ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากพันธมิตรโหมโรงสร้างกระแสคลั่งชาติ กล่าวหานพดลขายชาติ ที่ไปลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เพื่อเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกัน ตามที่รัฐบาลสุรยุทธ์ก็เห็นชอบมาแล้วด้วย ------------------------------------------------------- นพดล ยันแถลงการณ์ร่วมไม่เข้าข่ายม.190 โบ้ย สุรยุทธ์ เซ็นหนุนเขมรที่ นิวซีแลนด์ นายนพดล ปัทมะ นพดล แจงศาลรัฐธรรมนูญ 2ชั่วโมง ยันแถลงการณ์ร่วมไม่เข้าข่ายม.190 โบ้ย พล.อ.สุรยุทธ์ เซ็นเห็นด้วยกับเขมร ที่นิวซีแลนด์ สภาทนายฯยันแถลงการณ์ร่วมเป็นสนธิสัญญา ออก6ข้อ จี้รบ.เร่งแจ้งผลคำสั่งศาลปค.ส่ง กก.มรดกโลก ทนายพันธมิตรฯจี้ครม.ทำตามคำสั่งศาลเคร่งครัด 'สภาทนายความ'ยันแถลงการณ์ร่วมเป็นสนธิสัญญา นาย เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ แถลงข่าวกรณีการยื่นคำขอของรัฐบาลกัมพูชาต่อองค์การยูเนสโก เพื่ออนุรักษ์ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ระบุว่า สภาทนายความ เห็นว่า แถลงการณ์ร่วมฯ ถือเป็นสนธิสัญญาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เพราะตามหลักสนธิสัญญาที่ทั่วโลกใช้ สนธิสัญญาต้องประกอบด้วย 1.หนังสือที่มีลายลักษณ์อักษร 2.สัญญาดังกล่าวอยู่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ 3.คู่สัญญาเป็นรัฐหรือรัฐบาล 4.มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศนั้นมีสิทธิมี อธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศมีผลกระทบ ต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมอย่างกว้างขวางมีผลผูกพันทางการค้า การลงทุนและงบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ นาย เดชอุดม กล่าวว่า สภาทนายความจึงออกแถลงการณ์ 6 ข้อเรียกร้องรัฐบาลเร่งรัดแก้ไขความผิดพลาดด้วยการเร่งแจ้งผลคำสั่งศาลให้ คณะกรรมการมรดกโลกทราบว่า ไทยยังยืนยันสงวนสิทธิ เพราะรัฐบาลและนายนพดลไม่มีหน้าที่จะไปชี้หรือปักปันเขตแดนของไทย หรือทำความตกลงใดๆ จนกว่าจะมีการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เสียก่อน หากละเว้นสภาทนายความจะดำเนินคดีตามกฎหมายทุกทางกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะต้องรับผิดชอบต่ออำนาจอธิปไตยของไทยที่ถูกทำให้เสียหาย 'รม ว.ต่างประเทศทำไมต้องรีบร้อน มีอะไรอยู่เบื้องหลังการออกแถลงการณ์ รัฐบาลต้องดำเนินคดีมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง และส่วนราชการที่มีหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาไม่ควรนิ่งเฉยเพราะเรื่องนี้เกิด การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่' นายกสภาทนายความ กล่าว ทนายพันธมิตรฯเล็งร้องศาลปค.ระงับแถลงการณ์ร่วม นาย นิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้ฟ้องคดีปราสาทพระวิหาร กล่าวว่า ในวันที่ 7 กรกฎาคม เตรียมจะยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางออกคำสั่งบังคับคดีให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ระงับการใช้แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา กรณีสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโลกให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งรวมถึงไม่ให้นำผลการลงนามในสัญญาที่กรุงปารีส ฝรั่งเศสในวันที่ 22 พฤษภาคม ไปใช้กล่าวอ้างต่อคณะกรรมการมรดกโลกด้วย 'การ ที่นายนพดลลงนามในสัญญาที่กรุงปารีส โดยที่ ครม.ยังไม่มีมติแต่กลับนำผลการลงนามนั้นมาให้ ครม.อนุมัติในภายหลังหรือวันที่ 17 มิถุนายน ก็ถือว่าการลงนามสัญญากรุงปารีสเป็นเอกสารเริ่มต้นของแถลงการณ์ร่วมฯ ที่นายนพดลลงนามในวันที่ 18 มิถุนายน และศาลมีคำสั่งห้ามมิให้มีผลใช้บังคับ ดังนั้นคำสั่งศาลจึงครอบคลุม' นายนิติธร กล่าว นายนิติธร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและนายนพดลจึงต้องเร่งแจ้งผลคำสั่งศาลนี้ให้คณะกรรมการมรดกโลกทราบ เพื่อระงับการขึ้นทะเบียน หากนายนพดลเพิกเฉย สภาทนายความจะดำเนินคดีอาญาฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยูเนสโกจะถือเอาสัญญากรุงปารีสมาเป็นสาระสำคัญไม่ได้เมื่อภายในไทย ยังคัดค้านแม้ว่ากัมพูชาจะได้แสดงสิทธิขอขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารโดย อาศัยคำพิพากษาศาลโลกประกอบกับสัญญากรุงปารีส แต่ไทยไม่ถือว่าสัญญากรุงปารีสนั้นมีผลผูกพันและศาลปกครองกลางก็มีคำสั่งไม่ ให้นำไปใช้ สัญญากรุงปารีสก็นำไปใช้ไม่ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าหากยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกยอมรับสัญญากรุงปารีสก็เท่ากับว่ากำลัง ละเมิดอธิปไตยของไทย 'นพดล'ยันแถลงการณ์ร่วมไม่เข้าข่ายม.190 ล่า สุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 กรกฏาคม นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยคณะได้ใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ในการเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณี ส.ส.และส.ว.ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่าแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทยและรัฐบาล กัมพูชา กรณีสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ฉบับลงวันที่ 18 มิ.ย.2551 ที่ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรค 2 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบของสภาหรือไม่ ทั้ง นี้ ภายหลังชี้แจง นายนพดล ให้สัมภาษณ์ว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่สนับสนุนการขึ้นทะเบียบเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ไม่เข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 190 เพราะแถลงการณ์ร่วมที่ได้มีการลงนามไป เราไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างนิติสัมพันธ์ จึงไม่ถือว่าเป็นหนังสือสัญญา ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ก็ไม่ได้มีกระทบต่อดินแดน หรือเขตแดน โดยไทยไม่ได้เสียและกัมพูชาก็ไม่ได้ จึงไม่ถือว่า เข้าข่ายองค์ประกอบมาตรา 190 ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า ที่ต้องขออนุมัติต่อรัฐสภา ยกเลิกแถลงข่าวตอนบ่าย อ้างขอไปแคนาดาก่อน นอก จากนั้น นายนพดลได้แจ้งต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่า ได้ขอยกเลิกการแถลงข่าวในช่วงบ่ายที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะในประเด็นที่อยากจะชี้แจงก็คือ การเดินทางไปที่แคนาดาในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ค.) ตนก็จะไปขอเลื่อนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกออกไปก่อน และไปยืนยันว่าไม่ให้มีการใช้แถลงการณ์ดังกล่าว ในการสนับสนุนกัมพูชาให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ซึ่งการขอเลื่อนก็เพื่อที่จะให้ไทยกับกัมพูชาได้มีโอกาสเจรจากันใหม่ กรณีที่ไทยอยากจะขอขึ้นทะเบียนมรดกร่วมกับกัมพูชาในส่วนของส่วนควบรวมของ ปราสาทเขาพระวิหาร โบ้ย'สุรยุทธ์' เซ็นเห็นพ้องเขมร ในการประชุมที่นิวซีแลนด์ นาย นพดล กล่าวต่อว่า แต่ทั้งนี้สิ่งที่ตนเป็นห่วงก็คือ ก่อนหน้านี้ในวันที่ 23 มิ.ย.-2 ก.ค.50 ที่พล.อ.สุรยุทธ์ เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ คณะกรรมการมรดก สมัยประชุมที่ 31 เมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ได้มีการลงนามในมติ คณะกรรมการว่ารัฐภาคีได้ลงนามในมติตอนหนึ่งที่ระบุเนื้อหาว่า คณะกรรมการมรดกโลกรับทราบคำแถลงของประธานคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งคณะผู้แทนกัมพูชาและไทยได้เห็นพ้องด้วย ทั้งนี้ นายนพดลได้นำเอกสารอนุสัญญาฯ ดังกล่าวที่อ้างถึงซึ่งมีการแปลเป็นภาษาไทยมาแล้วอ่านให้ผู้สื่อข่าวฟังความว่า " รัฐภาคีกัมพูชา และรัฐภาคีไทย เห็นพ้องอย่างเต็มที่ว่า ปราสาทพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ มีคุณค่าสากลที่โดดเด่น และจะต้องได้รับการขึ้นทะเทียบเป็นมรดกโลกโดยเร็วที่สุด ดังนั้น กัมพูชาและไทยตกลงกันว่ากัมพูชาจะเสนอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก อย่างเป็นทางการ ในสมัยประชุมที่ 32 ของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551 โดยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากไทย" เอกสารระบุ นาย นพดล กล่าวเสริมว่า ตรงนี้ทำให้ไม่มั่นใจว่า แม้ว่าตนไปขอถอนการใช้แถลงการณ์ร่วม ไทยกัมพูชาออกมาแล้วจะทำให้กัมพูชาไม่ได้ขึ้นทะเบียบเขาพระวิหารหรือไม่ เพราะสิ่งที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นได้ดำเนินการไปเป็นการบ่งชี้ว่าไทยพร้อมที่จะสนับ สนุนกัมพูชาชึ้นทะเบียนเขาพระวิหารอย่างแข็งขันไว้ก่อนแล้ว ด้าน นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับฟังคำชี้แจงของนายนพดลและคณะแล้ว โดยนายนพดลจะมีการยื่นเอกสารประกอบ ซึ่งคณะตุลาการฯ กำหนดนัดพิจารณาคำร้องต่อในวันจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. 'นพดล'ยันมาให้ความเห็นศาลรธน. ไม่ใช่จำเลย ก่อน หน้านี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 กรกฎาคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวก่อนเข้า ชี้แจงและให้ถ้อยพร้อมเอกสารต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชานั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาหรือไม่ ว่า ศาลได้เรียกให้ตนมาชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งมั่นใจว่าจะชี้แจงได้ โดยได้เตรียมเอกสารที่คล้ายกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาด้วย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ กระทรวงการต่างประเทศได้นำเอกสารพร้อมแผนที่มาชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อ ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังยืนยันหรือไม่ว่า คำแถลงการณ์ร่วม ไม่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 นายนพดลกล่าวว่า ไม่สามารถพูดได้ เพราะจะกระทบต่อคำสั่งศาลปกครอง และที่มาวันนี้ก็เพื่อมาแสดงความคิดเห็น ไม่ได้มาในฐานะจำเลย ดังนั้นจึงมาให้ความร่วมมือกับศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลถามก็ตอบไปตามนั้น ต่อข้อซักถามว่า การไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศแคนาดาในวันที่ 5 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. จะขอถอนแถลงการณ์ร่วมฯ ออกมาหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ได้เรียนในหลายครั้งว่าการเดินทางไปครั้งนี้ ตนจะไปขอเลื่อนการพิจารณาปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกออกไปก่อน และเราไม่สามารถให้การสนับสนุนได้ ทั้งนี้ ในเวลา 14.00 น.