Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    รายงานเสวนา โดย "อ. อนุสรณ์ ธรรมใจ" : รัฐบาลมาร์ค จะยืดหรือจะยุบ

    วันที่ 5 ก.พ. 2552 เวลา 13.30 น. คณะนักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต วิทยาลัยสื่อสารการเมือง รุ่น 9 มหาวิทยาลัยเกริกจัดการเสวนาหัวข้อ “รัฐบาลมาร์ค จะยืดหรือจะยุบ” ที่ห้องประชุม เกริก มังคละพฤกษ์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ศ.ดร.ลิขิต ธีระเวคิน นายจาตุรนต์ ฉายแสง ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ดำเนินรายการโดย ดร.นันทนา นันทวโรภาส ทั้งนี้ ตามกำหนดการเดิมมีรายชื่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อภิปรายด้วย แต่นายสาทิตย์แจ้งว่าติดภารกิจตอบกระทู้สดในสภาจึงไม่สามารถมาร่วมการเสวนาได้
    อนึ่ง บรรยากาศผู้เข้าฟังเป็นไปด้วยความคึกคักมี ผู้เข้าร่วมฟังการเสวนาประมาณ 100 คน โดยมีประชาชนสวมเสื้อแดงเข้าร่วมฟังการเสวนาเป็นจำนวนมาก


    อนุสรณ์ ธรรมใจ: สองสามปีที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายที่เรียกว่าอำมาตยาธิปไตยกับฝ่ายประชาธิปไตยความขัดแย้งทีเกิดขึ้นไม่ได้เป็นความขัดแย้บงที่ตัวบุคคลหรือคณะบุคคลหรือพรรคการเมืองแต่เป็นความขัดแย่งเชิงโครงสร้าง ซึ่งไม่ได้แก้ไขด้วยการยุบหรือยืด รัฐบาลอภิสิทธิ์จะตัดสิใจคืนอำนาจให้ประชาชน ปัญหาของสังคมไย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อวงการเมืองหรือเศรษฐกิจ ก็ไม่แก้ปัญหา แต่ว่าสิ่งที่ต้องทำคือการปฏิรูปประเทศไทย เพราะจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ และราษฎรไทย

    เอาเฉพาะประเด็นยุบหรือยืดก็ต้องดูว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์ แก้ไขปัญหาได้หรือไม่ ถ้าแก้ไขไม่ได้การคืนอำนาจให้ประชาชนก็เป็นทางเลือกหนึ่ง เพราการคืนอำนาจให้ประชาชนก็เท่ากับว่าเราช่วยกันรักษาประชาธิปไตย ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาแบบ 19 กันยา ซึ่งเราไม่อยากให้เกิดเช่นนั้นแล้ว เราควรแก้ไขปัญหาของประเทศโดยการยึดถือครรลองระบอบประชาธิปไตย
    การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของรัฐบาลก็คือการแก้ปัญหาการเผชิญหน้าและความขัดแย้งทางการเมืองที่จะนำมาสู้ความรุนแรง ก็คือการปฏิรูปการเมือง
    เป้าประสงค์ของการปฏิรูปทางการเมือง ยังมีเป้าประสงค์เรื่องความสมานฉันท์ แต่ความสมานฉันท์ และระบอบประชาธิปไตยเกิดได้ ก็ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม และเสมอภาค เพราะไม่ว่าจะเสื้อสีไหน ไม่ว่าจะสีแดง เหลืองหรือเขียว ความขัดแย้งก็จะไม่จบ ประการต่อมาต้องทำให้ประเทศไทยยึดถือหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม มีผู้คนจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะชาวต่างประเทศสงสัยว่าประเทศไทยยึดถือหลักนิติรัฐ และหลักนิติธรรมและเป็นประชาธิปไตยจริงหรือไม่

