เลขานุการ รมว.ศึกษาฯ แฉ หนังสือคำสั่ง มท.รัฐบาลก่อนมีเบื้องหลังขบวนการเขมือบนมโรงเรียน ใช้หางนมผสมน้ำ จนนมบูดเด็กไม่ยอมกิน นักการเมืองใหญ่มีเอี่ยว แถมมีขบวนการหากินกับโครงการเรียนฟรีต่อ ล็อกสเปกบริษัทผลิตอุปกรณ์การเรียนแต่ถูกขวาง จวกหากินกับอนาคตของชาติ เตือน ขรก.นึกถึงประโยชน์ชาติมากกว่าบุญคุณ
นาย สุธรรม นทีทอง เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เปิดงานล่องแพพะโต๊ะที่ จ.ชุมพร เพื่อมอบนโยบายเรียนฟรีให้ครูใน อ.พะโต๊ะ และได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคและความทุกข์ของผู้ปฏิบัติ หน้าที่ โดยนายบรรยงค์ ณธรรมะ ผู้อำนวยการโรงเรียนปากเลข อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ร้องเรียนว่าเด็กนักเรียนของโรงเรียนไม่ยอมดื่มนมในโครงการนมโรงเรียนที่ภาค รัฐนำมาแจก แม้ครูประจำชั้นจะพยายามขอร้องให้ดื่มเพื่อสุขภาพของเด็ก แต่ก็พบว่าเด็กยังนำไปแอบทิ้ง เมื่อถูกจับได้ก็บอกเหตุผลที่ไม่ดื่มว่านมมีกลิ่น ไม่มีคุณภาพ ซึ่งนายบรรยงค์ได้ตรวจสอบโครงการนมโรงเรียน พบว่านมดังกล่าวไม่มีคุณภาพจริง ไม่ใช่นมสด 100 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ประกาศนโยบายไว้ แต่กลับนำหางนมมาผสมน้ำบรรจุถุงให้นักเรียนกิน สร้างความเดือดร้อนให้เด็กและเยาวชนจนไม่รู้จะพึงพาใคร จึงมาร้องทุกข์ในที่ประชุม
เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้ถามในที่ประชุม และสอบถามจากนายสมโภชน์ โชติชูช่วง นายอำเภอพะโต๊ะ ได้รับการยืนยันว่าอำนาจการจัดซื้อนมเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมทั้งได้ตามนายธนยศ พราหมนาเวศ นายกเทศมนตรีเทศบาลพะโต๊ะ และนายสุธรรม ทิพย์มโนสิง นายก อบต.ตังหวาน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมาสอบถามข้อเท็จจริง ได้รับการยืนยันว่าเคยได้รับการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวทั้งในเขตเทศบาลและ อบต. พบว่านมที่จัดหามาให้นักเรียนดื่มตามโครงการนมโรงเรียนเป็นนมไม่มีคุณภาพ จริง ทุกโรงเรียนในเขตรับผิดชอบก็พบปัญหานี้
นายสุธรรม กล่าวว่า ทั้งสองคนในฐานะผู้มีอำนาจในการสั่งซื้อ ได้พยายามเปลี่ยนบริษัทจัดหานมแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีบริษัทอื่นขายให้ แม้นมในโครงการจะมีราคาใกล้เคียงกับนมที่มีขายตามร้านค้าซึ่งมีคุณภาพดีกว่า ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีหนังสือคำสั่งกำชับมาจากกระทรวงมหาดไทยระบุว่าให้ อปท.จัดซื้อเฉพาะบริษัทที่กำหนดมาให้เท่านั้น โดยนมในโครงการแบ่งเป็นนมพาสเจอไรซ์บรรจุถุง ราคาถุงละ 6.50 บาท นมกล่องยูเอชทีขนาดเล็ก กล่องละ 7.86 บาท และนมบรรจุถุงพลาสติก ถุงละ 7.67 บาท เมื่อเทียบราคากับนมที่มีขายในท้องตลาดยังน่าซื้อให้เด็กกินมากกว่า
เลขานุการ รมว.การศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้สอบถามจากนายสมโภชน์ว่ามีหนังสือสั่งการมาจากกระทรวงมหาดไทยจริง หรือไม่ จึงพบว่ามีหนังสือคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรทางราชการจริง เป็นคำสั่งที่ มท.08934/ ว. จากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2551 เรื่อง การจัดซื้ออาหารเสริมนมโรงเรียน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ สรุปสาระเหตุผลว่า
1.คณะอนุกรรมการโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียนมีมติเห็นชอบรับรองรายชื่อผู้ ประกอบการแปรรูปนมที่มีสิทธิจำหน่ายนมในโครงการนมโรงเรียนจำนวน 68 ราย และให้ อปท.ทั่วประเทศที่ได้รับงบประมาณในโครงการดังกล่าวจัดซื้อนมจาก 68 รายนี้เท่านั้น
2.แบ่งพื้นที่ทั่วประเทศออกเป็น 3 โซน คือ 1.พื้นที่ภาคเหนือจัดซื้อได้ 17 จังหวัด 2.พื้นที่ภาคตะวันตกและภาคใต้ 22 จังหวัด และ 3.ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง 37 จังหวัด
3.มีข้อตกลงกำชับมาด้วยว่าผู้ประกอบการนมจะไม่ดำเนินคดี หรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ จาก อปท. และ
4.ให้ อปท.ส่งสำเนาสัญญาการซื้อขายไปให้สำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นประจำจังหวัด รวบรวม เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของคณะกรรมการ ซึ่งในท้ายหนังสือคำสั่งดังกล่าวลงชื่อ นายสุกิจ เจริญรัตนกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น