วันที่ 4 กรกฎาคมตนจะแถลงจุดยืนที่กระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง ก่อนจะเดินทางไปแคนาดา สภาทนายฯจี้ครม.-ขรก.ทำตามคำสั่งศาลปค.เคร่งครัด นาย เดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ แถลงเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ถึงกรณีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทเขาพระวิหารของประเทศกัมพูชา ว่า คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่ต้องดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาด โดยทำหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อให้รับทราบคำสั่งของศาลปกครองกลาง ทั้งนี้ หากพบว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยส่วนราชการที่มีหน้าที่สอบสวน ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไปมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้าราชการการเมืองและข้าราชการประจำต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองอย่าง เคร่งครัด นายเดชอุดม กล่าวว่า สภาทนายความเห็นว่า คำพิพาทษาของศาลโลกไม่ได้บอกให้ไทยต้องยอมรับแผนที่ของกัมพูชา รวมถึงไม่ได้พิพากษาและชี้ขาดเขตแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ การลงนามในแถลงการณ์ไทย-กัมพูชา โดยนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นั้น ถือว่าเป็นการลงนามโดยไม่มีอำนาจและหน้าที่ การลงนามดังกล่าวจึงถือว่าไม่มีผลผูกพัน คนไทยในกัมพูชาเริ่มระวังตัว หลังชาวเขมรระดมพล นาย อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจไทยที่ลงทุนอยู่ในประเทศกัมพูชา ว่า มีกระแสข่าวว่ากรณีเขาพระวิหารสร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนในกัมพูชา จนถึงขั้นเริ่มระดมผู้ชุมนุม ทางบริษัทจึงได้เตือนให้พนักงานซีพีในกัมพูชาระวังตัว และรักษาทรัพย์สิน ทั้งนี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่รุนแรงเท่าเหตุเผาสถานทูตไทยในกัมพูชาครั้ง ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเชื่อว่ารัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศจะเจรจากันได้ ข้อมูลจาก มติชน จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:45:14 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตามด้วยปชป. เด้งรับลูกยื่นเรื่องให้แถลงการณ์นั้นเป็นโมฆะ ---------------------------------------------------------   ปชป.ยื่นศาล รธน.ชี้ขาดแถลงการณ์ร่วม “นพดล” เป็นโมฆะ      29 มิ.ย. 2008 - 06:15 ปชป.ยื่นคำร้องผ่านรองประธานสภาฯ ให้ศาล รธน.วินิจฉัยแถลงการณ์ร่วมจดทะเบียน “พระวิหาร” เป็นโมฆะ ชี้เข้าข่ายหนังสือสัญญา ต้องนำเข้าสภาก่อนตาม ม.190 พร้อมจี้รัฐบาลลูกกรอกหยุดกล่าวหายุยงคลั่งชาติ “สุขุมพันธุ์” โต้ รมต.เขมร ยันไม่ใช่เกมการเมือง ย้ำ 2 ชาติต้องขอจดมรดกโลกร่วมกัน ด้าน “ชูศักดิ์” ตีกันพันธมิตรฯ ยื่นฟ้องศาล วันนี้ (28 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้ยื่นหนังสือคำร้องต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า การที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 51 เห็นชอบให้นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้มีการจดทะเบียนปราสาทพระ วิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ในวันที่ 18 มิ.ย.51 เป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 และเป็นโมฆะ เนื่องจากการแถลงการณ์ร่วมถือเป็นหนังสือสัญญา และจะต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาก่อน ทั้งนี้ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ รมว.ต่างประเทศและรัฐบาลไทยปฏิบัติตามเนื้อหาในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว เนื่องจากอาจทำให้ไทยเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหารโดยถาวร โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ทางพรรคฯ เตรียมจะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเป็นโมฆะด้วย เพราะถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ระบุว่าการทำหนังสือสัญญากับต่างประเทศ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาก่อนดำเนินการเรื่องนี้ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยุติกระบวนการใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล่าวหาว่ายุยงให้คนไทยคลั่งชาติ ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเงา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้นำประเด็นการขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารของ ประเทศกัมพูชาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ตามที่นายฮอร์ นัม ฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กล่าวพาดพิงแต่อย่างใด เพราะทราบดีว่าไม่มีหนทางใดที่จะล้มรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ขอย้ำจุดยืนว่า ประเทศไทยและประเทศกัมพูชาควรขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารร่วมกัน “เชษฐา” เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เชื่อว่าปัญหานี้จะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่าเรื่องเขตแดนจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พร้อมยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยกดดันให้ปรับคณะรัฐมนตรีหลังอภิปรายไม่ไว้ วางใจนายกรัฐมนตรี และ 7 รัฐมนตรี แต่เป็นดุลพินิจที่นายกรัฐมนตรีต้องพิจารณาเอง ซึ่งพรรคไม่ขอเข้าไปก้าวล่วง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากมีการปรับจริงก็เป็นเพียงบางตำแหน่งไม่ใช่ปรับใหญ่ ** “ตือ” เชื่อสถานการณ์คลี่คลาย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงต่างๆ อันเกิดจากปราสาทเขาพระวิหารจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนำมติคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการลงนามในร่างคำแถลงการณ์ร่วมปราสาทเขาพระ วิหารกับประเทศกัมพูชา ซึ่งคงจะมีเพียงแต่ความรู้สึกที่มีต่อรัฐบาลเท่านั้น ทั้งนี้เห็นว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะดำเนินการชี้แจงทำ ความเข้าใจกับประชาชนในช่วงที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ส่วนที่ทางกลุ่มพันธมิตรจะนำประเด็นนี้มาฟ้องร้องดำเนินคดีกับขณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าสามารถดำเนินการได้เพราะถือว่าเป็นสิทธิ พร้อมกันนี้ นายสมศักดิ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทยยืนยันไม่เคยต่อรองกับพรรคกลังประชาชน เพื่อให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยแลกกับคะแนนลงมติไว้วางใจ ขณะเดียวกันปฏิเสธไม่ขอตอบตำถามว่า ขณะนี้ถึงเวลาในการปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่เพียงแต่เห็นว่ารัฐบาลควรรับฟังกระแสสังคม ** “ชูศักดิ์” ยันไม่แก้มติ ครม. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องทบทวนหรือปรับแก้มติกรณีปราสาทพระวิหาร หลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพราะเป็นเพียงการคุ้มครองชั่วคราวเท่านั้น ทั้งยังไม่เห็นความจำเป็นที่ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะนำ กรณีนี้ไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันได้ว่า ไม่มีรัฐมนตรีคนใดที่ประสงค์จะให้เกิดความเสียหายหรือเสียดินแดนให้กับ ประเทศกัมพูชา แต่เพราะประเด็นดังกล่าวถูกนำไปเชื่อมโยงเป็นประเด็นทางการเมืองจึงต้องมี การออกมาโต้แย้งต่างๆ เกิดขึ้น ** “สุวิทย์" อ้าง “เขาพระวิหาร” ผิดพลาดต้องแก้ไข นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ก่อนการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้คุยประเด็นเขาพระวิหารว่า อะไรที่ผิดก็ควรแก้ไข ซึ่งทางพรรคได้เสนอให้แก่มติคณะรัฐมนตรี ไม่ให้กระทบกับมติคณะรัฐมนตรีปี 2505 ส่วนการชี้แจงในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 นายสุวิทย์ ยืนยัน เงินรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลค้างกระดาน ส่งชำระกองทุนทั้งหมดไม่ได้ตกหล่นอยู่ที่ใคร ทุกอย่างตรวจสอบได้ ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ส่วนตัวไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะการตัดสินใจขึ้นอยู่กับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรียังไม่ได้เรียกพรรคร่วมรัฐบาลหารือ อย่างไรก็ตาม การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ไม่มีผลกระทบกับพรรคเพื่อแผ่นดิน จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:47:13 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมาด้วยคำพิพากษา ให้แถลงการณ์นั้นเป็นโมฆะ ----------------------------------------------------------- ศาล รธน.มีติ 8 ต่อ1 ชี้แถลงการณ์ร่วมฯไทย-กัมพูชา ขัดรธน.ม.190 « เมื่อ: กรกฎาคม 08, 2008, 11:35:03 AM » ตุลา การศาลรธน.มีการประชุมพิจารณา แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทพระวิหาร ตามที่ส.วและส.ส.ยื่นตีความ ขัดรธน. ม.190 หรือไม่ ซึ่งจะมีคำแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติ โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจรายงานข่าวจำนวนมาก             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันนี้(8 ก.ค.) มีนายชัช ชลวร เป็นประธานการประชุม เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. โดยมีวาระสำคัญ คือคำแถลงด้วยวาจาก่อนลงมติ กรณี 77 ส.ว. และ 151 ส.ส.ยื่นคำร้องให้ตีความการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย - กัมพูชา ของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 หรือไม่             เนื่องจากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเข้าข่ายการทำหนังสือสัญญาที่ต้องผ่านความ เห็นชอบจากรัฐสภาก่อน เนื่องจากมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตประเทศ หรือราชอาณาจักร ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละคนจะอ่านคำวินิจฉัยส่วนตัวก่อนที่จะมีการลง มติในทางใดทางหนึ่ง             อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าวในครั้งนี้ เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมได้             ล่าสุดศาลรธน.