    ประเด็นต่อมา เรื่องเศรษฐกิจ มีความเคลื่อนไหวล่าสุดว่า ดร. โอฬาร ไชยประวัติกล่าวว่าประเทศไทยจะติดลบถึง 4 เปอร์เซ็นต์ซึ่งผมหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น ความเป็นไปได้คือติดลบเล็กน้อย หรือขยายตัวเล็กน้อย แต่การที่ประเทศไทยขยายตัว 0 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นปัญหาพออยู่แล้วเพราะจะทำให้คนตกงานมากถึง หนึ่งล้านสี่แสนคน ซึ่งคนตกงานมากขนาดนี้รัฐบาลก็จะต้องแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและต้องใช้งบประมาณในการผลักดันให้เกิดการจ้างงานขนาดใหญ่ มากกว่าการแจกเงิน เพราการแจกเงินเป็นมาตรการระยะสั้น เพราะใช้ไม่กี่เดือนก็หมดแล้ว แต่มีผลสั้นมาก เมื่อเราแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาวะที่เศรษฐกิจโกมีการขายตัวต่ำมาก 60 ปี

    จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมอัตราการขยายตัวของการส่งออกจึงติดลบกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ และทำให้จีดีพีของไทยติดลบในไตรมาศที่ 1 และ 2 และมีโอกาสที่จะติดสลในไตรมาศที่ 3 หากไม่มีมาตรการทีมีประสิทธิภาพ และเกิดการรั่วไหลเหมือนกรณีปลากระป๋องเน่า

    ในภาวะนี้ต้องไม่ให้เกิดคอร์รัปชั่นแม้แต่บาทเดียวหรือสลึงเดียว แต่ถามว่าเกิดขึ้นได้ไหม ก็คงจะไม่ได้ เพราะระบอบประชาธิปไตยไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยแต่เป็นระบอบธนาธิปไตย คือเงินเป็นใหญ่ ซื้อเสียง จัดตั้ง วนเวียนอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะต้องถือธงประชาธิปไตยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 แต่ข้อดีของรัฐธรรมนูญ ปี 50 ก็คือการเปิดพื้นที่การเมืองภาคประชาชนและองค์กรอิสระเข้มแข็ง แต่องค์กรอิสระบางส่วนเป็นการให้อำนาจตุลาการมากเกินไป ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะต้องมีการแบ่งแยกอำนาจชัดเจน ว่าตุลาการภิวัฒน์ ในประเทศหลายประเทศที่เกิดตุลาการภิวัตน์ไม่ใช่แบบประเทศไทย แต่เป็นการทำให้เปิดความเป็นธรรมมากขึ้น ทำให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายดีขึ้น ไม่ใช่เปิดทางให้ศาลไปรุกล้ำอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติหรือบริหาร นี่ไม่ใช่ตุลาการภิวัฒน์ แต่เป็นการยึดอำนาจโดยตุลาการหรือการปฏิวัติโดยตุลาการมากกว่า

    ท่านดร. ปรีดี พนมยงค์ อธิบายไว้ชัดเจนมากให้ใช้คำว่าอภิวัฒน์ 2475 คือการทำให้ดีขึ้น เป็นประชาธิปไตยขึ้น เกิดประโยชน์ต่อราษฎรมากขึ้น แต่ปฏิวัติเป็นการถอยหลัง ฉะนั้นเราต้องไม่ทำให้เกิดการปฏิวัติแต่ต้องทำให้เกิดการอภิวัฒน์

    ประเด็นเศรษฐกิจนั้น ต้นตอไม่ได้เกิดที่ไทย ฉะนั้นก็มีความสบายใจอยู่บ้าง ลักษณะปัญหาของวิกฤตเศรษฐกิจยังไม่ถึงขึ้นปี 2540 เพราะปี 2540 เกิดภาวะหดตัวมาก และปี 2541 ก็เกิดการหดตัวอย่างรุนแรง แต่ว่าวันนี้เรามีปัญหาความยากลำบากทางเศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้นวิกฤตแต่มีภาวะถดถอย ก็ต้องบอกว่าเศรษฐกิจถดถอยอันนี้แก้ยาก เพราะว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวมาก ก็ส่งผลให้บรรดาผู้คนที่ทำงานด้านการส่งออกทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นยายยนต์ สิ่งทอ อัญมณี ตกงานจำนวนมาก

