลับกลายเป็นว่า เหตุการณ์ถูกสร้างขึ้นมาให้ตนกลับกลายเป็นเหยื่อ
ผมเคยกล่าวเมื่อตอนที่ ผมลาออกจากตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอให้ผมเป็นเหยื่อรายสุดท้าย แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผลก็ไม่เป็นเช่นนั้น
วันนี้ ถึงเวลาแล้วที่ผมต้องแสวงหาความยุติธรรม ซึ่งผมรู้แน่แก่ใจว่าผมอาจหาความยุติธรรมไม่เจอที่นี่ แต่อย่างไรเสียก็ต้องต้องพยายาม เพื่อหาพื้นที่ที่ยังคงยุติธรรมเพียงพอให้ผมมีชีวิตอยู่ได้
ภาค 1 : จับคนในบ้านให้เกลี้ยงง พวกเราถล่มมม ย๊ากกกส์ ทุบกระจกเข้าบ้านมานนน โลดดดดดดดด
http://www.youtube.com/watch?v=1FtatKuCp5E
ภาค 2 : อยากรู้มะ ว่าใครทุบ ??? ร้อนครับบ เปิดหน้าออกหน่อย ....โทรศัพท์รายงานเจ้านายด้วย ว๊าวว
http://www.youtube.com/watch?v=p24za80ARkU
ภาค 3: ค้นทั้งบ้าน ทุกห้องพวกเรา !!!
http://www.youtube.com/watch?v=S9DYJfEy6QI
ภาค 4: กลับแล้วนะ ไว้เจอกันใหม่ (บ้านหลังใหม่รึเปล่า ???)
http://www.youtube.com/watch?v=vVwiM6REjCE
ขนาดอ.ใจ ยังต้องหนี แล้วเจอแบบนี้ไม่หนีได้ไงครับเพ่
จากคุณ :
msk
- [
12 ก.พ. 52 15:28:57
A:192.168.0.17 X:1.1.1.96, 58.8.120.127
]