มีมติ 8 ต่อ 1 เสียง ให้ถือว่าแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ถือเป็นสนธิสัญญา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรค 2  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 1 วินิจฉัยชี้ขาดว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กับพูชา ฉบับวันที่ 18 มิ.ย.51 กรณีปราสาทพระ มีลักษณะครบองค์ประกอบเป็นสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนา และมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพุชา เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา             นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า จากนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะส่งคำวินิจฉัยให้กับประธานวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนฯ ดำเนินการต่อไป แต่ทั้งนี้การดำเนินการจะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่อยู่ในอำนาจที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไปก้าวล่วงได้             ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างน้อย คือนายเฉลิมพล เอกอะรุ มีความเห็นว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา เป็นสนธิสัญญา แต่ไม่ต้องขอความเห็นจากรัฐสภา จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:51:08 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกหลานพันธมิตรคงภูมิใจในคนรุ่นนี้ ที่ส่งมอบแผ่นดินของชาติให้เขาไปแบบโง่ๆ จากคุณ : กาแฟยามบ่าย - [ 12 ก.พ. 52 21:52:38 A:124.121.140.143 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ความเห็นสื่อ อีกด้านหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าใครกันแน่ ที่กำลังทำให้ไทยเสียเปรียบในกรณีนี้ ----------------------------------------------- ตามไม่ทัน : แถลงการณ์ร่วมฯ ของ นพดล ปัทมะ เป็นหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ว่า พื้นที่รอบเขาพระวิหาร เป็นของไทย โดย คุณ แม่ลูกจันทร์ ที่มา เวบไซต์ ไทยรัฐ 28 กรกฎาคม 2551 ปัญหา พิพาทเขตแดน เขมร-ไทย กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร เมื่อรัฐบาลกัมพูชาของนายกฯฮุน เซน ยื่นเรื่องร้องเรียนไป ถึงยูเอ็นว่า ถูกประเทศไทยบุกรุกคุกคามอธิปไตย ล่า สุด คณะมนตรีความมั่นคงซึ่งมี 5 ชาติพี่เบิ้ม อเมริกา รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน เป็นหัวขบวน ก็เตรียมประชุมฉุกเฉินเพื่อ สอบสวนเรื่องนี้โดยเร็ว!! นี่ คือลีลาการทูตของกัมพูชาที่ต้องการ ดึงองค์กรระหว่างประเทศให้เข้ามาช่วยกดดันประเทศไทย สร้างภาพให้กัมพูชาเป็นฝ่าย ถูกข่มเหงรังแก ป้ายขี้ให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ร้ายในเวทีโลกไปเต็มๆ!! แค่ นี้ยังไม่พอ ยังเตรียมยื่นฟ้องศาล โลกให้ตัดสินปัญหาเขตพื้นที่ทับซ้อน รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ว่าอยู่ในเขต แดน กัมพูชา? หรือเป็นดินแดนของไทย? โดยใช้คำพิพากษาศาลโลกเมื่อปี 2505 ที่ตัดสินให้เขมรชนะคดีปราสาทพระวิหารเป็นหลักฐานสำคัญ แสบริดสีดวงทวารมั้ยล่ะพวกเรา?? ถามว่า ไทยมีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ ต่อศาลโลกว่าพื้นที่รอบเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม.อยู่ในเขตแดนของไทย?? หลัก ฐานสำคัญก็คือ แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่ “นพดล ปัทมะ” อดีต รมว.ต่างประเทศ ไปลงนามที่ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม แถลงการณ์ ร่วมฉบับนี้มีข้อความระบุชัดเจนว่า กัมพูชาจะขึ้นทะเบียนมรดกโลก “เฉพาะตัวปราสาทอย่างเดียว” โดยไม่ ล่วงล้ำ ดินแดนไทย และไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทับซ้อน ที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้จัดทำหลักเขตแดนอย่างเป็นทางการ นี่คือหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ไม่ได้เป็นของเขมรแน่นอน!! เพราะถ้าพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.อยู่ใน เขตกัมพูชาจริง กัมพูชาคงไม่ขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก เฉพาะแค่ตัวปราสาทอย่างเดียว แต่ต้องรวมพื้นที่รอบตัวปราสาททั้งกระบิขึ้นเป็นมรดกโลกพร้อมกัน!! น่า เสียดาย ที่แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ฉบับนี้ ต้องเป็น “โมฆะ” ไม่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ก็เท่ากับไทยสูญเสียหลัก ฐานชิ้นสำคัญที่จะใช้สู้คดี และถ้าหากประวัติศาสตร์ซํ้ารอย ไทยต้องเสียดินแดนแถมให้เขมรอีก 4.6 ตร.กม.ฟรีๆ จะเจ็บปวดแค่ไหนโปรดใช้สะดือตรอง?? ความจริงปัญหาเขาพระวิหารอาจไม่ บานปลาย ถ้าไม่ถูกเอาไปขยายผลเป็นประเด็นการเมือง แต่เมื่อประเด็นปราสาทพระวิหารกลาย เป็นปัญหาระดับอินเตอร์ ไทยกับกัมพูชาในฐานะคู่กรณี ก็ต้องสู้กันยิบตา ล่าสุด กัมพูชาพลิกลิ้นไม่ยอมรับว่าบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. เป็นพื้นที่ทับซ้อนของไทย โกหกหน้าด้านๆ ว่าพื้นที่ตรงนี้ เป็นของเขมรฝ่ายเดียว!! “ แม่ ลูกจันทร์” เป็นห่วงว่า เมื่อต้องสู้กันเรื่องเขตแดนทีไร ไทยมักเสียเหลี่ยมเขมรทุกที เพราะเขมรอ้างแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม แต่ไทยอ้างแผนที่แอล 7017 ของ อเมริกา ใน บันทึกข้อตกลงปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ฉบับล่าสุด พ.ศ.2543 ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รมช.ต่างประเทศ เป็นผู้ลง นามฝ่ายไทย ได้ระบุว่า การจัดทำหลักเขตแดนให้ยึดตามแผนที่ฝรั่งเศส-สยาม (คศ.1904) เป็นแนวทาง แต่ไม่ได้ระบุแผนที่แอล 7017 ของอเมริกาที่ไทยใช้อ้างอิง!! ก็เท่ากับเราไปยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสของเขมรฝ่ายเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ ไทยก็เสียเปรียบเขมรตามเคย. จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:53:02 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 นี่ความเห็นอีกฉบับ --------------------------------------------------------- เอกสาร ลับสุดยอด แถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา เอกสาร นพดล ปัทมะ จริง หรือที่ 'แถลงการณ์ร่วมฯ' ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียอธิปไตย จริงหรือสิ่งที่แถลงการณ์ร่วมฯ บ่งชี้เป็นผลเสียต่ออธิปไตย ของประเทศไทยในอนาคต หรือว่าแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นข้อตกลง 'WIN WIN' ดังที่ 'นพดล ปัทมะ' ยืนยัน คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์ มี ความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากสำหรับ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ภายหลังได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหมให้เป็นหัวหน้าคณะของ ไทยในการประชุม GBC ร่วมกับกัมพูชาเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 เป็นความเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่สุขุมคัมภีรภาพมากขึ้นในการตอบคำถามต่อนักข่าวแทบทุกครั้งที่มีการแถลง แตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ถึงไม่มากระดับ 160 องศา แต่ก็ใกล้เคียง จำ ได้หรือไม่ว่า พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เคยตั้งข้อสงสัยแม้กระทั่งรายละเอียดของแผนที่ทั้งๆ ที่เป็นการสำรวจและจัดหา ขึ้นโดยกรมแผนที่ทหารอันเป็นหน่วยงานในความรับผิด ชอบของกองบัญชาการทหารสูงสุด ทั้งนี้ แทบไม่ต้องเอ่ยถึงความหวาดระแวงต่อบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ และท่าทีตอดนิดตอดหน่อยต่อจังหวะก้าว ของนักการเมือง อย่าง ไรก็ตาม ภายหลังจากเข้าร่วมประชุม GBC โดยมี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศกับ ผู้บัญชาการทหารบก ขนาบข้าง ท่าทีของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ก็เปลี่ยนไป ชัดในความรอบคอบ ชัดในความสุขุม ในยามตอบคำถาม อย่า ว่าแต่ท่าทีของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เลยที่บังเกิดความแปรเปลี่ยน หากแม้กระทั่งท่าทีของกัมพูชาก็เหมือนกับถอย กลับไปตั้งหลักใหม่ ถอยกลับไปตั้งหลักก่อนมีการประชุมร่วมที่ปารีสเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 บทสรุปของ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ที่ว่าการประชุม GBC ระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551 ที่ไม่คืบ หน้าก็คือ "เราถือแผนที่กันคนละฉบับ" นั่นก็คือ กัมพูชาได้ย้อนกลับไปยึดแผนที่ที่ไทยตกลงร่วมกับฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1904 และเมื่อปี ค.