ข่าวทีวีเมื่อวันก่อนเห็นภาพม็อบเสื้อแดงบุกล้อมทำเนียบ แล้วตกใจ ที่เห็นสภาพทำเนียบรัฐบาลเตียนโล่งแห้งแล้งเหมือนอยู่กลางทะเลทราย ชวนหดหู่ ห่อเหี่ยว ไม่สมศักดิ์ศรี ไม่สมกับเป็นสถานที่ทำงานของผู้นำประเทศแม้แต่น้อย
เรื่องเล็กๆ แค่นี้ รัฐบาลเข้ามาทำงานเกือบสองเดือน ปล่อยให้อยู่สภาพนี้ได้อย่างไร
นักข่าวทำเนียบเล่าให้ฟังว่า เคยมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งชนะประมูลเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์ในทำเนียบ ไม่ทันไรก็มีคนขู่ขอเงินใต้โต๊ะ เอกชนก็เลยบวกงบฯเพิ่มแต่ไม่ได้จึงถอนออกไป
รัฐบาลก็เลยหันมาใช้บริการของ กทม.แทน เห็นภาพและรู้เบื้องหลังการถ่ายทำเรื่องนี้...ยิ่งห่วงอนาคตประเทศจริงๆ
แค่เรื่องสนามหญ้าหน้าทำเนียบเรื่องเดียว มันสะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง สะท้อนถึงทัศนคติการบริหารจัดการ สะท้อนว่าใจไม่ถึง สะท้อนบุคลิกการทำงานสไตล์ประชาธิปัตย์อยู่แต่ในกรอบไม่เคยเปลี่ยน
เรื่องนี้หากเป็นสมัยคุณทักษิณ ไม่ต้องถึงมือระดับนายกฯ แค่ระดับเลขาฯส่วนตัวเท่านั้นแหละ
ได้แต่เห็นใจ "คุณอภิสิทธิ์" เกือบสองเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการ "โรดโชว์" ต่างประเทศ เดินสายพบปะผู้แทน กลุ่มองค์กรต่างๆ ตั้งแต่ธุรกิจเอกชนทั้งไทยและเทศ จนถึงกลุ่มเกษตรกรชาวนา ชาวไร่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรับทราบปัญหาต่างๆ
จากนี้ไปหมดเวลา "โชว์ตัว" ต้องเร่ง "โชว์ฝีมือ" เพราะ "ความเชื่อมั่น" ไม่ได้มาจาก "วาทกรรมที่สวยหรู" แต่ต้องลงมือทำอย่างจริงจังจึงเกิดผลเป็นรูปธรรม
ที่ผ่านมามีแต่นายกฯเดินหน้า แต่ "ไม่มีมือทำงาน" ตามหลัง คอยลงลึกเก็บรายละเอียดไล่บี้งานในแต่ละเรื่องให้บรรลุเป้าหมาย รัฐบาลวันนี้ยังคงบุคลิกประชาธิปัตย์ของแท้และดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล กล่าวคือไม่มีการจัดระบบ ไม่มีสตาฟฟ์ทำทำงาน ที่จะมารองรับนโยบาย แปลงให้เป็นผลงาน
ยิ่งชัดเจนในวันที่ "คุณอภิสิทธิ์" ไปเยี่ยมสภาพัฒน์เมื่อราวๆ สองอาทิตย์ที่แล้ว มีผู้ติดตามแค่สองคน เท่านั้น ไม่มีเงารัฐมนตรีเศรษฐกิจและที่ปรึกษานายกฯด้านเศรษฐกิจ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯที่กำกับดูแลที่ควรต้องไป กลับไม่มีใครเห็นความสำคัญ ทั้งที่หน่วยงานแห่งนี้คือ คลังสมองทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ความจริงเวลานายกฯไปเยือนหน่วยงานไหนไม่ว่าราชการหรือเอกชน หากทีมงานไปอย่างพร้อมเพรียง มันเป็นการสร้างบารมี ความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ไปไหนคนเดียวแบบ "โฮมอะโลน" มีแต่นักการเมืองประเภท "วอลล์เปเปอร์" ประดับข้างหลังเวลาถ่ายรูป
การทำงานที่ไร้ทีมงาน ไร้มือทำงานที่วางใจ มารับลูกและสานต่อ ยากจะเห็นผล ยิ่งการเมืองสองสี ข้าราชการสองนาย เป็นเรื่องน่าเป็นห่วง เฉพาะอย่างยิ่งนโยบายเศรษฐกิจ 1.6 แสนล้าน ที่ต้องการให้เห็นผลเร็วจะกลายเป็นแค่คลื่นกระทบฝั่ง นายกฯสั่งการแล้วเงียบหายเหมือนสั่งขี้มูก
กลายเป็นว่านายกฯสั่งได้ แต่ไม่มีใครทำ
จะว่าไปแล้วเรื่อง การจัดระบบทีมงานอย่างนี้ ต้องยกให้พรรคไทยรักไทย คุณทักษิณใช้คนทำงาน ทั้งทีมงานการเมือง ข้าราชการ และสตาฟฟ์ทำงานที่ควักกระเป๋าจ้างส่วนตัว จัดเป็นชุดและคณะต่างๆ ซอยย่อยแบบถี่ยิบเพื่อดูแลเรื่องรายละเอียด คอยไล่บี้หน่วยงานราชการ เข้าไปล้วงลูกจนหลายครั้งอาจจะเลยเถิดไปก็บ่อย
เวลากลุ่มต่างๆ มาเรียกร้อง คุณทักษิณจะมีชุดทำงานรับลูกและสั่งการทันที ขณะที่คุณอภิสิทธิ์นั้น หลายๆ คนที่เคยเข้าพบบอกว่า บุคคลิกเข้าถึงง่าย คุยง่าย แถมรับปากง่าย
แต่ไม่มีทีมทำงานมาคอยรับ กลัวว่านายกฯรับปากแล้วจะลืม
ไหนๆ คุณอภิสิทธิ์ก็ "ลอกการบ้านประชานิยม" มาแล้ว ก็น่าจะลอกแบบอย่างการจัดระบบการทำงาน ดึงคนดีมีฝีมือเข้ามาทำงานให้เป็นระบบคอยไล่บี้ในรายละเอียด
ยุบทิ้งวอร์รูมการเมือง แล้วตั้ง "วอร์รูมเศรษฐกิจ" ติดตามความเคลื่อนไหว สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จัดทีมงานมาเป็นมือเป็นไม้ช่วยงานนายกฯที่ไปรับปากกลุ่มต่างๆ ไว้ จะดีกว่า
คุณอภิสิทธิ์ต้องรีบกำจัดจุดอ่อน การบริหารจัดการ หากยังหามือทำงาน มาสานต่อไม่ได้ ระวังเรื่องที่เคยรับปากใครเอาไว้ ถึงเวลาเขาทวง แล้วไม่ได้ ก็เตรียมรับมือ "ม็อบ" เหล่านี้ ให้ดีๆ
ทีั่มา:http://matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01col02260252§ionid=0116&day=2009-02-26
จากคุณ :
sao..เหลือ..noi 
- [
26 ก.พ. 52 13:21:47
A:58.8.167.7 X:
]
"จุดอ่อน" อภิสิทธิ์ คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 โดย ทวี มีเงิน .......มติชน...วันนี้