    ก็ต้องดูว่าวิกฤตการณ์ระดับโลกครั้งนี้เป็นระดับไหน บางคนบอกว่าใกล้เคียง 2472 หรือ 1929 แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นแต่ก็ใกล้เคียงแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ใกล้เคียงกับหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่นักเศรษฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นครุกแมน หรือสติกลิตซ์ ก็ต้องจับตาลางปีนี้ให้ดี ว่าจะมีปัญหาการเงินของสหรัฐและยุโรปอีกระลอกอีกหรือไม่ หากเกิดขึ้นแล้วจัดการไม่ได้ ก็เป็น Great Depression แน่นอน คือใกล้จะถึงจุดต่ำสุดแล้ว หากหนักมากก็ต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน

    เมื่อมาเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจไทยก็จะเติบโตต่ำ ไม่หดตัวรุนแรงเหมือนปี 2541 แต่จะเติบโตต่ำ และหากแก้ปัญหาไม่ดี ปี 2554 จะเกิดภาวะวิกฤตการคลังและไม่มีเงินจ่ายใช้ข้าราชการ เป็นโอกาสที่จะเกิดได้ 10 เปอร์เซ็นต์ ล่าสุดเราเห็นเงินคงคลังต่ำมาก คือเพียงห้าหมื่นสี่พันล้าน เพราะว่าเก็บภาษีไม่ได้ตามเป้า เก็บต่ำกว่าเป้าไป 16 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายจ่ายมากขึ้นๆ เพราะดำเนินนโยบายประชานิยมมาต่อเนื่องหลายรัฐบาล ซึ่งนโยบายประชานิยมมีประโยชน์ แต่ว่า วันนี้ประชานิยมต้องเปลี่ยนรูปแบบเพราะขณะนี้เศรษฐกิจตกต่ำ หรือต้องก้าวข้ามประชานิยม และต้องปฏิรูประบบภาษี ซึ่งผมมั่นใจว่าทำไม่ได้ เพราะโครงสร้างการเมืองยังมีลักษณะที่ตัวแทนของประชาชนหรือคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้นี่งในสภา ฉะนั้นการปฏิรูปภาษีมรดกหรือที่ดินขนาดใหญ่จะไม่เกิดขึ้น แต่แก้ไม่ได้ก็ยังอยู่ไปได้ แต่ก็จะมีปัญหาทางการคลัง
    และผมพูดชัดว่าปี 2554 เกิดวิกฤตการการคลังแน่ ถ้ารัฐบาลไม่ปฏิรูประบบภาษี หรือการปฏิรูปที่ดินขนานใหญ่ แต่จะเกิดได้ไม่ง่าย พูดแบบจุดพลุได้ แต่คนที่นั่งอยู่ในสภาจะไม่ยอมทำให้เกิดขึ้น แต่กฎหมายนี้จะไม่กระทบต่อชนชั้นกลางและไม่กระทบเศรษฐี เช่น คนที่มีที่ดินไม่ถึงหมื่นไร่ไม่เป็นไร หรือไม่มีที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าเราก็ไม่เก็บภาษี แต่ถ้าทิ้งไว้ เราก็เก็บในอัตราก้าวหน้า ประเด็นเล่านี้เป็นประเด็นที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก อีกเรื่อต่อมาคือความสามารถในการแข่งขันของไทย