ศ.1907 อีกครั้งหนึ่ง ก็แผนที่นี้มิใช่หรือที่ทำให้ไทยแพ้กัมพูชาในการพิจารณาคดีของศาลโลกเมื่อปี 2505 ก็แผนที่นี้มิใช่หรือที่ทำให้คณะกรรมการมรดกโลกเห็นชอบให้ปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แม้ว่าฝ่ายไทยจะไม่เห็นชอบก็ ตาม ตรง นี้เองที่ทำให้การประชุมร่วมไทย-กัมพูชาที่ปารีสเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 มีบทบาทและความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในฐานะ ที่เป็นฐานที่มาของแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 การศึกษารายละเอียดของผลการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา การศึกษารายละเอียดของแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา จึงมีความจำเป็น จริง ละหรือที่แถลงการณ์ร่วมอาจจะทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียอธิปไตย จริงละหรือที่แถลงการณ์ร่วมบ่งชี้จะเป็นผลเสียต่อ อธิปไตยของประเทศไทยในกาล อนาคต หรือว่าแถลงการณ์ร่วมจะเป็นการตกลงในลักษณะ WIN WIN ดังที่ นายนพดล ปัทมะ ได้ยืนยัน เพราะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานซึ่งแถลงการณ์ร่วมไม่มีผลในทางปฏิบัติ เพราะว่าทั้งศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยออกมาถึงความไม่สมบูรณ์อันดำรงอยู่ของแถลงการณ์ร่วม การลงมติของคณะกรรมการมรดกโลกจึงไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วม ขณะ เดียว การถอยกลับไปก่อนสถานการณ์การประชุมร่วมไทย-กัมพูชาที่ปารีสเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 ของกัมพูชา กลับทำ ให้มีเรื่องโต้แย้งบานปลายติดตามมามากมาย ท่าทีของกัมพูชาต้องการขยายให้เป็นเรื่องระดับสากล ขณะ ที่ท่าทีของไทยต้องการจำกัดกรอบให้เป็นเรื่องในระดับทวิภาคี ทั้งๆ ที่โอกาสของการเจรจาระดับทวิภาคีมีโอกาสน้อยมาก เพราะว่าแต่ละฝ่ายต่างยืนยัน ในฐานะข้อมูลของตนเอง คำพิพากษาของศาลโลกกลับกลายเป็นอาวุธที่สำคัญของกัมพูชาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ การศึกษาประวัติศาสตร์ทั้งเมื่อปี 2505 และที่เพิ่งผ่านมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2551 จึงสำคัญ สำคัญ ต่อสถานะที่เป็นจริงของปราสาทพระวิหารในมุมของศาลโลก สำคัญต่อสถานะของผลการประชุมร่วมไทย-กัมพูชาที่ปารีส และต่อสถานะของแถลงการณ์ร่วมซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว สำคัญต่อสภาพความเป็นจริงของปัญหาพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ณ วันนี้ ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน วันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11094 จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:55:21 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถึงทางไทยจะมีคำสั่งศาลตัดสินให้แถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นเป็นโมฆะ แต่ทางกัมพูชาก็ไม่สนใจเดินหน้ายื่นเพื่อขอเป็นมรดกโลกเพียงประเทศเดียว แทนที่จะเป็นสองประเทศตามแถลงการณ์ร่วมฉบับที่เป็นโมฆะ ---------------------------------------------------------- กัมพูชายืนยันเดินหน้าเสนอ "เขาพระวิหาร" ขึ้นทะเบียนมรดกโลก 10:03 น.    หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสท์ รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ของ Mr.Phay Siphan โฆษกคณะรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ระบุว่า กัมพูชาจะเดินหน้าผลักดันการเสนอชื่อปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกต่อ องค์การยูเนสโกต่อไปโดยลำพัง แม้ว่าศาลปกครองของไทยจะตัดสินว่า รัฐบาลไทยไม่สามารถให้การสนับสนุนการเสนอชื่อปราสาทเขาพระวิหารของรัฐบาล กัมพูชาได้ก็ตาม    ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับหนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์เมื่อวานนี้ Mr.Phay Siphan กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นปัญหาภายในของไทยไม่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาและปราสาทเขา พระวิหารเป็นของกัมพูชา และกัมพูชาก็ต้องการให้ปราสาทเขาพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก    นอกจากนั้น พนมเปญ โพสต์ รายงานว่า Mr.Hor Namhong รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ได้แสดงความผิดหวังที่มีนักการเมือง และกลุ่มคนไทยบางกลุ่มนำเอาประเด็นเรื่องเขาพระวิหารไปใช้เป็นประเด็นทางการ เมืองภายในประเทศ โดยอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่กล่าวว่า " I am very sorry they are using Preah Vihear for their internal political purposes; this can affect the friendship and cooperation between our two countries," จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:57:13 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 สุดท้ายคณะกรรมการก็ตัดสินให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลก แม้ทางไทยพยายามคัดค้าน ------------------------------------------------------- กัมพูชาได้ขึ้นทะเบียน "เขาพระวิหาร" เป็นมรดกโลกแล้ว!   เมื่อ เวลา 23.00 น. วันที่ 7 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมการมรดกโลกประกาศรับมรดกโลกเพิ่มอีก 3 แห่งจากเอเชีย ได้แก่ ปราสาทพระวิหารของกัมพูชาที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่ริมชายแดนไทย-กัมพูชา เมืองประวัติศาสตร์มาเลเซียในช่องแคบมะละกา คือ เมืองเมลากาและจอร์จ ทาวน์ และแห่งสุดท้าย ได้แก่ แหล่งอารยธรรมเกษตรยุคเริ่มต้นของปาปัวนิวกินี ก่อน หน้านี้ นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทย กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้นทางกัมพูชายังยืนว่าจะใช้แผนที่ แนบตามมติครม.ของไทยปี พ.ศ. 2505 ซึ่งไม่รวมพื้นที่เขตทับซ้อน โดยจะขอจดทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้น ซึ่งฝ่ายไทยแสดงท่าทีชัดเจนเพื่อขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากคณะกรรมการมรดกโลกได้เลื่อนการ พิจารณามาแล้ว 1 ครั้ง นายปองพล กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ข้อเสนอของกัมพูชาจะได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการมรดกโลกก็ เนื่องจากผ่านเกณฑ์ของไอโคมอสหรือสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ ซึ่งถ้าผ่านหลักเกณฑ์เพียงแค่ 1 ใน 6 ข้อก็ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้ ซึ่งทั้ง 6 ข้อประกอบด้วยคุณทางทางมรดกธรรมชาติและคุณค่าทางวัฒนธรรม และในที่ประชุมแม้แต่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซียต่างแสดงความไม่พอใจที่พื้นที่ที่เสนอไปผ่านเกณฑ์มากกว่า 1 ข้อ แต่ยังไม่สามารถจดทะเบียนได้ในขณะที่กัมพูชาผ่านเกณฑ์เพียงแค่ข้อเดียวก็ สามารถขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้แล้ว ส่วนประเทศที่เป็นตัวตั้งตัวตีผลักดันให้กัมพูชาก็คือสหรัฐอเมริกา จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 21:58:13 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 อยู่นายอภิสิทธิ์หัวหน้าพรรค ปชป. ที่ยื่นเรื่องทำให้แถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นเป็นโมฆะ วันนี้มาเป็นนายกกลับบอกว่าไทยยึดหลัก ตามแถลงการณ์ร่วมนั้น ความรู้สึกไม่ช้าไปหรอกหรือ เขาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้วประเทศเดียวที่ยื่นไป ตามข่าวที่เอามาลง แล้วจะมาหลอกชาวบ้านยึดหลักยื่นพร้อมกันอะไรอีก -------------------------------------------------------------- "อภิสิทธิ์" เผยไทยยังคงยึดหลักเสนอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา ยอมรับเจรจาต้องใช้เวลา กำลังดำเนินไปด้วยดี ที่ รัฐสภา เมื่อเวลา 10.45 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนเรื่องการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า จุดยืนเราเหมือนเดิมคือควรจะพิจารณาว่าถ้ามีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกก็ควร ขึ้นทะเบียนร่วมกัน หรืออย่างน้อยที่สุดในส่วนของเราก็จะเดินหน้ากระบวนการขึ้นทะเบียนต่อเพื่อ ให้เกิดการรักษาสิทธิ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า จะขอขึ้นทะเบียนร่วมกับกัมพูชาเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเดินไปหลายทางพร้อมกันส่วนปัญหาเรื่องเขตแดนก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เจรจาที่ทำกันอยู่ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่เขาพระวิหารว่า หลักคือเราต้องการให้การอยู่ในพื้นที่เป็นไปอย่างสงบ และประชาชนในพื้นที่ได้ประโยชน์ด้วย เพราะฉะนั้น ถือว่าทำได้แต่ต้องไม่ให้กระทบกับเรื่องสิทธิของเขตแดนที่กระบวนการการเจรจา ต้องดำเนินการกันต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยจะได้รับการตอบสนองต่อกัมพูชามากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การเจรจาต้องใช้เวลา โดยเฉพาะเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนอย่างนี้ แต่สิ่งสำคัญคือขอให้ความแตกต่างอยู่บนโต๊ะเจรจา ซึ่งขณะนี้ก็เป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นบรรยากาศก็เป็นไปด้วยดีและทำงานในเรื่องนี้ต่อไป เมื่อ ถามแสดงว่า จะไม่เกิดการเผชิญหน้าของกองกำลังทั้งสองฝ่ายอย่างที่ผ่านมาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนโยบายคือการใช้กระบวนการเจรจา ซึ่งกัมพูชาก็ตอบสนองแนวทางนี้เป็นอย่างดี http://www.bangkokbiznews.com/home/news/politics/politics/2009/02/12/news_15604.php จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 22:01:16 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 นายอภิสิทธิ์บิดเบือนข้อเท็จจริงที่ว่ายึดหลักเสนอให้เขาพระวิหาร ทั้งสองประเทศทั้งๆ ที่พรรคพวกตัวเองคัดค้าน จนศาลตัดสินกัมพูชาดิ้นรนจนขอขึ้นเป็นมรดกโลกได้เพียงประเทศเดียว เหล่ากองเชียร์ก็มาบิดเบือนเรื่องกัมพูชายื่นไปประเทศเดียว ราวกับว่ารัฐบาลที่แล้วไม่ได้ยึดหลักเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ที่กระทุ้นี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7519996/P7519996.html จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 22:03:59 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 มาทบทวนความจำเดี๋ยวเจอใครจับมาทบทวนความจำ เผื่อลืมจะได้ไปบอกนายมาร์คให้ทำตามด้วย ------------------------------------------------------------- ปชป.จับผิดแผนที่เขาพระวิหาร นายศิริโชค โสภา โฆษก ครม.เงาของพรรค ประชาธิปัตย์ แถลงว่า ครม.เงามีความห่วงใยกรณีที่นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ทำข้อตกลงในการยอมรับให้ประเทศกัมพูชาจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดก โลก ซึ่งอาจทำให้ข้อสงวนที่ พ.อ.ถนัด คอมันตร์ อดีต รมว.ต่างประเทศ เคยยื่นข้อค้านกับสหประชาชาติในสมัยนั้นต้องตกไป ดังนั้น ครม.เงาขอเรียกร้องให้นายนพดลเปิดเผยรายละเอียดที่แท้จริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ เอกสารที่ลงนามกับรัฐบาลกัมพูชา เพราะขณะนี้ มีความสับสนเป็นอย่างมาก พรรคประชาธิปัตย์มีหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นได้ว่าสิ่งที่นายนพดลแถลงต่อคน ไทย กับ สิ่งที่รัฐบาลกัมพูชานำเสนอต่อชาวเขมรและยูเนสโก มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่นนายไพร สีพัน โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศกัมพูชาถึงสาเหตุการจดทะเบียนล่าช้า โดยระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลไทยสับสนกับเอกสารที่รัฐบาลกัมพูชาส่งให้ เพราะรัฐบาลกัมพูชาส่งภาพวาด มิใช่แผนที่ ดังนั้นรัฐบาลไทย ต้องระมัดระวังว่า รัฐบาลกัมพูชาส่งเอกสารอะไรไปที่ยูเนสโก ไม่เช่นนั้นอาจถูกหลอกได้ จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 22:22:17 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 อภิสิทธิ์วันนั้พบพิรุธ วันนี้มาเป็นนายกเห็นด้วยที่กัมพูชา นำเขาพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกแล้ว ---------------------------------------------------------- ปชป.