“ทั้งนายธนยศและนายสุธรรมได้บอกข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้จะมีรายชื่อผู้ประกอบการจัดส่งนม 68 ราย แต่ในความจริงในทางปฏิบัติกลับพบว่ามีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนๆ เพื่อขายนมให้แก่โรงเรียนต่างๆ เป็นเขตใครเขตมัน ห้ามซื้อขายข้ามเขต เสมือนเป็นการล็อกสเปกนม ล็อกบริษัทที่ผลิตนม รวมถึงการแบ่งจัดสรรพื้นที่หากินกับนมโรงเรียน คาดว่าน่าจะทำเป็นขบวนการเขมือบนมโรงเรียนแล้วแบ่งกันหากินอย่างเป็นล่ำเป็น สัน ตั้งแต่นักการเมืองระดับใหญ่ในรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยมีการสั่งการให้ข้าราชการในสังกัดเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินกับนมเด็ก โดยไม่คำนึงถึงการเจริญเติบโต และอนาคตของเด็ก เยาวชนของชาติ” เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
นายสุธรรม กล่าวว่า ภายหลังจากพบข้อมูลดังกล่าว ยังพบอีกว่ากระบวนการหากินกับนมเด็กยังพยายามเข้ามาหากินในกระทรวง ศึกษาธิการเช่นเดียวกัน โดยนักการเมืองเก่าๆ พยายามส่งคนของตัวเองเข้ามาติดต่อเสนอโครงการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ โดยพยายามเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ จัดพิมพ์ทั้งหนังสือเรียน เครื่องแบบนักเรียน โดยเน้นที่จะให้มาตรฐาน มอก. หลังจากนั้นก็คงจะใช้วิธีการแบ่งโซนเช่นเดียวกับขบวนการเขมือบนมโรงเรียน แต่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ รู้ทัน จึงได้มีคำสั่งห้ามผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการทุกระดับ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้าง รวมถึงการล็อกสเปกในทุกเรื่อง โดยปล่อยให้โรงเรียนต่างๆ เป็นผู้ดำเนินการเอง พร้อมกำชับให้ผู้ปกครองและนักเรียนในโรงเรียนนั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมจนทำให้นักการเมืองเก่าๆ ไม่พอใจ จึงนำเรื่องนี้ไปอภิปรายในสภา เพราะเป็นการเสียผลประโยชน์
นายสุธรรม กล่าวว่า ขณะที่ตนอยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร มีการตรวจสอบไปยังโรงเรียนในเขตอำเภออื่นๆ ทั้งจังหวัดแล้ว พบว่ามีพฤติกรรมถูกเขมือบนมเช่นเดียวกัน ยืนยันว่าจะตรวจสอบในจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป และจะนำเรื่องเรียนต่อ รมว.ศึกษาธิการรับทราบ เพื่อให้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ติดตาม ตรวจสอบกระบวนการทุจริตเขมือบนม โดยจะเสนอกวาดล้างการทุจริตในโครงการต่างๆ ของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่ยังมีพฤติกรรมเป็นมรดกบาปตกทอดมาถึงรัฐบาลชุดนี้
“ขอเตือนให้ข้าราชการทุกระดับว่า รัฐบาลก็เปลี่ยนแปลงแล้ว ข้าราชการอย่ามัวแต่หากินเปอร์เซ็นต์และส่งผลประโยชน์ให้นักการเมืองเก่า อยู่เลย บุญคุณที่เขาแต่งตั้งให้มีตำแหน่งควรจะจบสิ้นได้แล้ว และควรหันมาทำงานให้ชาติบ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าไปกว่านี้จะดีกว่า” นายสุธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าว “คม ชัด ลึก” ประจำ จ.ชุมพร รายงานว่า เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนโรงเรียนปากเลข ว่านมที่ซื้อมาให้เด็กดื่มตามโครงการนมโรงเรียนนั้น ส่วนใหญ่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน มีกลิ่นเน่าเสีย เด็กจึงไม่กล้าดื่ม เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยและอาจทำให้ท้องเสีย ทั้งนี้โรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียนที่ได้สิทธิดื่มนมฟรีวันละ 1 ถุง จำนวนกว่า 400 คน แต่ที่ผ่านมาพบนมคุณภาพต่ำจนไม่สามารถดื่มมากถึงวันละ 200 ถุง
จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่า นมคุณภาพต่ำที่นำมาแจกจ่ายนักเรียนตามโครงการนมโรงเรียนนั้น เป็นนมที่หมดอายุแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่นำมาปะปนกับนมที่ได้มาตรฐาน จากนั้นจึงนำไปแจกให้นักเรียนดื่ม โดยไม่คำนึงว่าใครจะได้รับแจกนมถุงที่หมดอายุแล้วหรือยังไม่หมดอายุ
http://news.mthai.com/hot-news/8497.html
---------------------------------------------------------------------------------
เอาล่ะ ว่าไงต่อ..???
แปลกเนาะ ตอนปลากระป๋องบูด เห็นราชดำเนินเล่นประเด็นนี้เกือบสิบกระทู้
แต่เรื่องฮั้วนมเนี่ย ทำไมเงียบล่ะครับ เจ้านายยยยยย...!!!
แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 52 21:11:20
จากคุณ :
หมอก้อนหิน
- [
16 ก.พ. 52 21:07:49
A:117.47.235.67 X:
]