 |
กระทู้นี้เขียนขึ้นเพราะเกิดแรงบันดาลใจจาก ลุงเข่ง "อย่าทำตัวเป็นคนรกโลก"
กระทู้นี้ได้แรงบันดาลใจอย่างยิ่งมาจาก ลุงเข่ง ผู้แสนดี ผู้พยายามเตือนเพื่อนสมาชิกด้วย พุทธศาสนสุภาษิต (แต่บังเอิญ ลุงเข่ง เกิดสับสนเลยโปะไปเป็น พุทธสุภาษิต ซะงั้น) และเมื่ออ่านกระทู้ของลุงเข่งทำให้ผมเกิดแรงอยากจะเผยแพร่ธรรมเหมือนกัน ผมก็จะเอาพุทธสุภาษิต (น่าจะไม่ผิด แต่ใช้คำว่า พุทธศาสนสุภาษิต น่าจะปลอดภัยกว่า)
อันนี้เป็นพุทธศาสนสุภาษิตที่มาจาก วัดเทพศิรินทร์ เหมือนลุงเข่งเลยครับ (ก็บอกแล้วไงได้แรงบันดาลใจมา) แต่เป็นคำขวัญประจำโรงเรียนอันเป็นที่รักของพวกเรา พุทธสุภาษิตนั้นว่าไว้ว่า นสิยา โลกวฑฺฒโน (ไม่ควรเป็นคนรกโลก) เด็กเทพศิรินทร์ส่วนใหญ่จะจดจำพุทธสุภาษิตบทนี้ได้ดี ซึ่งผู้ที่นำพุทธสุภาษิตนี้ประสิทธ์ประสาทกับโรงเรียนเราก็เกี่ยวข้องกับท่านภิกษุตรึกอีกนั่นแล
ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ที่มีผู้นับถือมากและในทุกวันนี้ก็ยังมีศรัทธากับสมเด็จท่านอยู่มากมาย และเจ้าประคุณสมเด็จเจริญนี้ยังเป็นพระที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์นับถือเป็นอย่างมากอีกด้วย เพราะก่อนที่ท่านเจ้าคุณนรรัตน์จะบวชท่านได้ลองไปทำบุญหลาย ๆ วัดและในขณะถวายภัตตาหารท่านก็จะแอบดูลายมือ มีเสียงล่ำลือตั้งแต่สมัยที่ท่านยังไม่บวชว่า "หากใครต้องการรักษาความลับ อย่าให้ตรึกได้จับมือ" เมื่อท่านได้เห็นเส้นลายมือของเจ้าประคุณสมเด็จก็เริ่มสังเกตุกิริยาวาจาท่วงท่าของท่านเจ้าประคุณจนเกิดความศรัทธา จึงตัดสินใจมาบวชที่ วัดเทพศิรินทร์ (เห็นไหมครับลุงเข่ง ลุงเข่งเป็นแรงบันดาลใจจริง ๆ ) ตลอดเวลามาภิกษุตรึกได้ให้ความเคารพนับถือและปฏิบัติตามคำสอนขององค์อุปัชฌาย์อย่างเคร่งครัดรวมไปถึงการกราบห้าครั้ง ซึ่งเข้าใจว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จท่านเป็นผู้ริเริ่ม
ในตอนที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้ประสิทธ์ประสาทพุทธสุภาษิตนี้ให้กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ท่านได้ให้ความหมายแนบมาด้วยว่า
คนเราบางคน เกิดมารกโลก ทำนองเดียวกับติณชาติที่หาประโยชน์อะไรมิได้ ทำให้เสียเงินทองกำจัด และรกชัฏขวากหนาม บางอย่างเป็นศัตรูแก่โลกไม่เป็นประโยชน์ มนุษย์ที่ไม่มีเมตตากรุณา คอยแต่จะเบียดเบียยนผู้อื่น จัดว่าเป็นคนรกโลก อย่าเกิดมาเลยเสียดีกว่า สู้สัตว์บางชนิดก็ไม่ได้