    ธุรกิจอุตสาหกรรมไทย หลายส่วนถดถอยลงเรื่อยๆ และหลายธุรกิจก็เป็นของบริษัทข้ามชาติที่มาอาศัยฐานของไทยในการผลิต อย่าหลอกตัวเอง โตโยต้า ขายรถยนต์ได้มากขึ้นก็เป็นสินค้าจากประเทศไทย แต่ไม่ใช่ของไทย สินค้าส่งออกไป 100 เปอร์เซ็นต์ นำเข้า 80 เปอร์เซ็นต์ ไมโครซอฟท์ เมื่อเกิดวิกฤตตัดการจ้างงานทันที พูดแบบนี้ไมได้เรียกร้องให้เกิดเศรษฐกิจแบบชาตินิยม เพราผมสนับสนุนโลกาภิวัตน์ แต่ต้องเป็นโลกาภิวัตน์ที่คนไทยได้ประโยชน์ ต้องสร้างแบรนด์เนมของไทยขึ้นมา ผมถามว่าเรามีเครื่องหมายการค้าระดับโลก หรือระดับภูมิภาคที่เป็นของไทย ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหน่อย นี่คือปัญหาระยะยาว เราไม่ต้องพูดเรื่องยุบเรื่องยืดหรอก ยิ่งยุบยิ่งยืดมาก ปัญหายิ่งเยอะ เพราะจริงๆ แล้วประเทศไทยต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เป็นรัฐบาลเข้มแข็ง ซึ่งเป็นผลผลิตของรับธรรมนูญ 2540 เมื่อ 50 ปีที่แล้วเราเจริญกว่าเกาหลีใต้ 20 ปีที่แล้วเราเจริญกว่ามาเลเซีย แต่เรามีปัญหาไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง

    อย่าลืมว่าก่อนเกิดวิกฤต 2540 เราเปลี่ยนรัฐบาลมากี่รัฐบาล การไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การดำเนินนโยบายไม่ต่อเนื่อง รัฐมนตรีใหม่เข้ามาก็รื้อโครงการเดิม รื้อไปรื้อมา การทุจริตคอร์รัปชั่นนอกจากทำให้เม็ดเงินเสียไปแล้ว ยังทำให้ความเจริญที่ควรจะเป็นนั้นเบี่ยงเบนไป แล้วที่นาสงสารประเทศไทย เช่นกรณี โฮปเวลล์ เมื่อกลายเป็นโฮปเลสแล้ว แทนที่เราจำฟ้องได้ เรากลับถูกฟ้องอีก เพราะรัฐไปทำสัญญาเสียเปรียบกับเอกชน

    เราพูดถึงโครงการขนาดใหญ่เพียงแค่โครงการเดียว ก็ไม่มีใครมั่นใจเลยว่า โครงการนั้นจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ทำให้การลงทุนไม่เกิดขึ้น ระบบไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯมันควรจะเกิดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ระบบชลประทานที่ดีที่สุด ควรเกิดเมื่อ 10 ปีแล้ว ระบบการศึกษาที่ดีที่สุด การขึ้นค่าจ้างให้ครูอาจารย์ ควรเกิดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
    ประเทศไทยมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีเกิดขึ้นบ้าง ทั้งข้าราชการ สื่อมวลชน และคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ประเทศไทยควรจะดีกว่านี้มาก แน่นอนว่าเราดีกว่าฟิลิปปินส์ เขมร ลาว และพม่าแน่นอน แต่เวียดนามกำลังตามเรามาติดๆ นี่ไม่ใช่เรื่องการแข่งขันระหว่าปงระเทศ แต่ว่าเป็นคำถามว่า พอหรือยัง เราต้องปฏิรูปเศรษฐกิจให้เกิดความเป็นธรรมและการกระจายรายได้ เราทำสิ่งนี้ไม่ได้ถ้าคนไทยไม่ร่วมใจกัน คนไทยจะร่วมใจกันได้ เมื่อเราบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม

    จากคุณ : จำปีเขียว - [ 14 ก.พ. 52 15:11:40 A:192.168.0.17 X:125.25.232.73 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com