พบพิรุธเขาพระวิหารเดินหน้ายื่นถอดครม. อภิสิทธิ์ เผย พบพิรุธ ในการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ยืนยันเดินหน้า ยื่นถอดถอน ครม. ต่อ หลัง "ปองพล อดิเรกสาร" หอบเอกสารเข้าพบ ถกเครียด วันนี้( 12 ก.ค.) นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เดินทางไปยังพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเอกสารเพื่อเข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายปองพล กล่าวว่า ตนเป็นคนติดต่อเพื่อชี้แจงรายละเอียดในเรื่องที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาท พระวิหารเป็นมรดกโลกเอง โดยย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไทยไม่ได้สูญเสียดินแดนอย่างที่มีการพยายามปลุกปั่น อย่างไรก็ตาม การมาในครั้งนี้ไม่ได้หวังผลทางการเมืองให้มีการถอดถอนใครออกจากตำแหน่งแต่ อย่างใด ทั้งนี้ตนเองพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวทุกเวทีหากใครต้องการ ข้อมูล เพื่อไม่ให้นำเรื่องดังกล่าวไปพูดแบบไม่รู้จริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และยิ่งทำให้สถานการณ์ประเทศบานปลาย ส่วน ข้อกังขาเรื่องที่จะให้คณะกรรมการ 7 ชาติ มาบริหารพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารนั้น นายปองพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้ได้ ความชัดเจน ส่วนตนเองเกี่ยวเฉพาะในเรื่องมรดกโลกเท่านั้น ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังฟังคำชี้แจงกรณีปราสาทเขาพระวิหารจาก นายปองพล อดิเรก ว่าเรื่องนี้มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชาที่น่า จะเกิดจากการล็อบบี้ เนื่องจากมีการดำเนินการต่างๆ อย่างเป็นระบบ ทั้งนี้จึงอยากจะเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาโดย เร็ว เพื่อให้มีมติการทำงานร่วมกันในอนาคต เพื่อป้องกันสิทธิของไทยและความสำคัญระหว่างประเทศ รวมถึงประกาศให้ประชาคมโลกรับทราบ เพื่อแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ไม่มีผลบังคับใช้แล้วตามคำตัดสินของรัฐธรรมนูญ หัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า แม้จะได้รับฟังคำชี้แจงจาก นายปองพล แล้วพรรคก็ยังคงเดินหน้าถอดถอนคณะรัฐมนตรีต่อไปเพื่อไม่ให้ประเทศชาติเกิด ความเสียหายไปมากกว่านี้ จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 22:24:03 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยังจำเรื่องที่พูดเกี่ยวกับเขาพระวิหารวันนั้นได้หรือไม่ มาวันนี้ทำไมทำตามแนวทางคนที่คุณไปด่าเขา ลืมง่ายจัง --------------------------------------------------------- แกะรอยซักฟอก ปชป.ประกาศชัยชนะ ...เคลื่อนเขาพระวิหาร หมายเหตุ : นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภา กล่าวสรุปปิดการอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เมื่อคืนวันที่ 26 มิถุนายน ยื่น ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 7 คน พร้อมกับเพื่อนสมาชิก ตอนแรกถูกต่อว่าแค่ว่า 4 เดือน กระเหี้ยนกระหือรือ หรือจะรีบร้อน หรือมีความทะเยอทะยานอะไร ครั้งสุดท้ายที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีวิกฤตการณ์การเงินที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย รัฐบาลนายชวน หลีกภัย แถลงนโยบายเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2540 แก้ปัญหาซึ่งตกค้างมาจากรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นโดยลำดับ แต่เวลาผ่านไปเพียงแค่ 3 เดือน ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งคณะ ท่านนายกฯ (นายสมัคร สุนทรเวช) เป็นฝ่ายค้านในขณะนั้น ไม่ประสงค์จะโต้วาที เพียงแต่บอกว่า วันนั้นเราก็ถือว่าเป็นสิทธิของท่าน ลองนึกภาพว่าถ้าวันนี้บ้านเมืองของเรามีความสมานฉันท์ ไม่มีปัญหาที่กลุ่มผู้คนต่างๆ มีความเดือดร้อน เห็นว่ามันมีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในบ้านเมืองออกมาชุมนุมกัน ถ้าวันนี้ความหวังที่ท่านนายกฯ และพรรค เคยมอบไว้ให้กับคนไทย ว่าจะเพิ่มรายได้เขา 4 เท่า ลดรายจ่ายเขา 4 เท่า ไม่ต้องถึงกับเป็นจริง แค่เริ่มว่าจะเป็นจริง พวกผมไม่มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แต่เพราะวันนี้ไปที่ไหนใครก็ว่าบ้านเมืองวิกฤต ประชาชนทุกข์แสนสาหัสกับภาวะเศรษฐกิจ พบความทุกข์ของพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่ยังมองไม่เห็นแสงสว่างปลายทาง ฯลฯ ในสภาวะอย่างนี้ในฐานะฝ่ายตรวจสอบละเว้นหน้าที่ของตัวเองไม่ได้ เราไม่ได้มีเสียงมากพอที่จะไปล้มท่าน แต่เราจำเป็นที่จะต้องให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า 4 เดือนที่ผ่านมานั้นเป็นความสูญเสียของประเทศชาติบ้านเมือง ทั้งในเรื่องโอกาสและความเสียหายจริงๆ อย่างไร ระยะ เวลา 3 วันที่ผ่านมา ได้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดินในหลายกระทรวง ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง แม้แต่นายกฯ ยังยอมรับว่าคำอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์หลายคนเป็นประโยชน์ ประเด็นที่อยากจะพูดถึงมากๆ คือเรื่องเขาพระวิหาร ซึ่งฝ่ายค้านเสียใจว่าไม่สามารถยับยั้งความเสียหายได้ เพราะในวันที่ญัตติ รัฐมนตรีต่างประเทศได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชาแล้ว จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์คือ ต้องการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกับกัมพูชา ต้องการเป็นสมาชิกที่ดีของสหประชาชาติ ต้องการเห็นโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่มีความสง่างาม มีประวัติศาสตร์ สมควรแก่การอนุรักษ์เป็นมรดกโลก ได้รับการจดทะเบียนบนบรรยากาศที่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีความผิดพลาดและจะทำให้คนไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตย การอภิปรายเรื่องเขาพระวิหาร มีหลายเรื่องที่เราเห็นตรงกัน ซึ่งจะได้ไม่ต้องเถียงกันอีกต่อไป 1.ต้องยึดคำตัดสินของศาลโลก พ.ศ.2505 คำตัดสินมี 3 ข้อ ข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอธิปไตยของดินแดน ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา ซึ่งแม้แต่นายกรัฐมนตรียังกล่าวยอมรับในรายการสนทนาประสาสมัคร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม บริเวณปราสาทพระวิหารแปลตรงกับคำ พิพากษาศาลโลกก็คือ Temple Area ไม่ใช่ Temple แต่ท่านมายึดตัวนี้แหละครับ อ้างว่าเป็นเส้นเขตแดน แล้วก็ตั้งโจทย์เอาว่า การขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้น ตราบใดที่กัมพูชาไม่รุกล้ำเข้ามาในแนวเขตที่กำหนดในมติ ครม. 2505 แปลว่าเราไม่ได้สูญเสียอะไรเพิ่มเติม ตรงนี้ผิด กัมพูชาได้จัดทำแถลงการณ์ร่วมและส่งภาพนี้ ซึ่งจะเรียกแผนที่ หรือแผนผังก็ตาม ประกอบไปด้วยการขีดเส้น เขตปราสาท เขาไม่เรียกบริเวณและเขตอนุรักษ์ หรือ Buffer Zone มีพื้นที่เลข 3 ตามแถลงการณ์ร่วมที่บอกว่า 2 ฝ่ายต้องไปตกลงร่วมกันว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งพื้นที่ในภาพส่วนมากเป็นดินแดนของไทย ความจริงหากสามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกันแล้วก็ไม่ปัญหา แต่กัมพูชาไม่ยินยอม และถ้ากัมพูชาจะไปขึ้นฝ่ายเดียวจะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างชัดแจ้งจากฝ่าย ไทย ซึ่งจะบอกว่าไม่มีการสนับสนุนไม่ได้แล้ว เพราะนายกฯสมัคร ได้แสดงการสนับสนุนในวันที่ไปพบกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และเขายังยืนยันด้วยว่ามันไม่มีพื้นที่ทับซ้อน เพราะพื้นที่ทั้งหมดในความคิดของเขาคือพื้นที่ของกัมพูชาทั้งหมด สิ่ง ที่ท่านไปยอมรับในแถลงการณ์ร่วมหรือภาพนั้น ท่านกำลังซ้ำรอยสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2505 ที่ศาลตัดสินให้เราแพ้คดี เพราะว่าไปให้คนทำแผนที่มาให้ เราบอกเราไม่ได้ใช้เพื่อเป็นการปักปันเขตแดน แต่สุดท้ายเขาบอกว่านั่นล่ะคือการยอมรับ กฎหมายหมายปิดปาก พื้นที่รอบๆ ตรงนี้ ก็รับไปแล้วนะครับว่า กัมพูชามีสิทธิในการมาทำแผนบริหารจัดการร่วม ทั้งๆ ที่เป็นเขตแดนไทยเพราะเรายึดถือสันปันน้ำ ไม่มีทางที่คณะกรรมการปักปันเขตแดนจะทำเรื่องนี้ได้เสร็จ ก่อนกำหนดที่ท่านไปตกลงกับเขาว่า เรื่องนี้จะต้องเสร็จอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งที่น่าเสียใจก็คือว่า การสูญเสียอธิปไตย เขาขีดเส้นรอบปราสาทมาทั้งหมด อะไรที่ไม่ใช่ตัวปราสาท ขอบทั้งหมดที่ออกมานี้ กัมพูชาไปออกเป็นพระราชกฤษฎีกาไว้แล้ว วันนี้เขาสามารถไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในนามกัมพูชาแล้ว นี่คือความสูญเสีย การอ้างในเรื่องของกรม แผนที่ทหาร เขายอมรับว่าที่ทางกัมพูชาตีเส้นมาทั้งหมดนี้ ไม่เกินขอบเขตของมติ ครม. 2505 แต่เกินคำพิพากษาของศาลโลก เพราะศาลโลกให้เฉพาะตัวปราสาทไม่มีการตีเส้นขีดออกมา และในแผนที่ L7017 ที่นำมาอ้างกันนั้น มีข้อความสีแดงข้างล่างระบุว่า แนวพรมแดนระหว่างประเทศในแผนที่ระวางนี้ต้องไม่ถือกำหนดเป็นทางการ ไม่ใช่โดยประมาณ ไม่ใช่อาจคลาดเคลื่อน แต่จะต้องไม่ถือกำหนดเป็นทางการ เวลาเขาเขียนถึงการแบ่งเขตภายในประเทศเขาบอกว่า แสดงไว้โดยประมาณ แต่ถ้าเป็นพรมแดนระหว่างประเทศเขาบอกว่า ต้องไม่ถือกำหนดเป็นทางการ จากการสอบถามผู้ที่เคยรับราชการ เขาบอกว่าแนวปฏิบัติ 2505 แผนที่นั้นไม่ใช่เส้นเขตแดน และมติ ครม.