ดังนั้นไม่เพียงแต่ศิษย์เทพศิรินทร์เท่านั้นทีควรยึดพุทธสุภาษิตนี้เป็นธรรมประจำใจ ประชาชนในแผ่นดินไทยไม่ว่าสีใดเหล่าใดก็ควรจะจดจำและยึดไว้เป็นเครื่องนำทางชีวิตด้วย
อย่าทำตัวเป็นคนรกโลก
ผมรู้สึกว่าผมเองทุกวันนี้ก็ยังรกโลกอยู่ พูดเปลือง กินเปลือง ใช้ไฟเปลือง แต่เจตนาของผมก็ยังอยากให้ข้อคิดข้อเขียนของผมมีประโยชน์กับสังคมบ้างแม้นิดน้อยหนึ่งก็ยังดี ดังนั้นผมจึงเป็นคนรกโลกที่พยายามจะทำตัวให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ความรกโลกมันน้อยลงบ้าง (ผมไม่ปรารถนาจะเป็นคนที่มีประโยชน์กับโลก แต่ขอให้รกโลกน้อยลงก็เพียงพอ) ก็เฉกเช่นเดียวกับคนในสังคม แม้ใส่เสื้อต่างสีแต่ก็มีปณิธานเดียวกันคืออยากเห็นสังคมมันดีขึ้น ผมเชื่อว่าไม่มีใครที่อยากจะทำอะไรแล้วเป็นผลเสียกับบ้านกับเมืองหรอกโดยเฉพาะบุคคลระดับล่าง ๆ แบบเรา
แต่บางทีการแสดงออกที่ท่านไม่ระมัดระวังมันเลยชวนให้เห็นว่าท่านเป็นบุคคลที่ต่ำกว่า ติณชาติ (แปลว่า พืชจำพวกหญ้า หรือจะแปลว่า วัชพืชก็น่าจะได้นะ จำไม่ได้แหล่ว) ไม่ต้องดูอื่นไกลไม่ต้องดูไปถึงเวทีพันธมิตรหรือเวทีไหน ๆ ในห้องราชดำเนินนี้ก็มีบุคคลที่มีเจตนารักชาติแต่แสดงออกดั่งคนรกโลกเสียเยอะ ตั้งกระทู้อันหาสาระไม่ได้ ยั่วยุให้เกิดความแตกแยกมากขึ้น ๆ บางคนตั้งกระทู้เพื่อความสะใจหวังจะเย้ยหยันกันเป็นหลัก บางคนหนักข้อดึงเอาศาสนามาเกลือกกลั้วกับการเมือง เอาดีเข้าตัวเอาชั่วโยนให้คนอื่น มันนับว่าเป็นคนรกโลกที่ใช้ไม่ได้จริง ๆ (หนักหนาสาหัสแค่ไหนคิดเอา)
ดังนั้นกระทู้นี้แม้ผมได้แรงบันดาลใจจากลุงเข่งและหมายมั่นว่าลุงเข่งจะเหลือบตามาอ่านบ้าง แต่ผมก็มิได้มีเจตนาจะเขียนเพื่อให้ร้ายลุงเข่งแต่เพียงอย่างเดียว แค่คิดออกและคิดว่าน่าจะเอามาฝากกันสำหรับทุกคน
อนึ่ง ผมย้ำเสมอว่าผมเป็นคนรกโลกที่กำลังพยายามจะทำให้ให้รกโลกน้อยที่สุด ผมมิได้ว่าผมหลุดพ้นแล้วไม่เป็นภาระของโลกแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นแค่ของที่อยากชวนให้อ่านและคิดกัน ท่านใดที่ประพฤติดีวางตัวดีอยู่แล้ว ผมก็ต้องขออภัยที่เรื่องนี้อาจทำให้ท่านเกิดความรู้สึกบางอย่างในทางลบ แต่ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายใดแฝงอยู่ เห็นว่าดีเห็นว่าเหมาะเลยนำมาฝากกัน
เจริญพร
จากคุณ :
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
- [
16 ก.พ. 52 16:19:21
A:124.121.37.144 X:
]
|
|
|
|
|