กำหนดเส้นเขตแดนไม่ได้ สิ่งที่จะกำหนดเส้นเขตแดนได้คือ การทำงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนเท่านั้น ผมไม่เสียเวลาโต้เถียงเรื่องแผนที่หรือแผนผัง รู้แต่ว่ารูปที่รัฐมนตรีต่างประเทศไปเซ็นรับรองนั้น นอกจากการกำหนดขอบบริเวณที่กัมพูชาตีแล้วเขายังเขียนพิกัดไว้เรียบร้อยว่า จุดไหนพิกัดเท่าไหร่ มีเส้นรุ้ง เส้นแวง มีเส้นลาดชัน มีมาตราส่วน มีทิศ วันนี้ วันนี้แม้จะแก้แถลงการณ์ร่วม ก็คิดว่าทำไม่ได้ มันสายไปแล้ว มีทางเดียวเท่านั้นคือต้องแสดงให้เห็นว่า แถลงการณ์ร่วม และภาพที่ปรากฏ และตัวแทนของประเทศไทยที่ไปลงนามนั้น ไม่ได้มีความยินยอมพร้อมใจจากประชาชนคนไทย ผมไม่เรียกร้องให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน แต่ว่าการที่จะคัดค้านไปถึงยูเนสโก ถึงกรรมการมรดกโลกนั้น กระบวนการทุกอย่างจะต้องช่วยกันเดิน ขอเรียกร้องให้ผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่ให้ไว้วางใจรัฐมนตรีต่างประเทศ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ขอยืนยันว่ารัฐบาล บริหารงานล้มเหลวหลายเรื่อง และผู้อภิปรายที่อภิปรายได้ดีที่สุดคือ นายกฯ กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่คงจะทำงานต่อไม่ได้ ท่านอาจจะไม่คุ้นกับการเมือง แต่ถ้าเป็นบริษัทเอกชน ท่านเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย กรรมการผู้จัดการใหญ่บอกท่านทำงานไม่ได้ต้องให้คนอื่นทำงานแทน อยู่ต่อไม่ได้แล้ว ในส่วนของรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ล้มเหลว บกพร่องในการทำงาน ที่ฝ่ายค้านเขียนไว้ในญัตติว่า ไปตอบแทนบุญคุณ ผู้มีอำนาจในอดีต กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม คิดถึงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เอาคนไปอยู่ในตำแหน่งสำคัญๆ ที่จะต้องดูแลเศรษฐกิจ ที่จะต้องดูแลกระบวนการยุติธรรม เอาคนซึ่งมีปัญหา มีข้อครหา มีคดีติดตัวไปดำรงตำแหน่งทั้งๆ วันนี้เราต้องเดินไปข้างหน้าจริงๆ การบริหารเศรษฐกิจแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย การไม่แน่ใจว่าคนนี้มีฝีมือหรือเปล่า ต้องเอาคนอีกกระทรวงมาคอยช่วยดูแล การเปลี่ยนแปลงสัญญาณรายวัน บริหารไม่ได้หรอก มันไม่ได้ ฝ่ายค้านไม่หวัง การเปลี่ยนแปลง แม้จะได้เป็นฝ่ายค้านต่อไปก็ไม่มีปัญหาแต่อยากให้โอกาสคนไทย ประเทศไทยบ้าง อยากได้รัฐบาลที่ประชาชนเชื่อมั่น แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ อยากได้รัฐบาลที่ไม่ชวนทะเลาะกับประชาชน อยากได้รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งแล้ว รักษาประชาธิปไตยด้วยการเคารพหลักการพื้นฐานต่างๆ แต่ 4 เดือนที่ผ่านมามันพิสูจน์ว่าท่านทำตรงกันข้าม ในวันที่ผู้มีอำนาจยังส่งเสียงดังๆ ชวนประชาชนทะเลาะตลอดเวลา หากท่านมัวแต่มุ่งตอบแทนบุญคุณของผู้มีอำนาจในอดีต ซึ่งนายกฯสมัครบอกว่าไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณใคร แต่คนคนนั้น เป็นหนี้บุญคุณท่าน ผมมาคิดดูอีกที น่าจะใช่ครับ เพราะ 4 เดือนที่ผ่านมาครับ ท่านทำให้เขาล้นเหลือ วันนี้ถึงกล้าประกาศว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณท่านแล้ว หน้า 11 ข้อมูลจาก มติชน จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 22:27:57 A:118.174.135.2 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ลองไปดูกระทู้นี้ซิ ผมจับเท็จได้คาหนังคาเขาสองคนทีเดียว และอีกหลายคนติดร่างแห อยากให้ทุกคนเห็นจังผม Save เก็บไว้แล้ว http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7519996/P7519996.html งานนี้ต้องมีประจานกันบ้างแหละอิอิ จากคุณ : มาหาอะไร - [ 12 ก.พ. 52 23:18:23 A:118.174.210.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไปดูความจริงที่เวปนี้ดีกว่า... เรื่องของคนไทยก็ต้องให้คนไทยแก้ไข... หามาให้อ่านเรื่องเขาพระวิหาร ว่าทำไมเรื่องมันถึงวุ่นวาย...ไม่จบ รายงานพิเศษ : “ปองพล” ประเคน “อธิปไตย” ให้กัมพูชา ? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7520450/P7520450.html จากคุณ : ท่องโดดเดี่ยวหมื่นลี้ - [ 13 ก.พ. 52 00:06:57 A:192.168.0.17 X:124.122.203.249 ]

ความคิดเห็นที่ 16 "ความคิดเห็นที่ 15 ไปดูความจริงที่เวปนี้ดีกว่า... เรื่องของคนไทยก็ต้องให้คนไทยแก้ไข... หามาให้อ่านเรื่องเขาพระวิหาร ว่าทำไมเรื่องมันถึงวุ่นวาย...ไม่จบ รายงานพิเศษ : “ปองพล” ประเคน “อธิปไตย” ให้กัมพูชา ? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7520450/P7520450.html จากคุณ : ท่องโดดเดี่ยวหมื่นลี้ - [ 13 ก.พ. 52 00:06:57 A:192.168.0.17 X:124.122.203.249 ] " - ปองพลประเคนหรือพวก ปชป. กับพันธมิตรประเคน ถ้าทำตามที่นพดลไปตกลงไว้ วันนี้ก็มีหลักฐานอีกอันชัดเจนที่จะยืนยันได้ว่า กัมพูชายอมรับว่าเขาพระวิหารมีไทยเอี่ยวด้วย ถึงต้องยอมตกลงให้สองประเทศไปขอยื่น ไปเป็นมรดกโลกพร้อมกันทั้งสองประเทศ แต่เพราะพวก ปชป. และพันธมิตร ทำให้มีการตีความจนข้อตกลงนั้นเป้นโมฆะ และฝ่ายกัมพูชาก็เลยเอาไปยื่นฝ่ายเดียวจนสำเร็จ ตอนนี้กัมพูชาสามารถอ้างอธิปไตยได้เต็มปากแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นจะยื่นไม่สำเร็จ เมื่อกรรมการมรดกโลกยอมรับ ก็เท่ากับสิทธิเป็นของกัมพูชาโดยปริยาย ใครเป็นคนทำให้เป็นเช่นนี้ ลองนอนนึกดีๆ จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 00:16:35 A:118.174.210.24 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 คกก. มรดกโลกยูเนสโก มีมติให้เขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2008/07/P6776014/P6776014.html -- สัมภาษณ์สด นายปองพล อดิเรกสาร 07/07/2008 4:00 จาก ควิเบก ประเทศ แคนาดา เรื่องการขอขึ้นมรดกโลก ประสาทพระวิหาร http://www.mediafire.com/?um0stecmgcc จากคุณ : mcu51 - [ 13 ก.พ. 52 04:46:16 A:124.120.0.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอหยาบหน่อย ฝากฝักไปให้พรรคนี้มันมันหน่อยเถอะด้านจริงๆ จากคุณ : Onion the thief* - [ 13 ก.พ. 52 08:04:45 A:192.168.0.17 X:1.1.1.174, 124.120.73.176 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านคร่าวๆแล้วน่าละเหี่ย ความจริงไม่รู้อะไรถูกผิด แต่ๆๆๆๆ ฝ่ายเสื้อแดงกำลังแก้ข่าวให้เขมรถูกต้องอยู่ เค้าขึ้นทะเบียนถูกต้องทุกอย่าง นพดลไม่ได้ขายชาติ เอาข้อมูลละเอียดยิบมาปกป้องกัมพูชาต่างๆนาๆ  ดีใจกับคนเขมรด้วย ที่มีคนไทยเสื้อแดงบางส่วนคอยหนุนหลังคอยแย้งคนไทยด้วยกัน ดูแล้วก็ตลกเหมือนกับว่าไทยนี่แหระที่เอารัดเอาเปรียบเขมร เหอๆ ผมไม่รู้ ผมรู้แต่ว่าส่วนใหญ่เรื่องของชาติบ้านเมือง ไม่ว่าประเทศใหนจะเจริญแล้วหรือไม่ก็ตามแค่ที่ดินนิดหน่อยก็ไม่ยอมกันง่ายๆแน่ คนเค้าไม่มานั่งเถียงแทนชาติอื่นเหมือนพี่ไทยแน่ๆ   เขมรเค้าจะมีใหม ที่จะมาเห็นใจไทยและมาเถียงให้แทนคนไทย พวกคุณที่หาข้อมูลอย่างเยอะมาอวดอ้างนี้ คิดว่าข้อมูลคุณถูกกี่เปอน์เซ็นต์ ดีใจพวกคุณจริงๆ ที่เถียงคนไทยด้วยกัน แทนที่จะหาข้อมูลว่าควรจะแก้ใขยังไง กลับบอกว่าเค้าถูกต้องแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ ถามนิดครับ พวกคุณมีความรักประเทศใหม หรือคิดแค่ว่าความถูกต้องเสียได้เสียไป อยากจะเปรียบเทียบว่า ถ้าวันนึง บ้านที่คุณอยู่มานาน มีวันนึงมีคนบอกว่าที่ดินครึ่งนึงเป็นของเค้าและเค้าใช้วิธีเล่เหลี่ยมให้ได้มา ตรวจสอบที่กรมที่ดินว่าเป็นของเค้าจริง  คุณจะให้เค้าง่ายๆ เหมือนที่พิมพ์ใหม จะไปหาข้อมูลว่าฝั่งเค้าถูกและให้เค้าง่ายๆใหมครับ คนไทยแค่ลมปาก น่าอาย น่าละเหี่ยใจจริงๆ กับพฤติกรรมของคนที่นี้บางส่วน ขายชาติ ใจเขมร หรือสุดแล้วแต่ที่กล่าวหากัน จริงหรือไม่หว่า??? จากคุณ : กาลามังตั้งเด่  - [ 13 ก.พ. 52 13:55:01 A:192.168.0.17 X:58.9.20.167 ]   ขออนุญาต ก็อปมาทั้งดุ้น..แด่ จขกท : ยายฉ่ำ จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 14:00:47 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20 - เพราะปราสาทเขาพระวิหารเขาตัดสินให้เป็นมรดกโลกแล้ว แล้วสิ่งที่จะเดินหน้าทำนั้นคืออะไร รวมพื้นที่ทับซ้อนแล้วยื่นเป็นมรดกโลกพร้อมกัมพูชาใช่หรือไม่ หนักกว่าที่ไปด่านพดลหรือไม่ ถ้าหมายถึงเฉพาะตัวปราสาทก็คือการหลอกลวงดีๆ นี่เอง ................ มาหาอะไร ทำทำไม เปิดประเด็นเก่าๆขึ้นมาใหม่ ไม่เข้าใจจริงๆหรือ ที่ไทยต้องการยื่นร่วมคือ ทางขึ้นที่เป็นบันไดอยู่ในเขตไทย ไม่ใข่จะยื่นร่วมที่ตัวปราสาท ไม่เคยมีใครจะขอยื่นร่วมที่ตัวปราสาท จะยื่นเฉพาะทางขึ้นพร้อมกับที่เขมรยื่นตัวปราสาท พูดอย่างนี้เข้าใจไหมนี่ ฟังดูเหมือนคนมาหาอะไรศึกษาค้นคว้ามามาก แต่จริงๆแล้วพูดถึงเฉพาะส่วนเดียวที่อยากให้เป็นประเด็น แล้วยังจับความมาผิดๆ แบบเดียวกับพวก 3 ตัวไม่ถึงบาท.. ที่คณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทยชุดเดิม- ชุดที่ถูกนพดลปลด ต้องการคือยื่นส่วนที่เป็นทางขึ้นพร้อมๆกับที่เขมรยื่นตัวปราสาท แต่เขมร + นพดลชิงยื่นก่อนเฉพาะตัวปราสาท ส่วนที่เป็นของไทยจึงค้างเติ่ง แทบจะหมดหรือหมดก็ว่าได้ หมดโอกาสที่จะยื่นขึ้นเป็นมรดกโลก ฉะนั้นที่เขอ้างว่าเรา จะยื่นทีหลังก็ได้นั้นเป็นการแก้ตัวอย่างน่ารังเกียจ ถ้าอยากจะรู้ความจริงต้องตามหาอ่านบทสัมภาษณ์ท่าน ศ ดร อดุล อดีตประธานคณะกรรมการมรดกโลก ในฐานะที่ท่านทำงานนี้มาตั้งแต่ต้น มีความรู้ด้านกฎหมายดีเยี่ยม เป็นคนไทยแท้ รักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่เคยยอม ถอยให้ใครแม้แต่ก้าวเดียวแล้วจะเข้าใจว่าทำไม กรรมการชุดที่ไม่ยินยอมให้เขมรยื่นฝ่ายเดียวจึงถูกเขปลด แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 14:34:27 จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 14:29:26 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 100 ผมว่าคุณก็เหมือนกับพวกนักวิชาการและพวกพันธมิตร รวมไปถึงพวก ปชป. ตอนเป็นฝ่ายค้านช่วงนั้น พยายามบิดเบือนข้อมูลทำนองว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหารยังเป็นของเราอยู่ เลยพยายามให้ยื่นร่วมกับกัมพูชา เพื่อขอให้เป็นมรดกโลก แต่กัมพูชาปฏิเสธเพราะว่า เขาได้รับการตัดสินจากศาลโลกมาแล้วว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่พวกที่ค้านตอนนั้น โดยเฉพาะอภิสิทธิ์บอกทำนองว่า ที่ดินยังเป็นของไทย ศาลโลกตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาท เพื่อปลุกระดมคนทั่วไปทำนองว่า รัฐบาลสมัยสมัคร ยกปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชา ผมจะลำดับเหตุการณ์อีกครั้ง โดยไม่ยึดคำพูดของใครข้างบน เพื่อไม่ให้งงและออกนอกเรื่อง ปี 2505 ไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร ให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลก โดยมีคนของ ปชป. ไปเป็นทนายความในครั้งนั้น ดังนั้นชัดเจนว่าตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ประเภทที่พูดว่าที่ดินยังเป็นของไทยอันนี้ ช่วยไปยึดคืนมาทีแล้วจะเชื่อ ปัญหาเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะยึดถือแผนที่คนละฉบับ แผนที่ฉบับของกัมพูชาทำในสมัยร.5 ช่วงการล่าอาณานิคมของพวกยุโรป เป็นเหตุให้ไทยต้องเสียดินแดนจำนวนมาก รวมๆ แล้วมากกว่าเนื้อที่ที่มีอยู่ในปจจุบัน ทั้งลาวและกัมพูชาบางส่วนในพม่าและบางส่วนในมาเลย์ หลังจากที่ไทยต้องยกดินแดนกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสหลายครั้ง ฝรั่งเศสเป็นคนทำแผนที่และใช้แผนที่นั้นในการทำข้อตกลงกับไทย เข้าใจว่าสมัยนั้นคนไทยยังทำแผนที่ไม่เก่งหรือยังไงไม่ทราบ ถึงไม่มีแผนที่ที่ทำเป็นของตัวเอง เมื่อเกิดปัญหาจนต้องขึ้นศาลโลกเรื่องเขาพระวิหาร สุดท้ายศาลโลกตัดสินยกปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชา ทั้งๆ ที่ค้านสายตาคนไทยและความเป็นจริง ทั้งสภาพภูมิประเทศหรือข้อตกลงที่ให้ยึดแนวสันเขา แต่เมื่อศาลโลกตัดสินออกมายังงี้ ก็ต้องยอมรับและก็ยอมรับมาทุกรัฐบาลต่อจากนั้น แต่ที่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ีทับซ้อน ก็เพราะว่าไทยได้ทำแผนที่ขึ้นมาภายหลังอีกฉบับ เลยทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน ถามว่าถ้ายกปัญหานี้ขึ้นศาลโลกใครชนะ ไม่บอกก็รู้ดูอาการก็ดูออก เพราะฝ่ายกัมพูชาจะจ้องฟ้องศาลโลกให้ตัดสิน ในขณะที่ฝ่ายไทยบ่ายเบี่ยง ถามว่าถ้าคุณมีปัญหาเรื่องแนวเขตที่ดินกับเพื่อนบ้าน ถ้าคุณชัวร์ว่าเป็นเขตคุณแน่ๆ คุณจะบ่ายเบี่ยงทำไม นี่ก็เช่นกัน เพราะรู้ว่าถ้าขึ้นศาลโลกก็แพ้ เพราะศาลโลกก็ต้องยึดแผนที่ ฉบับที่เคยตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา เขาคงไม่มายึดแผนที่ฉบับที่ไทยทำขึ้นใหม่ภายหลัง เพราะไม่เช่นนั้นก็ไปขัดกับการตัดสินครั้งแรก จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้ไทยตกเป็นรองมาตลอด ไม่ใช่ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างที่เข้าใจ แถมสุขุมพันธ์คนของปชป.อีกแล้ว ที่ไปเซ็นต์ให้รัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ฉบับที่สู้ในศาลโลกแล้วแพ้ แล้วยังงี้จะไปสู้อะไรเขา พื้นที่ทับซ้อนจะกลายเป็นของกัมพูชาไปโดยปริยาย สิ่งที่นพดลทำก็เพื่อให้ไทยยังอ้างได้ว่า กัมพูชายอมรับว่าพื้นที่ทับซ้อนมันทับซ้อนกันจริงๆ ไม่ใช่เป็นของกัมพูชาชัวร์ จึงสนับสนุนให้ตัวปราสาทขึ้นเป็นมรดกโลกเท่านั้น พื้นที่ทับซ้อนไม่ให้เสนอไป ซึ่งกัมพูชายอมเซ็นต์เท่ากับเป็นหลักฐานมัดว่า ดินแดนที่ทับซ้อนมันทับซ้อนกันจริงๆ แต่เมื่อปชป. และพวกโจมตีส่งฟ้องศาล จนศาลตัดสินให้แถลงการณ์ร่วมนั้นเป็นโมฆะ ก็เท่ากับไทยไม่มีเอกสารอะไรไปยืนยันในอนาคต ถ้าขึ้นศาลโลกจริงๆ อีก แล้วกัมพูชาก็สามารถเสนอขึ้นเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ โดยไม่ต้องพึ่งไทยแม้แต่น้อย ไม่ได้พึ่งแถลงการณืร่วมอย่างที่อ้าง เพราะมันเป็นโมฆะและครม.สมัครได้ยกเลิกไปแล้วด้วย เพราะว่าโดนโจมตีว่าขายชาติและสารพัด และมีเรื่องอยู่ในศาลพาลจะทำให้ครม.ทั้งคณะโดนปลดหมดด้วย ดังนั้นการมาอ้างว่ากัมพูชายังใช้แถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นไปอ้างขึ้น เป็นการบิดเบือนชัดเจน และตอนนี้ที่กำลังทำก็ไม่ช่วยอะไรแล้ว เพราะกัมพูชาระวังตัวและกลัวโดนไทยหลอกให้เซ็นต์อีก ดังนั้นเรื่องนี้อนาคตต้องไปจบที่ศาลโลกแน่นอน จะวันไหนในอนาคตคุณต้องได้เห็น ไม่ใช่เรื่องที่ผมสนับสนุนให้เป็นแบบนั้นแต่ทำนายว่ามันเป็นแบบนั้น แล้วกัมพูชาก็ได้ทั้งหมดไปตามแผนที่ฉบับที่กัมพูชาถือ ซึ่งรัฐบาลไทยไปเซ็นต์รับรองโดยสุขุมพันธ์เป็นคนไปเซ็นต์ เรื่องที่พูดที่อ้างว่าจะยื่นเรื่องคนเดียวหรือให้ยื่นร่วมของอภิสิทธิ์วันนี้ จึงเป็นการแก้เกี้ยวและหลอกคนไทยทั้งประเทศ และก็คงรู้ว่ากัมพูชาไม่เล่นด้วยเพราะกลัวโดนหลอก เพราะเขาถือไพ่เหนือกว่ามาตั้งแต่ต้น แต่มีคนไทยที่ยกเรื่องนี้มาปลุกระดมกระแสคลั่งชาติ ทั้งพวกพันธมิตรทั้งปชป. จนทำให้หลักฐานเด็ดฉบับนั้นต้องยกเลิกไป นี่แหละคือตราบาปที่จะดิ้นไม่หลุดในอนาึคต เมื่อมีการชำระประวัติศาสตร์อีก 10-20 ปีให้หลัง เพราะเมื่อพรรคพวกตัวเองมาเป็นรัฐบาล ก็ไม่ไปยึดเอาที่ดินคืนมาตามที่กล่าวอ้าง โดยเฉพาะนักวิชาการที่บอกว่าพบแผนที่ฉบับดั่งเดิมอะไร จนบัดนี้เงียบกริบ ไม่เห็นเอามาอ้างเพื่อไปยึดที่ดินคืน และปัจจุบันนี้ทหารกัมพูชาเข้าไปยึดหลายพื้นที่ทับซ้อนไว้แล้วด้วย เมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว แถมยังถือไพ่เหนือกว่าย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปเอามาคืน ยกเว้นก่อสงคราม เป็นความโง่แต่ขยันของคนที่คิดว่าไทยถือไพ่เหนือกว่า แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 14:28:15 จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:12:56 A:203.113.1.130 X: ] จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:43:34 A:203.113.1.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 101 ส่วนที่ยกเรื่องการรักประเทศมาอ้าง เพื่อปิดปากให้ทุกคนยอมรับการบิดเบือนของพวกตัวเอง เพื่อเป็นการปกปิดความผิดที่พรรคพวกตัวเองทำ หรือก่อให้เกิดปัญหาจนต้องเสียดินแดนไปจริงๆ เพื่อให้ประชาชนคนรุ่นหลังเชื่อการบิดเบือนประวัติศาสตร์ว่า รัฐบาลสมัยสมัครขายชาติ แต่พวกปชป.และพันธมิตรกู้ชาติ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงกับตรงกันข้าม เป้นมุกที่ไม่ต้องการรับรู้ความจริง ยอมรับเฉพาะข้อมูลบิดเบือนเท่านั้น โดยยกเรื่องรักชาติมาอ้าง ถ้ารักชาติจริงอย่างปากว่า รวมไปถึงพวกพันธมิตรด้วย วันนี้มีรัฐบาล ปชป. พวกเดียวกับพวกคุณ ทำไมไม่ออกมาเย้วๆ ให้รีบทวงพื้นที่บริเวณนั้นคืน หรือรื้อเขาพระวิหารส่งให้กัมพูชา เพราะที่ดินตรงนั้นเป็นของไทย อย่างที่ไปโกหกพวกที่อ้างตัวว่ารักชาติกัน ถ้าเงียบๆ ก็แสดงว่า ยอมรับว่าดินแดนส่วนนั้นเป้นของกัมพูชาโดยพฤตินัย เพราะตอนนี้ทหารกัมพูชาเข้าไปยึดไว้ได้แล้วหลายส่วน เป็นมุกปิดปากเพื่อช่วยพรรคพวกที่บิดเบือนประวัติศาสตร์เท่านั้นเอง ไม่ได้รักชาติอย่างปากว่าเลย จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:18:55 A:203.113.1.130 X: ] จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:43:54 A:203.113.1.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 103 ในประเด็นการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกับกัมพูชานั้น อภิสิทพูดแบบท่องมาและมันเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริงเพราะว่า 1. ในรัฐบาลท่านทักษิณ กัมพูชาเคยตกลงที่จะยื่นร่วมกับไทย   แต่ต่อมากัมพูชาเขาปฏิเสธที่จะขอขึ้นทะเบียนร่วมกับไทยหลังการยึดอำนาจของ คมช และอำนาจการต่อรองระหว่างประเทศเสียไปมาก 2. กัมพูชาจึงยื่นฝ่ายเดียว แต่ปัญหาคือแผนที่ที่กัมพูชายื่นมันผนวกและรุกล้ำพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกม รัฐบาลสมัครจึงต้องคัดค้านและขอให้เขาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกดก่อน นี่คือที่มาของคำแถลงการณ์ร่วม (ปัจจุบันสิ้นผลแล้ว) 3. ไทยแพ้คดีที่ศาลโลก 46 ปีที่แล้ว และเราจำใจยกปราสาทไปให้กัมพูชา  กัมพูชาเขาไม่ยอมให้ไทยไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกในตัวปราสาทร่วมกับเขาหรอกครับ  common sense ครับ  ไทยบังคับเขาได้ไหม? คำตอบก็คือ ไม่มีทางหรอกครับ 4. อภิสิทจะไปขอขึ้นทะเบียนร่วมกับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกม ได้ไหม?   ก็ตอนนี้ต่างคนต่างอ้างสิทธิกัยอยู่กัมพูชาเขาคงไม่ยอม 5. อภิสิทตอนเป็นฝ่ายค้านจะพูดอะไรก็ได้  แต่พอเป็นนายกฯจะพูดมั่วๆ ไม่ได้หรอก พูดอะไรก็ขอให้เป็นไปได้หน่อย ขนาดชื่อปราสาทยังตกลงกันไม่ได้ ไม่ต้องคิดไกล หรือ ฝันไปวันๆที่จะขอขึ้นร่วม 6. ประเด็นที่อภิสิทเคยอภิปรายนายนพดลไว้ว่า ที่ดินใต้ปราสาทเป็นของไทย และไทยยังใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนระหว่างไทยและเขมร ทั้งๆที่กองทัพไทย กรมแผนที่ทหาร กระทรวงต่างประเทศ ไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิท  และยึดถือแผนที่ L7017 เมื่อมาเป็นนายกแล้วจะทำยังไง 7. ประเด็นที่อภิสิทเคยอภิปรายนายนพดลไว้ว่า เส้นเขตแดนตามแผนที่L7017 ไม่ใช่พรมแดนระหว่างประเทศ แต่ลืมไปว่า ตนเองเคยอนุมัติแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตอุทยานพระวิหาร และระบุไว้ในแผนที่นั้นว่าเป็นเส้นพรมแดนระหว่างประเทศ   อภิสิทจะแก้ตัวยังไง จากคุณ : dmng (dmng) - [ 13 ก.พ. 52 14:39:36 A:125.25.43.134 X: ] จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:44:40 A:203.113.1.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 24 ความคิดเห็นที่ 104 ผมไม่ได้โต้แทนคนกัมพูชา ผมโต้แทนคนที่ถูกใส่ร้ายบิดเบือน ถ้าไม่โต้คนที่จะโดนใส่ร้ายว่าขายชาติ ก็คือนายนพดลและรัฐบาลสมัคร ซึ่งจากข้อเท็จจริงจะเห็นได้ว่ามันไม่เป็นความจริง ส่วนพวกที่ภูมิใจที่ช่วยให้กัมพูชายึดดินแดนนั้นสำเร็จในอนาคต ก็น่าจะเป็นพวกที่เชียร์ให้ล้มแถลงการณ์ร่วมนั้นทั้งหมดมากกว่า เห็นเฮกันจังเวลาตัดสินว่าเป็นโมฆะ แถมรู้สึกภูมิใจมากที่เชื่อการบิดเบือน แล้วมาโจมตีพวกอื่นว่าขายชาติ ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นพวกขายชาติตัวจริงว่าม่ะ แล้วพยายามมาปิดปากพวกอื่นโดยยกเรื่องไม่รักประเทศบ้างหล่ะ เถียงแทนคนเขมรบ้างหล่ะ เพื่อไม่ต้องการให้การบิดเบือนประวัติศาสตร์ของพวกตัวเอง ต้องล้มเหลวเพราะคนหลงเชื่อน้อยเมื่อรู้ความจริง ดังนั้นมุกปิดปากของพวกร้อนตัวก็เป็นธรรมดาแหละครับผมเข้าใจ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 14:42:14 จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:41:25 A:203.113.1.130 X: ] จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 14:45:03 A:203.113.1.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 พยายามบิดเบือนข้อมูลทำนองว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหารยังเป็นของเราอยู่ เลยพยายามให้ยื่นร่วมกับกัมพูชา เพื่อขอให้เป็นมรดกโลก .................... เอาอีกแล้วอ่านหรือเปล่านี่ ถึงบอกว่าในโลกนี้ ภาษาคนยากที่สุด ไม่มีใครบิดเบือนว่าตัวปราสาทเป็นของเรา มีแต่คุณนั่นแหละพูดเองเออเอง เรายืนยันแต่ว่าบันไดทางขึ้น บันไดทางขึ้น ทางขึ้นๆ ไม่ใช่ตัววิหารที่เราจะขอยื่นไปพร้อมกับที่เขมรยื่นตัววิหาร เป็นความพยายามอย่างยิ่งที่จะขอยื่นทางขึ้นที่ศาลโลก ไม่ได้ตัดสินให้เขมรไป ยังเป็นของไทย อยู่ในเขต จว สุรินทร์ เราเคยไปมาเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว เดินขึ้นบันไดที่เป้นศิลาแลง สัก  30 ขั้นกระมัง จำไม่ได้ ก็เจอทหารเขมรยืนถือปืนอยู่ คนที่พาไปเป็นนายตำรวจประจำอยู่ที่สุรินทร์ก็ไปเจรจาขอ ขึ้นเขาก็ยอมเพราะต้องอาศัยทางผ่านจากสุรินทร์ในการขึ้นลง เหมือนกันก็ต้องยอมๆกันไปได้ขึ้นไปจนถึงหน้าผา ขนาด 30กว่าปี มาแล้วยังพังไปเยอะแทบไม่เหลืออะไรแล้ว ที่คณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทยพยายามเจรจา ตกลงกับเขมรขอยื่นร่วมไปพร้อมๆกัน คือ ทางขึ้นๆๆๆ ไม่ใช่ขอร่วมในตัวปราสาท อย่าทำเป็นหลงประเด็น จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 14:59:38 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความจริงก็คือคุณเองที่ใส่ร้าย บิดเบือน ..หาว่ามีคนจะยื่นร่วมในตัววิหาร .. ซึ่งก็มีพรรคพวกไม่อ่านไม่คิดบ้าจี้ตามกันเป็นแถวๆ คนเขามองข้ามเรื่องนี้ไปแล้ว คำว่ายื่นร่วมคือการยื่นส่วนที่เป็น ของเราพร้อมๆกันไปเพื่อจะได้บ้านที่สมบูรณ์ คิดดูอยู่ๆมีบ้านอยู่บนหน้าผา ไม่มีทางขึ้นลง มันจะเป็นบ้านที่สมบูรณ์ไปได้อย่างไร แค่นี้ก็เห็นแล้วว่ามันมีการไม่ชอบมาพากล ในคณะกรรมการมรดกโลกที่ตัดสินรับบ้านที่ไม่มี ทางขึ้น ก็ยังมีคนอุตส่าห์เห้นดีเห็นงามไปหนับหนุน ครั้งแรกที่ปองพลมาออกทีวี ก็แสดงความคิดเห็น แบบนี้แหละ ว่าคุณสมบัติที่จะครบองค์ได้จะต้องมี บริเวณ มีทางขึ้น สมบูรณ์ เราดูทีวีอยู่ยังนึกชมว่า เป็นคนดี มีจุดยืน  ที่ไหนได้พอเขาแต่งตั้งเป็นประธานคนใหม่ แกกลับลำเสียเนี่ย คนอะไร แถมยังไปเสียท่ายอมให้ เขาตั้งกรรมการร่วมในการบูรณะ น่าเอาหัวโขกฝาตายๆไปซะจะไม่พุทโธ จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 15:19:18 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 มาหาอะไร มาหาอะไร พูดจาทำนองเดียวกับ คนที่ยืนอยู่กลางรูป มีทติ้งชาว รดน สีแดง มาหาอะไรช่างพูดจาได้บิดเบือน ดันทุรัง กล่าวหาคนอื่นโดยไม่หันมามองดูตัวเอง ใส่ร้ายกันชัดๆ ต่อหน้าต่อตา พูดไม่รู้ฟัง ไม่มีใครบ้าพอที่จะไปขอยื่นเป็นเจ้าของวิหารร่วม ก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ทำเป็นบ้าบอไม่เข้าใจ ใส่ร้าย บิดเบือนคนที่เขาขอยื่นส่วนที่เป็นของไทย ส่วนที่เป็นทางขึ้น ให้คนบ้องตื้นที่อ่านหนังสือไม่แตก พากันเข้ามาไชโยโห่ฮิ้ว ตาม.. คนมาหาอะไร เป็นคนไม่ดีจริงๆเลย จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 15:31:39 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 “จุดยืนของไทยชัด คือเราไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลโลก ประท้วง และสงวนสิทธิ์ แต่ในฐานะสมาชิกของสหประชาชาติ เราจะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก ครม. เลยบอกว่า เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตาม กำหนดแนวปฏิบัติไว้ ว่า จะต้องถอยออกมาอย่างไร ซึ่งศาลตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาท แต่ มติ ครม.2505 เป็นเรื่องของพื้นที่ และ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติให้เห็นว่า เราไม่ได้ฝ่าฝืนสิ่งที่ศาลโลกสั่ง และไม่ให้เกิดความขัดแย้ง รมว.ต่างประเทศได้ทำบันทึกไปถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อประท้วงคำพิพากษาดังกล่าว” - คุณ ยายฉ่ำ ลองอ่านสิ่งที่อภิสิทธิ์กล่าวไว้ ใครบิดเบือน ก็เห็นๆ อยู่ "ซึ่งศาลตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาท แต่ มติ ครม.2505 เป็นเรื่องของพื้นที่" ใครบิดเบือน ก็อภิิสทธิ์หลอกชาวบ้านชัดเจนว่า ศาลตัดสินให้เฉพาะตัวปราสาท แล้วมาเล่นลิ้นเรื่องที่ดิน ฟังแล้วยังไงก็หมายถึงว่าที่ดินเป็นของไทย ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ใครไปบิดเบือน ผมว่ารวมๆ ทั้งพันธมิตรและอภิิสทธิ์หรือพวก ปชป. ได้ว่าเฉพาะคนที่มาตอบในนี้เท่านั้น จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 15:51:12 A:203.113.0.206 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วนข้างล่างนี้เป็นมติครม.สมัยชวน 2 ที่ทำให้ไทยต้องยอมรับแผนที่ฉบับที่กัมพูชาถืออยู่ ดังนั้นขึ้นศาลโลกเมื่อไหร่ หลักฐานชิ้นนี้ไทยก็แพ้อีกตามฟอร์ม เพราะถ้าอ้างพื้นที่ทับซ้อนเป็นของไทยไม่ใช่ของกัมพูชา ต้องยึดแผนที่ที่ประเทศไทยทำขึ้น ในอัตราส่วน 1:50,000 เท่านั้น ถึงจะเป็นการปฏิเสธอธิปไตย เหนือดินแดนที่พิพาทกันอยู่ของกัมพูชา เมื่อมีมติแบบนี้มาค้ำคอ แล้วทหารไทยหรือกระทรวงต่างประเทศหรือคนไทยทั่วไป จะมาอ้างแผนที่ที่ไทยทำขึ้นใหม่ในอัตราส่วน  1:50,000 ได้ยังไง เพราะเป็นมติครม.ที่ต้องยึดถือปฏิบัติ ให้ยึดแผนที่ฉบับอัตราส่วน 1:200,000 ของกัมพูชา หลักฐานชิ้นนี้แหละที่จะยืนยันได้ว่าใครขายชาติกันแน่ และใครพวกไหนบิดเบือนกันแน่ --------------------------------------------------------------- http://www.spokesman.go.th ข่าวที่ 06/130 วันที่ 13 มิถุนายน 2543 สรุปผลการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นาย อรรคพล สรสุชาติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางรัตนา จงสุทธนามณี และนายปาน พึ่งสุจริต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ 17. เรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (JBC) ครั้งที่ 2 คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามข้อเสนอของกระทรวงการต่างประเทศ แล้วมีมติ ดังนี้ 1. อนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (ฝ่ายไทย) ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 14 - 16 มิถุนายน 2543 2. อนุมัติในหลักการที่จะให้ความช่วยเหลือทางวิชากาารเกี่ยวกับการสำรวจและจัด ทำแผนที่สมัยใหม่แก่ฝ่ายกัมพูชา เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายไทยจัดหางบประมาณเพื่อการนี้ให้ในระดับที่จำเป็นและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. พื้นฐานทางกฎหมาย การสำรวจและปักหลักเขตแดนทางบกจะดำเนินกากรโดยใช้เอกสารหลักฐานที่ผูกพันไทย และกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศ คืออนุสัญญาฉบับลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1904 สนธิสัญญาฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 กับพิธีสารแนบท้าย และแผนที่แสดงเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชามาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งจัดทำขึ้นตามผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน จากคุณ : สิงห์สนามหลวง   - [ 4 ส.ค. 51 20:59:36 A:58.8.192.143 X: ] จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 16:25:25 A:203.113.1.130 X: ]

ความคิดเห็นที่ 30 แล้ววันนี้กองเชียร์ ปชป. ก็เอาข่าวสารบิดเบือนมาโจมตีว่า กัมพูชาขึ้นมรดกโลกฝ่ายเดียว ที่เขาขึ้นฝ่ายเดียวไม่ชี้แจงที่มาตั้งแต่ต้นว่า เพราะแถลงการณ์ร่วมที่นพดลทำนั้นก็เสนอให้ไทยกับกัมพูชาร่วมกันเสนอให้เขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่นพดลต้องกระเด็นจากเก้าอี้ ทั้งแรงคลั่งชาติที่ปลุกปั่นและคำพิพากษาจนแถลงการณ์ร่วมฉบับนั้นเป็นโมฆะ กัมพูชาเขาก็ประกาศไม่ง้อ เสร็จแล้วก็เดินเรื่องยื่นฝ่ายเดียว สุดท้ายแล้ว ก็ต้องมาทำตามที่ไปด่าเขาว่าขายชาติ .. นี่เป็น คห ที่มาหาอะไรแปะไว้ ลองอ่านดูอีกรอบว่าคุณเขียน ไว้ยังไง .... ที่เขาทำตอนนี้มันตรงกันข้ามกับที่นพดลแอบไปทำ ที่เขาทำกันมาตั้งแต่ต้นคือพยายามเจรจาขอยื่นพร้อมๆกัน แต่เพื่อนบ้านที่แสนดีของเรา ด้วยความร่วมมือ กับคนขายชาติแอบมุมมิบไปยื่นฝ่ายเดียว..เรายังยืนยัน ความผิดปกติอันนี้ ไม่เห็นจะต้องไปเซ็น ถ้ามันอยากยื่นคนเดียวก็ ปล่อยไป ถ้ากรรมการไม่ยุติธรรมยอมรับมรดกโลกที่ไม่มีทางขึ้น เอียงชัดเจนอย่างนี้เราก็ลาออกจากองค์กรนี้ซะเลยก็ยังได้ คุณๆที่รักประชาธิปไตย ความเสมอภาค ภราดรภาพ มองไม่เห็น ความไม่โปร่งใสของกรรมวิธีรับมรดกโลกชิ้นนี้หรือ วิหารบนยอดเขา ไม่มีทางขึ้นยังรับเป็นมรดกโลก จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 13 ก.พ. 52 16:29:56 A:125.25.142.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมถามหน่อยครับ... เขมรมันจะสนใจไอ้บันไดฝั่งของเรามั้ยครับ ??? ในเมื่อมันทำทางขึ้นเองมาได้แล้ว... ลาออกจาก UNESCO ก็ลาออกได้ครับ ไม่ใช่ยากเย็นอะไร แต่ที่กลัวน่ะตรงนี้... ถ้าวันหลัง ฮุน เซน เกิดคึกขึ้นมายื่นฟ้องศาลโลกเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน ทีนี้ใครเสร็จครับ ??? จากคุณ : SaVor - [ 13 ก.พ. 52 20:05:54 A:192.168.0.17 X:124.120.0.161 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ตอบไปเยอะแล้ว จนเขาลบทิ้งทั้งกระทู้แล้ว ขี้เกียจอธิบาย ที่เขาทำตอนนี้ เป้นการตบมือข้างเดียว กัมพูชาเขาไม่สนใจหรอก เพราะเขาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้ว คุณเอาความคิดว่าคุณจะทำยังไง โดยไม่สนใจอีกประเทศว่าเขาไม่สนใจ แล้วเขาก็ทำตามวิธีเขาจนสำเร็จ แต่สิ่งที่คุณกำลังเอามาอ้าง คือความฝันเลื่อนลอยเอาไว้หลอกชาวบ้าน แต่จริงๆทำไม่ได้เพราะเขาไม่ร่วมมือ ที่สำคัญมติครม.ที่ผมเอามาให้ดูนั้น คือสิ่งที่ทำให้ไทยเสียเปรียบในอนาคต และประวัติจะจารึกเองหล่ะว่าใครขายชาติ ถ้าตอบอธิบายมากกว่านี้ เดี๋ยวก็โดนลบทั้งกระทู้อีก แต่อย่าคิดว่าจะเอาไปบิดเบือนในอนาคตได้ เพราะยุคนี้ไม่ใช่ยุคใบลาน จากคุณ : มาหาอะไร - [ 13 ก.พ. 52 20:39:35 A:115.67.110.203 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 ---------- http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7519996/P7519996.html ---------- พอดี น่าจะมีการแจ้งลบ ด้วยเหตุใด ก็ไม่ทราบ เพราะ ทั้งกระทู้ เป็นการอ้างอิงจากข้ิอมูลเก่าทั้งนั้น ไม่ใช่ สร้างขึ้นมาใหม่ จึง upload ใหุ้ดูกัน มี 109 ความคิดเห็น ------------------------------------------------- 'มาร์ค ขายชาติ แล้ว!! ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกับเขมร2.zip มาร์ค ขายชาติ แล้ว!! ขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกับเขมร2.zip' - ขนาด '903KB' http://upload.gangza.com/view.aspx?ItemID=ced2e8d2-d8f9-dd11-a411-00e08127749e จากคุณ : mcu51 - [ 13 ก.พ. 52 21:29:53 A:124.120.0.54 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอชี้แจง คห 31 องค์กรมรดกโลก คนละส่วนกับ unesco เราถึงกล้าพูดว่าเราพร้อมจะลาออกจากองค์กรนี้ ไม่ใช่ลาออกจากการเป็นสมาชิกของ unesco จากคุณ : ยายฉ่ำ - [ 16 ก.พ. 52 09:46:01 A:125.25.89.17 X: ]